ธารทิพย์เพิ่งรู้สึกเหนื่อยกับการโกหกและต้องคิดหาทางเอาตัวรอดให้วารุณีและตัวเองมาก อาจเป็นเพราะคนที่หล่อนโกหกมีความฉลาดไม่ใช่น้อย แถมยังขี้สงสัยและชอบจับผิด ทำให้ธารทิพย์ต้องใช้สมองคิดหาคำแก้ตัวที่มีทั้งเหตุผลและมีความเป็นจริงเสมอ หลายครั้งหลายหนที่หล่อนอยากบอกความจริงให้บุรินทร์รู้ แต่คิดไปคิดมา การบอกให้อีกฝ่ายรู้ไม่ได้ทำให้เรื่องไปในทิศทางที่ดี บุรินทร์รู้เหนือเมฆก็ต้องรู้ ไม่ส่งผลดีกับวารุณีแน่นอน ธารทิพย์กับวารุณีจึงเลือกที่จะไม่บอก สองสาวเข้าใจดีว่า อย่างไรเสียเรื่องนี้เหนือเมฆก็ต้องรู้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่ดอกรักกำลังเพาะปลูกในใจวารุณีกับนานโอ
บ่อยครั้งที่บุรินทร์จะมารับวารุณีไปมหาวิทยาลัยและไปรับกลับหากมีเวลาว่าง ทว่าช่วงหลังมานี้หรือนับตั้งแต่นานโอเข้ามาในชีวิตวารุณี บุรินทร์แทบไม่ได้ทำหน้าที่สารถีเหมือนกัน วารุณีไปพบอาจารย์ด่วนบ้าง ทำรายงานบ้าง นัดเพื่อนไว้บ้าง และอีกหลายเหตุผลที่ธารทิพย์จะหามากล่าวอ้าง ซึ่งดูจากท่าทางของบุรินทร์แล้ว เขาก็ไม่ได้ติดใจอะไร ธารทิพย์ว่าอย่างไร เขาก็เชื่อตามนั้น เส้นทางรักระหว่างนานโอกับวารุณีจึงไปได้สวย ไร้อุปสรรคขัดขวาง ทว่ากลับมีเรื่องต้องให้สองสาวคิดหนัก และเป็นเรื่องสำคัญด้วย
“จะทำยังไงดีล่ะแก ฉันต้องไปถ่ายทำโฆษณาตั้งหนึ่งอาทิตย์ จะอ้างยังไงกับพี่น็อตดี”
วารุณีถามเพื่อนช่วยคิด สีหน้าทั้งคู่เต็มไปด้วยความหนักใจ โดยเฉพาะวารุณี เพราะหากหล่อนไม่ได้ไป นั่นหมายถึงตนผิดสัญญา ทางบริษัทก็ต้องได้รับความเสียหาย เนื่องจากเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว
“กำลังคิดอยู่เนี่ย” ธารทิพย์ตอบกลับ
“บอกว่าเราสองคนไปเที่ยวด้วยกันดีไหม ไปเที่ยวคลายเครียดก่อนสอบไง” วารุณีออกความคิดเห็น
“เออก็น่าจะดีนะ” คนกำลังคิดหาวิธีเห็นด้วย “แต่กลัวว่าอีตาพี่น็อตจะไปด้วยน่ะสิ ตามติดยิ่งกว่าวิญญาณซะอีก ไปไหนไปด้วยพี่ช่วยออกตังค์”
“นั่นสิ...เฮ้อ” วารุณีถอนหายใจยาวๆ ออกมา
“แต่ฉันว่า แผนไปเที่ยวคลายเครียดก็ดีนะ”
“อ้าว แล้วเมื่อกี้แกบอกว่าไม่ดี เดี๋ยวพี่น็อตขอตามไปด้วย”
“เราก็ต้องทำให้พี่น็อตตามไปไม่ได้สิ” คำพูดประโยคนี้เรียกความสนใจให้กับวารุณีทันที
“ทำไงล่ะ อย่าบอกนะว่าจะหนีไป”
“หนีไปให้เรื่องมันแดงเร็วขึ้นหรือไง แกก็โทรไปขอพี่เหนือไปเที่ยว ไปเที่ยวแบบที่ไม่มีใครมากวนใจหรือติดตาม อยากเที่ยวให้สบายใจก่อนสอบเพราะสอบครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว แล้วแกก็โทรไปหาพี่กุ้ง ให้พี่กุ้งช่วยพูดกับพี่เหนืออีกที พี่เหนือเกรงใจพี่กุ้งปานนั้น มีเหรอจะไม่ฟังเมีย แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง” ธารทิพย์บอกแผน “ฉันขี้เกียจคิดหาคำโกหกไง ขุดมาจนหมดแล้ว ไม่รู้ว่าจะโกหกพี่น็อตยังไง วิธีนี้แหละดีที่สุด”
“ฉันเห็นด้วยกับแกนะ ลำพังฉันคุยกับพี่เหนือเอง พี่เหนือคงไม่ยอมแน่ แต่ถ้าพี่กุ้งพูด พี่เหนือเงียบกริบ” วารุณีเห็นด้วย
“ใช่ ฉันเห็นพี่เหนือพูดกับพี่กุ้งแล้วขำ เมียจ๊ะเมียจ๋า เวลาพี่เหนือห้ามให้แกทำอะไร แล้วพี่กุ้งไม่เห็นด้วย พูดขัดขึ้นมา พี่เหนือเงียบปากสนิท ไม่ห้ามแกในทันใด ตลกดี” ธารทิพย์พูดไปอมยิ้มไป
“จะว่าไป พี่กุ้งช่วยฉันหลายอย่าง แต่ไม่รู้ว่า เรื่องนี้จะช่วยหรือเปล่า” วารุณีวกมาหนักใจเช่นเดิม
“ฉันว่าช่วย เพราะอะไรรู้ไหม เพราะแกโตแล้ว โตพอที่จะบินเดี่ยว ใช้ชีวิตที่ตัวเองต้องการได้แล้ว จะสุขหรือทุกข์ก็อยู่ที่ตัวแกเองด้วย พี่เหนือบีบบังคับแกไม่ได้ตลอดไปหรอกนะ” ธารทิพย์บอกให้เพื่อนสบายใจ “ฉันว่าแกไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่า จะได้ทันเวลาที่คุณนานโอมารับไปดูหนัง”
“อืม” วารุณีทำเสียงในลำคอ ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ ทำตามที่เพื่อนบอก
ขณะที่วารุณีกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำ เสียงมือถือวารุณีดังขึ้น บนหน้าจอปรากฏชื่อบุรินทร์ ธารทิพย์มองนิ่งอย่างตัดสินใจว่าจะรับแทนเพื่อนดีหรือไม่ สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่รับ และปล่อยให้เสียงนั้นเงียบไปเอง อึดใจต่อมาเสียงมือถือของหล่อนกลับดังขึ้นแทน คนที่โทรมาคือบุรินทร์
“ค่ะพี่น็อต” ธารทิพย์ทักต้นสาย
“วาอยู่กับน้ำหรือเปล่า” บุรินทร์ถาม
“อยู่ค่ะ วากำลังอาบน้ำอยู่ พี่น็อตมีอะไรคะ”
“วาบอกพี่ว่า ตอนบ่ายนัดเพื่อนไว้ ตอนแรกพี่ตั้งใจว่าจะไปรับ แต่คงไปไม่ได้แล้ว พี่มีนัดด่วนน่ะ”
ธารทิพย์อยากจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจที่บุรินทร์ติดงานด่วน นั่นหมายความว่า หล่อนไม่ต้องหาคำโกหกมาอ้างเรื่องที่วารุณีออกไปก่อนนัดหมาย เขาไม่มารับ หล่อนก็สบายหัว สบายใจแม้ว่าจะเสียใจอยู่บ้างที่ไม่ได้เห็นหน้าเขา
“ว้า...เสียดายจัง นึกว่าจะได้นั่งรถนุ่มๆ สบายตูดซะหน่อย” ธารทิพย์ทำน้ำเสียงเสียดายให้สมจริง “แต่ไม่เป็นไรค่ะ รถแท็กซี่แม้ว่าเบาะจะไม่นุ่มเท่ารถของพี่น็อต แต่ก็นำน้ำกับวาไปถึงจุดหมายได้ เชิญพี่น็อตทำธุระด่วนให้สบายใจนะคะ”
“เอาไว้ครั้งหน้านะ ไม่พลาดแน่”
“ค่ะ” หลังจากธารทิพย์พูดจบ ต้นสายพูดอีกสองสามคำก็ตัดสายทิ้ง หล่อนถอนหายใจโล่งอก ทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียง นอนมองเพดานห้องด้วยความสบายใจเป็นที่สุด
แต่หารู้ไม่ว่า บุรินทร์ไม่ได้ติดงานด่วนตามที่พูดไป เขาสงสัยพฤติกรรมของวารุณีกับธารทิพย์มาหลายวันแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่วารุณีจะไปทำรายงานกับเพื่อนได้บ่อยขนาดนี้ ในขณะที่เขาไม่เห็นว่า ธารทิพย์จะไปทำรายงานกับวารุณีด้วย ทั้งที่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน หากวารุณีมีงานกลุ่ม ธารทิพย์ก็ต้องมี ตามที่เขารู้มา สองเพื่อนรักตัวติดกัน ทุกครั้งที่มีการทำงานกลุ่ม สองสาวจะอยู่กลุ่มเดียวกันเสมอ ทว่าการอ้างระยะหลังไม่ใช่
แววตาของธารทิพย์เป็นอีกเรื่องที่เขาสงสัย ขณะที่ธารทิพย์อ้างนั่นอ้างนี่ ดวงตาหล่อนจะไม่กล้าสบตาเขา ราวกับว่ากำลังหนีความจริง มีอะไรปิดบังไม่ให้เขารู้ บุรินทร์รู้แต่ไม่พูด เก็บความสงสัยทั้งหลายทั้งมวลไว้ในใจ และพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า ธารทิพย์กับวารุณีมีเรื่องอะไรปิดบังตนอยู่ ถามตรงๆ คงไม่ตอบ เขาจึงมาดักรอสองสาว ตั้งใจว่าจะติดตามทั้งคู่ ค้นหาคำตอบที่ตัวเองอยากรู้