EP 4: เลขาเฉิ่มอุ้มรัก
วันนี้มิรดาก็มาทำงานแต่เช้าเหมือนเช่นทุกวัน แต่ธีธัชที่เคยมาทำงานเช้ากว่าหล่อน กลับยังเดินทางไม่ถึงที่ทำงาน
หล่อนนั่งรอกระวนกระวาย มองนาฬิกาข้อมือสลับกับแป้นพิมพ์โน้ตบุ๊คซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปเกือบเก้าโมงเช้า คนที่หล่อนรอคอยอยู่ก็ปรากฏตัวขึ้น
เขาก้าวออกมาจากลิฟต์ และก้าวเดินมาหยุดที่หน้าโต๊ะทำงานของหล่อน
มิรดารีบลุกขึ้นยืน และกล่าวทักทายตามมารยาทที่เคยกระทำทุกวัน
“สวัสดีค่ะบอส”
“สวัสดีครับคุณมิ้ม ขอโทษทีนะผมเพิ่งลุกจากเตียงไหวนะ ก็เลยเพิ่งมา...”
คำพูดของเขา ทำให้หล่อนเข้าใจความหมายได้เป็นอย่างดี
“เอ่อ... วันนี้ไม่มีงานอะไรเร่งด่วนแต่เช้า บอสมาตอนไหนก็ได้ค่ะ”
“นั่นสิ”
เขาไหวไหล่บึกบึนของตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะเดินตัวตรงหายเข้าไปในห้องทำงาน
ใบหน้าที่มีรอยยิ้มเคลือบทับอยู่ของมิรดาตอนนื้จืดจางลงเหลือแต่ความเศร้าหมอง
เมื่อคืนธีธัชคงจะสนุกสนานกับผู้หญิงสวยคนนั้นทั้งคืน จนเช้าลุกไม่ขึ้น
บ้า...
หล่อนควรจะชินได้แล้วนะกับความรู้สึกแบบนี้
หญิงสาวกะพริบตาเร็วๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตาให้พ้นไปจากดวงตา กำลังจะหย่อนกายลงนั่ง เสียงอินเตอร์คอมก็ดังขึ้นเสียก่อน
“คะบอส”
“เข้ามาหาผมหน่อย”
“ได้ค่ะบอส”
หล่อนรีบก้าวเดินเข้าไปภายในห้องทำงานของธีธัช ก็พบว่าเขากำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่หลังโต๊ะทำงานใหญ่
“บอสมีอะไรให้มิ้มทำเหรอคะ”
“เมื่อกี้ผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากลูกค้า มีงานด่วนที่โคราช และผมต้องเดินทางไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ได้ค่ะ มิ้มจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับบอสคะ”
“ผมหมายถึง เราต้องไปด้วยกัน”
“...”
หล่อนอึ้งไปเล็กน้อย และก็ยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา ธีธัชก็ออกคำสั่งต่อ
“เตรียมถุงยางไปให้ผมด้วยนะ เพราะผมคิดว่าเราคงต้องค้างคืนที่โคราช”
“เอ่อ... งั้นก็แสดงว่าบอสต้องการให้มิ้มแจ้งคิวกับผู้หญิงคืนนี้...”
“ใช่ครับ”
“ค่ะ มิ้มจะทำตามคำสั่งของบอสค่ะ”
“โอเค เรามีเวลาเตรียมตัวก่อนออกเดินทางแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น”
“ค่ะบอส มิ้มจะเตรียมทุกอย่างให้ทันภายในครึ่งชั่วโมงนี้ค่ะ”
“ดีมาก แล้วเจอกันที่ลานจอดรถ”
หล่อนตอบรับเขา ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องทำงานใหญ่ และรีบจัดการตามคำสั่ง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หล่อนออกเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดกับธีธัช น่าจะสามสี่ครั้งได้แล้วมั้ง ในระยะเวลาห้าปี แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่รู้สึกกระอักกระอ่วนเท่าครั้งนี้
คงเพราะ...
หล่อนรักธีธัชมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนนั้นเอง...
หญิงสาวยิ้มเศร้าหมองให้กับตัวเอง และก็ก้มหน้าก้มตาจัดการข้าวของตามคำสั่งของเจ้านาย ด้วยหัวใจที่ปวดร้าวทรมาน
คงเพราะรถติดพอสมควร ทำให้หล่อนกับธีธัชต้องใช้เวลาบนท้องถนนยาวนานถึงสองชั่วโมงเศษ กว่าจะถึงโรงแรมที่พักของจังหวัดนครราชสีมา
“อีกสิบนาทีเราต้องเดินทางไปพบลูกค้า...”
