ตอนที่ 1
ชาคริยา ตอบรับข้อเสนอของ นาธาเนียล ชายแก่วัยคราวพ่อเพื่อคอยดูแลเขาแลกกับค่าตอบแทนจำนวนมหาศาลซึ่งเธอต้องหาเงินไปรักษามารดาที่ป่วยหนักและต้องได้รับการรักษาด่วน โดยไม่รู้เลยว่าข้อเสนอนั้นคือตรวนเส้นใหญ่ที่พันธนาการชีวิตของเธอไว้กับลูกชายของเขา
อีธาน อัลเบิร์ตสัน ผู้ชายหยิ่งผยองที่เกลียดชังเธอยิ่งกว่าอะไร เขาคิดว่าเธอเป็นโสเภณี ขายตัวแลกกับเงินของมหาเศรษฐี ดูถูกชาคริยาสารพัดในสายตาของเขา เธอมันก็แค่ผู้หญิงหากิน ที่รู้จักแต่เซ็กส์และเงินเท่านั้น
“หยิน...นั่นหนูจะเดินทางวันนี้แล้วเหรอลูก?”
เสียงแหบแห้งของหญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเตียงไม้รองฟูกหนาภายในห้องเช่าเก่า ๆ ขนาดเล็กของอพาร์ตเม้นท์ในเขตบรูกลินท์ดังขึ้นทำให้ร่างเล็กบอบบางในชุดกระโปรงผ้าฝ้ายสีชมพูหวานที่กำลังจัดเสื้อผ้าลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใกล้ ๆ กันนั้นต้องหยุดชะงักและหันกลับไปมองพร้อมด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะแม่...หยินจะไปวันนี้...แล้วจะกลับมาอีกครั้งวันครบกำหนดที่หมอนัดแม่นะคะ”
เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบา ๆ ก่อนจะมีเสียงตอบกลับมาจากหญิงวัยกลางคนอีกครั้ง
“ลูกจะไปอยู่ที่แซนแฟรนซิสโกตั้งสองเดือนกว่าจะได้กลับมาหาแม่...อย่างนั้นใช่มั้ย”
“แม่คะ...”
หญิงสาวร่างบอบบางลุกขึ้นและเดินไปนั่งลงบนเตียงข้างมารดา ชาคริยากอดบุษบาซึ่งเป็นหญิงวัยห้าสิบต้น ๆ ที่ร่างกายบอบบางยิ่งกว่า เธอจูบบนแก้มมารดาที่ซูบตอบเพราะกำลังเผชิญกับโรคร้ายในระยะของการรักษาตัว
“แค่สองเดือนเองนะคะแม่...และในช่วงเวลานี้หนูก็จ้างพยาบาลให้มาช่วยดูแลแม่ หยินขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้อยู่ดูแลแต่รับปากนะคะว่าจะต้องกลับมาพาแม่ไปโรงพยาบาลตามที่หมอนัด”
“แม่แค่อยากถามว่าหยินได้เงินเยอะมากเลยเหรอลูกกับการไปเป็นแม่บ้านให้มหาเศรษฐีอย่างที่ลูกบอกแม่”
บุษบาตั้งคำถามและทำให้ชาคริยานิ่งเงียบไปชั่วขณะ หญิงสาววัยยี่สิบเจ้าของใบหน้ารูปไข่เกลี้ยงเกลาหมดจดใต้กรอบเรือนผมยาวสลวยสีน้ำตาลประกายคลี่รอยยิ้มราวกับจะกลบเกลื่อนความนัยแม้มันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตกับการที่เธอรับปาก นาธาเนียล อัลเบิร์ตสัน มหาเศรษฐีอายุย่างหกสิบที่ยื่นข้อเสนอให้เธอไปเป็นผู้ดูแลส่วนตัวหลังจากที่เธอได้พบกับเขาในภัตตาคารหรูใจกลางเมืองบรู๊คลิน
นาธาเนียล ชายชาวอเมริกันรูปร่างสูงใหญ่นัยน์ตาสีฟ้าและเรือนผมสีบรูเน็ตเข้ม แม้อยู่ในวัยหกสิบแต่ก็ยังดูแข็งแรงและสดชื่น เขาเป็นแขกระดับวีไอพีของภัตตาคารที่ได้รับการดูแลและให้บริการอย่างดี นาธาเนียลแวะเวียนมาที่นั่นบ่อยครั้งและทุกครั้งเขาก็มักจะเรียกเธอไปคอยบริการเสิร์ฟอาหาร เธอรู้ว่าเขาเป็นหม้ายที่ภรรยาเสียชีวิตไปนับสิบปีแล้ว นับจากวันนั้นที่ชาคริยาได้พบมหาเศรษฐีวัยหกสิบก็เป็นเวลาเกือบสามเดือน กระทั่งวันหนึ่งที่เขาเอ่ยปากกับหญิงสาวอย่างตรงไปตรงมา
“จีน...ฉันรู้สึกถูกชะตากับเธอนะ”
“ขอบคุณค่ะ คุณนาธาเนียล”
“ฉัน...มีบางอย่างที่อยากเสนอให้เธอ...เอ้อ...มันก็แค่งานที่ต้องดูแลและเอาใจคนแก่ซึ่งฉันแค่อยากถามว่า...เธอ...จะปฏิเสธฉันรึเปล่า...ถ้าฉันจะให้เธอไปคอยดูแลและอยู่เป็นเพื่อนฉันที่บ้าน... ที่แซนแฟรนซิสโก”
“เอ้อ...คือว่า...ฉัน...”
