เชนหันมามองรัญตาพร้อมกับรอยยิ้มแห่งมิตรไมตรี ทั้งสองพูดคุยเรื่องราวของกันและกันราวกับว่ารู้จักมักคุ้นกันมานาน ด้วยความที่พื้นฐานชีวิตเป็นเด็กกำพร้าเหมือนกัน ทำให้ทั้งคู่เข้าใจและเห็นอกเห็นใจกันได้ง่าย และเมื่อเชนส่งรัญตากลับถึงบ้าน หญิงสาวก็พบว่าได้รับเอาบุรุษหนุ่มเลือดผสมมาไว้ในหัวใจ ในฐานะมิตรสหายไปเรียบร้อยแล้ว
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” บอกเขาตอนกำลังปลดเข็มขัดนิรภัย
“พรุ่งนี้คุณรัญจะไปทำงานยังไง ให้ผมมารับไหม รถยังจอดอยู่ที่ทำงานไม่ใช่เหรอ”
รัญตายิ้มจนตาหยี เมื่อได้ฟังความปรารถนาของเพื่อนใหม่
“ค่ะ เดี๋ยวนั่งแท็กซี่ไปก็ได้ รัญเกรงใจ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ มันเป็นทางผ่าน ยังไงพรุ่งนี้ผมมารับนะ บอสจะได้สบายใจว่าคุณไม่ต้องนั่งแท็กซี่ให้อันตรายเปล่าๆ” เชนรีบหาข้ออ้าง เขารู้ว่าหากเอาเจ้านายที่รักมาอ้าง รัญตาจะไม่มีวันปฏิเสธ ส่วนเรื่องที่บ้านเขากับบ้านหล่อนอยู่กันคนละฟากของเมืองกรุงฯ นั้น ช่างหัวมันก่อนเถอะ
หญิงสาวครุ่นคิดชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม
“โอเค...ก็ได้ งั้นเจ็ดโมงรัญรอที่หน้าบ้านนี้นะคะ”
หนุ่มสาวยิ้มให้กันครู่หนึ่งอย่างมีไมตรี ก่อนที่รัญตาจะลงจากรถแล้วก้าวเข้าบ้าน โดยมีน้าสาวอย่างพิชฎายืนรอท่าอยู่ที่ประตูด้านใน สองน้าหลานถามไถ่กันพอสมควร ก่อนที่รัญตาจะขอตัวไปพักผ่อน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่มือถือของพิชฎาดังขึ้น
“ฮัลโหล” พิชฎากรอกเสียงไปตามสาย ไม่ค่อยมีคนโทรหามากนักนอกจากบรรณาธิการสำนักพิมพ์ และรัญตา ทว่าเสียงที่ตอบกลับมาทำเอารอยแผลบางๆ ในหัวใจเริ่มชัดเจนจนส่งผลให้มันเจ็บแปลบ
“ฎา...นั่นคุณใช่ไหม”
พิชฎาหน้าเจื่อน ก้อนขมๆ วิ่งมาจุกที่ลำคอจนต้องฝืนกลืนมันลงท้อง ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถตอบคำถามปลายสายได้ พอมองไปทางบันไดขึ้นชั้นบน ก็เห็นรัญตาหอบเอาเสื้อผ้าลงมาเข้าห้องน้ำ เธอรอจนหลานสาวเข้าห้องน้ำเรียบร้อยจึงกรอกเสียงตอบกลับ ขณะที่สองเท้าก็เร่งซอยขึ้นบันได
“ใช่...ฎาเอง ธาร...มีอะไรหรือเปล่า” ถามอย่างคลางแคลงใจ ด้วยว่าในอดีต ธาร หรือ ธารา ได้ทำให้หัวใจบอบบางของเธอมีบาดแผล เขาเป็นเหมือนแสงสว่างในชีวิตที่จู่ๆ ก็พลันเลือนหายในพริบตา
“ธาร...อยากขอโทษเรื่องที่ผ่านมา” ธาราสารภาพอยู่ปลายสาย แต่ใบหน้านั้นหาได้มีความจริงใจไม่ เขารู้ดีว่าทำผิดต่อพิชฎา แต่ก็ยังหวังว่าหล่อนจะให้อภัย พิชฎาเคยรักเขามาก และเขาจะทำให้หล่อนกลับมารักเขาอีกครั้ง
“เรื่องอะไร ถ้าเรื่องที่ธารเคยทิ้งกันไป ฎา...ไม่อยากพูดถึงอีก เพราะมันไม่ได้มีอิทธิพลต่อใจของฎาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ฎาเข้มแข็งพอที่จะบอกธารว่าฎาให้อภัย และก็จะดีใจที่สุดถ้าธารจะไม่โทรมาหาฎาอีก แค่นี้นะ”
ตู๊ด...
พิชฎาเป่าลมออกจากปากดังฟู่ เมื่อกดตัดสายไปเรียบร้อย รู้สึกเหมือนเรื่องยุ่งยากในชีวิตกำลังจะก้าวเข้ามาพร้อมๆ กับบุรุษที่ชื่อธารา บุรุษร่างสูงโปร่งผิวขาวจนเกือบซีด สวมแว่นสายตาใสแจ๋ว เขามีใบหน้าอารีอยู่เป็นนิจแต่จิตใจกลับดำเช่นอีกา
“คุณเป็นอดีตไปแล้วธาร อย่ากลับมาสร้างความหนักใจให้ฎาอีกเลย ตัดแล้วก็ตัดขาด ช่วยทำตัวไร้ร่องรอยเหมือนตอนที่คุณทิ้งฎาไปด้วยเถอะ”
น้าสาวของรัญตาภาวนาอยู่ภายในห้องนอน เธอเดินไปที่โต๊ะทำงาน เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นเพื่อจะเร่งปั่นต้นฉบับนิยาย หาเงินไปใช้หนี้แมคโลริคก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ก่อนที่หัวใจและร่างกายจะกลายเป็นของเจ้าหนี้โดยสมบูรณ์
หนึ่งอาทิตย์ก่อนงานเลี้ยงประจำปี
ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา รัญตาต้องจ่อมจมอยู่กับความทุกข์ ด้วยว่าแฟนหนุ่มอย่างแมคโลริคไม่ติดต่อมาเลย เขาจะสั่งงานผ่านลูกน้องคนสนิทที่ชื่อเชน งานจะถูกส่งมาที่เธอผ่านทางเลขาคนเก่งอีกทอดหนึ่ง รัญตาพยายามไม่คิดมาก แต่พออยู่คนเดียวเงียบๆ บนรถคันเก่งที่น้าสาวดาวน์มาให้ กลับรู้สึกว่าการเงียบหายไปในครั้งนี้ของแมคโลริคมันผิดปกติจริงๆ
“เฮ้อ...อาแมคเป็นอะไรทำไมไม่ติดต่อรัญมาเลยคะ รัญคิดถึงอาแมคเหลือเกิน”
สาวน้อยเอ่ยเสียงเศร้า ดวงตาคู่งามมีหยดน้ำตามาคลอขัง ก่อนที่มันจะร่วงริน เธอฟุบหน้าเข้ากับพวงมาลัยรถยนต์ กระจกรถแบบบางใสทำให้ใครบางคนที่ซุ่มรออยู่เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาจับใจ
“รัญ...อาขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ แต่พิชฎาบังคับทางอ้อมให้อาต้องทำ”
แมคโลริคเอ่ยกับตัวเอง และวินาทีที่รัญตาป้ายปาดหยาดน้ำตาของหล่อน แมคโลริคก็ทนไม่ไหว เปิดประตูหมายจะก้าวลงจากรถไปปลอบใจหลานสาว ทว่าบุรุษร่างสูงที่เขาคุ้นตาก็กำลังเดินไปที่รถคันดังกล่าวเช่นกัน
ก๊อกๆๆ
เสียงกระจกรถถูกเคาะเบาๆ ทำให้คนที่นั่งร้องไห้อยู่นานต้องเงยหน้าขึ้นมอง เชนยืนอยู่ด้านนอกนั้น ใบหน้าอย่างบุรุษเลือดผสมทำให้รัญตาต้องยิ้มให้แล้วเลื่อนกระจกรถลง
“คุณรัญไม่เป็นอะไรนะครับ” เชนถามด้วยความห่วงใย ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าทำให้คนที่นั่งร้องไห้อยู่รับรู้ได้ในทันที
“เอ่อ...ค่ะ รัญแค่...คิดถึงคนที่เขาไม่คิดถึงรัญ”
รัญตาเอ่ยออกมาอย่างตัดพ้อคนที่อยู่ในใจ
บุรุษหนุ่มหน้าเจื่อน รู้ได้ในทันทีว่าหญิงสาวหมายถึงใคร