****จวบจะเที่ยงแล้ว ลูกสาวคนดีก็ยังไม่ยอมลงมา เสี่ยบันเทิง
จึงให้สาวใช้ไปตามลูกสาวลงมาทานข้าวเที่ยง พอเห็นหน้าหญิงสาว บันเทิงก็ถอนหายใจแรง ๆ ก็ดูเอาเถอะลงมานั่งหน้าบูดบึ้ง แถมข้าวปลาตรงหน้าก็ไม่ยอมกิน จนคนเป็นพ่ออดเป็นห่วงลูกสาวไม่ได้ ก็ปกติเหมยอี้เป็นคนตื่นเช้าและสดใสร่าเริง แต่วันนี้ใบหน้างามกลับเศร้าหมองเหมือนมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ มีอะไรหนอ...คนเป็นพ่อแบบเขาจะช่วยเบาความทุกข์ในใจของลูกสาวคนดีได้ไหม แต่มันเรื่องอะไรกันเล่า แก้วตาดวงใจถึงได้หม่นหมองถึงเพียงนี้
“น้องเหมยเป็นอะไรรึเปล่าลูก กับข้าวตรงหน้าไม่น่ากินเหรอลูก” น้ำเสียงแหบแห้งของชายวัย 54 เอ่ยถามลูกสาวคนดีของตน
“น่ากินค่ะเสี่ยเทิง แต่ว่าน้องเหมย....”
“ยังไม่หิวเหรอลูก หรือว่าเราจะออกไปกินข้าวร้านโปรดของหนูเหมยดีคะ” ถามลูกสาวอย่างเอาใจ
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ กินข้าวเสร็จเราจะได้เข้าคาเฟ่เลย” สาวเจ้าบอกผู้เป็นพ่อ
ใบหน้าสวยเริ่มมียิ้มเปื้อนบนใบหน้าขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ใช่ยิ้มที่คนเป็นพ่ออยากจะเห็น เพราะมันเป็นยิ้มแห้ง ๆ ฝืน ๆ ของลูกสาว บันเทิงรู้จักลูกสาวดี ใบหน้าที่หม่นหมอง นัยน์ตาเศร้าเหม่อลอยแบบนี้ต้องมีเรื่องทุกข์ใจเป็นแน่ แต่จะเรื่องอะไรนั้นต้องรอให้เจ้าตัวเขาบอกเล่าเองเมื่อยามที่เธอพร้อม
“เมื่อคืนยังไม่ได้เคลียร์นะน้องเหมย เสี่ยรู้นะว่าลูกแอบไปร้องเพลงยั่วแขกในคาเฟ่อีกแล้ว ทำไมเสี่ย...”
“ไม่เอานะคะเสี่ย ไม่ดุว่าน้องเหมยสิคะ นี่ลูกนะไม่ใช่ลูกน้อง อีกอย่าง เสี่ยก็น่าจะชินได้แล้วว่าลูกชอบไปร้องเพลง เสียงลูกก็เพราะ ไม่ได้น่ารำคาญสักหน่อย” พูดแทรกประโยคของคนเป็นพ่อพร้อมใส่อารมณ์แง่งอนออกไป
“อะ ๆ ก็ได้เสี่ยไม่ห้ามแล้ว แต่ไม่ให้ลงมาเต้นยั่วแขกแบบเมื่อคืนนะ เสี่ยรู้ว่าเราทำอะไรบ้าง ถ้าอยากร้องเพลงที่คาเฟ่ เสี่ยให้เราร้องได้อาทิตย์ละครั้งเท่านั้น ส่วนร้านเพชรก็หัดเข้าไปดูบ้าง ปล่อยให้คนแก่แบบเสี่ยดูแลคนเดียวก็เหนื่อยเป็นนะคุณลูกสาว” เป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า ใครจะกล้าว่าได้ลง ก็เหมยอี้เป็นแก้วตาดวงใจของเขา
“รักเสี่ยที่สุดเลยค่ะ ไปกินข้าวร้านโปรดกันนะคะ” ร้านโปรดที่ว่าเป็นร้านที่สาวเจ้าทานมาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้โตเป็นสาวสวยก็ยังชอบไปทานอยู่ แถมเป็นร้านที่ติดกับคาเฟ่บันเทิงด้วย
“เสี่ยก็รักหนูที่สุด ป้ะ ไปกัน เสี่ยจะพาหนูเหมยไปเลี้ยงให้พุงกางเลยลูก” บันเทิงลุกขึ้นพร้อมยื่นมือออกไปให้ลูกสาวจับ
สองพ่อลูกก็เดินออกไปยังรถที่จอดเตรียมรอตั้งแต่เช้าแล้ว เมื่อยามลูกสาวทุกข์หรือมีเรื่องไม่สบายใจ คนเป็นพ่ออย่างเขาก็อยากจะให้ความสุขลูกสาว แม้จะเป็นการทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่บันเทิงก็ใส่ใจความรู้สึกลูกสาวกว่าสิ่งใด ชีวิตนี้เหมยอี้มาก่อนใครเสมอ
เหรียญทองเลือกมาทานข้าวร้านที่อยู่ติดกับคาเฟ่บันเทิง
เพราะตอนกลับเมื่อคืน เขาสังเกตเห็นมีร้านอาหารอยู่ ชายหนุ่มจึงเลือกมาทานร้านแห่งนี้ จุดประสงค์จะได้เห็นคนเข้าออกคาเฟ่ข้าง ๆ ได้สะดวก นั่งทานไปสักพักเหรียญทองเห็นคนตัวเล็กที่อยู่ในความรู้สึกเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับชายแก่ แถมหน้าตาหล่อนกับชายแก่ก็ดูมีความสุข จนมือใหญ่ที่จับช้อนในมือกำช้อนแน่นด้วยความขึ้งโกรธ
“นายเป็นอะไรครับ” บุญคงเห็นมือนายกำช้อนแน่นเหมือนกำลังโกรธ
“หึง!"
เหรียญทองตอบเพียงสั้น ๆ ปล่อยช้อนทิ้งแล้วลุกขึ้นเดินก้าวยาว ๆ ไปยังเป้าหมาย หล่อนคงยังไม่เห็นเขาถึงได้ยิ้มหน้าระรื่นให้ชายอีกคนโอบกอด
บุญคงขมวดคิ้วชนกันด้วยความมึนงง และที่งงคือนายจะลุกเดินไปไหน แล้วไม่ทานข้าวต่อแล้วหรือ ลูกน้องอย่างมันเลยต้องรีบลุกตาม
นายหึง หึงใครวะ! นายไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอ?
ถามตัวเองในใจพร้อมกับสาวเท้าตามเจ้านายไปด้วยความเร่งรีบ
พอเข้ามาในร้านเหมยอี้กับผู้เป็นพ่อก็เลือกนั่งมุมประจำ
สาวเจ้าสั่งเมนูประจำของตัวเอง พนักงานของร้านไม่ต้องรอนาน เพราะทุกคนรู้ดีว่าสาวเจ้ามาจะทานอะไร บันเทิงมองลูกสาวที่ตอนนี้เริ่มยิ้มออกแล้ว ไม่เหมือนก่อนหน้าที่เอาแต่เหม่อลอยบึ้งตึง
“ที่แท้ลูกของเสี่ยไม่อยากกินข้าวที่บ้านนี่เอง” เหย้าแย่ลูกสาวด้วยความเอ็นดู
“เสี่ยรู้ทันน้องเหมยอีกแล้ว แบบนี้ไง หนูถึงรักเสี่ย”
“รักไอ้แก่นี่นะ!”
พอเหมยอี้พูดสุดความเสียงเข้มก็เอ่ยแทรกขึ้นมาทันที พร้อมกับเดินมากระชากร่างเล็กให้ลุกขึ้นแล้วดึงเข้ามากอดแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหล่อน
"ว้าย!"
“ปล่อยน้องเหมยเดี๋ยวนี้นะ!”
บันเทิงสั่งเสียงกร้าว พร้อมกับลุกขึ้นเดินมาแกะมือใหญ่ที่โอบกอดลูกสาวตัวเองด้วยความไม่พอใจ ไอ้หนุ่มนี่เป็นใครทำไมมาทำกิริยาต่ำทรามแบบนี้กับแก้วตาดวงใจของเขา
“แล้วคุณน่ะเป็นใคร” เหรียญทองไม่ปล่อยแต่กระชับกอดร่างน้อยแน่นขึ้นกว่าเดิม
“นะ...นายครับปล่อยเธอก่อนนะครับ” บุญคงบอกนายเสียงสั่น เพราะคนตรงหน้านายนั้นคือเสี่ยบันเทิงเจ้าของคาเฟ่ที่มันพานายมาเมื่อคืน อีกอย่างมันงง นายไปรู้จักสนิทกับนักร้องสาวได้ยังไง แถม ‘หึง’ เธออีก เขากับเพื่อนพลาดอะไรไปแน่ ๆ เมื่อคืนนี้
“มีสิทธิ์มาออกคำสั่งฉันตั้งแต่เมื่อไร ไอ้คง” ตวัดสายตาคมมายังลูก