“...นาย เอาอะไรให้ฉันกิน”
“ซายูริ! เฮ้... ซายู...”
คาวะมองร่างที่จู่ๆ ก็ฟุบลงต่อหน้าต่อตาอย่างตกใจ คำพูดทิ้งท้ายของเธอทำให้สายตาคาวะชำเลืองมองแก้วนมที่ซายูริเพิ่งดื่มไป และไวกว่าความคิดเขาหยิบมันขึ้นมาดมก็รู้สึกว่ามีกลิ่นแปลกๆ
“ซายูริ... ใครอยู่ข้างนอก!”
ความผิดปกตินี้ทำให้คาวะไม่รอช้าที่จะตะโกนขอความช่วยเหลือ ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่ใจเย็นพอที่จะรออยู่เฉยๆ คาวะรวบร่างซายูริขึ้นอุ้มเต็มกำลังแขน สาวเท้ายาวๆ ออกจากห้อง
“กะเกิดอะไรขึ้นคะ ท่านซายูริเป็นอะไร?” สาวใช้คนหนึ่งเดินสวนขึ้นบันไดมาเห็นเข้าพอดี
“จู่ๆ ก็หมดสติ ฉันจะพาไปโรงพยาบาล”
คาวะตอบแค่นั้นก็อุ้มซายูริจ้ำอ้าวลงบันไดอย่างไว ทันทีที่มาถึงโรงจอดรถ เขาวางร่างซายูริลงบนเบาะ ก่อนจะรีบเดินอ้อมไปขึ้นอีกฝั่งแล้วออกรถโดยไม่รีรอ
“แย่แล้วค่ะ แย่แล้วค่ะ” สาวใช้รีบวิ่งมารายงานแม่บ้านด้วยท่าทางตื่นตูม
“ทำไม เกิดอะไรขึ้น”
“ท่านซายูริ ท่านซายูริหมดสติค่ะ ตอนนี้คาวะกำลังพาไปโรงพยาบาล”
“ว่าไงนะ!”
“ทะทำยังไงดีคะ หนูเห็นหน้าท่านซายูริซีดมาก ท่าทางจะอาการไม่ดีเลย”
“เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง” หัวหน้าแม่บ้านถามกลับ แววตาเต็มไปด้วยความสับสนกังวลใจ
“หนูไม่รู้เหมือนกันค่ะ เห็นอีกทีท่านซายูริก็ถูกอุ้มลงบันไดมาแล้ว”
“ไปสั่งให้คนเอารถออก ฉันจะตามไปดูท่านซายูริ”
“ค่ะ”
“มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย”
“อ้าวคุณหนูอัยย์ ยังไม่หลับเหรอคะ”
แม่บ้านกำลังยืนรอรถอย่างกระวนกระวายใจหันมามองสาวน้อยด้านหลัง อัยย์สวมชุดคลุมผ้าแพรสีเทายาวเลยเข่าทับชุดนอนสายเดี่ยวขาสั้นข้างใน เธอส่ายหน้าเบาๆ ทันทีที่แม่บ้านถามกลับ
“ยังค่ะ อัยย์นั่งอ่านหนังสืออยู่ค่ะ คอแห้งว่าจะลงมาหาน้ำดื่มแต่เห็นทุกคนกำลังวุ่นวายพอดี”
“ท่านซายูริค่ะ ท่านซายูริหมดสติ คุณคาวะพาไปโรงพยาบาลแล้วค่ะ”
“อะไรนะคะ ทำไมซายูริหมดสติล่ะ”
“ป้าก็ไม่ทราบค่ะ สาวใช้บอกมาอีกที รถมาแล้ว ป้าไปก่อนนะคะ คุณหนูอัยย์ก็รีบๆ เข้านอนล่ะเดี๋ยวจะไม่สบายไปอีกคน”
หัวหน้าแม่บ้านพูดอย่างเป็นห่วงก่อนรีบร้อนเดินออกไปแต่อัยย์กลับสาวเท้าตามมาที่รถติดๆ
“อัยย์ขอไปด้วยนะคะ อัยย์เป็นห่วงซายูริ...”
