EP. 5 ผู้หญิงมักมากอย่างเธอ
ร่างบางสั่นสะท้านเมื่อเขาเคล้าคลึงอกนุ่มอย่างเชื่องช้าคล้ายจงใจให้หญิงสาวค่อยๆ ขาดใจลงทีละน้อย
“อือ...ปล่อยนะ”
หญิงสาวร้องประท้วงเมื่อเขาปล่อยริมฝีปากของหญิงสาวให้เป็นอิสระ แต่แล้วหล่อนก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือหนาเคล้นคลึงหนักขึ้นอย่างไม่เบามือ ร่างบางอ่อนระทดในอ้อมกอดของเขา ทว่าจู่ๆ ธรณ์เทพกลับถอยห่างจากหญิงสาวทิ้งให้ร่างบางทรุดฮวบลงไปกองบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
“นี่ไงหลักฐานที่เธอฆ่าพ่อของฉันเพียงขวัญ”
คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ร่างบางสั่นราวกับลูกนกเมื่อสบสายตาคมกร้าวของราชสีห์ผู้เป็นเจ้าป่า หญิงสาวรีบหลุบตาลงต่ำหวาดกลัวชายตรงหน้าเหลือกำลัง
“หลักฐานนั่นก็คือ...ความร่านของเธออย่างไรล่ะ”
พูดพลางเหยียดยิ้มที่มุมปากอย่างดูแคลน เสียงหัวเราะในลำคอบาดลึกราวกับคมมีดกรีดลงบนเนื้อหนังของหญิงสาวจนเป็นรอยริ้วแหว่งวิ่น อับอายจนสุดประมาณเมื่อหล่อนไม่อาจต้านทานรสจูบของเขาได้ ซ้ำยังโอนอ่อนไม่คิดขัดขืน
“หลักฐานชั้นดีที่ทำให้ฉันมั่นใจว่าฆาตกรที่ทำให้พ่อฉันตายก็คือเธอ ยายเด็กใจแตก คิดหวังรวยทางลัดด้วยการแต่งงานกับเศรษฐี ถีบตัวเองจากสลัมขึ้นมาชูคอรวมกับฝูงหงส์ คิดหรือว่าคราบน้ำครำบนตัวเธอมันจะจางหาย ต่อให้เธอชุบตัวมีผัวรวยอีกกี่สิบคน แต่เธอก็ไม่มีวันหนีกำพืดของตัวเองไปได้หรอก”
ผรุสวาทถ้อยคำเผ็ดร้อนจนเพียงขวัญหน้าชาเสียยิ่งกว่าถูกตบซ้ำๆ ลงบนแก้มนวล
“คุณ...” หญิงสาวไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดไปโต้ตอบ ด้วยทั้งเจ็บและจุกที่ใจจนมิอาจเอื้อนเอ่ย
“ตราบใดที่ยังมีฉันอยู่ อย่าหวังว่าเธอจะได้ทุกอย่างไปง่ายๆ” ชายหนุ่มก้มลง บีบที่ปลายคางของหญิงสาวจนใบหน้าบิดเบี้ยว หยักยิ้มที่มุมปากคล้ายหัวเราะในลำคอก่อนจะเดินจากไป
เพียงขวัญมองร่างสูงที่เดินจากไปด้วยความไม่เข้าใจ หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น
หล่อนถูกตราหน้าว่าร่าน ไร้ยางอายจากผู้ชายที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก...ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่หรอกหรือที่หล่อนหลงรักมาตลอดสิบปี ทว่าเขากลับมองเห็นหล่อนเป็นเพียงแค่เศษสวะชั้นต่ำที่ทำตัวเป็นเหลือบไรเกาะกินบิดาของเขา
“คุณธรณ์เทพ คุณใจร้ายเหลือเกิน”
หญิงสาวพยายามพยุงตัวลุกขึ้นยืน ทว่าหล่อนฝืนก้าวเท้าไปได้ไม่กี่ก้าวร่างบางก็หมดสติไปในที่สุด
เพียงขวัญค่อยๆ ปรือเปลือกตาขึ้นช้าๆ อย่างยากลำบากเพดานสีขาวประดับโคมไฟระย้าทำจากคริสตัลส่องแสงระยับจนหญิงสาวต้องหยีเปลือกตาลงแล้วปรับสายตาให้คุ้นชินกับแสงสว่างจ้าอีกครั้ง
“คุณขวัญ ฟื้นแล้วหรือคะ เป็นยังไงบ้าง”
“ขวัญกลับมาที่นี่ได้ยังไงคะ”
หญิงสาวจำได้ว่าหล่อนยืนอยู่ในมุมมืดด้านหลังศาลาสวดศพ แต่ตอนนี้หล่อนกลับนอนอยู่ในห้องโถงที่คฤหาสน์ธรรมธรา ทว่าหญิงสาวก็ต้องทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นใครบางคนก้าวเท้าเข้ามาใกล้ มือบางกุมคอเสื้อเอาไว้ด้วยความตกใจ ใบหน้าซีดเผือดเมื่อธรณ์เทพหยุดยืนอยู่ข้างๆ แม่บ้านแสงจันทร์
“คุณขวัญเป็นลมค่ะ คุณเทพไปพบเข้าเลยอุ้มคุณขวัญกลับเข้าไปในงานค่ะ ป้าเห็นว่างานใกล้จะเลิกแล้วเลยขอร้องให้คุณเทพมาส่งคุณขวัญที่คฤหาสน์ เป็นยังไงบ้างคะ นี่คงจะเหนื่อยจนเป็นลมไปเลย โถ...แม่คุณของป้า”
แสงจันทร์จับตามเนื้อตามตัวของเด็กสาว ความรักและเอ็นดูปรากฏชัดในแววตาของหญิงสูงวัยทำให้ธรณ์เทพแปลกใจไม่น้อยว่า เหตุใดป้าจันทร์ที่รักและเคารพบิดาของเขาจึงมีท่าทีรักและห่วงใยผู้หญิงแพศยาคนนี้นัก ทั้งที่ผู้หญิงคนนี้มิใช่หรือที่เป็นสาเหตุที่ทำให้บิดาต้องมาด่วนจากไป
“คุณขวัญขา คุณขวัญ เป็นยังไงบ้างคะเห็นลุงศรบอกว่าคุณขวัญเป็นลม อยากดื่มน้ำส้มหรือเปล่าคะ เดี๋ยวดิฉันจะไปคั้นมาให้” สาวใช้อีกคนวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา พลางร้องถามมาแต่ไกล แต่เมื่อเห็นชายหนุ่มยืนอยู่สาวใช้ก็ผงะด้วยความตกใจ
“อุ๊ย คุณเทพ จะรับน้ำส้มด้วยมั้ยคะ”
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวฉันจะกลับแล้ว” ชายหนุ่มพูดเพียงเท่านั้น เหลือบหางตามองคนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้างุดด้วยความขัดใจ หล่อนใช้มารยาอันใดถึงได้หลอกล่อให้ข้าเก่าของบิดาหลงรักจนเห็นผิดเป็นชอบ ทำหน้าซื่อๆ แต่ร้ายนัก เขาจะประมาทหล่อนไม่ได้เป็นอันขาด
“ไม่ค้างที่นี่หรือคะคุณเทพ” แสงจันทร์เอ่ยถามทายาทเพียงคนเดียวของธรรมธรา ทว่าเขากลับส่ายหน้าปฏิเสธ เหลือบหางตามองเพียงขวัญอีกครั้งอย่างอาฆาต แล้วสาวเท้ายาวก้าวออกจากคฤหาสน์ไปอย่างรวดเร็ว
“คุณธรณ์เทพเขาไม่ชอบหน้าขวัญค่ะป้าจันทร์ เขาคิดว่าขวัญคือฆาตกรที่ทำให้คุณท่านเสียชีวิต”
หญิงสาวปิดหน้าร้องไห้ ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวแล้วว่า เมื่อสิ้นสุดงานศพของสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อใด หล่อนจะย้ายกลับไปอยู่ในสถานที่ที่หล่อนจากมาดังเดิม ที่แห่งนี้ไม่เหมาะกับหล่อนเหมือนอย่างที่ธรณ์เทพได้ปรามาสไว้