ไฟรักเร่าร้อน?EP.2 รอยจูบที่แสนหวาน-2

1528 คำ
ขวัญข้าวแสร้งเงียบเพื่อรอดูปฏิกิริยาของคนตรงหน้าที่พอเธอเงียบเอยก็รีบเงยหน้าขึ้นมาทันตาเห็น ขวัญข้าวอมยิ้มน้อย ๆเมื่อเอยของเธอรู้จักชอบใครเข้าแล้วล่ะสิ “เรื่องผู้หญิงอะไรล่ะคะพี่ข้าว?” เอยถามต่ออย่างต้องการรู้โดยที่ลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจะบอกกับขวัญข้าวไปว่าไม่ได้ชอบเขาสักหน่อยแล้วทำไมเธอถึงอยากรู้เรื่องของเขากันล่ะเอย “ไหนบอกว่าไม่ชอบเขาไง แล้วอยากจะรู้เรื่องของเขาไปทำไม” ขวัญข้าวยังคงไม่ยอมเอ่ยส่วนที่เธอค้างเอาไว้ก่อนหน้านี้ออกมาเธอกำลังแกล้งจับผิดคนตรงหน้าอยู่ใบหน้าสวยยิ้มอย่างล้อเลียนเอยเต็มที่ “ก็...รู้ไว้บ้างก็ดีนี่คะ เผื่อวันข้างหน้าได้ร่วมงานกันจะได้ทำตัวถูก” เอยตอบไปก็ทำหน้าซื่อตาใสอย่างไม่รู้ไม่ชี้กับเหตุผลที่ยกมาอ้างนั้น แต่อาการลุกลี้ลุกลนแล้วไหนจะสายตาหลุกหลิกนั่นก็ยังคงหนีไม่พ้นสายตาจับผิดของขวัญข้าวอยู่ดี “เราโป๊ะแล้วล่ะยายเอย อย่ามาโกหกพี่นี่ดูออก” ขวัญข้าวพูดยิ้ม ๆ อย่างรู้ทันว่าคนตรงหน้าโป๊ะแตกแล้ว นี่ใคร ขวัญข้าวนะจ๊ะเอยไม่มีทางรอดพ้นสายตาที่ผ่านโลกมามากของเธอได้หรอก “เฮ้อ แย่จัง โดนจับได้ซะแล้วเรา พี่ข้าวก็ดูคุณคิณสิคะ หล่อขนาดนั้นใครบ้างจะไม่ชอบ เอยยอมรับก็ได้ว่ามีหวั่นไหวบ้างอารมณ์มันแบบใจเต้นแรงเวลาที่เจอหน้าเขาหรืออยู่ใกล้ๆเขา” เอยยอมจำนนแต่โดยดีเมื่อไม่สามารถโกหกดารารุ่นพี่ได้อีกต่อไป ก่อนที่เธอจะสารภาพออกมาอย่างหมดเปลือก เธอกับขวัญข้าวสนิทกันมากพอที่จะเล่าเรื่องส่วนตัวให้กันฟังโดยไม่มีเรื่องปิดบัง เพราะขวัญข้าวรู้จักเธอดีพอ ๆ กับพี่ซินดี้ที่รู้จักเธอมาตั้งแต่เธอยังไม่ได้เข้าวงการด้วยซ้ำ “เรื่องผู้หญิงน่ะเขาไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนหรอกนะไม่เคยควงใครออกงานสังคมด้วยนอกจากคุณเอมอรคุณแม่กับอีกคนพี่จำชื่อไม่ได้อะลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันมาก ๆ ส่วนเรื่องนั้นก็เห็นว่ามีบ้างแหละตามประสาผู้ชายแต่ไม่เคยเห็นว่ามีใครกล้าแสดงความเป็นเจ้าของคุณเขาสักคน ได้ยินมาว่าคุณเขาโหดพอตัวไม่แคร์ผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้น” ขวัญข้าวเอ่ยเสียงกระซิบกระซาบพอให้ได้ยินกันสองคนถึงผู้ชายที่ชื่อคิณ อัคนี ที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ “เขาเจ้าชู้เหรอคะ” เอยถามออกมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บแปลบในใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้รับรู้ว่าเรื่องผู้หญิงเขาก็พอตัวคงฟาดมาเยอะล่ะสิ เอ๊ะ แล้วเธอจะรู้สึกแย่กับเขาไปทำไมล่ะเนี่ยในเมื่อเธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักหน่อย บ้าจริงเอย “ก็ไม่นะ ได้ยินว่าไม่เคยจีบใครควงใครหรือให้ความหวังกับใคร เพียงแต่ผู้หญิงที่เข้ามาหาเขาก็หวังจะจับนั้นแหละ แต่คุณเขาไม่เล่นด้วย เขาเก่งนะมองขาดตั้งแต่ธุรกิจมาจนถึงผู้หญิงเลยล่ะ มันอาจจะเป็นข้อตกลงแบบวินวินทั้งคู่ก็ได้มั้งนะพี่คิดว่า” ขวัญข้าวเล่าออกไปตามที่เธอรู้มาบ้างเพราะรู้จักคนในวงการเยอะ เรื่องพวกนี้จึงมักจะกลายมาเป็นหัวข้อสนทนาของสาวๆที่แอบชอบเขาอีกอย่างคุณคิณ อัคนี ก็ดังมากในวงการดารานางแบบดังเรื่องกินตับผู้หญิงน่ะนะ “รู้ดีจังเลยนะคะพี่ข้าวเนี่ย ใต้เตียงคุณคิณหรือยังไง คิก คิก” เอยถามขวัญข้าวอย่างล้อเลียนก่อนจะหัวเราะน้อย ๆ ออกมาเอาจริงตอนนี้พี่ข้าวเธอเหมือนก็อตซิปดารามาก “ก็ FC ไงจ๊ะ พี่นี่ FCตัวแม่เลยนะ เคยเห็นผ่านตาในหน้านิตยสารธุรกิจ กับเคยเห็นตอนที่เขามาให้สัมภาษณ์รายการหนึ่งที่สตูดิโอใกล้ ๆ กัน พี่ว่าเขาเก่งนะอายุยังน้อยแต่กลับทำรายได้ระดับหมื่นล้าน พี่ก็แค่ชื่นชมเขาเท่านั้นแหละให้ชอบคงไม่ไหว เอาเป็นว่าอยู่ในระดับแค่ปลื้มเป็นพอ ว่าแต่เราเหอะ ชอบเขาจริงดิ” ขวัญข้าวที่กำลังพูดถึงคิณ อัคนีอยู่ดี ๆ ก็วกกลับมาหาเอยจนเธอตั้งตัวแทบไม่ทัน “เอาจริง ๆ ก็ชอบนะคะแต่คงยากเขารวยซะขนาดนั้น อีกอย่างหน้าตาก็หล่อราวกับเทพบุตรคนเดินดินแบบเอยไม่อาจเอื้อมไปคว้าเขามาครอบครองหรอกค่ะ ถึงจะคว้าได้จริง ๆ ก็คงได้แค่ตัวชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น เพราะดาราที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักแบบเอยเขาคงไม่มาสนใจหรอกค่ะ” รอยยิ้มน้อย ๆ ถูกส่งไปยังดาราสาวรุ่นพี่เธอเจียมตัวเสมอว่าเธอเป็นใครต่อให้เธอชอบเขามากแค่ไหนมันก็คงจะไกลเกินที่จะฝัน ยังไม่ทันที่สองสาวจะได้พูดคุยกันต่ออาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟพอดี สองสาวหยุดการสนทนาไว้แค่นั้นก่อนจะทานอาหารพร้อมคุยเล่นกันเรื่องทั่ว ๆ ไปอย่างสนุกสนาน ในขณะที่โต๊ะของเธออาหารพร่องไปจนเกือบหมด แต่โต๊ะข้าง ๆ ที่ห่างออกไปอาหารกลับเหลือเกือบเต็มโต๊ะ นาน ๆ ทีถึงจะเห็นคุณคิณ ทานสักครั้งหนึ่ง “โอ๊ย อิ่มจังเลยน้ำหนักจะขึ้นไหมเนี่ยดูสิมีแต่เมนูหนัก ๆ แต่ก็ช่างมันเถอะปล่อยผีวันหนึ่งเนอะ” เสียงหวานใสของขวัญข้าวโอดครวญก่อนจะยักไหล่ประมาณว่าช่างมันเถอะ “ไม่เห็นอ้วนตรงไหนเลย เอยเห็นพี่ข้าวกินจุแค่ไหนก็ไม่เคยอ้วนไม่เหมือนเอย นิด ๆ หน่อยน้ำหนักแทบพุ่งอยากกินขนมหวานใจแทบขาดพี่ซินดี้ก็ห้าม” หน้าสวยมุ่ยลงเมื่อคิดถึงยามหิวขนมหวานแล้วถูกซินดี้สั่งห้ามเด็ดขาด “อาชีพแบบเราต้องผอมตลอดเวลาจ้ะ อดทนนะเอยได้ผู้รวยเมื่อไหร่ ออกจากวงการไปเลยได้กินแน่ของหวาน” ขวัญข้าวพูดหยอกเอยอย่างขำ ๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมาพร้อมกันด้วยรอยยิ้มที่สดใส “กลับกันเถอะค่ะพี่ข้าว เอยรบกวนเวลาพี่ข้าวนานแล้วแค่มาเลี้ยงข้าวนี่ก็เกรงใจจะแย่” เอยชวนข้าวกลับที่พักเพราะนี่ก็ดึกแล้วเธอไม่อยากถึงห้องดึกมากนักอีกทั้งเธอเกรงใจดาราสาวรุ่นพี่ด้วยที่อุตส่าห์มาเลี้ยงมื้อเย็นเธอ เมื่อออกมาจากร้านอาหารจนถึงลานจอดรถสองสาวก็แยกย้ายกันกลับทันทีเพราะต่างคนต่างขับรถของตัวเองมา เอยเปิดประตูรถ mini cooper สีแดงลูกรักของเธอก่อนจะขึ้นนั่งประจำที่คนขับ เธอกดปุ่มสตาร์ตรถแต่พยายามกดอย่างไรก็สตาร์ตไม่ติดสักที เธอลองสตาร์ตอยู่สักพักสุดท้ายเมื่อเปล่าประโยชน์ร่างบางจึงก้าวลงจากรถก่อนที่จะล็อกรถให้เรียบร้อยมือบางหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าใบเล็กขึ้นมาโทรหาศูนย์ดูแลรถทันที เมื่อคุยเสร็จเรียบร้อยและตกลงให้ศูนย์มาลากรถกลับไปซ่อมในวันพรุ่งนี้เธอก็ต้องหาทางกลับบ้านเองแล้วล่ะซึ่งกว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็กินเวลาไปเกือบสี่ทุ่มแล้วเธอกวาดสายตามองรอบ ๆ บริเวณลานจอดรถด้วยสายตาหวาดระแวง ทำไมมันช่างเงียบเหงาอย่างนี้กันนะดวงตากลมโตมองไปรอบ ๆ ก็เหลือรถเพียงไม่กี่คันที่จอดอยู่ เพราะชั้นที่เธอมาจอดรถคือชั้น VIP จึงไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านสักเท่าไหร่ เอาล่ะเธอต้องไปรอ Taxi ที่หน้าห้างก่อนเป็นอันดับแรกขณะที่กำลังจะก้าวหันหลังกลับไปยังประตูทางเข้าซึ่งอยู่ห่างออกไปค่อนข้างไกล หูก็พลันได้ยินเสียงเหมือนฝีเท้าคนเดินตามมา เมื่อเธอหยุดเสียงนั้นก็หยุดแต่เมื่อเธอก้าวเดินต่อไปเสียงนั้นก็ตามเธอมาติดๆ ใจเธอหายวาบด้วยความกลัว เอยไม่รอช้าเธอรีบก้าวต่อไปและออกตัววิ่งไปข้างหน้าด้วยฝีเท้าที่รวดเร็วทันที ไม่รู้คนหรือผีเอยขอวิ่งก่อนแล้วกัน ปึก เอยตั้งหน้าตั้งตาวิ่งมาแบบไม่ลืมหูลืมตาเธอก็ชนเข้ากับอะไรแข็ง ๆ สักอย่างด้วยแรงปะทะที่มหาศาลอาจทำให้เธอกระเด็นไปนั่งท่าสวย ๆ อยู่บนพื้นหากแต่มีมือแกร่งของใครบางคนคว้าเอวเธอเอาไว้เสียก่อนท่านั่งสวยๆที่เธอวาดเอาไว้จึงพลันหายไปจากมโนสำนึกทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม