สองชั่วโมงต่อมา...
ฟารีน่านั่งหน้าบูดบึ้ง อารมณ์เสียเหลือเกินเมื่อเธอต้องมานั่งทานข้าวเที่ยงกับราฟาเอล แม้เธอจะร้องโวยวายแค่ไหน ชายหนุ่มก็หาได้สนใจ ขนาดเธอต่อว่า ด่าทอเขาเสียๆ หายๆ เขาก็ยังไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดเดียว สิ่งเดียวที่เธอได้รับก็คือรอยยิ้มยียวนกวนประสาทเท่านั้น
“เอาน่าฮันนี่ คุณอย่าทำหน้างอแบบนั้นสิ เดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก”
“มันเรื่องของฉัน!” คนอารมณ์เสียพูดอย่างไม่พอใจ
“อย่ามางอแงสิฮันนี่ ดูสิคนในร้านเขามองมาที่โต๊ะเราแล้วนะ” ราฟาเอลบอกด้วยน้ำเสียงติดจะตำหนิเล็กน้อย แค่เขาพามาทานข้าวแค่นี้ทำไมต้องโวยวายมาอารมณ์เสียใส่เขาด้วย ถึงจะรู้ดีก็เถอะว่าเคยทำไม่ดีกับเธอไว้ แต่จากนี้ไปเขาจะไม่ทำแบบนั้น ทานข้าวเสร็จเขาจะพาเธอไปส่งที่โรงแรมทันที
ฟารีน่าเหลือบไปมองรอบๆ ร้านอาหารแล้วมันก็เป็นจริงอย่างที่เขาบอก ใบหน้าหวานถึงกับแดงระเรื่อขึ้นเพราะความอับอาย เธอไม่เคยต้องมาเจอสถานการณ์ที่น่าเบื่อถึงขนาดนี้
“เดี๋ยวทานข้าวเสร็จ ผมก็จะพาฮันนี่กลับโรงแรมแน่นอน คราวนี้จะไม่พาไปที่ไหนอีก สัญญา”
“ขอให้มันจริงเถอะ!” กี่ครั้งที่แล้วเธอหลงกลไปเชื่อคำพูดของผู้ชายเจ้าชู้ มากเล่ห์คนนี้ ถ้าไม่ติดว่าเธอกลัวจะเป็นข่าว เธอจะอาละวาดให้เขาไม่กล้าพาเธอไปไหนเลย
“ทำหน้าแบบนี้ เดี๋ยวผมก็พาฮันนี่ไปที่อื่นต่ออีกหรอก”
“หน้าตาฉันก็เป็นแบบนี้แหละ ว่าแต่เมื่อไหร่คุณจะเลิกเรียกฉันว่า ‘ฮันนี่’ เสียที!” ราฟาเอลส่งยิ้มอบอุ่นไปให้คนหน้างออย่างอารมณ์ เมื่อนึกถึงชื่อที่เขาใช้เรียกเธอ เพราะไม่ว่าจะเป็นชื่อไหน สำหรับเขาแล้วสาวน้อยคนนี้แหละคือผู้หญิงที่เขาจะแต่งงานด้วย ต่อให้เขาต้องรอนานแค่ไหน เขาก็พร้อมจะรอ ในเมื่อรอมาได้ถึงห้าปี แค่อีกปีสองปีทำไมเขาจะรอไม่ได้หากว่ามันยุ่งยากนัก เขาก็จัดการรวบหัวรวบหางหญิงสาวก็สิ้นเรื่อง ขนาดน้องเขยก็ใช้วิธีนี้กับน้องสาวของเขาเหมือนกัน แล้วทำไมเขาจะใช้มันบ้างไม่ได้ หึหึ!
“จนกว่าจะตายกันไปนั่นแหละฮันนี่”
“แต่ฉันไม่ชอบ!”
