ตอนที่3 ความฉิบหาย
พระพายหยุดยืนอยู่หน้าบ้านขนาดกลางด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน กว่าจะมีบ้านหลังนี้มันไม่ง่ายเลยและแม้จะได้มันมาแล้วก็ยังไม่ง่ายอีกเช่นกัน เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าได้มันมาจากอะไร
บ้านสองชั้นราคาห้าล้านกว่า ๆ มีพื้นที่หน้าบ้านเล็กน้อย ลำพังผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีสมบัติตกทอดมาจากพ่อแม่ไม่มีปัญญาซื้อแน่นอน แต่มันเป็นความสุขสบายที่ไปไม่สุดทางสำหรับเธอ
“ทำไมวันนี้กลับเร็วล่ะ” พิมลเอ่ยทักน้องสาว เป็นเรื่องปกติ
“รถไม่ค่อยติดค่ะ พี่ทำผัดเปรี้ยวหวานเหรอ”
“ของโปรดพี่กวินเขาไง” พระพายเม้มปากแน่นเงยหน้าขึ้นมองพี่สาวที่กำลังปรุงอาหารสีหน้าอิ่มเอมใจ แต่เธอนั้นกลับตรงกันข้าม
“พี่พิม”
“ว่าไง”
“วันนี้พายเจอลูกชายของลุงกวินค่ะ” มือที่กำลังยุ่งเป็นระวิงชะงัก ก่อนจะตั้งหน้าทำกับข้าวตรงหน้าให้เสร็จราวกับไม่สะทกสะท้าน
“พี่พิม”
“เจอก็ไม่แปลก เรียนที่เดียวกันหนิ”
“พี่รู้อยู่แล้วเหรอคะ” พระพายถามพี่สาวเสียงเบา เธอไม่รู้ว่าควรแสดงสีหน้าออกไปแบบไหนในตอนนี้
“อืม แต่แล้วมันยังไงล่ะแค่เรื่องบังเอิญ” คนน้องพูดไม่ออกที่พี่สาวยังคงสีหน้าเป็นปกติ
“แกอายเหรอ”
“คนในมหาลัยเขาว่าพายเป็นเมียน้อย”
“อย่าหน้าบางให้มันมากไปหน่อยเลย อยากจะกลับไปลำบากอีกหรือไง”
“พายลำบากก็ได้ค่ะ ถ้าจะไม่ต้อง...”
“อย่าเห็นแก่ตัวได้มั้ยพระพาย!”
“พายเป็นห่วงพี่ค่ะ กลัวบ้านนู้นจะมาทำร้ายเอา”
“นังเดือนมันไม่กล้าหรอก พี่กวินจัดการได้”
“พี่กับลุงกินกันเลยนะคะ พายยังไม่หิว” พระพายชิงหนีเมื่อได้ยินเสียงรถที่หน้าบ้าน เธอไม่ชอบสายตาที่เขาใช้มองมา ไหนจะเงินปึกใหญ่ในกระเป๋าสะพายที่เธอไม่กล้าบอกให้พี่สาวรู้อีก
“พระพายล่ะ”
“ขึ้นห้องไปแล้วค่ะ พี่กวินดื่มน้ำส้มมั้ยคะพิมคั้นเองเลยนะ”
“อื้ม ก็ดีเหมือนกัน”
กวินเจอพิมลในงานเปิดคัวรถหรูเมื่อต้นปีนี้เอง เธอเป็นพริตตี้ตัวท็อปที่ใคร ๆ ก็มองน้ำลายสอแต่ไม่มีใครเงินหนักสู้เขาได้
“ถ้าอยากเลี้ยงดูพิมจริง ๆ ต้องซื้อบ้านให้ก่อนนะคะ การันตีว่าพิมจะไม่โดนหลอกฟันฟรี ๆ”
หญิงสาวเริ่มรื้อกระเป๋าสะพายอีกครั้งหลังเพิ่งรู้ตัวว่ากระเป๋าสตางค์หายไปตอนจ่ายเงินค่าแท็กซี่ โชคดีที่ยังมีเงินของกวินติดตัวเพราะเธอไม่ได้เก็บมันรวมกันไว้ ถึงจะไม่อยากได้แต่ก็เสียดายหากมันจะสูญหายไปเปล่า ๆ
“หายตอนนั้นแน่เลย” เมื่อไล่ย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อดนึกถึงผู้ชายคนนั้นไม่ได้ มาหาว่าเธอเป็นเมียน้อยพ่อตัวเอง
…..
เช้าที่ไม่เหมือนเดิมได้เกิดขึ้นกับพระพายแล้ว หญิงสาวหลีกเลี่ยงการติดรถกวินมาได้แต่ต้องมาระวังลูกชายของเขาที่มหาวิทยาลัยต่อ วันที่ลงจากแท็กซี่เธอจะไม่ตกเป็นเป้าสายตาเท่าวันที่ลงจากรถหรูของกวินเท่าไรนัก หญิงสาวเดินเร็ว ๆ หมายเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องเรียนแม้ว่าจะอีกเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงเวลา
“กระเป๋าเงินหายไม่คิดจะหาเลยเหรอครับ น้องพระพาย” ร่างบางถูกขวางทางไว้ด้วยคนที่ช่วยเธอเมื่อวาน ในมือของเขามีกระเป๋าสตางค์ที่หายโชว์ให้เห็น เธอเผลอยิ้มอย่างโล่งอกที่มันยังอยู่
“ขอบคุณนะคะที่เก็บไว้ให้”
“เมื่อวานพี่ว่าจะตามหาน้อง แต่ดันยุ่งจนลืม”
“ไม่น่าลำบากตามหาพายเองเลยค่ะ ฝากไว้ที่ประชาสัมพันธ์ก็ได้”
“อย่างนั้นพี่ก็ไม่ได้เจอน้องอีกน่ะสิ” พระพายเผลอมองตาคนตัวสูงตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว หัวใจสั่นหวิวเล็กน้อยแม้เจอมาทำนองนี้ออกจะบ่อย
“กลางวันนี้เลี้ยงข้าวพี่เป็นการตอบแทนได้มั้ยครับ”
“...”
“ที่โรงอาหารนี่แหละ ไม่ได้จะชวนไปไหนสักหน่อย”
“ก็ได้ค่ะ”
“เบอร์โทรของพี่อยู่ในกระเป๋านะ พักเที่ยงโทรหาพี่ด้วย” เขายัดกระเป๋าสตางค์ใบเล็กใส่มือเจ้าของที่ยังยืนงงอยู่ก่อนจะเดินจากไป
“ว้าว นั่นอดีตเดือนเลยนะ”
“เชอร์รี่”
“ระวังเสี่ยของเธอรู้เข้าน้าา อย่าหาว่าไม่เตือน” ชุติมาบอกเธออย่างล้อเลียนก่อนจะควงแขนพระพายเดินไปยังอาคารเรียน เมื่อคืนทั้งสองได้คุยกันผ่านโทรศัพท์และก็เข้าขากันได้ดีแม้ว่ากิริยาจะไปคนละทาง
“พระพายนี้ที่เป็นเมียน้อยพ่อมึง?”
“อืม”
“แล้วมึงจะเอาไงต่อ” รัชชานนท์โยบก้นบุหรี่ที่ติดไฟทิ้งก่อนจะพ่นควันที่สูดเข้าไปก่อนหน้าออกจากโพรงปาก
“ดูดแบบนั้นเดี๋ยวได้ตายไว”
“แม่กูตรอมใจจนป่วย แต่ผัวแม่กูกลับเสือกมีความสุข”
“เมียน้อยพ่อมึงสวยขนาดนั้น ไม่สุขก็บ้า”
“หึ” ตะวันเลิกคิ้วมองเพื่อนอย่างสงสัยที่รัชชานนท์เหมือนกำลังคิดจะทำอะไรสักอย่าง ‘ความฉิบหายมาเยือนคุณเมียน้อยแล้วล่ะ’