ปัง!
เสียงประตูถูกปิดลงด้วยบาทาเจ้าของห้อง พริ้มเพราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยู่ที่ไหนของประเทศนี้ เพราะเพียงก้าวขาลงจากรถ ริมฝีปากของใครบางคนก็บดเบียดจุมพิตมาให้ เธอพยายามดิ้นหนี แต่มันช่างยากเย็น เขาเป็นบุรุษที่ร้อนแรง ในขณะที่เธออ่อนเดียงสา ทำได้เพียงจูบตอบแบบเงอะงะที่สุด
“โอ...พระเจ้า! เอาความไร้เดียงสาของคุณทิ้งไปทีเถอะ ผมกำลังจะเป็นบ้าแล้ว!” เขาว่าแล้วเริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเอง ส่วนพริ้มเพรายืนอึ้งอยู่กลางห้องกว้าง ฤทธิ์แอลกอฮอล์ยังมิจางไปจากกระแสโลหิต แต่สติส่วนดีเริ่มป่าวร้องในอก เธอมาทำอะไรอยู่ที่นี่ ที่ที่เธอไม่รู้จัก กับใครก็ไม่รู้ที่เสียงไม่เหมือนเพื่อนรักสักกระผีก ใช่! เธออยู่กับคนแปลกหน้าในห้องที่สว่างเพียงรางเลือน รู้แต่ว่าเขาหน้าขาวมาก แค่นั้นจริงๆ อย่าถามว่าเขาหน้าตาเป็นเช่นไร เพราะตอนนี้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ทุกส่วนบนหน้าเขาไหลมารวมกันจนหมดแล้ว
“โอ...คุณพระช่วย” พริ้มเพราครางออกมาเมื่อแลเห็นร่างเปลือยของบุรุษ แม้จะไม่ชัดเจนแต่ก็ทำให้เลือดสาวสูบฉีดเร็วแรง หัวใจเต้นรัวๆ หายใจเริ่มติดขัด
“ชู่ว์...บ้าจริง! คุณหอมจัง หอมเหลือเกิน” เขาว่าแล้วซุกหน้าเข้ากับซอกคอขาวของพริ้มเพรา หญิงสาวสะดุ้งเฮือก กายอ่อนระทวยราวขี้ผึ้งลนไฟ
“อย่านะ...ไม่ ไม่ใช่แบบนี้ ฉันไม่ใช่...อื้อ...”
เสียงท้วงทักของพริ้มเพราหายไปในโพรงปากนุ่มอุ่นของบุรุษปริศนา จุมพิตของเขาชวนให้กายสาวต้องยอมศิโรราบ เขาจูบเก่ง ฝ่ามือร้อนผ่าวลูบไล้ทั่วร่างสาวอย่างช่ำชองและชำนาญ และเพียงไม่กี่นาทีต่อจากนั้น พริ้มเพราก็เปลือยเปล่าล่อนจ้อน เอนกายลงเตียงนุ่มโดยมีเขาเป็นผู้นำพา สองแขนเขากอดรัดร่างอรชร สวมสอดตัวตนแห่งชายเข้ามาทักทายในกายสาว พริ้มเพราแทบสิ้นสติ หวีดร้องระงมเมื่อพานพบความเจ็บปวดอย่างที่สุด
“ปล่อย! ฉันเจ็บ! ได้โปรด...”
เสียงวอนขอมาพร้อมเสียงสะอื้น มันฟังอืออาเพราะฤทธิ์สุรายังหลงเหลือ
“โอ...พระเจ้า...ขอโทษด้วยที่รัก คุณเจ็บเหรอ” บุรุษหนุ่มไม่รู้จะเอ่ยสิ่งใด รู้แต่ว่าสิ่งที่ได้รับมันเกินคาดหมาย เขาเอื้อมมือสุดแขน เพื่อแตะโคมไฟที่ข้างเตียง และเพียงแค่แสงสว่างกระจ่างทั่วบริเวณ ใบหน้าของคนที่อยู่ใต้ร่างก็ปรากฏแก่สองตา
“คุณ...เป็นใคร!?” พริ้มเพราพยายามเอ่ย หลับตาลงเพื่อสะกดความเจ็บที่แล่นมาจากเบื้องล่าง หน้าตาเขายังดูเบลอๆ แต่พอรู้ว่าเขามิใช่คนขี้เหร่แน่ๆ ให้ตายเถอะ เธอปล่อยให้ตัวเองเมาขนาดนี้ได้ยังไง!
“นั่นสิ! ผมก็อยากถามเหมือนกัน...คุณไม่ใช่คนที่นั่งดื่มกับผม”
พริ้มเพรานิ่วหน้า “แล้วคุณจูงฉันมาทำไม”
“ผมเปล่า ผมจูงคนของผม” เขาเถียง ปัดปอยผมที่ติดอยู่ตามพวงแก้มบาง หล่อนขาวมาก ขาวจนแก้มเนียนแลเห็นเส้นเลือดริ้วเล็กๆ ที่สำคัญก็คือ...หล่อนสวยบาดจิตบาดใจ
พริ้มเพราส่ายหน้ารัวๆ หัวคิ้วสองข้างขมวดเข้าหากัน
“คุณจูงฉัน และฉัน...เมามาก โอเค...ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าเรื่องมันเกิดเพราะความเข้าใจผิด คุณจะช่วย...เอ่อ...เอามันออกไปได้ไหม ฉันเจ็บจริงๆ”
น้ำตาหยดหนึ่งกลิ้งลงทางหางตา ความเจ็บปวดพาให้พริ้มเพราไม่อาจอดกลั้นไว้ได้ รู้สึกเหมือนกำลังถูกชำแหละด้วยมีดคมๆ มันกรีดลงลึกจนรู้ได้ถึงหยาดโลหิตที่กำลังซึมเอ่อ ให้ตายเถอะ เธอกำลังถูกเปิดซิงจากใครก็ไม่รู้!
“เหมือนว่าพระเจ้าจงใจให้เรามาพบกันนะคนสวย คุณจะเจ็บปวดถ้าผมหยุด”
เขาว่าแล้วจุมพิตริมฝีปากล่างของพริ้มเพราอย่างเนิบช้า ชวนให้กายสาวได้ตื่นตัวอีกระลอก
“แต่ฉันทรมาน...มันแน่นไปหมด ฉันจะตายไหม” ถามโง่ๆ แล้วส่ายหน้ารัวๆ หลับตาปี๋แล้วกัดฟันแน่นในตอนที่เขากดแก่นกายลงมาอีก มันตึงและคับแน่น เหมือนเนื้อถูกแยกด้วยกายอุ่นร้อนแต่แข็งแกร่งของเขา และเพียงแค่เธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าของบุรุษที่เธอไม่รู้แม้แต่ชื่อ ก็ปรากฏแก่สองตาอย่างชัดเจน
มิเพียงแค่พริ้มเพราที่รู้สึกเช่นนั้น ทว่าภายใต้สถานการณ์ที่ยากจะอธิบาย ใบหน้าของพริ้มเพราก็ประทับลงในหัวใจบุรุษผู้ไม่คิดว่าจะรักใครอีกแล้วเช่นกัน หัวใจชายหนุ่มไหวสั่นเพียงเพราะได้เห็นแววตาเจ็บปวดของหญิงสาว มันอดไม่ได้ ต้องกดจุมพิตปลอบโยนที่หน้าผากโหนกนูน
“อีกนิดเดียวที่รัก อีกนิดเดียวเท่านั้น”
“อื้อ...”
พริ้มเพราร้องอู้อี้ เมื่อถูกแก่นกายชายกดเข้าหาร่างตนจนสุด มันเข้ามาลึกเสียจนต้องแอ่นอกรับเอาตัวตนของเขา ริมฝีปากที่อ้าส่งเสียงร้อง ถูกปิดกั้นด้วยริมฝีปากบางเฉียบ ก่อนที่บทเพลงรักจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเร่าร้อน ร่างเธอสั่นสะเทือนยามถูกกระแทกถี่ๆ เสียงเตียงลั่นเอี๊ยดๆ ดังขึ้นตามแรงของคนข้างบนที่โถมลงมา ยิ่งเขาโหมแรงใส่ร่างเธอเท่าไหร่ เตียงก็ยิ่งสั่นแรงขึ้นเท่านั้น
ลมหายใจของเขาและเธอดังเข้าออกประสานกัน พริ้มเพราไม่รู้จะทำเช่นไรดี จะขัดขืน ใจก็ยังปรารถนา จะยินยอมพร้อมใจก็ละอายเหลือเกิน แต่ช่างปะไรเล่า นี่คงเป็นสวรรค์กำหนด ให้มันดำเนินต่อไปเถอะ เธอก็อยากรู้ว่ารสรักของชายหญิงมันยอดเยี่ยมแค่ไหน ใครๆ ถึงได้หลงใหลมันนัก เธอจะดื่มด่ำกับมันให้สมใจ พอพรุ่งนี้ก็จะทำเป็นว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น ก็แค่ความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคืนกับคนแปลกหน้า เธอไม่ต้องกังวลอะไร แค่ปล่อยตัวปล่อยใจ อะไรจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ก็ช่างหัวมัน!
“อ๊า...เจ็บ! เบาๆ ได้ไหม อื้อ...” เพียงริมฝีปากอ้าร้อง คนข้างบนก็โน้มหน้าลงมา ประกบปากเธอไว้ด้วยปากเขา ทั้งจูบทั้งดูดชิมลิ้นเธอ รสหวานนี้มาจากที่ใดกันนะ รู้แต่ว่าหวานเหลือเกิน
“อืม...พระเจ้าช่วยด้วยเถอะ ทำไม...ถึงดีอย่างนี้นะ ดี...อา...”
บุรุษหนุ่มครางอืออาเมื่อรสสวาทของสาวพรหมจรรย์คือสิ่งที่น่าตื่นตะลึง มันคับแน่นและฝืดตึงแต่กลับเร่งเร้าอารมณ์ราวกับน้ำมันที่กำลังถูกราดลงกองเพลิง ให้ตายเถอะ วิเศษจริงๆ วิเศษเหลือเกิน
“อืม...ซี้ด...เร็วอีกนิด ได้โปรด ฉันเจ็บ อ๊ะ!”
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นถี่ระรัวเมื่อถูกร้องขอ ร่างงดงามถูกกระแทกจนหัวสั่นหัวคลอน พริ้มเพราลูบไล้ไปทั่วร่างบุรุษที่มิเคยได้สัมผัส ในขณะที่เขาก็ลูบไล้ร่างเธอเช่นกัน พุ่มทรวงนุ่มหยุ่นถูกบีบขยำและเคล้นคลึง ในขณะที่กายส่วนล่างยังถูกบุกทะลวงอย่างบ้าคลั่ง เส้นขนบนร่างเธอลุกเกรียว ร่างกายมึนชาทั้งหนาวทั้งร้อนสลับกัน นี่เธอจะตายไหม ทำไมมันเสียวซ่านอย่างนี้!
แล้วพริ้มเพราก็ถูกชักพาไปตามครรลองของธรรมชาติ เสพสมรสราคะที่ชายปริศนาบำรุงบำเรอเสียเต็มอัตรา หารู้ไม่ว่ารสราคะร้อนเร่าจะกลายเป็นบ่วงที่ทำให้พริ้มเพรา ไม่มีโอกาสดิ้นหนีอีกต่อไป!