เหตุการณ์ที่กรุงเทพฯ

1221 คำ
ตอนที่ 5 ท่านคำรามเสียงลั่นสันกรามทั้งสองบดเข้าหากันอย่างเดือดดาลจัดจนทุบโต๊ะเปรี้ยงจนลูกน้องใบหน้าถอดสีทั้งหมด ทุกคนสะดุ้งฟังคำสั่งของท่าน ”ออกติดตามหาลูกสาวของกูทั่วประเทศมีเบาะแสที่ไหนตามให้หมด กูต้องการตัวลูกสาวกูกลับมา ถ้าใครหาเจอได้ก่อน กูจะมีรางวัลตอบแทนอย่างงาม” เอ่ยจ้องไปยังลูกน้อง “เอาล่ะไปได้ ส่งคนสืบหากระจายไปทั่วทุกจังหวัด” อารมณ์โกรธแปรเป็นกองไฟที่ลุกโชนอยู่เบื้องหน้า นายยศเฉลิมสงสารชะตากรรมของบุตรสาว ที่ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ลูกสาวของท่านยังเรียนหนังสือ และเป็นลูกสาวคนเดียวที่ท่านห่วงหวงปานแก้วตาดวงใจ แทบยุงไม่ให้ไต่และไรไม่เคยให้ตอม หากเมื่อรัมธ์พาเพื่อนสนิทเข้าไปในห้องพักที่เขาให้คนของเขาจัดเตรียมไว้ให้เสร็จสรรพ ห้องหับที่รัมธ์จัดให้เพื่อนค่อนข้างหรูหราสมฐานะ และบุระคิดว่ามันเกินตัวเขาด้วยซ้ำ ที่เป็นเพียงแค่แขกอาคันตุกะเท่านั้น ภายในตกแต่งด้วยเครื่องใช้เฟอร์นิเจอร์สะดวกสบายครบครัน ราวกับเป็นห้องเดอลุกซ์หรือห้องสูทหรูหราของโรงแรมระดับห้าดาว “แหม นายต้อนรับเรายังกะห้องโรงแรมชั้นหนึ่งวะรัมธ์” บุระเอ่ยในความมีน้ำใจของเจ้าบ้าน “ไม่ต้องเกรงใจ ตามสบายเถอะเพื่อน” และฝ่ายสีดาพรเมื่อรู้ว่าเขากลับมาแล้ว หล่อนยิ้มอย่างดีใจ ขณะนั่งคุยกับหลานชายและกำลังกล่อมเด็กชายให้หลับ พร้อมเปิดทีวีทิ้งไว้เป็นเพื่อน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ที่เดินตรงเข้ามา จึงหรี่เสียงทีวีลดลง “คุณรัมธ์กลับมาแล้วใช่ไหมคะคงพาเพื่อนของคุณรัมธ์ไปพักข้างบนแล้ว” สีดาพรพยายามใช้ความสนิทสนมเพื่อพูดจากับเขา แม้รัมธ์จะชะงักไปนิดหนึ่ง เขารู้จักอุปนิสัยของสีดาพร หล่อนอยากจะสัมพันธ์และทำตัวใกล้ชิดกับเขา กายสูงที่ดูเพรียว จึงหยุดชะงัก เห็นเจ้าหลานชายแสนซน หลับสนิทไปแล้ว รัมธ์ยังไม่ตอบคำถามของหล่อนประโยคแรก หากแต่คิ้วเรียวเข้มดกดำขมวดดึงเข้าหากัน “เรียบร้อยแล้วครับ นายบุระขึ้นไปพักข้างบนแล้ว” หล่อนเป็นฝ่ายขมวดคิ้วบ้าง ที่ได้ยินชื่อเพื่อนสนิทของเขาเป็นครั้งแรก “ชื่อคุณบุระหรือคะ” “ครับ นายบุ ทำงานอยู่ฝ่ายเบื้องหลังรายการทีวี เป็นครีเอทีฟ ซึ่งครั้งหนึ่งผมก็เคยเรียนจบมาด้วยกัน ที่คณะบริหาร แต่ทว่าผมกลับไม่ได้ใช้มัน” สีดาพรรู้เหตุผล เป็นเพราะว่า รัมธ์ต้องกลับกลายมาเป็นมหาเศรษฐีหมื่นล้านภายในพริบตาเดียว ทันทีที่สิ้นทั้งบิดาและพี่สาว รัมธ์เป็นหนุ่มหล่อรูปหอม ที่เพอร์เฟกต์ไปหมดทุกอย่าง เสียอย่างเดียวเขาชอบขลุกเก็บตัวอยู่ในเกาะ ไม่ทำตัวให้คุ้มค่าสมกับเป็นทายาทมหาเศรษฐีใหญ่ ของ นายหัวโรม ที่ล่วงลับไปแล้ว สีดาพรยิ้มให้เขา หล่อนคลายอ้อมแขนจากการบีบจับแขนของหลานชายและจัดการห่มผ้าให้ อยากสนทนาชายหนุ่มตรงหน้ามากกว่า “ขอบคุณนะคะ ที่คุณรัมธ์ เล่าเรื่องเพื่อนของคุณรัมธ์ให้สีดาฟัง” เขาเลิกคิ้วนิดหนึ่ง ก่อนทิ้งลำแขนทั้งสองไว้ข้างตัวด้วยท่าทีแบบสบาย สีดาพรลากเก้าอี้มานั่งมองเขา “ผมคิดว่าคุณจะสนใจนายบุเพื่อนของผมบ้าง นายคนนี้ก็หล่อมีเสน่ห์ฉกาจเหมือนกันครับ อยู่ที่กรุงเทพ เขามีสาวๆรุมตอมกันเยอะ ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว” “งั้น ก็คงเหมือนกับคุณรัมธ์ ใช่ไหมคะ” เมื่อหล่อนถาม เขาพยักหน้า “สีดาว่าแล้วเชียว คุณรัมธ์ก็ออกจะเจ้าเสน่ห์ สาวๆก็ต้องรักหลงเป็นธรรมดา.. แต่ทำไม คุณรัมธ์ ต้องรีบแนะนำเพื่อนของคุณให้สีดารับรู้ด้วยล่ะคะ” “เพราะนายบุระ เพื่อนของผม จะพักค้างที่นี่ นานถึงสิบห้าวัน ผมเลยคิดว่า สีดาต้องได้พบเจอและสนิทสนมกับเขาอย่างแน่.. และที่มากกว่านั้น สีดาอาจจะชอบเขาได้” หล่อนอึ้งไป ที่รัมธ์คิดผลักไสหล่อนไปให้เพื่อน ทั้งที่หล่อนรักเขา มองเห็นเขาในทางชู้สาว “แหม.. คุณรัมธ์จะยัดเยียดสีดา ให้ไปหลงชอบคนอื่นได้ยังไงคะ ตั้งแต่ไม่เห็นหน้ากันด้วยซ้ำ” “ผมคิดว่า ถ้าคุณ เห็นหน้านายบุแล้วล่ะก็ คุณอาจจะชอบ เพราะหมอนี่ยังโสดอยู่” “ไปๆมาๆนี่ คุณรัมธ์ กลับอยากทำตัวเป็นพ่อสื่อเสียแล้วหรือคะ” เขาเงียบไปครู่ “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับเรื่องนี้ผมไม่มีสิทธิ์ กำหนดชะตาให้ใครได้ เพราะเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหาก” “แหม.. คุณรัมธ์พูดเหมือนรู้ดีจังเลย ขอบคุณค่ะ ที่แนะนำให้ทราบ สีดารบกวนคุณรัมธ์นานแล้ว เห็นทีจะต้องกลับ นายภัทรก็หลับสนิทแล้วค่ะ” “ขอบใจสีดามากนะที่ดูแลน้องภัทรกล่อมแกจนหลับ” “แหม.. คุณรัมธ์ นี่พูดเหมือนสีดาเป็นคนอื่นไปแล้ว นี่ สีดาเป็นอาของแกค่ะ เมื่อพี่ตนุไม่อยู่สีดาก็เต็มใจที่จะดูแลหลาน” “ขอบคุณสีดาอีกครั้งครับแล้วผมจะไปส่ง” หล่อนยิ้มกับประโยคท้ายของเขา ********************************* และในเวลานั้นภาพของพาลิณีที่หล่อนทรุดนอนดิ้นอยู่บนพื้น กับอากาศที่หนาวเหน็บยามค่ำคืน แต่หัวใจของหล่อนอึดอัดกับห้องสี่เหลี่ยมแคบห้องนี้ เป็นบ้านไม้ หน้าต่างไม้ ไม่มีพัดลม แต่ก็อาศัยลมโบกพัดพลิ้วมาทางช่องลูกกรงเหล็กแทน เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ แม้แต่พัดลม เขาก็ไม่นำมาให้หล่อนใช้ เขาต้องการทรมานหล่อนอย่างแน่นอน กรรมเวรของหล่อนแท้ๆ ที่กลายตกในสภาพอย่างนี้ พาลิณีคิด แม้ไม่มียุง แต่การอยู่คนเดียวมาหลายคืนแล้ว ทำให้หล่อนคิดมาก ป่านนี้พ่อกับแม่จะหาทางช่วยเหลือหล่อนอย่างไร ท่านคงจะประกาศข่าวผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์ บิดาของหล่อนเป็นนักการเมือง ต้องสั่งให้ลูกน้อง นายตำรวจ ที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ผู้เป็นเพื่อนสนิท คงจะพลิกหาล่าตัวคนร้ายที่กระทำอุกอาจต่อลูกสาวของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อย่างบิดาของหล่อน และณ ขณะนี้ ที่คฤหาสน์ ในกรุงเทพเมื่อ เวลาสองทุ่มนายยศฉลิมเรียกตัว สัญชุตร ว่าที่ลูกเขยในอนาคต และ เป็น คนรักของลูกสาว มาพูดคุยอีกครั้ง กับ เรื่องที่เกิดขึ้นในผับ “อาไม่เข้าใจเลยนะสัญ ตอนนั้นเราไปอยู่ไหน ไม่ได้อยู่คอยดูแลยัยแพมลูกสาวอาเลยหรือไง ถึงปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้” เมื่อนายยศเฉลิมเครียดก็บ่นตำหนิว่าสัญชุตรเล็กน้อย เพราะความสะเพร่า ไม่เอาใจใส่เท่าที่ควรของเขา ถึงทำให้ลูกสาวถูกลักพาตัวไปอย่างนี้ ในวันนั้น เขาไม่เห็นเหตุการณ์อะไรที่ผิดปกติ หรือไม่ชอบมาพากล สัญชุตร นึกไม่ออก เขา ก็ เครียด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม