เดิมทีนึกว่าการแต่งเข้ามาอยู่ในสกุลที่ทำการค้าขายต้องตื่นนอนยามเหม่ากินข้าวยามเฉินเสียอีก ทว่าก่อนล้มตัวลงนอนแม่บ้านผู้ดูแลเรือนชื่อเหอซินกลับพาบ่าวผู้ติดตามเข้ามาส่งมอบกฎข้อบังคับธรรมเนียมปฏิบัติของสกุลฟาง อ่านดูแล้วความตึงเครียดที่อยู่ในใจของเจียงซูเยว่พลันผ่อนคลายลงไม่น้อย เพราะนี่มันคือกฎระเบียบที่สะดวกสบายที่สุด
สรุปง่ายๆ ก็คือ ถ้าไม่ได้รับคำสั่งของแม่สามีห้ามออกจากอาณาเขตเรือนพักเด็ดขาด แน่นอนว่าต่อให้เดินจนขาหักนางก็อาจไม่สามารถหาทางออกไปจากเรือนหลังนี้ได้ นอกเหนือจากนั้นก็คือการปฏิบัติตัว สิ่งที่บันทึกไว้ในข้อปฏิบัติเหล่านี้ช่างเหมาะสมกับสตรีที่นึกอยากเกียจคร้านอย่างนางยิ่งนัก ไม่มีการเจาะจงเวลาตื่นนอนกับเวลากิน อยากกินอยากนอนตอนไหนก็ได้ทั้งนั้น ทว่ามีข้อสำคัญเพียงอย่างเดียวนั่นคือ ทุกวันต้องทำหน้าที่ภรรยาเอกด้วยการเรียกพบบรรดาภรรยารองและอี๋เหนียงทั้งหลาย
ข้อบังคับนี้เหมือนจะเป็นพ่อสามีผู้ตายจากไปของนางเป็นคนบันทึกไว้ อ่านแล้วถึงยังไงก็อดหรี่ตาลงไม่ได้ ฟางเฉิงเคอผู้นี้คิดวิธีทำให้ฮูหยินใหญ่ของตนลำบากได้ดีนัก
อะไรจะแย่ไปกว่า การให้เมียเอกพบบรรดาเมียน้อยของสามีทุกวัน
ดูท่าความหน้าด้านหน้ามึนของเหล่าบุรุษ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าหรือขุนนางล้วนเหมือนกันทั้งสิ้น นั่นคือรักถนอมสิ่งที่ได้มาใหม่ ส่วนของเก่านั้นคงอยากเหยียบย่ำให้ตายไวๆ จะได้ยกของที่ใหม่กว่าขึ้นมา
ปิดบันทึกในมือลงแล้ว เห็นแม่บ้านผู้ดูแลยังอยู่จึงซ่อนความรู้สึกเอาไว้ภายใต้สีหน้านิ่งสงบ
“ท่านป้าเหอ ไม่ทราบว่าคุณชายสามมีฮูหยินรองกับ อี๋เหนียงอยู่กี่คนหรือ” เรื่องนี้นางไม่ทราบจริงๆ มีโอกาสย่อมต้องซักถามเอาไว้
เสี่ยวถิงผู้ยืนอยู่ข้างกายไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
ป้าเหอยอบกายลงแล้วรายงานเสียงฉะฉาน “เรียนฮูหยิน คุณชายสามยังไม่รับฮูหยินรองกับอี๋เหนียง มีเพียงสาวใช้อุ่นเตียงแปดคนเท่านั้น”
ได้ยินว่าเขายังไม่รับฮูหยินรองกับอี๋เหนียงเป็นตัวเป็นตน ลึกๆ ในใจของเจียงซูเยว่ย่อมรู้สึกผิดที่ตนเคยมองเขาในแง่ร้าย แต่คำพูดต่อมาของป้าเหอทำให้นางกลับมารู้สึกเสียใจที่เมื่อครู่ตนคิดเช่นนั้น มองไปทั่วเมืองเหยียนโจวแห่งนี้จะมีคุณชายสกุลใดมีสาวใช้ห้องข้างเทียบเท่าเขาบ้าง คุณชายสามผู้นี้เหลวไหลยิ่งนัก ฮูหยินเอกยังไม่แต่งเข้ามาก็รับสาวใช้ห้องข้างไว้เกือบสิบชีวิตแล้ว ทว่าเมื่อเขาเผยนิสัยใจคอเช่นนี้ออกมา ย่อมทำให้นางรู้ว่าหากต้องการอยู่ในฐานะภรรยาเอกอย่างมั่นคง ห้ามมีความปรารถนาในสิ่งที่ไม่ควร นั่นคือ อย่าได้คิดว่าเขาจะละทิ้งหญิงงามเพื่อตนเด็ดขาด และห้ามคิดว่าเขาจะมอบความรักความจริงใจให้ ถ้าหากคิดเช่นนั้นถ้าไม่ถูกเขาทำร้ายจิตใจจนตายละก็ อาจถูกบรรดาสตรีที่นอนร่วมเตียงกับเขาลอบสังหารก็เป็นได้