หัวหน้าแม่บ้านหันมาเห็นสายตาร้อนรนของอัยย์ก็ไม่กล้าปฏิเสธ ยอมให้อัยย์ขึ้นรถมาโรงพยาบาลด้วยแต่โดยดี
โรงพยาบาล
ร่างสูงของคาวะนั่งก้มหน้าครุ่นคิดอะไรหลายๆ อย่างหน้าห้องฉุกเฉิน เขาส่งซายูริถึงมือหมอทันเวลา แต่ก็อดกังวลไม่ได้ ยังไม่รู้ว่าซายูริเป็นอะไรกันแน่... แต่ถ้ามีคนผสมยาในนมให้เธอดื่มจริงๆ แสดงว่าภายในบ้านมีคนทรยศ
และคนที่น่าสงสัยที่สุดคือหัวหน้าแม่บ้าน...
นึกถึงหัวหน้าแม่บ้าน หัวหน้าแม่บ้านก็มา
ร่างท้วมของหญิงมีอายุเดินอย่างรีบเร่งตรงมาที่เขาโดยมีอัยย์ตามหลังมาติดๆ คาวะแปลกใจที่รู้ว่าอัยย์ตามมาด้วย แต่ไม่มีเวลาได้ตำหนิเพราะเสียงของหัวหน้าแม่บ้านดังขึ้นซะก่อน
“เกิดอะไรขึ้นกับท่านซายูริคะ”
“ทันทีที่ดื่มนมก็วูบไป ไม่รู้ว่ามีใครผสมอะไรให้กินหรือเปล่า”
“ตายแล้ว! นมแก้วที่ป้าเอาไปให้น่ะเหรอ” หัวหน้าแม่บ้านเอามือทาบอกหัวใจสั่น มองสบสายตาคมกริบประหนึ่งใบมีดของคาวะอย่างสับสน
“แน่ใจนะว่าไม่ได้ใส่อะไรลงไปนอกจากนมธรรมดา”
“พูดแบบนี้กำลังสงสัยป้าอยู่หรือคะ”
“เปล่า แค่ถามดู”
“ป้าไม่ได้ใส่อะไรลงไปจริงๆ ค่ะ ถามคุณหนูอัยย์ได้ คุณหนูอัยย์ก็อยู่ตอนป้าเตรียมนมให้ท่านซายูริ”
สายตาของคาวะตวัดไปที่ใบหน้าแตกตื่นของอัยย์ทันที ไม่คิดว่าอัยย์จะกลายเป็นพยานปากสำคัญให้กับเรื่องนี้
“ชะใช่ค่ะ อัยย์ยืนยันได้”
อัยย์พยักหน้ายืนยันความบริสุทธิ์ของแม่บ้านอย่างเต็มเสียง คาวะไม่เคยสงสัยในคำพูดของอัยย์ แต่เขาอยู่กับซายูริตลอดจึงจำช่วงเวลาตอนนั้นได้
“แต่ตอนที่เอานมไปให้ซายูริป้ายกไปคนเดียวใช่ไม่ใช่?”
“อึก จะจริงค่ะ”
“พี่คาวะ...”
“ตะแต่ป้าไม่ได้ทำอะไรจริงๆ นะคะ ป้ารักท่านซายูริออกขนาดนี้ ไม่มีทางที่ป้าจะคิดร้ายกับเธอ”
หัวหน้าแม่บ้านส่ายหน้าปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทั้งน้อยใจและเสียใจจนบ่อน้ำตาตื้น ยกมือขึ้นบีบหน้าอกอย่างรู้สึกเจ็บปวด
“ป้าระวังค่ะ” อัยย์เห็นท่าไม่ดีจึงช่วยพยุงหัวหน้าแม่บ้านเอาไว้พลางส่งสายตาปรามๆ ไปให้พี่ชาย “พี่คาวะอย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลยนะคะ อัยย์เชื่อว่าป้าไม่ได้ทำ ดูสิ ป้าจะเป็นลมอยู่แล้วเนี่ย ไปนั่งก่อนค่ะ ใจเย็นๆ นะคะป้า ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ๆ”
“ฮึก... ขอบคุณค่ะคุณหนูอัยย์ ป้าเสียใจค่ะ ป้าหวังว่าจะเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดจริงๆ ป้าไม่ได้ทำ ป้าไม่ได้ทำจริงๆ โฮ”
คาวะจ้องมองคนทั้งคู่สักพักประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออกมา
“หมอ?”
“ครับ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้ว คนไข้ได้รับยานอนหลับเกินขนาด หมอล้างท้องให้เรียบร้อยแล้วที่เหลือก็รอคนไข้ฟื้นเท่านั้นเองครับ ขอตัวนะครับ”
“ยานอนหลับ...” คาวะทวนคำหมอแล้วชำเลืองสายตาไปทางอัยย์กับแม่บ้าน จนคล้อยหลังหมอไปแล้ว สายตาคมดุของคาวะก็ยังไม่ละไปจากคนทั้งสอง
“ทำไมมียานอนหลับอยู่ในนม”
“ไม่ ป้าไม่ทราบจริงๆ นะคะ คุณคาวะแน่ใจเหรอคะว่ายานอนหลับถูกใส่ในนมจริงๆ”
หัวหน้าแม่บ้านรีบส่ายหน้าโดยพลันก่อนจะทักท้วงอีกฝ่าย เธอเองก็อยากทราบเหมือนกันว่าทำไมท่านซายูริของเธอถึงได้รับยานอนหลับเกินขนาด เธอไม่ใช่คนใส่ยาลงไปในแก้วนมแน่ๆ แล้วท่านซายูริก็เป็นคนสั่งให้เธอเอาไปวางไว้ในห้องนอน...
“เอ๊ะ! ...หรือว่า”
“หรือว่าอะไรคะ” อัยย์มองหัวหน้าแม่บ้านที่เหมือนจะนึกอะไรออก คาวะเองก็หรี่ตาลงอย่างรอฟัง
“หรือจะมีคนแอบใส่ยาในห้องนอน”
“หมายความว่ายังไงคะ” อัยย์ชักสีหน้างุนงง
“ก็ท่านซายูริให้ป้าเอานมไปไว้ที่ห้องนอน เธอบอกเธอจะมาดื่มหลังทำงานเสร็จค่ะ”
“ป้าไม่ได้เอาให้ซายูริทันทีเหรอ”
“ไม่ค่ะคุณหนูอัยย์ ป้าไปเคาะประตูห้องทำงานและท่านซายูริไม่ยอมให้ป้าเอานมเข้าไปส่งข้างใน บอกให้ป้านำไปไว้ที่ห้องนอนแทน”
หัวหน้าแม่บ้านอธิบายด้วยสีหน้าจริงจังเพราะมองเห็นช่องทางที่คนร้ายตัวจริงอาจจะลงมือตอนนั้น ที่สำคัญถ้าข้อสันนิษฐานนี้ถูกต้องเธอก็จะหลุดพ้นจากการตกเป็นผู้ต้องสงสัย
“เอาเถอะ ยังไงตอนนี้ซายูริก็ปลอดภัยแล้ว ส่วนเรื่องคนร้ายไว้ค่อยสอบคนในบ้านอีกที”
คาวะสรุป ดวงตาคมกริบตวัดไปมองประตูห้องฉุกเฉินอีกรอบ ในหัวร้อนกรุ่นไปด้วยความสงสัย ใครกันที่คิดอยากจะเอาชีวิตซายูริ ภายในซูซาคุมีหนอนบ่อนไส้อย่างงั้นเหรอ
ข้อสงสัยของคาวะทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นภายในกลุ่มซูซาคุ ทุกคนที่อยู่ภายในบ้านล้วนตกเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ก็มีลูกน้องบางคนที่ตั้งแง่และหาเรื่องคาวะกลับ
“ไอ้เด็กใหม่นั่นมันกล้าดียังไงมากล่าวหาคนในบ้าน ถ้าจะมีใครสักคนที่น่าสงสัยก็มันนั่นแหละ ไอ้เวรนั่นมันเคยคิดจะฆ่าท่านซายูริ มันเป็นคนทำให้คุณจินเข้าโรงพยาบาล แล้วจะเชื่อได้ยังไงว่ามันซื่อสัตย์ต่อท่านซายูริจริงๆ”
ใครคนหนึ่งเปิดประเด็น คนที่เหลือก็พยักหน้าตาม แม้แต่บรรดาสาวใช้ที่ยืนก้มหน้าก้มตา ด้วยกลัวโดนโบ้ยความผิดก็ชำเลืองมองกันไปมา แต่ไม่มีใครกล้าพูด ปล่อยให้พวกผู้ชายออกความเห็นอยู่ฝ่ายเดียว
“เรื่องคนร้ายเอาไว้ก่อน ตอนนี้ท่านซายูริปลอดภัยแล้ว ฉันว่าพวกแกอย่าเพิ่งแตกตื่นกันไปจะดีกว่า ไว้รอฟังจากปากท่านซายูริอีกทีว่าเกิดอะไรขึ้น”
คนสนิทของจินเอ่ยขึ้นก่อนจะบอกให้ทุกคนแยกย้ายแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรรายงานจิน ขับรถออกไปรับเจ้านายที่โรงพยาบาล
ซายูริถูกย้ายมาห้องปกติในเวลาต่อมา
“พี่คาวะคิดอะไรอยู่คะ”
อัยย์เห็นพี่ชายเอาแต่จ้องใบหน้าซีดเซียวของซายูริตาไม่กะพริบเอ่ยถามด้วยอยากรู้
“ถ้าตอนนั้นพี่ไม่อยู่ด้วย ป่านนี้คงกลายเป็นศพไปแล้ว”
“พี่คาวะ!”
“คุณคาวะ!”
ทั้งอัยย์และแม่บ้านต่างหันมาจ้องหน้าคาวะด้วยสายตาไม่พอใจ คนกำลังใจคอไม่ดีแล้วมาพูดจาอัปมงคลแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน แต่ต่อให้อยากตำหนิเขาขนาดไหนมันก็คือความจริง ถ้าคาวะไม่อยู่กับซายูริ... ถ้าซายูริกลับไปดื่มนมที่ห้องคนเดียวป่านนี้คงจะหลับลึกอยู่บนเตียงนอนและอาจจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกเลยก็ได้
แค่คิดแบบนั้นใบหน้าของแม่บ้านก็คุกรุ่นไปด้วยความโกรธ
“ใครกันนะ ที่คิดทำร้ายท่านซายูริของป้า”
“พี่คิดว่าเป็นคนเดียวกับที่ว่าจ้างพี่ในตอนแรกหรือเปล่า” อัยย์มองใบหน้าขุ่นแค้นของหัวหน้าแม่บ้านแล้วอดที่จะเอ่ยถามพี่ชายตัวเองไม่ได้
ใบหน้าเคร่งขรึมของคาวะนิ่งงันคล้ายกำลังคิดอะไรบางอย่าง
“ไม่แน่ใจ”
“งั้นพี่คาวะสงสัยใครเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ?”
คาวะจ้องหน้าอัยย์นิ่งครู่หนึ่งเพราะปกติไม่เคยเห็นถามอะไรซอกแซกขนาดนี้ แต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะอัยย์ห่วงซายูริมากเลยหยุดสงสัยไม่ได้
“เรื่องนี้เป็นฝีมือคนในบ้านไม่ผิดแน่”
“.....”