EP. 2 ผู้หญิงแพศยา
ทัดทองยื่นมือไปตบไหล่บุตรชาย หวังว่าเขาจะไม่ทำอะไรวู่วามขาดสติ ธรณ์เทพเติบโตมาอย่างอบอุ่น แตกต่างจากเด็กที่เติบโตมาจากครอบครัวแตกแยกที่มักเป็นเด็กมีปัญหาเมื่อบิดามารดาหย่าขาดแยกทางกัน เด็กบางคนจงเกลียดจงชังบิดามารดาที่ทิ้งตนไป ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เด็กมีท่าทางแข็งกร้าวไม่อ่อนโยนนั้นล้วนมาจากผู้ใหญ่แทบทั้งสิ้น
ตรงกันข้ามกับธรณ์เทพเขาได้รับความรักจนล้นเอ่อ เมื่อบิดาใหม่ของเขาไม่สามารถมีบุตรได้ จึงรักธรณ์เทพราวกับเลือดเนื้อเชื้อไขในอก เมื่อท่านถึงแก่กรรมเหมืองแร่ขนาดใหญ่จึงตกเป็นของเขาและมารดา ในขณะที่บิดาแท้ๆ ก็ไม่ได้ละเลย ธเนศวรเทียวมาเยี่ยมเยียนธรณ์เทพซึ่งเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวทุกเดือนไม่เคยขาด
“ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ผมไม่ยุ่งกับเรื่องแต่งงานใหม่ของคุณพ่อแน่ แต่จะรอดูตอนเกิดเรื่องวุ่นวาย ถ้าผู้หญิงหิวเงินคนนั้นคิดกอบโกยสมบัติเมื่อไหร่ เมื่อนั้นคุณพ่อคงตาสว่างได้เอง”
ชายหนุ่มกัดฟันกรอดด้วยความเคืองขุ่น ความรักที่มีต่อบิดาทำให้เขาเป็นห่วงจนไม่เป็นอันทำอะไร กระทั่งเมื่อลูกน้องคนสนิทเดินมาตามนั่นล่ะ เขาจึงหลุดออกจากภวังค์
“นายหัวครับ มีปัญหาในเหมืองอยากให้นายหัวไปช่วยดูหน่อยครับ”
“ได้ เดี๋ยวฉันจะตามไป”
ในจังหวัดกระบี่...ไม่มีใครไม่รู้จักนายหัวธรณ์เทพ เจ้าของเหมืองแร่เฟลด์สปาร์ขนาดใหญ่ อีกทั้งเขายังได้รับสัมปทานทำรังนกตามเกาะต่างๆ อีกหลายแห่ง ความร่ำรวยนั้นไม่มีใครกังขา แต่ความดุ เด็ดขาด และไม่เป็นมิตรนั้นทำให้สาวน้อยสาวใหญ่กล้าๆ กลัวๆ ที่จะทอดสะพานให้เขาก้าวเดิน
แต่น่าแปลกแม้พวกหล่อนจะหวาดกลัวความดิบเถื่อนของนายหัวธรณ์เทพ แต่พวกหล่อนกลับใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นเขา กระหายอยากอยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งของชายหนุ่มผิวสีแทนคมเข้ม
ทว่ากลับไม่มีใครได้ครอบครองเขาอย่างแท้จริง ผู้หญิงที่เข้ามาเป็นได้เพียงแค่คู่นอนชั่วครั้งชั่วคราว ครั้นเมื่อชายหนุ่มเบื่อเขาก็เชยชิดหญิงสาวคนใหม่ต่อไปเรื่อยๆ ราวกับภมรหนุ่มไม่คิดแหนงหน่ายที่จะดอมดมเกสรจากพรรณไม้งาม เป็นเช่นนี้มานานหลายปีโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงที่ผู้หญิงคนไหน...
เพียงขวัญขังตัวเองไว้ในห้อง ก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นกับหมอนนุ่ม เธอเอาแต่ร้องไห้จนไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย ด้วยความที่หญิงสาวยังเด็กนัก เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้คนที่ต้องวิ่งวุ่นจัดการทุกอย่างจึงกลายเป็นพวกข้าเก่าเต่าเลี้ยงอย่างป้าจันทร์และทนายเก่าแก่ของตระกูลที่เป็นคนจัดการงานศพของธเนศวร
“คุณขวัญคะ ล้างหน้าล้างตาแล้วเปลี่ยนชุดเสียเถอะค่ะ นี่ก็ใกล้เวลาสวดศพแล้ว” หญิงสูงวัยอายุย่างเข้าหกสิบ ผมหงอกขาวเป็นสีดอกเลาทั่วทั้งศีรษะรวบมวยไว้ด้านหลังอย่างไม่ใส่ใจ
“ป้าจันทร์ ขวัญกลัว”
คนตัวเล็กสะอื้นฮัก โผเข้ากอดแสงจันทร์เอาไว้แน่น หญิงสูงวัยถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก็จะไม่ให้เด็กสาวหวาดกลัวได้อย่างไร เมื่อตื่นนอนตอนเช้าแล้วพบว่าเจ้าบ่าวคืนเดียวไม่มีลมหายใจเสียแล้ว หล่อนยกมือขึ้นลูบหัวลูบไหล่เรียกขวัญนายผู้หญิงคนใหม่ให้กลับมา
“ไม่ต้องกลัวนะคะคุณขวัญ ไปแต่งชุดดำที่ป้าเตรียมไว้ แล้วเดี๋ยวเราจะไปวัดกัน ถ้าใครถามอะไรก็ไม่ต้องตอบ เรื่องตอบคำถามเดี๋ยวทนายประจำตระกูลจะเข้ามาชี้แจงกับนักข่าวเอง คุณขวัญไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ แค่คอยต้อนรับแขกเหรื่อที่มาเคารพศพคุณท่านก็พอ”
เพียงขวัญพยักหน้ารับ ใช้หลังมือขึ้นป้ายหยาดน้ำตาออกจากแก้มอิ่ม ที่แม้จะซีดเซียวแต่ยังเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลอย่างสาวรุ่น หากได้เพ่งพิศไม่ว่าชายใดก็จำต้องหลงใหลไปกับใบหน้าหวานราวกับนางฟ้าจำแลงอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่เว้นแม้กระทั่งธเนศวรชายสูงวัยที่ยังไม่สามารถตัดกามตัณหาออกไปจากจิตใจได้
ผิวขาวตัดกับชุดสีดำจนทำให้ร่างแบบบางยืนอยู่ในงานศพดูเด่น แม้ใบหน้าหวานจะไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางสักชนิดเดียว กระนั้นหญิงสาวก็ยังดูสวยเด่นเป็นสง่ากว่าใคร กิริยาท่าทางเดาไม่ออกเลยว่าผู้หญิงคนนี้มาจากแหล่งเสื่อมโทรมอย่างสลัม
ผู้มาใหม่เหยียดยิ้มที่มุมปากมองเจ้าภาพงานศพอย่างดูแคลน
“เข้าไปข้างในกันเถอะเทพ คุณพ่อคงกำลังรอให้ลูกกราบลาท่านเป็นครั้งสุดท้าย”
ทัดทองจับที่แขนบุตรชายให้เดินเข้าไป เมื่อเห็นเขาเอาแต่ยืนนิ่งจ้องมองเจ้าสาวคืนเดียวของธเนศวรแทบไม่กะพริบตา หล่อนไม่อยากให้บุตรชายหาเรื่องผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเพียงขวัญเพราะรังแต่จะเป็นขี้ปากชาวบ้านเสียเปล่าๆ ว่าลูกเลี้ยงกับแม่เลี้ยงไม่ถูกกัน