"นี่ก็ดึกแล้ว ข้าว่าเราควรรีบนอน"
หลังจากที่นั่งมองอรินดาอยู่เงียบ ๆ หรัญญ์ก็เอ่ยขึ้น เขาคิดว่าในตอนนี้เป็นเวลาดึกแล้วควรจะรีบนอนเสียที เนื่องจากพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกเดินทางไปยังเมืองครุฑธาเวสีให้ถึงโดยเร็ว
"ท่านนอนก่อนเถอะ"
"พรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้านะอรินดา"
"แต่ข้ายังไม่ง่วง"
เหตุใดอรินดาถึงได้ดื้อด้านแบบนี้กันนะ คิดว่าเขาง่วงหรืออย่างไรกัน ในป่าแบบนี้ใครจะหลับลงได้หากไม่อาศัยความเมื่อยล้าจากการเดินทางมาบังคับให้ร่างกายพักผ่อน
"มานี่อรินดา"
หรัญญ์ตบใบไม้ที่ถูกปูไว้เป็นเบาะเบา ๆ เพื่อส่งสัญญาณกลาย ๆ ว่าให้อรินดามานอนตรงนี้ได้แล้วแต่นาคาสาวก็ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม
"เจ้าเชื่อเรื่องผีหรือไม่"
อรินดาเบิกตาจ้องมองครุฑผ่านเปลวไฟด้วยอาการหนาวเหน็บที่สันหลังน้อย ๆ เขาจะพูดขึ้นมาทำไมกัน
"หากข้าหลับใหลไปเจ้าต้องนั่งอยู่ที่นี่คนเดียว ภูตผีในป่าอาจกลัวเจ้าเหงาแล้วมานั่งคุยด้วย"
หรัญญ์ลอบยิ้มเมื่อทันทีที่เขาพูดจบอรินดาก็ลุกขึ้นแล้วรีบสาวเท้ายาว ๆ มานั่งลงข้างเขาทันที ไม่น่าเชื่อว่าธิดาแห่งเมืองบาดาลก็กลัวผีเป็นเหมือนกัน
"นอนกันเถอะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า"
พูดจบหรัญญ์ก็เอนหลังลงนอนบนใบไม้และอรินดาเองก็ทำไม่ต่างกัน นาคาเว้นระยะห่างจากเขาเล็กน้อยเพราะไม่อยากอยู่ใกล้หรัญญ์จนเกินไป ถึงจะหมั้นกันแล้วแต่นี่ก็คือครั้งแรกที่อรินดาได้นอนค้างอ้างแรมกับผู้อื่น ไม่รู้ว่าจะหลับลงหรือไม่แต่อรินดาคิดว่าความเหนื่อยล้าจากการเดินมาทั้งวันจะทำให้เธอหลับลงได้ในที่สุด
หลับตาลงเนิ่นนานแต่ทั้งครุฑและนาคก็ยังไม่มีใครหลับลงได้ อรินดาพลิกตัวไปมาอยู่หลายครั้ง แม้จะพยายามทำให้เบาที่สุดแต่หรัญญ์ก็รู้สึกตัวอยู่ดี
"นอนไม่หลับหรืออรินดา"
ในความเงียบงันที่มีเสียงแมลงร้องเซ็งแซ่อยู่เป็นบางครั้ง ความมืดมิดและค่อนข้างหนาวเหน็บทำให้อรินดาไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้
หรัญญ์ขยับพาร่างตนเองเข้ามาใกล้อรินดาในที่สุด หากเป็นแบบนี้ทั้งคืนคงไม่ได้นอนแน่
"ท่านหรัญญ์"
แขนขวาสอดเข้าระหว่างคอของนาคา และแขนซ้ายของครุฑธาผู้แข็งแกร่งก็วาดขึ้นมากอดกระชับอรินดาเอาไว้ แม้จะตกใจอยู่ไม่น้อยแต่อรินดาก็ห้ามปรามเขาไม่ได้อยู่ดี ทำได้เพียงแค่เรียกชื่อหรัญญ์เสียงเบาหวิว และยกมือขึ้นดันอกแกร่งของครุฑเอาไว้เท่านั้น
"คิดเสียว่าแขนขวาของข้าเป็นหมอน แขนซ้ายที่กอดเจ้าอยู่ก็คือผ้าห่ม และตัวข้าคือหมอนข้างของเจ้านะอรินดา"
"..."
"และจงหลับได้แล้ว"
โดยที่ไม่ได้ขออนุญาต หรัญญ์ประทับริมฝีปากลงบนกลุ่มผมหอมกรุ่นของอรินดา เพียงแค่อยากปกป้องนางจากความกลัวและความหนาวเหน็บเพียงเท่านั้น และหรัญญ์อยากให้อรินดาเลิกกังวลและนอนหลับได้สักที
ก้อนเนื้อตรงกลางอกที่ค่อนไปทางด้านซ้ายเต้นตุบ ๆ ไม่เป็นจังหวะ อรินดาเผลอกลั้นหายใจ และเมื่อขาดอากาศเป็นเวลานานนาคาจึงได้ผ่อนลมหายใจออกมาและสูดเอาอากาศเข้าปอดอีกครั้ง หรัญญ์ไม่ได้อาบน้ำจริงหรือ เหตุใดกายของเขาถึงยังส่งกลิ่นหอมกรุ่นและเย็นสดชื่นเช่นนี้ มันชวนให้อรินดาผ่อนคลายและหลับใหลลงได้ในที่สุด
แสงแดดยามเช้าส่องลอดใบไม้หนาทึบลงมากระทบใบหญ้าและดอกไม้นานาชนิดที่กำลังแข่งกันอวดโฉมความงดงามให้มวลหมู่แมลงได้มาดอมดมและผสมเกสรให้ เสียงนกร้องต้อนรับเช้าวันใหม่ สัตว์น้อยใหญ่ออกหากินตามวิถีชีวิตดังเช่นที่เคยเป็นทุกวัน
หรัญญ์ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อไล่ความเมื่อยขบเนื่องจากต้องนอนในท่าเดียวตลอดทั้งคืน แขนข้างขวาของเขาเกิดอาการเหน็บชาไปแล้วเพราะไม่สามารถขยับได้
กลิ่นหอมอ่อน ๆ ปลุกให้หรัญญ์ลืมตาขึ้นมาสู้แสง แผนที่วางไว้ว่าจะออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดคงเละไม่เป็นท่าแล้วสินะ
"อรินดา"
ร่างสูงกระซิบเรียกชื่อคนในอ้อมกอดเพียงแผ่วเบา เนื่องจากอรินดาอยู่ใกล้กับเขาเพียงนิดเดียวเอง
"อรินดา"
เอ่ยเรียกอีกครั้งพร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมเข้าปอดให้ชื่นใจ กลิ่นกายอรินดาช่างหอมหวาน เมื่อได้กลิ่นแล้วทำให้ไม่อยากห่างจากนางเลย
"ตื่นได้แล้วนะ"
มือข้างซ้ายที่กอดธิดานาคาไว้ตลอดทั้งคืนสะกิดคนในอ้อมกอดเล็กน้อย นาคาก็นอนขี้เซาเหมือนกันนะ หรัญญ์คิดในใจพรางยิ้มออกมา
อรินดาขยับตัวน้อย ๆ เมื่อถูกสะกิดเบา ๆ ตรงแขน ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้เธอหลับใหลไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้วหรือนี่ และไม่ใช่แค่เช้าธรรมดา นี่มันสายแล้วต่างหาก
"สายแล้วอรินดา"
"ท่านบอกข้าว่าจะออกเดินทางแต่เช้า"
เอ่ยเสียงอู้อี้กับครุฑตัวโต อรินดาไม่กล้าขยับตัวเนื่องจากในตอนนี้เธอกำลังถูกครุฑกอดเอาไว้อยู่
"คงนอนเพลินไปหน่อย"
หรัญญ์บอกพร้อมรอยยิ้ม ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและอรินดาจะหลับสนิทและตื่นสายได้ขนาดนี้
"ปล่อยข้าเถิด"
อรินดาขืนตัวออกจากอ้อมกอดแข็งแกร่งของครุฑ หากใครมาเห็นเข้าอรินดาเกรงว่ามันจะไม่ดี สุดท้ายหรัญญ์ก็ยอมปล่อยและลุกขึ้นนั่ง ไฟที่ก่อไว้เพื่อให้ความอบอุ่นและให้แสงสว่างเมื่อคืนนี้ได้มอดดับลงแล้ว เหลือเพียงขี้เถ้าเท่านั้น
"ข้าว่าเจ้าไปล้างหน้าก่อนเถิด"
"ท่านไม่ล้างหรือ"
หรัญญ์ลอบยิ้มเมื่อสังเกตอาการของนาคาตรงหน้าแล้วสรุปกับตัวเองได้ว่าตอนนี้อรินดากำลังกลัว สว่างแล้วนางก็ยังรู้สึกกลัวอยู่อีกหรือนี่
"ล้างสิ"
"เหตุใดไม่ไปพร้อมข้า"
ครุฑบิดขี้เกียจอีกครั้งแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มือเรียวยาวยื่นมาตรงหน้าให้อรินดาจับเป็นหลักยึดเพื่อที่จะได้ลุกขึ้นยืนโดยง่าย
"ขอบคุณ"
อรินดาเอ่ยขอบคุณคู่หมั้นเบา ๆ ที่เขาอุตส่าห์ช่วยเหลือ ไม่ใช่เพียงตอนนี้แต่อรินดาหมายความถึงเมื่อคืนด้วย ที่องค์หรัญญ์ยอมสละแขนข้างขวาของเขาให้เธอนอนหนุนต่างหมอน
ทั้งคู่เดินมาถึงลำธารในที่สุด น้ำที่เย็นสดชื่นทำให้อรินดาเกิดอยากอาบน้ำขึ้นมาในทันที แต่ลำธารแห่งนี้มีขนาดเล็กไป หากแปลงกายเป็นนาคาอรินดาเกรงว่าตัวของนางจะใหญ่กว่าลำธารแห่งนี้
"อยากอาบน้ำหรือ"
หรัญญ์ถามเพื่อความแน่ใจ หากเขาเดาไม่ผิดอาการมองดูลำธารตาละห้อยแบบนั้นอรินดาคงกำลังอยากอาบน้ำเป็นแน่
"ข้าเกรงว่าลำธารจะเล็กไปสำหรับข้า"
"งั้นเจ้าก็ไม่ต้องแปลงกาย"
อรินดาผินหน้ามามองคู่หมั้นด้วยความสงสัย ใครจะกล้าเปลื้องผ้าอาบน้ำในป่ากันเล่า
"ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าคงไม่อาบ"
หรัญญ์ลอบยิ้ม เกรงว่าสัตว์อื่นจะเห็นกายนางสินะ
"หากข้าใช้มนตร์คาถาในการอำพรางตัวเจ้าเพื่อไม่ให้สัตว์ตัวอื่นสามารถมองเห็นเจ้าได้ เจ้าจะอาบน้ำหรือไม่อรินดา"
"ท่านทำแบบนั้นได้ด้วยหรือ"
"ข้าเรียนมนตร์คาถาควบคู่กับการต่อสู้ ย่อมทำได้อยู่แล้ว"
อรินดาพยักหน้าให้กับหรัญญ์อย่างตื่นเต้น หากองค์หรัญญ์ทำเช่นนั้นได้ เหตุใดถึงไม่ยอมทำตั้งแต่เมื่อคืนนี้เล่า
"เหตุใดท่านไม่ทำตั้งแต่เมื่อคืน"
"ข้าลืม"
หรัญญ์ตอบหน้าตาย เมื่อคืนนี้มืดค่ำแล้ว หรัญญ์ไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามีสิ่งใดอยู่ใต้น้ำหรือไม่ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ร่ายมนตร์คาถาอำพรางตัว หากมีสัตว์ที่มีพิษธิดาครุฑเกรงว่าพวกมันอาจทำอันตรายอรินดาได้
ครุฑธาพนมมือและร่ายคาถาอยู่เพียงครู่ จากนั้นก็เป่าไปยังลำธารที่น้ำใสจนสามารถมองเห็นพื้นดินเบื้องล่างได้ หรัญญ์พยักหน้าเป็นสัญญาณว่าให้อรินดาสามารถอาบน้ำได้แล้ว
"ท่านเห็นข้าหรือไม่"
อรินดาโบกสองมือไปมาบนอากาศต่อหน้าครุฑผู้มีคาถา หรัญญ์ทำราวกับว่าไม่เห็นและไม่ได้ยินเสียงเธอ เขาทำเพียงยืนนิ่ง ๆ อยู่ตรงที่เดิมเท่านั้น
"อาบเสร็จเจ้ามาที่พุ่มไม้นี่แล้วเขย่ามันนะ"
หรัญญ์บอกกับธิดานาคา หากอรินดาอาบน้ำเสร็จแล้วให้นางมาที่พุ่มไม้พุ่มเดิมแล้วเขย่ามันให้เขาทราบ
"ท่านหรัญญ์"
"..."
"ท่านไม่เห็นข้าจริงหรือ"
อรินดาถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจและก็ไร้เสียงตอบรับใด ๆ จากร่างสูง คงไม่เห็นเธอจริง ๆ สินะ
"ข้าจะอาบน้ำแล้วนะ"
ร่างเล็กมองเขาอีกครั้ง และหรัญญ์ก็ทำทีเป็นสนใจผีเสื้อที่กำลังบินดอมดมดอกไม้อยู่บริเวณนั้น หรัญญ์มีคาถาจริง ๆ และเขาก็สามารถพรางตัวอรินดาไม่ให้สัตว์อื่นมองเห็นนางได้
และที่ยังไม่ได้บอกให้อรินดารู้ความจริงก็คือ มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถมองเห็นและได้ยินเสียงของนาง
อรินดาเปลื้องผ้าสีดำออกจากอกเป็นอย่างสุดท้าย สตรีที่มีรูปร่างสวยสดงดงามราวกับรูปปั้นแกะสลักเดินลงน้ำไปช้า ๆ และแย้มยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเมื่อน้ำในลำธารสามารถทำให้เธอสดชื่นได้
หรัญญ์ที่นั่งเอนหลังพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ข้างลำธารกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ อรินดางดงามยิ่งนัก ผิวขาวผ่องเป็นยองใย หน้าอกหน้าใจเต่งตึงกลมกลึงสมวัย เรียวขาเสลานั้นคงลื่นมือน่าดูหากได้สัมผัส ก้นงอนงามของธิดานาคาทำให้ครุฑอย่างเขาลำคอแห้งผากได้โดยง่าย หรัญญ์ส่ายหน้าน้อย ๆ เพื่อสะบัดไล่ความคิดไม่ดีทิ้งไป ริมฝีปากแย้มยิ้มเมื่อมองเห็นว่าอรินดากำลังเล่นน้ำอย่างมีความสุข นาคกับน้ำเป็นของคู่กันหรัญญ์รู้ดี
นานสองนานกว่าที่อรินดาจะยอมตัดใจและขึ้นจากน้ำมาแต่งกายให้เรียบร้อยตามเดิม ในตอนนี้อรินดารู้สึกราวกับว่าตนเองมีพลังเป็นอย่างมากเมื่อได้อาบน้ำ รู้แบบนี้น่าจะอาบตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
อรินดาเดินมาเขย่าพุ่มไม้ตามคำที่หรัญญ์บอกเมื่ออาบน้ำเสร็จ รอเพียงครู่เดียวร่างสูงก็ปรากฏกายขึ้นตรงหน้า
"อาบเสร็จแล้วหรือ"
ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจแต่หรัญญ์ก็ยังถามอยู่ดี
"เสร็จแล้ว ขอบคุณนะท่านหรัญญ์"
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าใสซื่อสวยหวานของนาคา จากนั้นนางก็เดินผ่านเขาไป และหรัญญ์ก็แย้มยิ้มในที่สุด เหตุใดรอยยิ้มของอรินดาถึงได้หวานหยดเช่นนี้กันนะ
"กล้วยหอมสุก"
เมื่อออกเดินทางมาได้ไม่นานหรัญญ์ก็ยื่นกล้วยหอมสุกหวีเดิมตั้งแต่เมื่อวานให้กับอรินดา นาคาสาวเอ่ยขอบคุณเขาเบา ๆ แล้วหยิบเอากล้วยไปสองลูก
หลังจากนั้นตลอดทางอรินดาก็กลับมาเป็นเช่นเดียวกับเมื่อวาน นั่นก็คือการทำเพียงพยักหน้าและส่ายหน้าให้เขาเท่านั้น หนำซ้ำยังถามคำตอบคำเหมือนเดิม
"พักที่นี่ก่อนดีกว่า"
เดินทางมาหนึ่งวันกับอีกครึ่งวันตอนนี้หรัญญ์รู้สึกว่ากำลังเข้าใกล้เขตป่าหิมพานต์ซึ่งเป็นอาณาเขตของเมืองครุฑธาเวสีแล้ว เนื่องจากมองผ่านกลุ่มใบไม้และต้นไม้หนาทึบออกไปหรัญญ์สามารถมองเห็นต้นไม้ขนาดใหญ่กว่าปกติซึ่งนั่นเป็นต้นไม้ที่เกิดขึ้นในป่าหิมพานต์เพียงเท่านั้น
"เป็นยังไงบ้างเจ้านก อยู่ที่นี่เจ้ามีความสุขดีหรือไม่"
หรัญญ์วางกล้วยสุกเอาไว้และเพียงไม่นานก็มีนกน้อยปีกสีน้ำเงินสลับแดงมาจิกกินอย่างเอร็ดอร่อย นั่นทำให้อรินดามองดูหรัญญ์อย่างสนใจ เขาคุยกับนกรู้เรื่องด้วยหรือนี่
"กล้วยหอมสุกของข้าอร่อยใช่ไหมเล่า"
"..."
"เจ้าบินไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้นะ ตรงนั้นจะมีป่ากล้วยขนาดใหญ่ที่ออกลูกทั้งปีให้เจ้ากิน"
เพราะบินผ่านป่าแห่งนี้ตั้งแต่เด็กจนโตหรัญญ์จึงจดจำและรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับป่ารัญจวนได้เป็นอย่างดี
"ทิศตะวันออกมีป่าชมพู่และแอปเปิล"
"..."
"ฮ่าฮ่าฮ่า มันคงไกลไปสำหรับเจ้าสินะ"
หรัญญ์หัวเราะกับตัวเองเบา ๆ
"ท่านคุยกับนกรู้เรื่องด้วยหรือ"
หลังจากที่แอบลอบมองเขาอยู่นานอรินดาก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความสนใจ
"ไม่"
"..."
"ข้าคุยไม่รู้เรื่อง"
"แล้วเหตุใด..."
เหตุใดหรัญญ์ถึงได้ทำเหมือนกับว่ากำลังเสวนาอยู่กับนกน้อยด้วยเล่า
"เพราะเจ้าไม่คุยกับข้านี่ เอาแต่ส่ายหน้าแล้วก็พยักหน้า ข้าเลยคุยกับนกแทน"
อรินดาอ้าปากค้าง เพราะเหตุนี้องค์หรัญญ์ถึงไม่คุยกับเธองั้นหรือ ไม่น่าเชื่อว่าครุฑตัวใหญ่และน่าเกรงขามอย่างเขาจะน้อยใจเป็น
"ข้าขอโทษ"
"เจ้าไม่ได้ผิดอรินดา"
"..."
"ข้ายังเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเจ้าอยู่"
ถึงแม้จะหมั้นหมายกันแล้วก็ตาม หรัญญ์ต่อประโยคในใจ
"ต่อไปนี้ข้าจะพยายามคุยกับท่าน และท่านไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับข้าองค์หรัญญ์ ท่านคือคู่หมั้นของข้า และท่านเปรียบเสมือนเจ้าชีวิตของข้าในตอนนี้"
อรินดาหลุบตาและก้มหน้าลงต่ำเมื่อพูดเสร็จ ฝ่ายหรัญญ์ได้แต่ถอนหายใจ เขาไม่อยากให้อรินดาคิดแบบนั้น ทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง และชีวิตของอรินดาก็ช่างสวยงาม
"อย่าคิดเช่นนั้นอรินดา"
มือเรียวเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา
"เจ้ามีชีวิตเป็นของตัวเอง และข้าเป็นเพียงคู่หมั้นของเจ้าเท่านั้นไม่ใช่เจ้าชีวิต"
หรัญญ์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เราทั้งคู่ถูกกำหนดดวงชะตาให้ผูกพันกัน และหรัญญ์ก็ยินดีที่ดวงชะตาของเขาได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอรินดาและเมืองบาดาลของนาง
"เราถูกกำหนดให้ปกป้องเมืองบาดาล และข้ายินดีจะทำเช่นนั้น"
"..."
"รวมถึงปกป้องเจ้าตราบชั่วชีวิตของข้าอรินดา"
หรัญญ์ให้คำมั่น และอรินดาก็น้ำตาคลอหน่วย หรัญญ์ไม่ได้เกิดเป็นนาคาและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเมืองบาดาลเลย แต่เขากลับต้องมามีชะตากรรมร่วมกันกับเธอ
"ข้าเป็นภาระให้แก่ท่าน"
"ฟังนะอรินดา"
สองมือของหรัญญ์กอบกุมใบหน้าสวยของธิดานาคาเอาไว้เพื่อให้อรินดาได้สบตากับเขา
"ข้าไม่ชอบที่เจ้าดูถูกตัวเองและมองว่าตัวเองไร้ค่า"
"..."
"สำหรับข้าแล้ว เจ้ามีค่ามากกว่าอัญมณีและเพชรพลอยทั้งหมด"
นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าเนียนใสอย่างเบามือ คงไม่ผิดใช่หรือไม่หรัญญ์จะกอดนาง เพราะในตอนนี้ถือว่าทั้งคู่เป็นคู่หมั้นกันแล้ว
และไม่ต้องเสียเวลาคิดนาน หรัญญ์รั้งร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แนบอก อรินดายังเด็กและอ่อนแอเกินไปในตอนนี้ ได้แต่หวังว่าตลอดเวลาที่อาศัยอยู่ในเมืองครุฑธาเวสีอรินดาจะโตเป็นผู้ใหญ่และเข้มแข็งขึ้น แต่ถึงแม้ว่านางจะยังอ่อนแออยู่หรัญญ์ก็ไม่ได้นึกกังวลใจ เพราะอย่างไรเสียเขาก็ต้องดูแลและปกป้องอรินดาไปชั่วชีวิตอยู่ดี หากในยามอรินดาอ่อนแอเขาจะปกป้องนาง และเมื่อใดที่เขาอ่อนแออรินดาจะเป็นคนปกป้องเขาเอง หากเป็นแบบนี้ชีวิตคู่ระหว่างครุฑกับนาคคงจะลงตัวและมีความสุขไม่น้อย