“ฉันรู้...ฉันรู้...ฉันแค่ต้องการคนคอยดูแลและอยู่เป็นเพื่อน ใช่...เมียฉันตายไปนับสิบปีแล้ว แต่ฉันไม่ได้ต้องการจะมีเมียใหม่ พูดตรง ๆ นะ...ฉันแค่อยากมีเพื่อนที่คอยดูแลฉัน”
“คุณนาธาเนียล”
“โอ...สาวน้อย...และฉันก็ไม่ได้หมายความถึง...การซื้อตัวเธอ...ฉันแค่ขอร้อง...แต่ฉันก็มีข้อเสนอที่มากกว่านั้น...ฉันรู้ว่าเธอมีครอบครัวที่อาจต้องดูแล และฉันยินดีที่จะตอบแทนให้กับความกรุณาของเธอสำหรับการคอยเป็นผู้ดูแลฉัน”
หนึ่งล้านดอลล่าห์...เงินมหาศาลสำหรับพนักงานเสิร์ฟอย่างเธอที่ทำงานนับสิบปีก็ไม่มีวันเก็บเงินได้มากขนาดนั้น และที่สำคัญเหนืออื่นใด...มารดาของเธอกำลังประสบกับโรคร้ายที่ต้องใช้เงินในการรักษาอย่างเร่งด่วน ซึ่งถ้าหากเธอจะคอยความช่วยเหลือจากสวัสดิการรัฐอาจไม่เพียงพอ
ชาคริยารับปากนาธาเนียล กับการที่ต้องไปเป็นผู้ดูแลส่วนตัวให้กับมหาเศรษฐีอายุคราวพ่อ เธอไม่มีทางเลือกอื่น มันไม่ใช่การขายตัว ก็แค่สละเวลาเพื่อผู้สูงวัยคนหนึ่งแลกกับค่าแรงที่เธอจะนำมันมาจุนเจือครอบครัวตัวเองได้
“เขาเป็นมหาเศรษฐีน่ะค่ะแม่...รวยมากและเขาก็เต็มใจจะจ้างหยิน...เอ้อ...เป็นเงินหนึ่งแสนดอลล่าห์”
เธอจำต้องโกหกเพราะถ้าหากบุษบารู้ว่ามากกว่านั้นอาจตกใจและอาจตั้งคำถามต่อไปซึ่งมันจะดีกว่าหากเธอจะตัดปัญหาด้วยการบอกตัวเลขที่มารดารับได้
“นั่นก็มากนะลูก...โอ...ตั้งแสนดอลล่าห์ แม่หาทั้งชีวิตก็คงไม่มีวันได้...แล้วนี่ลูกจะเดินทางกี่โมง”
“คุณนาธาเนียลให้คนของเขามารับตอนบ่ายโมงค่ะ หนูจะเดินทางไปแซนแฟรนซิสโกกับเครื่องบินส่วนตัวของเขา”
บุษบามองบุตรสาวคนเดียวที่นางเลี้ยงดูมาหลังจากสามีเสียชีวิตตอนชาคริยาคลอดเพียงไม่กี่เดือน นางแต่งงานใหม่กับชาวอเมริกันและย้ายจากเมืองไทยมาอยู่ที่บร๊คลินกระทั่งสามีใหม่เสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อน หลังจากนั้นบุษบาก็ต้องอดทนเลี้ยงดูลูกสาวที่ไม่สามารถส่งเธอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ ชาคริยาต้องทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในภัตตาคาร ทำงานเลี้ยงแม่ที่มาทราบภายหลังว่าเป็นโรคมะเร็ง ดูเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดในเวลาที่ทุกอย่างกำลังแตกสลาย
แต่แล้วก็เหมือนมีแสงสว่างสาดส่องเข้ามาเมื่อลูกสาวของเธอรับงานของมหาเศรษฐีแลกกับเงินค่าจ้างเพื่อนำมารักษาโรคร้ายที่กำลังจะคร่าชีวิตบุษบา ชาคริยาช่วยยื้อชีวิตของนางไว้ด้วยเงินก้อนใหญ่หลังพาเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยไม่ต้องรอสวัสดิการช่วยเหลือจากรัฐบาล
“หยิน...ตั้งใจทำงานนะลูก แม่อยู่คนเดียวได้และจะพยายามรักษาตัวเองเพื่อให้หาย”
“ขอบคุณค่ะแม่”
ชาคริยาหอมแก้มมารดาก่อนจะรีบจัดเสื้อผ้าลงกระเป๋าเดินทางเพียงใบเดียวและออกจากห้องเช่าราคาถูกไปรอคนของนาธาเนียลมารับตามที่เขาบอกเธอเอาไว้ ขณะที่รอคอยคนของมหาเศรษฐีสูงวัยมารับที่หน้าอพาร์ทเมนท์หญิงสาวก็อดที่จะนึกถึงคำพูดประโยคหนึ่งของเขาไม่ได้