ฝีมือของสตรีที่ต้องการรักษาฐานะของตัวเองไว้นั้นน่าสะพรึงกลัวไม่แพ้การรบราฆ่าฟันในแถบชายแดนหรอก
เหอซินลอบสังเกตสีหน้านายหญิงที่เพิ่งเข้าจวนมา ได้ยินเรื่องเช่นนี้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตีโพยตีพายอย่างไร แต่พอเห็นว่าสีหน้าท่าทางไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยก็ได้แต่เอ่ยปาก “ฮูหยิน สาวใช้ห้องข้างพวกนั้นล้วนไม่มีความหมาย ฮูหยินอยากพบก็พบ ไม่อยากพบก็ไม่ต้องพบ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความต้องการของ ฮูหยิน เรือนนี้ฮูหยินเป็นใหญ่ หาต้องเห็นแก่หน้าผู้ใดไม่” ท้ายประโยคนี้คงเป็นคำพูดของแม่สามีที่นางยังไม่มีโอกาสพบหน้ากระมัง เป็นที่แน่นอนแล้วว่าเหอซินผู้นี้เป็นคนของฮูหยินใหญ่ หลินซือหรู มารดาบังเกิดเกล้าของฟางจิ้งห้าว
เมื่อท่านแม่หวังดี เจียงซูเยว่ย่อมต้องรับไว้ “ท่านป้าเหอวางใจเถิด เรื่องนี้ย่อมต้องให้คุณชายสามเป็นคนจัดการ” นางไม่ยื่นมือไปแตะต้องผู้หญิงของเขาหรอก เกิดในบรรดาสาวงามทั้งแปดมีสตรีผู้เป็นที่รักของเขาอยู่ หากรู้ว่านางทำให้สตรีที่รักลำบาก เขายังจะปล่อยให้อยู่อย่างสุขสบายอีกหรือ
เห็นสะใภ้สามรู้ว่าอะไรควรไม่ควร เหอซินพลันพาผู้ติดตามถอยออกไป แน่นอนว่าก่อนจะวางใจได้อย่างแท้จริงนั้น ต้องนำความเหล่านี้ไปบอกกล่าวให้ฮูหยินใหญ่ทราบ
ครั้นผู้มาเยือนหายไปแล้ว เจียงซูเยว่ก็แสร้งเปิดปากหาว โบกมือทีหนึ่งก็ไล่บรรดาสาวใช้ทั้งแปดคนออกไป เหลือไว้เพียงเสี่ยวถิงกับหงหลินเท่านั้น
ไร้เงาผู้คนในสกุลฟาง พลันเอ่ยปากกับหงหลินตรงๆ “เจ้าก็เห็นแล้วว่าเป็นเช่นไร เส้นทางข้างหน้าเลือกเอาเองเถิด”
“คุณหนู” หงหลินเรียกพลางเม้มปาก ก้นบึ้งแววตาปรากฏแววสับสนอย่างเห็นได้ชัด ก่อนออกจากสกุลเจียงมา ฮูหยินใหญ่กำชับว่าให้จับตาดูคุณหนูสิบเอ็ดให้ดี หากวันใดคุณหนูสิบเอ็ดสร้างความเดือดร้อนให้สกุลเจียงละก็ ย่อมถูกขับออกจากทำเนียบสกุล
มาถึงตอนนี้มิใช่ว่าคุณหนูสิบเอ็ดก็ถูกโยนออกมาแล้วหรอกหรือ สถานที่ที่ต้องอยู่อาศัยตลอดไปหาใช่สกุลเจียงไม่
เป็นสกุลฟางแห่งนี้ต่างหาก
หรี่ตามองเรือนพักอาศัยที่ใหญ่โตและหรูหราแล้ว หงหลินพลันคิดออกว่าบัดนี้คุณหนูสิบเอ็ดคือคนของสกุลฟาง หาใช่คนของสกุลเจียงอีกต่อไปไม่ ถ้าหากภายภาคหน้าอนาคตของคุณหนู สิบเอ็ดราบรื่นก็นับว่าตนได้เกาะกิ่งไม้ใหญ่
ใช่แล้ว...ที่แห่งนี้คือสกุลฟาง เจียงซูเยว่คือฮูหยินเอกของคุณชายสาม
สกุลฟางเป็นสกุลใหญ่ ได้ยินว่านายท่านฟางเฉิงเคอมีภรรยาเอกภรรยารองรวมทั้งหมดห้าคน
แต่บัดนี้เหลือเพียงสาม ฮูหยินสี่กับฮูหยินห้าคล้ายจะจากไปในวันเดียวกับนายท่านสกุลฟาง ไม่รู้ว่าแท้จริงนั้นเกิดสิ่งใดขึ้นบ้าง