เมื่อเหอจิ้นเค่อเดินทางไปทำการค้ายังต่างเมืองกิจการทุกอย่างจึงต้องอาศัยคุณหนูสามผู้เป็นน้องสาวคอยช่วยดูแล เหอจิ้นชิงหญิงสาวผู้น่ารักภายนอกดูบอบบางน่าถนอมแต่แท้จริงนางนั้นกลับเป็นแม่เสือดีๆ นี่เอง หญิงสาวมีวรยุทธร้ายกาจไม่น้อยหน้าพี่ชายด้วยเพราะเป็นลูกสาวคนเดียวจึงถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจ ไม่ว่าต้องการทำอะไรบิดามารดาล้วนไม่เคยขัดข้อง แต่เหอจิ้นชิงก็ยังคงเป็นคนดีคนหนึ่ง ติดว่านิสัยจะมุทะลุกว่าหญิงสาวทั่วไปและพี่ชายน้องชายของนางเสียหน่อย ด้วยเพราะนางต่อยตีกับผู้ชายที่เข้ามาตอแยนางบ้างในบางครั้งเท่านั้น กลับทำให้ชื่อเสียงแม่เสือแห่งตระกูลเหอโด่งดังอยู่ไม่น้อย
เหอจิ้นเค่อวางใจให้น้องสาวช่วยดูแลกิจการได้เพราะนางช่วยงานเขามาตลอดหลายปี เหอจิ้นชิงเรียนรู้งานต่างๆ ตั้งแต่อายุสิบสามแม้ว่านางจะเป็นหญิงแต่ไม่คิดจะทำตัวเป็นแม่เรือนเช่นสตรีตระกูลสูงทั่วไป ที่เฝ้ารอวันให้ผู้ชายมาสู่ขอไปวันๆ เหอจิ้นชิงมีปณิธานมุ่งมั่นว่าชาตินี้นางจะไม่แต่งงานเพราะไม่อยากหาบ่วงผูกคอ
ด้วยคุณชายที่เข้ามาจีบแต่ละคนหาดีไม่ได้สักคน หากไม่มีใครที่ดีเท่าพี่ใหญ่นางเหอจิ้นชิงตั้งใจว่าจะไม่แต่งงานเด็ดขาด ยิ่งพี่ชายกำลังจะมีหลานให้เลี้ยงเช่นนี้ หญิงสาวจึงวางแผนหวังจะช่วยพี่ชายและพี่สะใภ้ดูแลหลานที่กำลังจะเกิดมา และพร้อมจะทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อหลานตัวน้อยๆ ในอนาคต
"พวกเจ้าเร่งมือหน่อยสินค้าพวกนี้รีบขนเข้าเดี๋ยวส่งไม่ทันเถ้าแก่จางจะว่าเอาได้เขาเป็นลูกค้าสำคัญข้าไม่อยากเสียสัจจะ พี่ใหญ่สั่งนักหนาให้ดูแลให้ดี"
"ขอรับคุณหนู"
เถ้าแก่จางเป็นพ่อค้าเมืองข้างๆ ที่มักจะรับเอาสินค้าจากตระกูลเหอไปขายแต่ระยะนี้ตระกูลลู่ที่เป็นคู่แข่งนั้นชอบแอบไปแย่งลูกค้าและขายของตัดราคาพวกเขาหลายต่อหลายครั้ง ลูกค้าหลายคนถูกแย่งไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งราคาสินค้าที่ตัดลงมาครึ่งนึงไม่ว่าคำนวณอย่างไรก็ไม่น่าเห็นกำไร เหอจิ้นเค่อและนางจึงไม่คิดจะแข่งด้วยราคาเช่นนั้น แต่มุ่งที่จะรักษาคุณภาพสินค้าให้มั่นคงเป็นสินค้าคุณภาพเหมาะสมกับราคาที่เสนอขาย และพยายามดูแลลูกค้าประจำเหล่านี้ด้วยความจริงใจอย่างซื่อสัตย์เสมอ
"คุณหนูขอรับ คุณชายลู่มาหาเรื่องที่ร้านน้ำชาของเราอีกแล้ว"
"อะไรนะ อีกแล้วหรือ ไอ้หมอนี่มันวอนตายจริงๆ นี่คงเห็นว่าพี่ใหญ่ไม่อยู่คิดหาเรื่องข้าสินะ"
"พวกเจ้าตามข้ามา"
โครม !!
เสียงโครมครามวุ่นวายดังมาจากในร้านน้ำชาตระกูลเหอ เถ้าแก่ของร้านและเสี่ยวเอ้อร์ต่างยืนมองคนหาเรื่องด้วยความหวาดกลัว คุณชายลู่เฟยหลงลูกชายของท่านลู่กันเตียวคหบดีชื่อดังแห่งเมืองอี้โจว กำลังอาละวาดใหญ่หาเรื่องคนที่นี่อยู่เพื่อหวังทำลายความสงบ ด้วยเพราะเขาเองก็ทำกิจการร้านน้ำชาเช่นกัน
หากจะพูดให้ถูกแล้วกิจการทุกอย่างที่ตระกูลเหอมีตระกูลลู่เองก็ล้วนมี พวกเขาดำเนินกิจการเลียนแบบตระกูลเหอและเป็นคู่แข่งตัวฉกาจมาตลอดหลายปี ด้วยเบื้องหลังตระกูลลู่นั้นมีคนใหญ่คนโตในวังคอยหนุนหลังจึงทำให้พวกเขากร่างไปทั่วเช่นนี้
"เจ้าใช้ใบชาอะไรมาชงให้ข้า เหม็นออกอย่างนี้"
"นายท่านน้ำชานี้เราใช้ใบชาหลงจิ่งอย่างดีเลยนะขอรับ ร้านเราใช้ใบชาชั้นหนึ่งคุณภาพสูงที่สุดในท้องตลาด"
เพล้ง!! คนหาเรื่องปาถ้วยน้ำชาจนแตกกระจายกลางร้านทำเอาลูกค้าที่เหลือตกใจจนรีบออกจากร้านไปหลายคน
"ชาอันดับหนึ่งต้องจากร้านค้าตระกูลลู่ของข้าสิ ชาพวกเจ้ากระจอกเช่นนี้กล้าเอามาอวดอ้าง ไปตามคุณชายเหอมาซิ ทำกิจการเช่นนี้ได้อย่างไรกันนี่มันเอาเปรียบลูกค้าชัดๆ" ลู่เฟยหลงรู้ดีว่าเหอจิ้นเค่อไม่อยู่จึงคิดมาอาละวาดเล่นเพื่อให้แขกร้านน้ำชาตระกูลเหอหนีกระเจิง แต่เขาคาดไม่ถึงว่านอกจากเหอจิ้นเค่อแล้วยังมีเหอจิ้นชิงอยู่ควบคุมกิจการทุกอย่างแทน
คุณหนูสามที่มาถึงยืนมองดูเหตุการณ์ในร้านน้ำชาอยู่ครู่ใหญ่ด้วยอารมณ์คุกรุ่น ด้วยรู้ดีว่าคนผู้นี้เจตนาจะมาหาเรื่องก่อกวนโดยเฉพาะคงเป็นเพราะรู้มาว่าพี่ใหญ่ของนางไม่อยู่จึงกล้าหาเรื่องวอนตายถึงเพียงนี้ วันนี้นางจะทำให้ไอ้คนใจทรามสันดานหยาบผู้นี้ได้รู้ฤทธิ์ว่าแม้นางจะเป็นหญิงก็หาใช่ให้ใครมารังแกโดยง่าย
"เป็นข้าแทนได้หรือไม่เล่าคุณชายลู่" น้ำเสียงเย็นเยียบของหญิงสาวทำเอาทั้งร้านเงียบกริบ เถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อร์ต่างกลืนน้ำลายก้อนเหนียวลงคออย่างลำบากด้วยรู้ดีว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น
"อ้าวเจ้าคงเป็นน้องสาวเหอจิ้นเค่อสินะ ไม่พบมานานโตเป็นสาวสวยถึงเพียงนี้เชียวหรือ" อันธพาลหนุ่มเกี้ยวพาหยอกล้อสาวน้อยแสนสวยตรงหน้าอย่างจาบจ้วง มือหยาบยกขึ้นมาหมายจะจับแก้มนวลเพื่อหวังลวนลาม
กร๊อบ
"โอ๊ย"
โครม!! เพล้ง!!
หญิงสาวหักมือที่ยื่นเข้ามาหมายจับแก้มของนางในทันทีอย่างไม่ยั้งมือ ทำเอาข้อมือของคุณชายลู่หักแบบไม่ทันตั้งตัวก่อนจะถูกถีบกระเด็นไปกระแทกโต๊ะตรงนั้นจนล้มโครมใหญ่ ทั้งโต๊ะและข้าวของล้มแตกกระจาย
"เจ้านังตัวดี ร้ายนักนะช่างบังอาจนัก" ลู่เฟยหลงคำรามด้วยความเจ็บปวด มืออีกข้างกุมข้อมือที่บาดเจ็บด้วยความทรมานและเคียดแค้น
"หึ ไอ้นักเลงข้างถนนทำตัวสถุนหาได้มีมาดคุณชายผู้ดีแม้แต่น้อยเช่นเจ้า บังอาจมาหาเรื่องคนตระกูลเหอถึงที่นี่ วันนี้ข้าเหอจิ้นชิงจะเอาเลือดหัวเจ้าออกสักครา สั่งสอนแทนบิดามารดาเจ้าที่ไม่รู้จักอบรม ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่านังตัวดีอย่างข้าร้ายกว่าที่เจ้าคาดคิดนัก" ถ้อยคำผรุสวาทเผ็ดร้อนที่หญิงสาวเอ่ยอย่างไม่เกรงผู้ใดทำเอาเหล่าข้าติดตามของหญิงสาวขนลุกเกรียวด้วยพวกเขารู้ดีว่าคุณหนูสามกำลังโกรธเสียจนไม่เหลือสติแล้ว
"เจ้า นังตัวดี วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้รู้ฤทธิ์ข้า หากข้าจัดการเจ้าไม่ได้อย่าเรียกข้าลู่เฟยหลง พวกเจ้าจัดการมันสิมัวยืนรออะไร" ลู่เฟยหลงสั่งลูกน้องที่ติดตามมาให้ช่วยกันรุมผู้หญิงตัวเล็กๆ เช่นคุณหนูสามอย่างหน้าไม่อาย เพียงแต่คนติดตามของคุณหนูสามก็ไม่ยอมให้พวกมันเข้าถึงผู้เป็นนายง่ายๆ เช่นกัน หญิงสาวยืนดูการต่อสู้อย่างพอใจด้วยเพราะคนของนางล้วนฝีมือดีกว่าคนของตระกูลลู่เป็นไหนๆ
การต่อสู้ของคนติดตามของทั้งคู่เรียกได้ว่าดุเดือด แม้คนของตระกูลลู่จะมีมากกว่าแต่คนของคุณหนูสามกลับฝีมือร้ายกาจ เพียงไม่นานพวกมันก็โดนคว่ำเกือบหมด ฝ่ายที่กำลังเสียเปรียบเช่นลู่เฟยหลงที่ตอนแรกคิดจะจัดการสาวน้อยตรงหน้าเพื่อสั่งสอนให้หลาบจำ แต่เริ่มเล็งเห็นเค้าลางแห่งความพ่ายแพ้ของพวกตนเอง ลู่เฟยหลงจึงคิดหนีไปตั้งหลักเสียก่อนแล้วค่อยมาเอาคืน แต่มีหรือจะพ้นสายตาอันแหลมคมดุจเหยี่ยวของคุณหนูสามแห่งตระกูลเหอไปได้
หญิงสาวมองเห็นตัวก่อเรื่องกำลังคิดจะย่องหนีออกจากร้านไปเงียบๆ คุณหนูสามก็ใช้วิชาตัวเบาไปขวางหน้าคุณชายลู่ทันที ลู่เฟยหลงคิดไม่ถึงว่าจะถูกหญิงสาวรู้ทันและตามมาดักด้านหน้า ชายหนุ่มตกใจจนสีหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด เพราะรู้ตัวดีว่าหากวัดกันด้วยฝีมือของเขาและเหอจิ้นชิง ดูเหมือนเขาจะยังห่างชั้นกับยัยหนูคนนี้อีกมากอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่นางตัวเล็กนิดเดียวแท้ๆ แต่กลับมีวรยุทธร้ายกาจไม่น้อยหน้าพี่ชาย
เหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นเต็มใบหน้าและแผ่นหลัง ลู่เฟยหลงถึงกับเหงื่อแตกพลั่กเมื่อยืนต่อหน้านาง
"ไงจะไปไหนไอ้อันธพาลปากดี"
"น้อยๆ หน่อยแม่นางเหอ เจ้าไม่ได้รับการอบรมมารยาทสตรีมาบ้างหรือไร" ลู่เฟยหลงทำใจดีสู้เสือต่อปากต่อคำอย่างไม่กลัวเกรง
"หึ มารยาทข้ามีแต่ไม่ได้มีไว้ใช้กับคนเช่นเจ้า มานี่" มือบางหยิกเข้าที่ใบหูของชายหนุ่มตรงหน้าจนเจ้าตัวต้องร้องเสียงหลงแล้วเดินตามแรงดึงไปเพราะกลัวว่าหูของตนเองนั้นจะหลุดติดมืออีกฝ่ายที่บิดอย่างไม่ผ่อนแรง
"โอ๊ย....ปล่อยนะ นี่เจ้าจะทำอะไร"
ตุ๊บ
คุณหนูสามลากลู่เฟยหลงออกมาหน้าร้านแล้วเหวี่ยงจนล้มลงไปนอนกองกับพื้นอย่างหมดท่า ก่อนที่หญิงสาวจะใช้เท้าเหยียบหลังอีกฝ่ายเอาไว้แน่นจนไม่สามารถดิ้นหนีได้ต่อหน้าผู้คนที่มุงดูอยู่หน้าร้านมากมาย
"ปล่อยข้านะ นังตัวดี" ลู่เฟยหลงแผดเสียงกร้าวอย่างฉุนขาดด้วยความโมโหที่โดนเด็กสาวเมื่อวานซืนหยามเกียรติถึงเพียงนี้
"ยังไม่เลิกปากดีอีกอยากเจ็บตัวอีกใช่มั้ย ข้าจะอัดเจ้าให้บิดามารดาจำหน้าไม่ได้เลย" ฝ่าเท้าที่เหยียบแผ่นหลังกดลงแน่นกว่าเก่า คุณหนูสามก้มหน้าลงไปกล่าวข่มขู่อีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเย็น ทำเอาคนที่กำลังถูกเหยียบติดพื้นขนลุกเกรียว
"ปล่อยนะ ปล่อยนะโว๊ย..."ลู่เฟยหลงแผดเสียงร้องจนเสียงแห้งก็ไม่สามารถหนีไปได้ ทั้งยังไม่มีใครคิดจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ชาวบ้านล้วนแต่รุมล้อมมองดูกันด้วยความสะใจ ที่ในที่สุดวันนี้ก็มีคนกำราบไอ้อันธพาลเกเรลูกเศรษฐีผู้นี้ได้เสียที
หรือนี่คงเป็นเวรกรรมที่ตามทัน ลู่เฟยหลงก่อกรรมทำเข็ญรังแกผู้คนไว้มากมายวันนี้จึงได้พบบทเรียนเช่นนี้
"เรียกข้าว่าอาจารย์หญิงก่อน คำนับข้าเป็นอาจารย์ข้าจะปล่อยเจ้า"
"ไม่!!" ลู่เฟยหลงกล่าวอย่างเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรเขาก็ไม่มีวันยอมแพ้นังเด็กคนนี้แน่นอน
"ได้" พูดเพียงแค่นั้นคุณหนูสามก็หักแขนสองข้างของชายหนุ่มไปด้านหลังจนแทบหัก
"โอ๊ยยยยยยยย...."คุณชายลู่ได้แต่ร้องครวญครางจนดังลั่นด้วยความเจ็บปวดอย่างเหลือแสน ใบหน้าเขาเหยเกบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดทรมานเต็มทน
"ยอมไม่ยอม" น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมพร้อมกับแรงที่บิดจนแขนอีกฝ่ายแทบหักติดมือ ยังคงข่มขู่จนคนต้องยอมแทบไม่ทัน
"ยอม..โอ๊ยฮือ..ยอมแล้ว อาจารย์หญิง อาจารย์หญิงปล่อยข้าไปเถิด ให้เรียกท่านแม่ก็ยังได้ปล่อยข้าฮืออ.." ลู่เฟยหลงร้องอย่างหมดท่ากลายเป็นหมาเชื่องในพริบตา ก้มหัวคารวะอาจารย์หญิงเป็นการใหญ่แม้ว่ายังไม่ได้รับอิสระก็ตาม
"จำไว้ทีหน้าทีหลังอย่าคิดมาหาเรื่องคนตระกูลเหออีก เช่นนั้นจะหาว่าข้าไม่เตือนคราวหน้าเจ้าอาจไม่โชคดีเช่นนี้ นับแต่นี้เจอข้าที่ไหนเจ้าต้องเรียกข้าว่าอาจารย์หญิงเข้าใจหรือไม่ หาไม่แล้วข้าจะเรียกเจ้าว่าไอ้ลูกเต่า พวกเจ้าทุกคนเป็นพยานหากเขาไม่เรียกข้าเช่นนี้พวกเจ้าก็เรียกมันว่าลูกเต่าได้เลย คนไม่รักษาสัจจะ ไม่เหมาะจะเป็นคน" รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมบนใบหน้าหวานทำเอาคนขนหัวลุกเกรียว คุณหนูสามช่างเหี้ยมโหดสมคำร่ำลือ
"ฮือขอรับอาจารย์หญิงเมตตาด้วยปล่อยข้าเถิด" หมดคราบนักเลงอันธพาลคุณชายผู้มั่งคั่งประจำอี้โจว ลู่เฟยหลงได้แต่ร้องคร่ำครวญอย่างทรมานจนสุดท้ายคุณหนูสามก็ยอมปล่อยเขาให้เป็นอิสระ ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจว่าวันนี้ตนเองก้าวเท้าไหนออกจากบ้านกัน เหตุไฉนจึงได้ซวยเช่นนี้
ลู่เฟยหลงได้แต่ร้องครวญครางสะบักสะบอมกันทั้งนายบ่าว ด้วยล้วนถูกคนตระกูลเหอซ้อมจนเจ็บระนาวกันแทบสิ้น ทั้งนายบ่าวร่วมกันโขกหัวคำนับอาจารย์หญิงเป็นการใหญ่ก่อนจะถูกปล่อยตัว นายบ่าวต่างช่วยกันประคองกันและกันกลับจวนอย่างทุลักทุเลและยังคงหวาดผวาไปตามๆ กันหลังผ่านเหตุการณ์สุดหฤโหดในวันนี้ คุณหนูสามโหดเหี้ยมและน่ากลัวกว่าพี่ชายนางเป็นร้อยเท่าได้กระมังลู่เฟยหลงคิดระหว่างที่หอบสังขารตนเองกลับบ้าน
เขาก่อกวนเหอจิ้นเค่อมาหลายครั้งหลายครานับแต่จำความได้ เจ้าหน้าเย็นนั่นอย่างมากก็สั่งคนโยนเขาออกมาจากร้าน นึกไม่ถึงว่าการมาก่อกวนน้องสาวที่คิดว่าจะร้องไห้โฮไปฟ้องพี่ชาย กลับกลายเป็นแหย่แม่เสือให้โกรธจนเกือบถูกฆ่าตาย ลู่เฟยหลงสาบานกับตัวเองว่าต่อไปจะหาเรื่องเหอจิ้นเค่อแต่ผู้เดียวเช่นเดิม ชาตินี้ทั้งชาติเขาจะไม่มีวันหาเรื่องตอแยเหอจิ้นชิงอีกแน่นอน
.
.
.
อีกมุมหนึ่งคุณชายรองแอบยืนดูน้องสาวจัดการลู่เฟยหลงด้วยรอยยิ้ม แม้จะรู้ว่าน้องสาวนั้นร้ายกาจแค่ไหน แต่อย่างไรนางก็เป็นสตรีเขาในฐานะพี่ชายจึงยังไม่ค่อยวางใจนัก เหอจิ้นเหอจึงแอบยืนมองอยู่ในระยะที่จะเข้าช่วยเหลือได้ทันหากนางเพลี่ยงพล้ำไป ด้วยเพราะรู้ดีว่าคุณชายตระกูลลู่นั้นนิสัยอันธพาลเกเรแค่ไหน
แต่เมื่อเห็นผลงานของน้องสาวแล้วนอกจากต้องยอมรับในฝีมือยังต้องยอมรับในความเด็ดขาดของนางที่กล้าลงมืออย่างไม่กลัวฟ้าดิน คนเช่นลู่เฟยหลงสมควรโดนสั่งสอนให้เข็ดหลาบเสียบ้าง ที่ผ่านมาพี่ชายเขาต้องรับมือกับพวกเกะกะเกเรนี่ไม่เว้นวัน แต่ก็ไม่ได้กระทำการใดๆ อย่างรุนแรงด้วยเพราะนายท่านตระกูลลู่เบื้องหน้ายังคงคบหาบิดาของพวกเขา
แม้ลู่กันเตียวจะทำการค้าแห่งกับตระกูลเหอเสมอก็ตาม คนหน้าเนื้อใจเสือเช่นเขาต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง พี่ชายของเขาจึงไม่อยากจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไป แต่กลับเหอจิ้นชิงผู้เป็นน้องสาวมันต่างออกไป หากตระกูลลู่มาเอาเรื่องเพราะลูกชายถูกลูกสาวตระกูลเหอซ้อมเห็นทีว่าตระกูลลู่คงไม่รู้จะวางหน้าของตนไว้ตรงส่วนไหนแล้ว
เหตุวันนี้เพราะลู่เฟยหลงหาเรื่องใส่ตัวเองแท้ๆ คงเพราะรู้มาว่าพี่ชายเขาเดินทางไปต่างเมืองอีกฝ่ายจึงจงใจมาหาเรื่องกันถึงเพียงนี้ เพราะระยะนี้ทุกคนรู้ดีว่าน้องสาวของเขาเข้ามาช่วยพี่ใหญ่ดูแลกิจการอย่างเต็มตัวแล้ว คงมีคนอยากจะลองดี ไม่นึกว่าสุดท้ายพวกนั้นได้ลองดีสมใจจนกระเจิงแทบไม่ทัน คุณชายรองมองดูเหตุการณ์จนวางใจจึงจากไปเงียบๆ ยังหอสุราสถานที่โปรดปรานของตนเอง
.
.
.
TBC.