ครั้งยังเคยรัก

1629 คำ
บทที่ 4 ครั้งยังเคยรัก สภาพจิตใจของหญิงสาวตอนนี้เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เหมือนวันแรก ๆ ที่มาอยู่เอาแต่ร้องไห้ โดยวันนี้กัลยาพาไปฝากท้องที่โรงพยาบาลเอกชนมาและทำเรื่องส่งตัวไปฝากครรภ์ที่อังกฤษต่อ ตอนนี้เอกสารทุกอย่างก็ใกล้จะเรียบร้อยแล้ว อาทิตย์หน้าทั้งสองคนจะเดินทางกลับเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่...ที่บ้านเกิดของตนเอง ไพลินทร์ตัดสินใจอยู่นานว่าจะโทรหาไปพ่อแม่หรือไม่ เพราะกลัวว่าทุกคนจะเสียใจที่เธอตัดสินใจอย่างนั้น พอได้ฟังที่กัลยาพูดนั่นแหละถึงตัดสินใจโทรกลับไปหาครอบครัวที่อังกฤษ (ฮัลโหล) น้ำเสียงคุ้นหูเมื่อปลายสายกดรับ ทำให้หญิงสาวร้องไห้ออกมาอย่างหยุดไม่ได้ “คุณแม่...” ร่างบางพยายามกลั้นเสียงสะอื้นลงคอ ทว่าช่างยากเหลือเกิน (ยัยหนูเหรอลูก เป็นอะไรหรือเปล่าเสียงถึงเป็นอย่างนั้น” มารดาส่งความห่วงใยมาตามสาย หญิงสาวเลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง “ทำไมเขาถึงทำกับลูกแม่อย่างนี้) “ใครโทรมาหรือคุณ ทำหน้าเครียดเชียว” เสียงบิดาลอดมาให้ได้ยิน ไพลินทร์ยิ่งสะอื้นไห้หนักกว่าเดิมจนกัลยาที่ให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ ต้องกอดปลอบ (ยัยหนูน่ะค่ะ) พูดตอบเช่นนั้นแล้ว บิดาเลยจะคุยกับเธอเอง (หนูจ๋า) เสียงคุณไพศาลเรียกชื่อลูกคนสุดท้อง เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากปากภรรยาคู่ชีวิต “แด๊ดขา หนูจ๋าขอโทษ ขอโทษที่ทำให้แด๊ดกับมัมเสียใจ” (ไม่เป็นไรนะลูก เดี๋ยวป๋ากับแม่จะนั่งเครื่องไปหาหนูให้เร็วที่สุด) “อย่าเลยค่ะ อาทิตย์หน้าหนูก็เดินทางกลับแล้ว อีกอย่าง...” พูดถึงตรงนี้เธอถึงกลับพูดไม่ออก “หนูท้องค่ะ!!” “จริงเหรอ ถ้างั้นแด๊ดก็ได้เป็นคุณตาแล้วสิ” “ใช่ค่ะ” ไพลินทร์พูดคุยกับไพศาลและพลอยเพชรต่ออีกเล็กน้อย ก็ขอวางสายก่อนเพราะไม่อาจคุยต่อไปได้อีก ด้วยกลัวว่าจะทำให้พ่อแม่เสียใจมากกว่านี้ เพราะไม่มีแม้แต่คำต่อว่า ท่านกับพูดให้กำลังใจเธอมากกว่า เพราะเข้าใจดีว่าทุกอย่างเป็นความต้องการของเธอ เพื่อพิสูจน์ความรักของตนเองที่มีต่อเมฆา แต่ตอนนี้เธอประจักษ์แจ้งแล้วว่า ความรักมันกินไม่ได้ ความดีงามไม่สามารถทดแทนที่ชื่อเสียงเงินทองวงศ์ตระกูลได้เลยสักนิด ต่อให้ทำดีแค่ไหน แม่สามีก็หน้ามืดตาบอดมองไม่เห็น เพราะหยิ่งยโสในอำนาจและชื่อเสียง มากกว่าความสุขของลูกตัวเอง เธอไม่ใช่ผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้าแบบที่ทุกคนเข้าใจ ไม่ใช่วิศวะสาวที่กำพร้าพ่อแม่ แต่เธอเป็นทายาทนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ สาเหตุที่ทุกคนไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เพราะเป็นคำขอของคุณปู่ที่ไม่ยอมให้เปิดเผยเพื่อป้องกันจากศัตรูทางธุรกิจ ********* หลายปีก่อนเธอถูกส่งมาอยู่เมืองไทยกับคุณลุงคุณป้าตั้งแต่จบมัธยม เธอและกัลยาเลยสมัครเรียนกับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง...ที่สุดแล้ว ทั้งสองต่างสอบติดวิศวะของมหาวิทยาลัยชื่อดัง เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอกับพี่เมฆเจอกัน เมื่อเขาเป็นรุ่นพี่ในคณะ ด้วยความบังเอิญที่เธอได้อยู่ในสายรหัสเดียวกัน จากนั้นก็มีพูดคุยกันจนเริ่มสนิท และเขามักชวนไปกินข้าวด้วยกัน แต่ส่วนมากเธอจะปฏิเสธ เพราะตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรกับเขาเกินเลยไปมากกว่าพี่น้อง แต่แล้ว...หลังวันรับปริญญาเขามาสารภาพรักกับเธอ และขอเป็นแฟน แต่ด้วยฐานะที่แตกต่างกันเธอเลยปฏิเสธ ทว่าไม่สามารถที่จะทำให้พี่เมฆยอมแพ้ เขาบอกว่าไม่สนใจว่าเธอจะเป็นใคร เขารักในสิ่งที่เธอเป็นมากกว่าเงินทองหรือชื่อเสียง นั่นแหละความประทับใจแรกที่เธอมีต่อเขา ในที่สุดเธอก็ยอมให้โอกาสเขาจนเมื่อเธอเรียนจบปริญญาแล้วเข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ความสัมพันธ์ของเธอกับเมฆาเริ่มดีขึ้น เพื่อน ๆ ต่างรับรู้ เวลานั้นเธอมีความสุขจนบอกไม่ถูก เลยโทรไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับครอบครัวฟัง พวกท่านต่างดีใจมากที่เธอมีคนคอยดูแล ทว่าความรักของเธอกับชายหนุ่มไม่ได้มีความสุขเสมอไป เมื่อมารดาของพี่เมฆรู้เรื่องว่าบุตรชายคบหากับวิศวะสาวคนหนึ่งที่ไม่มีอะไร ท่านเลยส่งคนมาขู่สารพัด เรื่องนี้พี่เมฆาก็รู้เรื่อง เขาคอยปกป้องตลอดมา และเข้าข้างเธอทุกครั้งยามที่มารดาด่าทอเธอ ความรักของเราสองคนมาถึงจุดอิ่มเอม เมื่อเขาทำเซอร์ไพรส์ขอเธอแต่งงานในวันเกิดของเขาซึ่งอายุครบ 26 ปี ความรู้สึกตอนนั้นเธอดีใจจนบอกไม่ถูก และตกลงแต่งงานกับเขาอย่างไม่ต้องคิดอะไร เธอคิดว่าคุณหญิงรัตนายอมรับในความดีของเธอ แต่ไม่ใช่เลยคุณอานนท์สามีต่างหากล่ะที่เป็นคนพูดเกลี้ยกล่อมยอมให้มีงานแต่งงานขึ้น เพื่อความสุขของลูกชายคนโต คุณหญิงเลยไม่สามารถที่จะขัดขวางอะไรได้ หลังจากนั้นหนึ่งเดือน งานของเธอกับพี่เมฆาถูกจัดอย่างใหญ่โต ทุกคนต่างมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างท่วมท้น รวมทั้งคุณลุงคุณป้าที่มาเป็นญาติผู้ใหญ่ฝ่ายของเธอ ตอนแรกกะจะเปิดเผยตัวต้นที่แท้จริง แต่สุดท้ายต้องยุติลง หากเปิดเผยความจริง คุณหญิงต้องเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแน่ เธอเลยอยากให้ท่านยอมรับในตัวตนจริง ๆ ของเธอมากกว่าชื่อเสียงเงินทองพวกนั้น ซึ่งไม่ได้การันตีว่าคนนั้นคนนี้จะเป็นคนดี หากเมื่อไรที่มั่นใจว่าสามารถเอาชนะใจท่านได้ เมื่อนั้นเธอจะบอกความจริงทั้งหมด แต่งกันได้ไม่นานเธอก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านฐานะสะใภ้ตระกูลไพรเลิศทองกุล ทุกคนต้อนรับเป็นอย่างดี น้องชายและน้องสาวของพี่เมฆต่างให้ความเป็นกันเอง เหลือเพียงมารดาเท่านั้นที่จงเกลียดจงชังในตัวเธอ “ยินดีต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวเดียวกันนะคะพี่หนูจ๋า” เสียงหวานใสของปลายฟ้า น้องสาวคนเล็กของบ้านกล่าวต้อนรับ ดูเหมือนว่าทุกอย่างนั้นจะเป็นปกติดี ทว่าไม่ใช่เลย...เหมือนทะเลที่เงียบสงบมากกว่า แต่กลับมีคลื่นใต้น้ำที่พร้อมจะซัดเข้าฝั่งอย่างแรง “หึ! คิดว่าฉันอยากได้แกมาเป็นลูกสะใภ้เหรอ...นังหนูจ๋า ฉันไม่ต้องการผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้าแบบเธอมาร่วมวงศ์ตระกูลเดียวกับฉัน เพียงแค่หายใจร่วมกับเธอฉันก็สะอิดสะเอียนเต็มทน จำใส่หัวสมองไว้เลยนะว่า ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อกำจัดแกออกไปจากที่นี่ให้ได้!!!” เมื่อได้ประกาศศึก คุณหญิงรัตนาก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เมฆาเข้าใจผิด ใส่ร้ายว่าเธอคบชู้สู่ชาย แต่...ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันได้ และทุกครั้งเธอจะเอาตัวรอดพ้นแผนการของคุณหญิงได้ตลอด แต่ครั้งนี้เธอเองแหละที่ชะล่าใจ คิดว่าคุณหญิงคงหยุดที่จะหาเรื่องแล้ว แต่ที่ไหนเธอกลับพลาดท่าเสียเอง ไพลินทร์นั่งนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาก็อดโกรรธแค้นไม่ได้กับสิ่งที่ทำกับเธอไว้อย่างหนัก เธอเกลียด!! ที่เขาไม่เชื่อใจ! ไม่ยอมให้เธอได้พิสูจน์หาความจริง เธอโกรธ!! ที่ยัดเหยียดความอดสูมาให้ ราวกับเป็นตราบาปติดตัว แต่...ต้องขอขอบคุณที่มอบของขวัญล้ำค่ามาให้ หาก...วันไหนที่เธอเข้มแข็งพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้ วันนั้นจะกลับมาลงทัณฑ์คนพวกนั้นให้สาสมกับที่สร้างบาดแผลไว้กับเธอ!!! ******** “ยัยจ๋า เอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขึ้นเครื่องวันนี้ตอนเที่ยงคืนนะ” กัลยาพูด ระหว่างนั่งทานอาหารค่ำกันอยู่โต๊ะอาหารในห้องที่วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้อยู่ที่นี่ “ขอบใจแกมากนะยัยกุลที่คอยอยู่เคียงข้างฉัน” “ไม่เป็นไร เราสองคนเป็นเพื่อนกันนิ แกแน่ใจแล้วใช่มั้ยที่จะทำแบบนี้” “แน่ใจสิ ฉันจะกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อังกฤษ เมื่อไรที่ฉันเข้มแข็ง ฉันจะขอคุณปู่ให้เปิดตัวในฐานะทายาทคนเล็กของตระกูล” “ตามใจแก ฉันคงห้ามอะไรไม่ได้” เธอคงได้แต่มองความเสียใจของเพื่อนอยู่ห่าง ๆ ถ้าไพลินทร์คิดหรือพูดอะไรออกมาแล้วก็ยากที่จะมีใครขัดใจได้ หลังทานข้าวเรียบร้อยสองสาวต่างพากันไปนอนพักผ่อนรอเวลาขึ้นเครื่อง สองสาวที่เดินอยู่ท่ามกลางอาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ไฟล์เที่ยวบินกรุงเทพ-ลอนดอน เวลาเที่ยงคืนยี่สิบห้า ซึ่งมาก่อนเวลาเกือบชั่วโมงและไม่บอกลาใครที่นี่ ส่วนกัลยาส่งเอกสารใบลาออกไปยังบริษัทที่เธอทำงานอยู่และไม่ยอมบอกสาเหตุใด ๆ ทั้งนั้น นัยน์ตาคู่สวยจับจ้องมองครอบครัวของคนอื่น ๆ ที่มาส่งบุตรหลานพร้อมหน้าพร้อมตา ครั้งหนึ่งเธอเคยฝันว่าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่ต้องดับสลายไป และแล้วก็ถึงเวลาที่เครื่องบินลำใหญ่พุ่งทะยานสู่ท้องฟ้าในยามค่ำคืน ไพลินทร์ปาดน้ำตาบนแก้มออก หลังจากนี้เป็นต้นไปเธอจะเริ่มต้นชีวิตที่บ้านเกิด ทิ้งอดีตที่เจ็บปวดไว้ข้างหลัง ลาก่อน...ประเทศไทย แล้วพบกันใหม่เมื่อเธอพร้อม... ******************************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม