บทที่ 6 จุ๊บเบา ๆ สะเทือนทั้งหัวใจ

1981 คำ
เมื่อถึงเวลามาวินก็พาจินันยากลับบ้านด้วยพาหนะคู่ใจ ระหว่างทางหญิงสาวพยายามถามถึงเหตุผลของการไปส่งแต่ชายหนุ่มไม่ตอบกลับอมยิ้มกวนตีนแล้วยักคิ้วใส่ สร้างความประหลาดใจให้เธอไม่น้อยที่ได้เห็นมุมน่ารัก ๆ ในตัวเขาจึงหัวเราะออกมา “ฮ่า ๆๆๆๆ คุณมาร์ทำแบบนี้เป็นด้วยเหรอ” “แบบไหน” มาวินไม่เข้าใจจริง ๆ เหตุใดตุ๊กตาหน้ารถของเขาถึงได้หัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหล “ก็ทำหน้ากวนตีนเหมือนเมื่อกี้ไง” “ทำไม คนอย่างผมจะทำแบบนั้นไม่ได้เหรอ” “ด้ายยยยย แต่มันขัดกับบุคลิกของคุณมาร์ จีน่าถึงขำ” “ผมเป็นคนหลายบุคลิก อีกหน่อยคุณจะรู้เอง” “จีน่าจะรอดูนะคะ พ่อคนหลายบุคลิก” “หึ เลิกหัวเราะแล้วตั้งใจบอกทางด้วย” “เจ้าค่ะ จีน่ารับทราบพร้อมปฏิบัติ” “ดี ทำตัวน่ารัก ๆ แบบนี้ไปตลอดนะ” เขาเอื้อมมือไปขยี้หัวของเธอเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยว สร้างความสุขใจให้จินันยาไม่น้อย หล่อนจึงใช้โอกาสนี้อ้อนขอความรัก เอามือทั้งสองข้างขึ้นมาประกบแล้วทำตาวิ้ง ๆ ใส่อย่างน่ารักพร้อมด้วยประโยคเว้าวอนหวานหยดย้อย “จีน่าน่ารักขนาดนี้ คุณมาร์รักจีน่าหรือยังคะ” “ยัง” เขาตอบทีเล่นทีจริงแล้วยิ้มตรงมุมปากโดยไม่ได้มองหน้าคนถาม “โอ๊ะ สั้น ๆ แต่เจ็บชะมัด” จินันยาได้ยินแบบนั้นก็รีบแสดงสีหน้าสลดราวกับว่ากำลังอยู่หน้ากล้องแล้วแสร้งทำเป็นเจ็บปวด ทั้งที่จริงไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะเชื่อในฝีมือตนเองว่าสามารถทำให้คนข้าง ๆ ตกหลุมรักได้ในไม่ช้า และรักแบบโงหัวไม่ขึ้นด้วย หรือไม่ตอนนี้เขาอาจจะรักแล้วก็ได้แต่ปากแข็งไม่ยอมบอกก็เท่านั้นเอง ถ้าไม่รู้สึกอะไรจะไปที่บ้านของหล่อนทำไม จริงไหม หญิงสาวคิดเข้าข้างตัวเอง ระหว่างทางสองหนุ่มสาวหยอกล้อกันไปมาตลอดทาง ถ้าคนที่ไม่รู้จักมาเห็นทั้งคู่ปฏิบัติต่อกันต้องคิดว่าจินันยากับมาวินคือคู่รักอย่างแน่นอน เพราะมีไอแห่งความสุขบินวนรอบ ๆ ตัวและเปล่งประกายเจิดจรัส โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่ดูออกเลยว่า ตกหลุมรักฝ่ายชายจนถอนตัวไม่ขึ้น ถ้าเทียบกันระหว่างบ้านของตนเองกับบ้านของเธอ ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก ทั้งฐานะและชาติตระกูล มาวินคิดในขณะที่เดินตามจินันยาเข้ามาในห้องอาหาร ซึ่งมีสมาชิกของครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งพ่อ แม่ และพี่ชาย เมื่อลูกสาวคนเล็กปรากฏตัว จิรัช ผู้เป็นพี่ชายก็รีบลุกจากเก้าอี้ไปกอดน้องสาวทันทีด้วยความคิดถึงเพราะไม่เจอกันหลายวัน โดยไม่ทันสังเกตคนที่เดินตามหลังมา “เป็นยังไงบ้างน้องรักของพี่” “คิดถึงพี่จิที่สุดเลย” “คิดถึงแต่ไม่กลับบ้าน มันน่าน้อยใจนัก” “โอ๋ ๆ อย่างอนนะ นี่น้องก็กลับมาแล้วไง” “วันนี้ไม่งอนก็ได้” เขาว่ายิ้ม ๆ พร้อมกับขยี้หัวน้องสาวด้วยความเอ็นดู ถึงแม้หล่อนจะอายุยี่สิบกว่า แต่สำหรับพี่ จินันยาคือน้องน้อยในสายตาเสมอ “เออ ทุกคนขา วันนี้จีน่าพาแขกมาด้วยค่ะ” หญิงสาวผละจากพี่ชายแล้วเดินไปยืนข้าง ๆ มาวินเพื่อแนะนำเขาให้คนในครอบครัวรู้จัก จิรัชเพิ่งสังเกตเห็นแขกหนุ่มจึงทำหน้าขรึมหวงน้องขึ้นมาแล้วมองมาวินตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ของตนเองตามเดิม “นี่คุณมาวินค่ะทุกคน คุณมาร์คะ นั่นคุณพ่อ คุณแม่ แล้วก็พี่ชายของจีน่า” “สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า คุณพี่” “สวัสดีจ้ะคุณมาวิน เชิญนั่ง ๆ ทำตัวตามสบายนะคะ ใช่ไหมจ๊ะพ่อ พี่จิ” มารดาของหญิงสาวเป็นคนกล่าวพร้อมกับขอความเห็นจากสามีและลูกชายที่ดูเหมือนไม่ค่อยพอใจที่ลูกสาวพาผู้ชายเข้าบ้าน “อืม/อืม” ตอบด้วยน้ำเสียงเหมือนกันเลยทั้งพ่อทั้งลูก ทำให้มาวินขำในใจ บ้านนี้เขาหวงลูกสาวมากแน่ จากนั้นก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่ว่างข้าง ๆ จินันยาซึ่งเดินไปนั่งก่อนแล้ว “เป็นอะไรกัน” น้ำเสียงห้วน ๆ ถูกเปล่งออกมาจากลำคอของพี่ชายที่เริ่มหวงน้องมากขึ้น แถมยังมองมาวินแบบไม่เป็นมิตรเพราะกลัวน้องสาวโดนหลอก เนื่องจากจินันยาไม่มีประสบการณ์เรื่องความรัก อาจจะถูกพวกคิดไม่ซื่อหลอกเจาะไข่แดงแล้วก็ทิ้ง “ไม่ใช่แฟนหรอกพี่จิ จีน่ากับคุณมาร์กำลังศึกษานิสัยใจคอกันอยู่ ก่อนจะตกลง” “ไม่ใช่แฟนแต่พามาที่บ้านเนี่ยนะ คุณพ่อดูลูกสาวคุณพ่อสิครับ” “นั่นน่ะสิลูก ไม่ใช่แฟนแล้วหนูพามาที่บ้านของเราทำไม” “คือหนูกำลังจีบคุณมาร์อยู่ค่ะ ก็เลยชะ.../ผมอยากมาเห็นบ้านว่าที่แฟนน่ะครับ ก็เลยมาส่งจีน่า” หล่อนยังไม่ทันพูดจบเขาก็พูดแทรกด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ไม่เกรงกลัวสายตาของจิรัชกับจิรัน พ่อของว่าที่แฟนแม้แต่น้อย “เอ๊ะเดี๋ยวนะ เมื่อกี้หนูพูดว่าอะไรนะลูก แม่ฟังไม่ถนัด” คุณมารีน่าถามลูกสาวที่นั่งกะพริบตาปริบ ๆ มองคนข้างกายแบบมึนงง เธอเหมือนจะได้ยินว่าลูกสาวไปจีบชายหนุ่ม แต่ไม่มั่นใจจึงถามอีกครั้ง “ใช่ค่ะคุณแม่ หนูชอบคุณมาร์ก็เลยตามจีบ ตอนนี้รอคุณมาร์เปิดใจ” เพราะถูกสอนให้เปิดเผย หล่อนจึงกล้าพูดความจริงกับพ่อแม่แล้วก็พี่ ไม่อายที่จะพูดว่าตนเองจีบผู้ชายเนื่องจากมันเป็นเรื่องจริง “หนูจีบผู้ชาย/น้องจีบผู้ชายคนนี้/จีน่าลูก” สามคนพ่อแม่ลูกได้ยินที่ลูกสาวพูดเต็มสองหูถึงกับอุทานตกใจพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะพ่อกับพี่ที่อึ้งหนักกว่าแม่เสียอีก จินันยาจึงพยักหน้าหงึก ๆ ตอกย้ำคำพูดของตนเอง มาวินเห็นแบบนั้นก็ยิ้มขำ ครอบครัวนี้เลี้ยงลูกสาวได้ดีจริง ๆ ซื่อสัตย์กับความรู้สึกและไม่โกหกพ่อแม่พี่น้อง จึงพูดในส่วนของตนเองบ้าง “ที่ผมมาวันนี้เพราะอยากจะทำความรู้จักกับครอบครัวของน้อง และจะมาขออนุญาตคุณพ่อกับคุณแม่แล้วก็พี่ชายด้วย เผื่อผมต้องไปกินข้าว ดูหนัง หรือไปกันสองต่อสอง เกิดเป็นข่าวขึ้นมาทุกคนจะได้ไม่ตกใจ” “เอาละ ๆ ใครจะจีบใครก่อนไม่ต้องสนใจ เอาเป็นว่าพวกเรารับรู้ตอนนี้จีน่ากำลังศึกษาดูใจกับคุณมาวิน กินข้าวเถอะ เรื่องความรักปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต เนอะพ่อ พี่จิด้วย” มารดาของหญิงสาวเอ่ยทำลายความเครียดและชอบใจในตัวมาวินไม่น้อยที่เข้าตามตรอกออกตามประตู ขนาดไม่ได้เป็นแฟนกันยังมาแนะนำตัวให้เกียรติลูกสาว “แต่คุณแม่ครับ น้องยังเด็ก ไม่ควรจะมีแฟน จริงไหมครับคุณพ่อ” “จริง! ว่าแต่คุณเถอะ ทำงานทำการอะไร หน้าตาคุ้น ๆ อยู่นะ” “ผมเป็นประธานบริษัท Y ครับ” “อ้อ ลูกชายของคุณมาคัส หยาง ใช่ไหม” “ใช่ครับคุณลุง” “โอ๊ยยย คนกันเอง ถึงว่าหน้าตาคุ้น ๆ จริงไหมแม่” จากที่ไม่ถูกชะตากลับชอบขึ้นมาทันทีเนื่องจากเป็นลูกหลานของคนรู้จัก คุณจิรันเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วมากจนลูกชายที่มองอยู่พูดไม่ออกเพราะงงกับพ่อตัวเอง แค่เป็นลูกของคนตระกูลหยางไม่เห็นต้องทำหน้าบานเลย พ่อนะพ่อ จิรัชค้อนพ่อกับแม่ก่อนจะตักข้าวใส่ปากเคี้ยวเงียบ ๆ แล้วสังเกตพฤติกรรมของมาวิน “จริงค่ะ หน้าตาหล่อเหลาเหมือนคุณมาคัสเลย” “ตามสบายเลยหลานชาย ลุงกับป้าขอฝากน้องด้วยนะ บางทีก็ชอบทำตัวเป็นเด็ก อย่าเพิ่งเบื่อละ” “ครับคุณลุง” “กินข้าวตามสบายนะคะ คนกันเอง” “ครับคุณป้า” จากนั้นบทสนทนาที่ดูเหมือนจะตึงเครียดก่อนหน้านี้ก็หายไปหลังจากที่รู้ว่าชายหนุ่มคือลูกหลานตระกูลหยาง พ่อแม่ของหญิงสาวต้อนรับขับสู้ผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้ม สั่งให้จินันยาตักนั่นตักนี่ให้มาวินไม่หยุด สร้างความดีใจให้เธอไม่น้อยที่พ่อกับแม่ชอบเขา ต่างจากพี่ชายที่ถึงแม้จะรู้ว่ามาวินเป็นใครก็ยังทำหน้าบึ้งมองแขกหนุ่มเพียงหางตา เพราะไม่ชอบที่มีผู้ชายมาเกาะแกะน้องสาวตน แม้ว่าจินันยาจะเป็นฝ่ายตามจีบก่อนก็ตาม หลังจากรับประทานอาหารเย็นกันเสร็จและได้คุยทำความรู้จักกันเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่มาวินต้องขอตัวกลับบ้าน หญิงสาวจึงเดินมาส่งชายหนุ่มที่รถโดยมีพี่ชายแอบเดินตามคุมและซ่อนตัวอย่างแนบเนียนเพื่อไม่ให้น้องสาวรู้ตัวเพราะกลัวหล่อนจะอึดอัด จิรัชหวงน้องมาก เขากลัวว่าไอ้คุณมาวินจะทำมิดีมิร้ายน้องสาวตนเลยตามมาปกป้อง ถ้าเห็นอะไรที่ไม่ดีเขาจะรีบเข้าไปหาจีน่าทันที “หายงอนหรือยัง” ก่อนขึ้นบนรถ ชายหนุ่มหันมาถามหญิงสาว “มาบ้านของจีน่าเพราะอยากง้อเรื่องเมื่อคืนเหรอ” หล่อนถึงบ้างอ้อว่าทำไมเขาอยากมาส่ง ที่แท้ก็… มาง้อ “อืม ทำคนแถวนี้งอนก็ต้องง้อ” มาวินพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่คนฟังกลับใจละลาย “หายแล้วค่ะ หายตั้งนานแล้ว ขอบคุณนะคะที่มาบอกพ่อกับแม่แล้วก็พี่จิ” “ผมกลัวว่าเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วเป็นข่าวเดี๋ยวพวกท่านจะตกใจ มาแนะนำตัวเลยดีกว่า แต่ดูเหมือนพี่ชายคุณจะหวงน้องสาวนะ หวงมากด้วย ดูสิ แอบอยู่หลังเสา กลัวผมจะทำอะไรคุณงั้นสิ” เขากระซิบข้างหูเธอ “พี่จิก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ จีน่าถึงไม่มีแฟนสักที เห็นไหม ทำไมจีน่าถึงจีบคุณมาร์” “อืม ๆ น่าสงสารจริง ๆ งั้นผมกลับก่อนดีกว่า เดี๋ยวมันจะดึก อย่าลืมนะอีกสองวันต้องไปหัวหิน” “ค่า ไม่ลืมหรอก จีน่าเป็นมืออาชีพ” “ผมไปนะ แล้วเจอกัน” “เดี๋ยวก่อน” “ครับ” เขากำลังจะขึ้นรถแต่เธอเรียกไว้เสียก่อนจึงหันมา แล้วเกิดอาการตัวแข็งไปชั่วขณะเมื่อโดนหญิงสาวขโมยจูบแบบไม่ทันตั้งตัว “จุ๊บ ฝันดีนะคะ” หล่อนเอ่ยแบบเขิน ๆ ก่อนจะตกใจกับเสียงของพี่ชายที่ดังมาแต่ไกล “จีน่าาาาาาาาาาา” เสียงคำรามของคนหวงน้องดังขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นภาพบาดตา น้องสาวที่รักเขย่งเท้าขึ้นไปจูบปากผู้ชายต่อหน้าต่อตา ก่อนจะวิ่งด้วยความเร็วแสงมาคว้าตัวน้องสาวเข้าบ้านแล้วปล่อยให้มาวินยืนอยู่คนเดียวตามลำพัง ชายหนุ่มยืนอึ้งอยู่หลายนาทีกว่าจะรู้สึกตัวและเผลอยิ้มออกมาเมื่อคิดถึงริมฝีปากนุ่ม ๆ ของคนใจกล้า จากนั้นก็เอามือขึ้นมาจับที่ปากแล้วคาดโทษเจ้าหล่อนไว้ในใจ “เจอกันคราวหน้า โดนเอาคืนแน่จีน่า”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม