มีชายหนุ่มสองคนมาดักหน้าพวกเธอ อีกทั้งยังมีอาการคล้ายคนเมาสุราด้วย เสี่ยวถิงถูกชายคนนั้นดึงแขนเจ้าหาตัว หวังจะลวนลามเด็กน้อย แต่มีหรือที่เป่ยลู่จะยอม เธอใช้ไม้ฟาดไปที่หลังของชายคนนั้น อย่างแรง
" นังตัวดี มานี่ เพี๊ยะ !!" เป่ยลู่ถูกชายขี้เมาตบเข้าเต็มใบหน้า เธอเจ็บจนรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดในปาก แต่ตอนนี้เธอจะออ่นแอไม่ได้
" ปล่อยน้องสาวฉันนะ ปล่อย "
" ฮึก ฮื่อๆ พี่สาว พี่สาว อย่านะ อย่าเข้ามา ไปให้พ้นนะ " เด็กสาวร้องไห้อย่างหวาดกลัว ชายอีกคนกำลังพยายามลูบไล้ไปทั่วร่างกายของเสี่ยวถิงที่พยายามขยับตัวหนี มันมองท่าทางของเด็กสาวอย่างหื่นกระหาย
เป่ยลู่มองหาก้อนหินที่อยู่ใกล้ๆมือก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปทุบที่ท้ายทอยของมัน ส่วนชายขี้เมาอีกคนที่ไม่ทันระวังตัวก็โดนก้อนหินในมือของไปด้วย
" โอ๊ย !! นังตัวดี แกกล้าทำฉัน แกไม่ตายดีแน่วันนี้ " ชายขี้เมาเริ่มโมโหที่ตนเองถูกทุบท้ายทอยจนเจ็บ ยิ่งเห็นว่ามีเลือดไหลออกมายิ่งทวีความโกรธมากขึ้น
อี้เหมินที่กำลังผ่านทางมาพอดีจำได้ว่าสองสาวนั้นเป็นใคร ก็รีบเข้าไปช่วยเหลือทันที เขาออกคำสั่งให้ลูกน้องไปจัดการชายหนุ่มทั้งสองทันที
" จัดการให้หลาบจำ "น้ำเสียงดุเอ่ยขึ้นอย่างโมโห เมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่ตนเองหมายปองนั้นถูกทำร้าย
" ครับ "
" พี่อี้เหมิน " เป่ยลู่ร้องเรียกชื่อของเขาอย่างดีใจ ความเข้มแข็งที่มีพังทลายลงเมื่อชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ที่แสดงถึงความห่วงใยต่อเธอ
" ไม่เป็นไรใช่ไหม พี่มาช่วยแล้วนะ ไม่เป็นไรๆ "
เป่ยลู่ในตอนนี้ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เขาดึงเธอเข้าไปกอดปลอบประโลมอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่เธอจะหันไปหาเด็กน้อยเสี่ยวถิงที่นั่งกอดเข่าตัวสั่นอยู่ข้างรถเข็น
เป่ยลู่เข้าไปสวมกอดเสี่ยวถิงเอาไว้ในออ้มกอด เด็กสาวหวาดกลัวจนตัวสั่นร้องไห้ออกมาไม่หยุด กว่าจะสงบได้ก็นานพอสมควร
อี้เหมินพาทั้งสองมาส่งที่บ้าน หลังส่งเสี่ยวถิงเข้าบ้านแล้วเป่ยลู่ก็ออกมาพูดคุยกับชายหนุ่มที่ยืนรออยู่นอกบ้าน พร้อมกับถือแก้วน้ำมาให้เขาได้ดื่มแก้กระหายด้วย ซึ่งอี้เหมินก็รับมาดื่มจนหมดแก้ว
" พี่ว่าควรหยุดขายอาหารสักวันสองวันก่อนนะ ดูท่าเสี่ยวถิงคงหวาดกลัวไม่น้อยเลย "
" คงต้องหยุดนั่นแหละค่ะ ฉันเองก็ไม่มีกะจิตกะใจจะไปขายอาหารเหมือนกัน ขอบคุณนะคะที่มาช่วยไม่อย่างนั้น " เป่ยลู่เอ่ยบอกกับเขา เธอไม่อยากจะคิดว่าหากเขาไม่บังเอิญผ่านมาป่านนี้เธอกับเสี่ยวถิงจะเป็นยังไง
" เข้าบ้านเถอะ เรื่องนั้นพี่จะจัดการให้เองครับ แล้วนี่เจ็บมากไหม " เขาใช้นิ้วมือของตนเองเกลี่ยแก้มของเธอที่มีรอยช้ำอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะทำให้เธอเจ็บมากกว่าเดิม
" ไม่เป็นไรแล้วค่ะ " เธอเอ่ยบอกกับเขา
หลังจากนั้นเขาก็สั่งให้เธอกลับเข้าบ้านและล็อคประตูให้เรียบร้อย ส่วนตนเองนั้นกลับไปจัดการกับขี้เมาทั้งสองที่ลูกน้องของเขาจับกุมตัวเอาไว้....
