โรงพยาบาล
หลังจากที่ฉันจัดการทุกอย่างที่บริษัทจนเรียบร้อย ฉันก็ตรงไปที่โรงพยาบาลทันทีเพื่อไปตามที่หมอนัด
“คุณท่านคิดว่าน้องเจนจะเป็นเลขาให้คุณกิจได้แน่นะคะ...จันเห็นน้องเจนดูจะเเป็นเด็กที่ไม่ค่อยยอมคนแบบนั้น คุณกิจคงไม่ถูกใจแน่ๆ”
“ดีแล้วละที่หนูเจนเป็นเด็กที่ไม่ยอมคนเพราะตากิจจะได้ไม่คิดว่าตัวเองทำอะไรก็ถูกอยู่ฝ่ายเดียว มีคนคั้นคาดบ้างจะได้รู้ตัวเองว่าสิ่งที่คิดอาจจะไม่ถูกเสมอไป”
“แต่จันกลัวเรื่องจะไม่จบง่ายๆนะซิคะ ถ้า2คนนั้นทำงานด้วยกันแล้วทะเลาะกันแบบนั้นทุกวัน จันกลัวว่า...”
“ฉันเชื่อว่าตากิจแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันได้ ส่วนหนูเจนถึงดูจะเป็นเด็กที่ไม่ยอมคนแต่ฉันก็คิดว่าฉันดูคนไม่ผิด ฉันเลือกคนถูกแล้วที่เอาเข้ามาทำงานใกล้ๆตากิจแบบนี้...”
ฉันนึกถึงเรื่องที่เธอเคยช่วยฉันเป็นลมในห้องน้ำวันนั้น ท่าทางที่เธอดูเป็นห่วงฉันราวกับว่าฉันเป็นญาติของเธอคนหนึ่ง และยิ่งตอนที่เธอดูกระตือรือร้นหายาดมให้มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกสนใจในตัวของเด็กคนนี้มากขึ้น ยิ่งได้มารู้จักในวันที่สัมภาษณ์งานถึงเรื่องครอบครัวในวันนั้น แววตาของเธอก็ดูอบอุ่นและดูมีความสุขที่พูดถึงพ่อตัวเอง แปลว่าเธอเกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่นถึงแม้ว่าเธอจะขาดแม่ก็ตาม และช่วง 3 วันที่ผ่านมาฉันก็ได้ให้คนไปสืบประวัติของเธอมาหมดแล้วว่าเธอเป็นคนยังไง นิสัยที่แท้จริง เพื่อนที่เรียนด้วยกัน วันว่าง แม้กระทั่งคนรักว่าเธอมีมาแล้วกี่คน แปลกที่เธอยังไม่เคยมีแฟน และมันยิ่งทำให้ฉันสนใจในตัวเธอมากยิ่งขึ้น
“คุณท่านค่ะ...คุณท่าน...คุณท่านค่ะ”
“หะ...อะไรนะเธอเรียกฉันหรือเปล่า”
ฉันสะดุ้งหลุดจากความคิดทันที
“จันเรียกคุณท่านตั้งหลายรอบแล้วค่ะ คิดอะไรอยู่คะ เราถึงโรงพยาบาลแล้วค่ะ...”
“ไม่มีอะไรหรอก ปะ...ฉันพร้อมแล้ว”
ฉันเดินเข้าไปในโรงพยาบาลพร้อมกับจันอย่างทำใจที่สุดว่าวันนี้ฉันต้องรู้ผลแล้วว่าฉันเป็นอะไร
.....
นี่ฉันควรต้องเริ่มตรงไหนก่อนดีละ ฉันต้องไปชงกาแฟมั้ย หรือฉันต้องเอาแฟ้มเอกสารไหนเข้าไปให้คุณกิจเซ็น โธ่เอ๊ย...นี่ฉันอยากจะบ้าจริงๆ ฉันมาสมัครตำแหน่ง Game Designer นะ ไหงมาเป็นเลขาได้วะเนี้ย แล้วเมื่อกี้ดันไปทะเลาะกับคุณกิจอีกแล้วจะไปทางไหนต่อดีละ...
“น้องเจนคะ...”
เหมือนสวรรค์มาโปรดพี่คนท้อง
“พี่...พี่เป็นเลขาคุณกิจใช่มั้ยคะ”
“ใช่ค่ะ...”
“พี่คะ พี่อย่าเพิ่งลาคลอดตอนนี้เลยนะคะ อดทนไปอีก 3 เดือนก่อนให้หนูฝึกงานในตำแหน่ง ที่หนูอยากฝึกให้จบก่อนแล้วพี่ค่อยไปคลอดได้มั้ยคะ...?”
“ไม่ได้หรอกค่ะ อีกแค่ 2 อาทิตย์พี่ก็ต้องคลอดแล้วค่ะ นี่ที่พี่มาพี่ก็จะมาสอนงานน้องก่อนไปนี่แหละ”
ฉันมองหน้าเธอด้วยสีหน้าเครียดจัด อีก 2 อาทิตย์จะคลอด โธ่เอ๊ยย...เปลี่ยนใจตอนนี้ทันมั้ยเนี้ย
“มาค่ะ...เริ่มจาก.....”
พี่เขาอธิบายหน้าที่ทุกอย่างที่ต้องทำให้ฉันได้เรียนรู้ และสิ่งที่ฉันควรปฏิบัติและไม่ควรปฏิบัติ เพราะคุณกิจไม่ชอบงานที่ผิดพลาดทุกครั้งก่อนส่งแฟ้มงานจะต้องถูกต้องและเรียบร้อย
“โห...เยอะจัง งานเยอะขนาดนี้พี่ได้เงินเดือนเป็นแสนหรือเปล่าคะเนี๊ย...?”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ...”
“ก็ดูซิคะ งานเยอะมากๆขนาดนี้พี่ทำคนเดียวหมดนี่ จริงๆแล้วพี่ควรต้องได้เงินเดือนเยอะๆด้วยนะคะ...”
“คุณกิจก็ให้โบนัสอยู่แล้วทุกปีค่ะ แถมยังมีงานเลี้ยงงานสังสรรค์ แจกของรางวัลให้พนักงานมากมาย พนักงานที่นี่เลยเต็มใจและทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่นะคะ...”
ฉันฟังแล้วก็อึ้งๆไป
“เรียบร้อยค่ะ งานพวกนี้พี่เอาจัดใส่แฟ้มให้เรียบร้อยนะคะ น้องเจนจะใช้ก็ดูตามหมวดหมู่ได้เลย ส่วนนี่ค่ะ...เป็นตารางนัดหมายทั้งหมดของคุณกิจ ทุกวันในตอนเช้าเวลาคุณกิจเข้าบริษัทน้องเจนต้องรีบเข้าไปรายงานตารางนัดหมายของแต่ละวันให้คุณกิจทราบด้วยนะคะ และก็ก่อนถึงเวลานัดทุกครั้งต้องย้ำเข้าไปให้คุณกิจทราบอีกรอบจะโทรหาหรือย้ำในไลน์ก็ได้ค่ะ...นี่ค่ะสมุด”
พี่เขายื่นสมุดจดตารางนัดหมายให้ฉัน ฉันนี่ยืนฟังแทบไม่ทันเพราะงงไปหมด อะไรมันจะเยอะแยะขนาดนี้
“เรื่องนี้สำคัญมากนะคะ คุณกิจจะซีเรียสมากเรื่องลูกค้าถ้าผิดนัดหรือลืมนัดคุณกิจจะโมโหมากๆ ต้องรอบคอบนะคะเรื่องนี้พี่ย้ำเลย...”
“เห่อ...”
ฉันถอนหายใจอย่างเซ็งๆเพราะรู้สึกคิดผิดว่าอยากให้คุณยายเปลี่ยนใจไม่ต้องให้ฉันฝึกงานที่นี่ก็ได้นะ
“ไม่ยากเกินไปหรอกค่ะ ถ้าเราตั้งใจ...พี่ไปนะคะ ...สู้ๆ นะคะน้องเจน”
พี่เขาให้กำลังใจฉันแล้วก็เดินออกไปปล่อยให้ฉันนั่งนิ่งอยู่หน้าห้อง โดยไม่รู้จะเริ่มอะไรก่อนดี
กริ๊งงง โทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้นเล่นเอาตกใจเลย
“สวัสดีค่ะ”
(เข้ามาหาฉันในห้องหน่อย)
ติ๊ดดดด พูดจบก็วางสายไปเลย ไม่มีมารยาทเลย ชิส์
.......
ผมโดนคุณย่าบังคับให้รับยัยเด็กไม่มีสัมมาคารวะให้มาฝึกงานเป็นเลขาส่วนตัว แทนคุณวันวิสาที่ลาคลอด 3 เดือน ผมไม่อยากให้คนที่ไม่เชื่อฟังแล้วและเถียงทุกคำโดยไม่รู้จักกาละเทสะ แต่ผมก็ขัดคุณย่าไม่ได้คอยดูนะผมจะจัดการยัยตัวแสบนี้ให้ทนไม่ได้แล้วขอถอนตัวออกไปเอง
“คุณมีอะไรจะใช้หนูคะ...?”
“ไม่มีมารยาท ก่อนเข้ามาทำไมไม่เคาะประตูก่อน”
“เอ้า! ก็คุณเรียกหนู หนูก็รีบเข้ามานี่ไงคะ”
“ออกไป...แล้วเคาะประตูเข้ามาใหม่”
“....”
ดูมองหน้าท่าทางเกินไปแล้วยัยตัวแสบ
“ออกไป ฉันสั่ง...”
เธอมองหน้าผมนิ่งแล้วก็สะบัดหน้าเดินออกไปจากห้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา...”
เธอเดินเข้ามาในห้องทำหน้าตาบึ้งตึงแล้วนั่งลงตรงหน้าผม
“ถ้าฉันไม่อนุญาตเธอก็ไม่มีสิทธิ์นั่ง...”
เธอชะงักก้นทันทีก่อนที่จะถึงเก้าอี้ แล้วยืนขึ้นตัวตรงออกไปยืนห่างจากโต๊ะผม
“ต่อไปนี้ เรื่องไหนที่ฉันยังไม่อนุญาตห้ามทำก่อนที่ฉันจะบอก ฉันไม่ชอบให้ใครขัดคำสั่งฉัน และฉันก็ไม่ชอบให้ใครชักสีหน้าใส่ฉันแบบนี้ด้วย...”
เธอมองหน้าผมอย่างสีหน้าที่ดูออกว่าคงโกรธผมมาก แต่ยังไงละตอนนี้ผมอยู่เหนือกว่านิ
“แล้วคุณกิจต้องการอะไรคะ เรียกหนูเข้ามาจะสั่งอะไรหนู ก็รีบๆสั่งมาเลยค่ะหนูจะได้รีบไปทำตามไม่ให้คุณกิจต้องขัดใจเลยแม้แต่นิดเดียว...”
“ดี...นู้นกองแฟ้มเอกสาร เอาไปอ่านแล้วก็สรุปมาให้ฉันภายในพรุ่งนี้ 8 โมงเช้า...”
เธอหันไปมองที่โต๊ะข้างๆ ที่ผมหยิบมากองไว้ประมาณ เกือบ 20แฟ้มได้
“นี่เยอะขนาดนี้หนูจะอ่านหมดได้ยังไงละคะ”
“ทำไม่ได้หรอ...ทำไมได้ก็ไม่ต้องมาฝึกงานที่นี่ ฉันจะได้บอกคุณย่าว่าเธอไม่ทนงาน ทำงานไม่ได้”
“หนูทำได้ค่ะ แต่ต้องไม่ใช่พรุ่งนี้ 8 โมงมันเร็วไป หนูขอไม่เกินเที่ยงค่ะ...”
“ไม่...ฉันให้แค่ 8 โมงเช้า ถ้าเธอทำไมทันก็ออกไป”
ผมจ้องหน้าเธออย่างท้าทาย
“นี่คุณตั้งใจจะแกล้งหนูมากกว่า...”
“ก็ใช่ไง ฉันต้องการแกล้งเธอแต่ถ้าแค่นี้เธอทำไม่ได้ เธอก็แค่ยอมแพ้แล้วก็เดินออกไป”
“ไม่ค่ะ...หนูไม่มีทางยอมแพ้...หนูจะไม่ยอมแพ้คำสบประมาทของคุณอีกแล้ว...คุณจะต้องได้เห็นว่าหนูทำได้...”
“งั้นพรุ่งนี้เช้า 8 โมงฉันต้องได้เห็นสรุปจากแฟ้มทั้งหมดนั่น บนโต๊ะของฉัน...”
“ได้...แล้วคุณจะได้รู้ว่าหนูจะไม่มีวันยอมแพ้”