“ชอบไม่ชอบมันก็เรื่องของฮันนี่นะครับ เพราะสำหรับผมแล้วคุณคือว่าที่ภรรยาของผม และผมจะทำให้คุณยอมแต่งงานกับผมให้ได้ ไม่เชื่อก็คอยดู” ฟารีน่าถึงกับอึ้งไปเมื่อฟังคำพูดของราฟาเอล แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูด พนักงานก็เดินนำอาหารเข้ามาเสิร์ฟที่โต๊ะเสียก่อน และสุดท้ายเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธในสิ่งที่ราฟาเอลพูดออกมาเมื่อก่อนหน้านี้ อีกทั้งตอนนี้เวลาก็ใกล้บ่ายโมงเข้าไปเต็มทีแล้ว หากเธอยังคงทะเลาะกันอยู่แบบนี้เห็นทีวันนี้เธอคงไม่ได้กลับไปทำงานเป็นแน่
‘รอให้ฉันกลับไปถึงโรงแรมก่อนเถอะ คุณเจอดีแน่...คุณราฟาเอล’
/////////
อีกด้านหนึ่งของอิสตันบูล, ตุรกี
หลังจากที่อัสมานกับอวีน่าขับรถออกมาจากคฤหาสน์ รถสปอร์ตคันหรูขับแล่นเข้ามาจอดอยู่ตึก พร้อมกับหญิงสาวร่างสูงโปร่งเปิดประตูรถลงมา ใบหน้าเรียวแต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางราคาแพงแสดงอาการไม่พอใจอย่างหนักเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มที่เธอคบมาหลายปีพาผู้หญิงเข้ามาอยู่ด้วย
มาเรียกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากในตัวตึก เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทของเจ้านายหนุ่มกำลังเดินขึ้นบันไดหน้ามุกขึ้นด้วยสีหน้าบูดบึ้ง จนดูน่ากลัว ร่างเล็กรีบก้าวเท้าเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวร่างสูงโปร่ง ก่อนส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“สวัสดีค่ะคุณนารดีน”
“คุณอัสมานอยู่ไหมมาเรีย” น้ำเสียงหวานเอ่ยถามสาวใช้
“คุณคุณอัสมานไม่อยู่หรอกคะคุณนารดีน” มาเรียเอ่ยตอบเพื่อนสนิทของเจ้านายหนุ่มตามความเป็นจริง เพราะยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่เจ้านายหนุ่มกับเจ้านายสาวขับรถออกไป เธอรู้เพียงแต่ว่าเจ้านายทั้งสองกำลังจะไปเที่ยว เพียงแต่ไม่รู้เท่านั้นเองว่าทั้งสองไปเที่ยวที่ไหนกัน
“แล้วคุณอัสมานไปไหน แล้วไปกับใคร” นารดีนถามด้วยหัวใจร้อนรุ่ม เธอหวังเอาไว้ลึกๆ ว่าอัสมานอาจจะออกไปทำงานหรือไปทำธุระ โดยที่ไม่มีผู้หญิงคนนั้นตามไปด้วย
“คุณอัสมานออกไปได้ครึ่งชั่วโมงแล้วคะ”
“แล้วออกไปกับใคร มาเรีย” เธอได้แต่แอบหวังเอาไว้ลึกๆ ว่าอัสมานจะออกไปคนเดียว แต่จากอาการของสาวใช้ มันทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวเหลือเกิน กลัวว่าเธอจะต้องสูญเสียเพื่อนชายที่สนิทที่สุดคนนี้ไปให้กับผู้หญิงคนอื่น
“คุณอัสมานออกไปกับคุณวีน่าคะคุณนารดีน”
มาเรียตอบด้วยสีหน้าหวาดๆ เมื่อใบหน้าสวยเริ่มตึง เฮ้อ...เธอว่าแล้วว่าเพื่อนสนิทคนนี้ของเจ้านายหนุ่มคงจะแอบรักเจ้านายของเธอเป็นแน่แท้ อาการหึงหวงที่ปรากฏออกมา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วงเจ้านายสาวไม่น้อย ที่สำคัญเธอรู้ดีว่าผู้เป็นเจ้านายรักใครและต้องการใครมาเคียงข้างมากที่สุดเห็นทีงานนี้คงมีเรื่องให้ต้องแก้กันไม่น้อยทีเดียว ยิ่งเรื่องความรัก ความหึงหวงด้วยแล้ว เธอรู้ดีว่ามันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัว เธอได้แต่ไว้เอาไว้ว่าปัญหารักสามเศร้าในครั้งนี้คงจบลงด้วยดี
“วีน่าหรือ?” นารดีนทวนชื่ออย่างสงสัย
“ค่ะ คุณวีน่า”
“แล้วเธอรู้ไหมว่าคุณอัสมานกับผู้หญิงคนนั้นไปที่ไหนกัน”
“ดิฉันรู้เพียงแต่ว่า คุณอัสมานกับคุณวีน่าเตรียมเสื้อผ้าไปด้วยนะคะ แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าคุณอัสมานพาคุณวีน่าไปเที่ยวที่ไหน”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันโทรหาเจ้านายของเธอเองก็แล้วกัน” นารดีนตัดบทแล้วรีบก้าวเท้าเดินลงมาจากบันไดหน้ามุก เพื่อตรงไปที่รถ วันนี้เธอต้องรู้ให้ได้ว่าอัสมานพาผู้หญิงคนนั้นไปเที่ยวที่ไหน เพียงไม่กี่ก้าวร่างสูงโปร่งก็เดินไปเปิดประตูรถ พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องจิ๋วขึ้นดู แล้วกดหาอัสมานทันที แต่เธอต้องหัวเสีย เมื่อชายหนุ่มปิดเครื่อง “คนบ้า คุณคิดจะปิดเครื่องหนีฉันหรือ อัสมาน” คิดหรือว่าเธอยอมแพ้เพียงแค่นี้ ในเมื่อเธอหวังที่จะเป็นสะใภ้คนเล็กของตระกูลอัมฟาล อัล ราเฟล เธอไม่มีทางยกตำแหน่งนี้ให้ผู้หญิงคนไหนเด็ดขาด นารดีนบอกตัวเองอยู่ในใจ
///////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...