“ฉันอยากดูหนังอ่ะ ...เธอชอบดูหนังเรื่องอะไร” ซีเงยหน้าจากกองเอกสารแล้วส่ายหน้าก่อนจะก้มลงไปให้ความสนใจกับมันต่อ น่าหงุดหงิดชิบหาย -_-
“ถามแล้วให้ตอบ ...ไม่ได้ยินเหรอวะ”
“ทำไมถึงพูดกับคนอื่นสุภาพแล้วพูดกับฉันหยาบคาย” ยัยตัวเล็กทำคิ้วขมวดแล้วมองหน้าผมอย่างไม่ชอบใจ
“ไม่รู้ดิ อยู่กับเธอแล้วฉันเป็นตัวเองมั้ง”
“ไม่ต้องเป็นตัวเองมากก็ได้ป่ะ”
“แล้วเธอไม่ชอบไง คำพูดฉันออกจะจริงใจนะเว้ย”
“จริงใจบ้าอะไร นั่นเรียกหยาบคายย่ะ” ซีส่ายหน้าแล้วก้มลงจัดการกับเอกสารต่อโดยไม่ได้ให้ความสนใจกับคำพูดของผมอีก
...ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่เหมือนใครจริง ๆ
“คำนี้ผิดนะ ...เธอมาดูดิ” ผมชี้ไปที่เอกสารแล้วทำคิ้วขมวดทำให้ซีรีบลุกขึ้นมาดูเอกสารโดยที่ไม่ทันได้ระวังตัว
หมับ!
“ว๊ายยย ...ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ เดี๋ยวมีคนเข้าเห็น” ผมรวบเอวบางมานั่งลงที่ตักแล้วรั้งกระโปรงตัวสวยให้มากองที่เอว นิ้วยาวก็ลูบไปตามรอยแยกจนน้ำหวานซึมเปียกเป็นวงกว้าง
“อื้อ อะ อย่า ...อื้อ” ผมเบี่ยงขอบแพนตี้ไปด้านข้างก่อนจะสอดนิ้วยาวเข้าไปก่อนหนึ่งนิ้วเพื่อเบิกทางรักให้กว้างขึ้น ร่างเล็กสะท้านตอนที่นิ้วเย็นๆถูกสอดเข้าไปจนสุด ช่องภายในตอดถี่หนักกว่าเดิม
“ตอดถี่เชียวนะ ...อยากให้ขยับมั้ย” ผมรู้ว่าจุดตรงไหนที่จะทำให้ซียอมสยบให้กับผมได้ ซีแพ้ทางการโดนเล่นงานหลายจุดพร้อมกันและผมกำลังทำมันอยู่ตอนนี้ มือหนาล้วงเข้าไปในเสื้อแล้วบีบเคล้นหน้าอกอวบอย่างมันส์มือ ริมฝีปากก็คลอเคลียอยู่ที่ซอกคอสวยไม่ห่าง นิ้วเรียวยาวก็ยังขยับอย่างเชื่องช้าเพราะต้องการจะแกล้งคนตัวเล็กให้มากที่สุด
“อื้อ ขยับ ...อ๊ะ” และมันก็เข้าทางผมแล้ว ผมเพิ่มแรงสัมผัสไปกับทุกส่วนของร่างกายซีอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งเห็นเธอกัดปากกลั้นเสียงครางเอาไว้ยิ่งทำให้มีอารมณ์มากขึ้นกว่าเดิม
แจ๊ะๆๆๆ
“อ๊ะๆ มะไม่ไหวแล้ว อื้อ!!!! แฮ่กๆ” ซีกระตุกอย่างแรงแล้วทิ้งตัวคว่ำไปที่โต๊ะทำงาน น้ำหวานมากมายไหลออกมาจากช่องทางรักจนอดไม่ได้ที่จะชิมมันจากนิ้วของตัวเอง
“ขอน้ำนึง ...จะรีบไปประชุมต่อ” ทันทีที่ได้ยินเสียงรูดซิบซีก็ทำท่าว่าจะหนีอีกแล้ว ...ไม่เคยจำซักทีต่อให้หนีไปก็ไม่รอดแล้วจะหนีทำไมวะ?
สวบ! ปึกๆๆๆ
“อื้อ!!! ชะ ช้าๆหน่อย อ๊ายๆๆ” ผมจับแท่งเนื้อสอดเข้าไปทีเดียวจนมิดด้ามแล้วกระแทกเอวเข้าไปแบบไม่ลดแรงตัวเองเลย เสียวขนาดนี้ให้ออกแรงได้ไง อ่าส์ ต้องกระแทกให้สุดดิ
“อ่าส์ ช้าไม่ได้ ...เสียวสัส เอามันส์โคตร” ผมจับขาของซียกขึ้นพาดที่โต๊ะข้างนึงแล้วกระแทกเข้าไปสุดแรง เสื้อสีขาวของยัยตัวเล็กหลุดลุ่ยมากองอยู่เอว หน้าอกไซส์ใหญ่เขยื้อนไปมาตามแรงกระแทกยิ่งทำให้โคตรมีอารมณ์มากกว่าเดิมอีก
“มะ ไม่ไหว อ๊า ...เบาๆหน่อย”
Rrrrrrrr(ROSE)
“เดี๋ยว อ๊ะๆ พี่โรส โทร มา อื้อๆๆ ” ซีทำท่าตกใจตอนที่ผมกดรับทั้งๆที่กำลังขยับอยู่ในร่างกายเธอ
“ว่ามาโรส อื้ม” ตลกดีว่ะ เอามือปิดปากแล้วทำซุกหน้าลงที่โต๊ะเพื่อกลั้นเสียงครางของตัวเองเอาไว้
(ท่านประธานคะ วันนี้มีประชุมตอนบ่ายสองกับทีมบริหารและหุ้นส่วนใหม่นะคะ)
“อื้อ ฉันรู้ ..แล้ว มีไรอีกมั้ย” ยิ่งคุยนานเท่าไหร่ซีก็ยิ่งตอดแรงมากเท่านั้น ผมเลยแกล้งดึงมือเธอมาไขว้ไว้ข้างหลังแล้วกระแทกจนเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วทั้งห้อง
(ไม่มีค่ะ ...แต่เสียงอะไรคะท่าน ดังแปลกๆ) ตาของยัยเล็กเบิกกว้างแล้วพยายามดิ้นหนีให้พ้นจากที่ตรงนี้
...ฝันเหอะ!
“ไม่มี ...อะไร แค่นี้แหละ ...ไม่ไหวแล้วเว้ย!!” ผมโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วยกตัวซีให้นั่งตักในท่าหันหลังก่อนจะจับซีกระแทกอย่างเร็วและแรงตามความพอใจของตัวเอง
ปั่กๆๆๆๆ
“จะแตกแล้ว ซี๊ดดด แตกแล้ว!!! อ๊ายยยย” น้ำเชื้อสีขาวขุ่นพุ่งเข้าไปในตัวของซีอย่างแรงจนคนตัวเล็กเบ้หน้าด้วยความจุก เอาจริงๆก็อยากจะต่ออีกรอบแต่เดี๋ยวไปประชุมไม่ทัน
ป๊อก!
“อื้อ ซี๊ดด” ผมยกคนตัวเล็กขึ้น ทำให้น้ำเชื้อไหลย้อนออกมาเปื้อนตามเรียวขาขาว ยิ่งทำให้ซีฮ็อตยิ่งกว่าเดิมซะอีก ผมเอาทิชชู่เช็ดไปที่เรียวขาอย่างใจเย็นก่อนจะจับซีแต่งตัวจนมันเกือบจะเป็นสภาพเดิม
...ที่ว่าเกือบก็เพราะเสื้อที่ซีใส่มามันมีรอยขาดนิดนึงตอนที่ใกล้จะเสร็จแล้วเสือกรุนแรงไปหน่อย พอยัยตัวเล็กเห็นเท่านั้นแหละ
ป๊าบ!!
“โอ๊ย! ฉันเจ็บนะเว้ย ...ไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย อารมณ์มันพาไป”
“แล้วทำไมไม่คุมเอาไว้เล่า เสื้อฉันมาขาดแบบนี้แล้วจะกลับบ้านยังไง”
“ห่วงตอนจะเข้าห้องประชุมก่อนดีกว่ามั้ย” ซีทำหน้าแบบเจ็บใจก่อนที่จะวิ่งไปที่โต๊ะตัวเองแล้วรีบพิมพ์งานต่อ ผมเก็บแท่งเนื้อของตัวเองแล้วเดินไปหาเธอที่โต๊ะก็เลยรู้ว่าซียังเตรียมเอกสารประชุมยังไม่เสร็จและมันจะเริ่มในอีกครึ่งโมงนี้แล้ว
“เอาแค่สองชุดพอไม่ต้องพิมพ์เผื่อคนอื่น ...ข้อมูลข้างในให้เหมือนกัน” ผมสั่งงานไว้แค่นั้นก่อนจะเดินเข้ามาที่ห้องพักของตัวเองแล้วหยิบเสื้อสีขาวที่ตัวเล็กที่สุดออกมาเพื่อที่จะให้ซีใส่
“ไปเปลี่ยนเสื้อเดี๋ยวที่เหลือฉันพิมพ์ต่อเอง” ผมนั่งลงแทนที่ของซีแล้วนั่งพิมพ์เอกสารต่อจนเสร็จ พอดีกับร่างบางที่เดินออกมาจากห้องพักพอดี
...อึก โคตรเซ็กซี่เลยย
เสื้อสีขาวดูตัวใหญ่ไปเลยตอนที่อยู่บนร่างของซีแต่ไม่รู้ทำไมผมว่ามันสวยมากตอนที่อยู่กับเธอ เหมือนทุกอย่างมันเข้ากันไปหมดเลย
“จ้องแบบนี้หมายความว่าไง ...ฉันออกจะสวยนะ” หมดกัน ไม่มีแม้แต่ความเขินที่โดนผู้ชายมอง ชมตัวเองอีกต่างหาก ...ผมส่ายหน้าแล้วเดินผ่านเธอเข้าไปในห้องพักแล้วหยิบเอกสารบางส่วนออกมาวางไว้ก่อนจะหันไปมองซีแล้วพูดว่า
“ที่มองไม่ได้แปลว่าไม่สวย ...แต่มองเพราะอยากจะจับเธอกดอีกหลายรอบถ้าไม่ติดว่ามีประชุมนะ วันนี้เธอจะไม่ได้ทำงานแน่ๆ” ซีอ้าปากค้างแล้วหันหน้าหนีด้วยความอายเพราะเรื่องที่ผมพูด
“คนบ้า!!!”
KS OFF
จะมาพูดให้ฉันอายเพิ่มขึ้นทำไมเนี่ย คนหน้าด้านเดินออกไปที่รอที่หน้าห้อง ส่วนฉันพอเตรียมของเสร็จก็เดินตามไปที่ห้องประชุมก็เจอกับผู้หญิงคนนึงสวยมากๆ สวยแบบอ่อนหวานสุดๆไปเลย
...ชนิดที่ว่าฉันก็เทียบไม่ติด
“สวัสดีค่ะ เลขาพี่ขุนศึกใช่มั้ยคะ ...มาเรียค่ะ” เมื่อเธอยิ้มอย่างเป็นมิตรมาให้แล้วทำไมฉันจะไม่ตอบรับล่ะ ฉันยื่นมือไปจับแล้วยิ้มบางๆส่งให้เธอ
“ค่ะ เป็นเลขาชั่วคราวน่ะค่ะ ...เซียมซีนะคะ เรียกแค่ซีก็พอค่ะ”
“พี่ขุนศึกโชคดีจังมีเลขาสวยแบบนี้ มาเรียก็อยากจะมีบ้างจังเลยค่ะ”
“คุณมาเรียมีเลขาที่เก่งมากๆอยู่แล้วนะคะ ซีเคยได้ยินผลงานพี่เขาบ่อยๆ” ฉันจัดเอกสารการประชุมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินมารอเขาที่หน้าห้องประชุม ส่วนคุณมาเรียก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
“คิดถึงจังเลยค่ะ ...ไม่เจอกันตั้งนานคิดถึงมาเรียมั้ยคะ” เสียงหยอกล้อกันข้างๆห้องประชุมทำให้ฉันเดินเข้าไปดูอย่างอัตโนมัติ สิ่งที่เห็นทำให้ตัวฉันยิ่งชาหนักกว่าเดิมซะอีก
“ไม่เอาน่า เดี๋ยวพนักงานมาเห็นเราจะโดนเอาไปนินทาได้นะ” เขาลูบหัวเธออย่างเอ็นดู สายตาอ่อนโยนนั่นมันอะไรกัน ส่วนเธอก็เอาหน้าซบที่บ่ากว้างอย่างออดอ้อนก่อนจะพูดว่า...
“ก็เราเป็นคู่หมั้นกันนี่นา ไม่เห็นจะต้องกลัวเรื่องนินทาเลยนี่คะ ...พี่ศึกหนีมาเรียไม่รอดหรอก ฮิๆ”
“...คู่หมั้นเหรอ”