คำพูดของธีธัชหายไปในลำคอ เมื่อหันมาเห็นเลขาสาวนั่งหลับคอพับคออ่อนอยู่ที่เบาะ เขาอมยิ้มออกมาด้วยความขบขันตัวเอง
“หลับก็ไม่บอก ให้พูดคนเดียวมาตั้งนาน”
ชายหนุ่มปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เลขาที่ทำงานยอดเยี่ยมไร้ที่ติดของตนเอง
“แก้มใสเชียว”
นิ้วยาวไล้แก้มนวลแผ่วเบา แต่กระนั้นก็ทำให้คนที่หลับน้ำลายยืดอยู่รู้สึกตัว ดวงตากลมโตที่ซ่อนอยู่ภายใต้แว่นหนาเบิกกว้าง มองธีธัชที่เอียงหน้าเข้ามาใกล้มากกว่าปกติ
“บอส...”
ธีธัชอมยิ้ม ก่อนจะยืดตัวกลับไปนั่งตัวตรงที่เบาะคนขับเช่นเดิม
“ผมกำลังจะปลุกคนนอนน้ำลายยืดน่ะ”
หน้าของมิรดาแดงก่ำ รีบยกมือขึ้นป้ายมุมปากทั้งสองข้างเพื่อหาน้ำลายทันควัน ท่ามกลางเสียงหัวเราะขบขันของธีธัช
“ผมล้อเล่นน่ะ ถึงแล้ว เอาของไปเก็บในห้องพักกันเถอะ”
แล้วคนตัวโตก็ก้าวลงไปจากรถ ในขณะที่หล่อนต้องรีบรวบรวมสติ และก้าวตามลงไป ทั้งๆ ที่ภายในอกยังคงหวั่นไหวอยู่เลย
ธีธัชเดินนำหล่อนเข้าไปภายในโรงแรมหรู พนักงานสาวฝ่ายต้อนรับทักทายอย่างเป็นกันเองเป็นพิเศษกับธีธัช และก็ยื่นคีย์การ์ดให้สองใบ
“เดินตรงไป ลิฟต์อยู่ขวามือค่ะ ชั้นที่ยี่สิบหกนะคะ ไปถูกไหมคะคุณลูกค้า”
“ผมไปถูกครับ ขอบคุณมากครับ”
ธีธัชตอบกลับอย่างสุภาพ ก่อนจะเดินนำหล่อนมายังลิฟต์ตัวโต และก้าวเข้าไปข้างใน
ภายในลิฟต์มีหล่อนกับเจ้านายหนุ่มเพียงแค่สองคนอีกแล้ว
บรรยากาศชวนอึดอัด ทำให้หล่อนต้องชวนเขาคุยขึ้น
“พนักงานคนเมื่อกี้นี้ ท่าทางจะตกหลุมเสน่ห์ของบอสนะคะ”
หล่อนเห็นธีธัชระบายยิ้มอย่างไม่ใส่ใจอะไร ก่อนจะยื่นคีย์การ์ดให้กับหล่อน
“ห้องเราสองคนอยู่ติดกัน ถ้ามีอะไรก็เรียกผมได้ทุกเมื่อนะ”
มือเล็กสั่นเทาอีกครั้ง เมื่อต้องยื่นออกไปรับของที่อยู่ในอุ้งมือใหญ่ และปลายนิ้วเจ้ากรรมก็ดูจะยาวเกินไป มันทำให้สัมผัสกับมือของธีธัชเข้าโดยบังเอิญ
ไฟป่าลุกพรึ่บขึ้นภายในช่องท้องจนหล่อนร้อนฉ่าไปทั้งตัว ต้องรีบชักมือกลับ
“ขอบคุณค่ะบอส”
การสัมผัสกัน แม้จะแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่สำหรับหล่อนมันทรงพลังอำนาจเหลือเกิน หล่อนหวั่นไหวทั้งร่ายกายและหัวใจ ตรงกันข้ามกับธีธัชที่ดูท่าทางสบายๆ ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย
เขาจะรู้สึกอะไรล่ะ ในเมื่อในสายตาของเขา หล่อนก็เป็นแค่ลูกจ้าง เป็นแค่เลขาดีเด่นที่เขามีเอาไว้เพื่อใช้งานเท่านั้น
หล่อนโง่เองที่รักเขาจนโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้ จะไปโทษใครได้ล่ะ
“คุณมีเวลาเก็บของแค่สิบนาทีนะ แล้วลงไปเจอผมที่รถ”
“ค่ะ บอส”
ประตูลิฟต์เปิดออกพอดี และเขาก็เดินนำไปยังห้องพัก
หล่อนก้าวตามไปเงียบๆ
“แล้วถุงยางน่ะ ฝากเอาไว้ก่อนนะ เดี๋ยวผมจะใช้เมื่อไหร่จะเรียกหา”
“ค่ะบอส”
แล้วธีธัชก็ระบายยิ้มขอบคุณหล่อน ก่อนจะผลุบหายเข้าไปในห้องพัก ส่วนหล่อนก็เดินเข้าห้องพักของตัวเองเช่นกัน ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามนั่นเอง
เมื่อไหร่วงจรช้ำๆ แบบนี้จะกระเด็นหายไปจากชีวิตสักทีนะ
ก็เมื่อหล่อนหยุดรักธีธัชได้ไงล่ะ...
เสียงหนึ่งดังตอบกลับมา ซึ่งแน่นอนว่ามันคือสิ่งที่หล่อนไม่มีทางทำได้
หลังจากพบลูกค้า และเจรจาเป็นผลสำเร็จ ธีธัชก็พาหล่อนมาดื่มฉลองภายในภัตตาคารหรูของโรงแรมที่พักนั่นเอง
“บอสคะ ดื่มมากแบบนี้ ระวังคืนนี้จะเมาจน...”
หล่อนหยุดพูดแค่นั้น เพราะรู้ดีว่าธีธัชจะต้องเข้าใจ ซึ่งเขาก็เข้าใจจริงๆ
“ยิ่งเมา ผมยิ่งคึกจะบอกให้”
หล่อนก้มหน้าหลบสายตาของคนที่กำลังเมาได้ที่ มือเล็กกุมแก้วเหล้าที่เขายื่นให้ แต่ไม่ได้ดื่มสักทีเอาไว้แน่น
“แล้วคุณไม่ดื่มบ้างหรือ จะได้ผ่อนคลาย”
“มิ้ม... ไม่ดื่มเหล้าน่ะค่ะ”
“แค่แก้วเดียวเอง ลองเถอะ บางทีมันอาจจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายจากอะไรที่เครียดๆ อยู่ก็ได้”
“มิ้ม...”
ธีธัชระบายยิ้ม ยกแก้วเหล้ามาตรงหน้า และต้องการชนแก้วกับหล่อน
“มาชนแก้วกัน”
“บอสคะ... มิ้ม...”
“ไม่เอาน่า อย่าใจเสาะ ดื่ม...”
หล่อนไม่อยากขัดใจธีธัช ก็จำต้องยื่นแก้วเหล้าในมือที่น้ำแข็งเริ่มละลายแล้วไปชนกับแก้วของเขา จากนั้นก็มองเขาดื่มจนหมดแก้ว
“อ้าว ขี้โกงนี่นา ให้ผมดื่มคนเดียว ดื่มครับมิ้ม... สักแก้วก็ยังดี...”
“มิ้ม...”
หล่อนลำบากใจมาก เพราะตัวเองไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์มาก่อน จึงไม่รู้ว่าแก้วหนึ่งจะส่งผลอะไรกับตัวเองไหม
“ดื่มเถอะ ถ้าคุณเมา เดี๋ยวผมแบกคุณกลับห้องเอง”
“มิ้มมากกว่ามั้งคะที่ต้องแบกบอสกลับห้อง”
หล่อนหลุดขำออกมา และก็ตัดสินใจยกแก้วเหล้าขึ้นจ่อปาก ก่อนจะเทหายลงไปในลำคอจนหมดแล้ว
แคร่ก แคร่ก
หล่อนไอทันที เมื่อรสชาติของแอลกอฮอล์บาดลึกภายในลำคอ
“เป็นไงบ้างครับ รสชาติไม่เลวใช่ไหมล่ะ”
“ไม่อร่อยเลยค่ะ”
หล่อนส่ายหน้าและก็มองแก้วเหล้าตรงหน้าด้วยท่าทางขยาด
“อีกหน่อยก็ชิน ถ้าได้ดื่มบ่อยๆ”
“มิ้มไม่ดื่มแล้วค่ะ”
ธีธัชอมยิ้ม และก็กระดกเหล้าในแก้วซ้ำอีกหลายครั้ง ในขณะที่หล่อนคอยห้ามปราม
“บอสคะ กลับห้องดีกว่าไหมคะ ป่านนี้คุณบีมารอแล้วล่ะค่ะ”