ปรียาดาคว้าข้อมือพี่สะใภ้ไว้เพราะกลัวจะหลงกัน ผู้คนแน่นร้านจนต้อง พากันเดินเบียดมายังมุมที่มีโซฟานั่ง ระยะทางไม่ไกลแต่กว่าจะแทรกตัวฝ่าฝูงชนที่ขยับโยกย้ายตามเสียงนักร้องมาได้ก็เล่นเอาเหนื่อย มุมโซฟาอยู่ใกล้กับทางเดินไปห้องน้ำและทางออกฉุกเฉิน สองสาวยืนกวาดสายตามองหาปกเกศอยู่นานแต่ก็ไม่เห็น ไม่แน่ว่าวันนี้เขาอาจจะไม่ได้มาที่นี่ หรือบางทีอาจจะกลับไปแล้ว ปรียาดาทำหน้าผิดหวังที่ตนคาดเดาผิด
“หรือว่าเฮียจะรู้ตัวแล้วหนีกลับไปแล้ว”
น้องสาวบ่นกระปอดกระแปด ทว่าก่อนที่ทั้งสองจะถอดใจกลับ คนที่มองไปเห็นชายหนุ่มกลับเป็นคีติกา เธอยืนนิ่งค้างไปชั่วขณะไม่ได้บอกปรียาดาในทันที กระทั่งอีกฝ่ายหันมามองเมื่อรู้สึกว่าคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นิ่งผิดปกติ ปรียาดาจึงหันไปมองตามสายตาของคีติกาและก็เห็นคนหน้าคล้ายพี่ชายกำลังนั่งเบียดอยู่กับผู้หญิงในชุดเดรสรัดรูปสีแดงเพลิง ผมยาวปล่อยสยาย ช่วงขาเรียวที่ไขว่ห้างพาดเบียดกับขาของฝ่ายชายจนแทบจะเกยขึ้นไปอยู่บนตัก
“นั่นไง เฮียตัวดี คิดแล้วไม่มีผิด ฮึ่ม!”
น้องสาวถึงกับสะบัดมือคีติกาทิ้ง มุ่งตรงไปหาพี่ชายที่กำลังคั่วสาวอื่น ปล่อยให้หญิงสาวยืนอึ้งอยู่กับที่ ใจสั่นระรัว กระทั่งมีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาสะกิดที่แขนเธอเบา ๆ พร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม แววตาสื่อว่าอยากทำความรู้จัก
“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ”
“เอ่อ...” คนที่แข้งขาชาดิกไปชั่วครู่ได้สติ หันมามองใบหน้าที่ยื่นเข้ามาใกล้จนเกือบจะชนหน้าเธอจึงรีบผงะถอย แต่ก็ไปชนกับคนอื่นจนต้องรีบหันไปขอโทษ
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวนะคะ”
ในขณะเดียวกันน้องสาวของปกเกศก็เดินมาถึงตัวพี่ชาย ชายหนุ่มในตอนนี้เหมือนจะกลับไปเป็นปกเกศคนเดิมตอนที่ยังไม่ถูกจับให้มี...เมีย กำลังปล่อยตัวให้สนุกสนานเริงร่ากับสาว ๆ
“เฮียเติ้ง มีเมียแล้วทำตัวแบบนี้ได้ยังไง กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ”
น้องสาวที่ดุยิ่งกว่าแม่ฉุดกระชากตัวพี่ชายออกมาจากปลาหมึกสีแดงเพลิง นี่ถ้าเธอไม่โทร. ไปหาพี่สะใภ้แล้วรู้ว่าปกเกศยังไม่กลับบ้านและนึกอยากแกล้งพี่ชายเลยชวนคีติกาออกมาตามเขาล่ะก็ คงไม่ได้เห็นกับตาว่าพี่ชายของเธอจะทำตัวเหลวไหลแบบนี้ เธอแค่จะหยอกพี่ชายเล่นแต่นึกไม่ถึงว่าจะเจอแจ็กพอต และหากว่าเธอกับคีติกาไม่ได้มาที่นี่ เชื่อว่าคืนนี้พี่ชายของเธอต้องไม่กลับบ้านเป็นแน่ ปกเกศนิ่วหน้ามองน้องสาวอย่างงงงัน ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงเมื่อสายตาตวัดไปเห็นคีติกาที่มากับปรียาดา พร้อมรบเองก็เพิ่งได้ยินเดี๋ยวนี้เองว่าเพื่อนมีเมียแล้ว...เหรอ?
ยายน้องสาวที่ไม่หวั่นกลัวใครจ้องไปที่ผู้หญิงชุดแดงเสน่ห์แรงอย่างเอาเรื่อง ถ้าหล่อนกล้าหือขึ้นมา เธอก็จะจัดการให้คว่ำเลยคอยดู
“เฮ้ย ไอ้เติ้ง ที่น้องสาวมึงพูดจริงเหรอวะ มึงมีเมียตั้งแต่เมื่อไร”
ปรียาดาตวัดสายตามองมาที่พร้อมรบอย่างมีนัย การที่ปรียาดารู้ว่าพี่ชายอยู่ที่นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือคาดเดาเอา หากแต่เธอมีเด็กที่คอยรายงานให้รู้ความเคลื่อนไหวของพี่ชายหากเขามาที่ร้านต่างหากเล่า เธอถึงได้พาคีติกามาถูกที่
ปกเกศเหลือบสายตามาสบตาเพื่อนที่มีเครื่องหมายคำถามตัวเบ้อเริ่มแวบหนึ่งแต่ไม่ตอบอะไร หากแต่มองไปยังคีติกาด้วยแววตาเข้มลึก ริมฝีปากหยักได้รูปเม้มเป็นเส้นตรง คีติกายืนมองเขาด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปจนแยกไม่ถูก แน่นอนว่าเธอตกใจเพราะคิดไม่ถึงว่าจะเจอเขากำลังนัวเนียกับผู้หญิงอื่น แต่เธอไม่แน่ใจว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันคือความผิดหวัง โกรธ เศร้าใจ เสียใจ หรือว่าแท้จริงแล้วมันคือรู้สึกจำยอมของคนที่อยู่ในสถานะอย่างเธอ
อึดใจต่อมาร่างสูงของปกเกศก็ลุกพรวดขึ้น เดินตรงมาหาคนที่น้องสาวเขาพามาด้วย คว้าข้อมือของเธอไว้แน่นจนคีติการู้สึกเจ็บ สายตาที่มองเธอมืดทะมึน พูดเสียงเบาแต่เน้นหนักบ่งบอกถึงอารมณ์ที่คุกรุ่นพร้อมปะทุ
“กลับบ้าน”
“เฮียเติ้ง ถ้าทำอะไรหลิว ผิงจะฟ้องม้ากับป๊า” ปรียาดาตะโกนแข่งกับเสียงเพลงบอกพี่ชายที่ทำท่าเหมือนจะขบหัวพี่สะใภ้
ปกเกศหันมาส่งสายตาคาดโทษให้ปรียาดาแล้วลากตัวคีติกาฝ่าฝูงชนที่กำลังโยกย้ายไปกับเสียงเพลงในร้านออกไป ปรียาดามองตามพี่ชายที่ฉุดข้อมือพี่สะใภ้ไปอย่างห่วง ๆ แต่เธอรู้นิสัยพี่ชายคนโตดีว่าหากเขาไม่ยินยอมพร้อมใจแล้วล่ะก็ ต่อให้โดนพ่อกับแม่ขู่ตัดญาติก็ไม่วันบังคับฝืนใจเขาได้ซึ่งก็แปลว่าหากเขาไม่มีใจหรือรู้สึกอะไรกับคีติกาเขาคงไม่มีวันยอมให้บิดามารดาคลุมถุงชน และไม่มีทางที่อดีตแบดบอยตัวเอ้อย่างปกเกศจะยอมให้คีติกามาอยู่ด้วย เพราะแบบนี้เธอถึงได้กล้าชวนคีติกามาที่นี่
หลังจากปกเกศลากคีติกากลืนหายไปกับเหล่าขาแดนซ์ที่เบียดกันแน่นเต็มพื้นที่ ปรียาดาก็หันมาประจันหน้ากับพร้อมรบอย่างเอาเรื่อง เหมือนเธอจะมีความในใจกับเพื่อนพี่ชายคนนี้ไม่น้อย การชวนคีติกามาตามปกเกศที่นี่นั้นเป็นความตั้งใจส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะเพื่อนพี่ชายคนนี้ หญิงสาวบอกเขาให้ออกไปคุยนอกร้านตรงทางเท้าหน้าร้าน
“คุณไม่รู้เหรอไงว่าพี่ชายของฉันมีคู่หมั้นแล้ว ปล่อยให้ผู้หญิงมาทำแบบนี้กับพี่ฉันได้ยังไง” ปรียาดาถามเสียงเขียว
พร้อมรบทำหน้าเหลอหลา “ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าไอ้เติ้งมันมีคู่หมั้น มันไม่ได้บอกอะไรผมนี่”
“ถึงจะอย่างนั้น ก็ไม่ควรสนับสนุนเพื่อนให้เหลวไหลมั่วสาวไปเรื่อยแบบนี้”
“เฮ้ย มาโทษกันแบบนี้ไม่ถูกนะอาหมวยผิงผิง คนอย่างไอ้เติ้ง ไม่ต้องชี้นำหรอก ถ้ามันจะทำก็ทำของมันเองมั้ย แต่ถ้ามันบอกว่าไม่ ใครหน้าไหนก็บังคับมันไม่ได้” พร้อมรบโต้ปรียาดาอย่างฉุน ๆ น้องสาวเพื่อนคนนี้ดูเหมือนจะไม่ชอบขี้หน้าเขานัก เจอกันทีไรไม่พูดจาจิกกัดให้เจ็บ ๆ คัน ๆ ก็แกล้งให้วุ่นวายไปเสียทุกที
“อย่ามาเถียงข้าง ๆ คู ๆ เฮียเติ้งไม่กลับบ้านดึกมาตั้งกี่เดือนแล้ว อย่าบอกว่าเฮียรบไม่สังเกต คอยดูเถอะ ถ้าเฮียรบจีบสาวตนไหนเมื่อไหร่ ผิงจะตามไปป่วนให้กระเจิงเลย”
“อ้าว... อาหมวยผิง ลื้อจะมาทำแบบนี้กับเฮียรบม่ายด้ายย” พร้อมรบทำหน้าสยองทำเสียงโอดครวญ เวรกรรมอะไรของเขาที่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับปีศาจน้อยอย่างปรียาดา
“ไอ้เติ้งมันหนีเมียมาเที่ยวก็ไปจัดการมันโน่น มายุ่งอะไรกับเฮียยย...” ’
“ไม่รู้ล่ะ เฮียรบเป็นเพื่อนเฮียเติ้ง ต้องรับผิดชอบ”
พร้อมรบเข่นเขี้ยวปกเกศอยู่ในใจ ‘กูเลิกเป็นเพื่อนกับมึงแล้ว ไอ้เติ้ง’
ปรียาดามองหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของพร้อมรบแล้วส่งเสียง ‘หึ’ ในลำคอก่อนจะสะบัดหน้าเดินกลับไปขึ้นรถขับกลับบ้าน ปล่อยให้พร้อมรบยืนเกาศีรษะอย่างจนปัญญา