เป่ยลู่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้อยู่ในชุดปกติที่เธอเคยเห็น แต่เป็นเครื่องแบบที่เธอไม่แน่ใจว่า ทหาร หรือตำรวจกันแน่ แต่เมื่อจะออกไปถามเขาก็จากไปไกลแล้ว เอาไว้เจอครั้งหน้าเธอจะลองเสียมารยาทถามเขาดู
ทางด้านเสี่ยวถิงนั้นตอนนี้นอนหลับไปแล้วเป่ยลู่จึงกลับเข้าห้องตนเองเพื่อพักผ่อน วันนี้เป็นวันที่แย่จริงๆ จากเหตุการณ์ในคืนนี้ทำให้เธอคิดได้ว่าควรจะมีอาวุธติดตัวเอาไว้สักอย่างเพื่อป้องกันตนเอง เพราะไม่แน่ใจว่าหากเกิดเรื่องขึ้นครั้งหน้า เขาจะมาช่วยเหลือได้ทันหรือเปล่า
รุ่งเช้าหลังตื่นนอนแล้วเธอบอกให้เสี่ยวถิงอยู่บ้านพักผ่อนไปก่อน สักวันหรือสองวัน ค่อยกลับไปขายอาหารเหมือนเดิม แต่ตอนนี้เธอตั้งใจจะออกไปตลาดเพื่อสั่งทำอาวุธป้องกันตัวเสียก่อน ซึ่งเธอตั้งใจจะสั่งทำกระบองเหล็กยาวประมาณ 1 เมตร ติดรถเข็นเอาไว้
เมื่อกลับมาจากตลาดก็เห็นว่าเสี่ยวถิงทำอาหารเช้าเสร็จแล้วเธอจึงนั่งลงกินจนอิ่ม เพราะวันนี้มีเวลาว่างเธอจึงคิดจะทำขนมให้เสี่ยวถิงกินสักครั้ง เพื่อว่าได้กินขนมแล้วจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
ซึ่งขนมที่ทำก็เป็นขนมที่ง่ายๆซึ่งก็คือบัวลอยไข่หวานนั่นเอง
" พี่สาวทำอะไรคะ "
" พี่กำลังจะทำขนมน่ะ รับรองว่าเธอไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน "
" อร่อยไหมคะ "
" แน่นอนจ้ะ "
" ฉันช่วยพี่นะคะ "
" เอาสิ" กว่าขนมที่ทั้งคู่ช่วยกันทำเสร็จก็เลยมื้อกลางวันมาแล้ว พวกเธอจึงขนมแทนข้าวกลางวันในวันนี้แทน ซึ่งเสี่ยวถิงยังคิดอีกว่าควรจะทำไปขายที่ร้านด้วย แต่ตัวเธอเองยังไม่แน่ใจว่าจะทำขายด้วยหรือเปล่า เพราะมีวิธีทำหลายขั้นตอน คงต้องคิดดูก่อน
ช่วงบ่าย4โมงเย็นอี้เหมินแวะมาหาที่บ้าน วันนี้เป่ยลู่จึงได้แนะนำให้ทั้งสองได้รู้จักกัน เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นเจ้าของลบ้านเช่าหลังนี้ และเธอก็คิดว่าเผื่อว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างในอนาคต
" สวัสดีค่ะ พี่อี้เหมิน "
" สวัสดีครับ สองสาว "
"เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นแล้วใช่ไหม หืม " น้ำเสียงที่เขาใช้เอ่ยถามนั้นทำให้เป่ยลู่รู้สึกดีไม่น้อย เธอยิ้มให้เขาก่อนจะตอบและเอ่ยขอบคุณเขาไปอีกรอบ ส่วนเสี่ยวถิงนั้นนั่งนิ่งๆฟังพี่ๆทั้งสองพูดคุยกันเงียบๆ มีบ้างที่ร่วมพูดคุยด้วยเมื่อพวกเขาหันมาถามกับเธอ
"ถ้าพี่ไม่มีธุระที่ไหน อยู่กินอาหารเย็นด้วยกันนะคะ " เป่ยลู่เอ่ยชวนเขา