ครั้งแรกที่ไม่น่าจดจำ / 1

1250 คำ
“แกโอเคหรือเปล่า สีหน้าแกดูไม่โอเคเลยนะ” หยาดฟ้าเอ่ยถามเพื่อนของเธอ เพราะตั้งแต่มาถึง มาลาแก้วยังเอาแต่ทำหน้าเหมือนคนที่วิตกกังวลอะไรบางอย่าง อิงนรีกับหยาดฟ้ารู้ดีว่า เพื่อนของพวกเธอ เพิ่งจะไปเจอตัวว่าที่เจ้าบ่าวเป็นครั้งแรก เท่าที่ถามก็พอจะเห็นแววไม่โอเคอยู่พอสมควร แต่มาลาแก้วไม่ได้ลงรายละเอียดว่าไม่พอใจว่าที่เจ้าบ่าวของตัวเองในเรื่องไหน “หน้าตาเขาเป็นยังไง” อิงนรีเอ่ยถามบ้าง “แหม ยายแก้วไม่ได้ชอบคนที่หน้าตาแบบแกหรอกนะ” หยาดฟ้าสวนขึ้นทันที “ฉันก็ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แค่อยากรู้เฉยๆ หรอกน่า” สองสาวเถียงกันไปมา “เขาหล่อมากเลยล่ะ” มาลาแก้วพูดขึ้นในที่สุด ทำให้เสียงของทั้งหยาดฟ้าและอิงนรีที่กำลังเถียงกันอยู่ เงียบลงในที่สุด “เขาหล่อมาก แต่เป็นคนที่มีใบหน้านิ่งๆ แววตาว่างเปล่า เขาดูเป็นทุกข์มาก และฉันก็กลัวว่าจะเป็นเพราะ...เรื่องที่ต้องมาแต่งงานกับฉัน” หญิงสาวพูดสิ่งที่เธอกังวล “มันแน่นอนอยู่แล้วล่ะแก้ว ฉันกับหยาดเคยผ่านช่วงเวลานี้มาก่อน เข้าใจดีว่าค่อนข้างกังวลเลยที่ถูกบังคับให้แต่งงาน แกกับเขาก็เพิ่งจะเจอกันครั้งแรกไม่ใช่เหรอ ยังไม่ทันรู้จักกันเลยเขาจะดูทุกข์ใจก็คงไม่แปลกหรอกมั้ง” อิงนรีพูดปลอบใจเพื่อนของเธอ “เอาจริงๆ นะไอ้หมอนั่นมันเป็นฝ่ายผิดนัดยายแก้วเองมาโดยตลอด แล้วถ้าอยากรู้จักยายแก้วเนี่ย ค้นหาชื่อกับนามสกุลยายแก้วก็เจอแล้วมั้ย กลัวจะไม่อยากแต่งเพราะมีเมียอยู่แล้วน่ะสิ” “ยายหยาด...” อิงนรีร้องห้าม เธอไม่อยากให้มาลาแก้วไม่สบายใจ มาลาแก้วถอนหายใจ เธอเข้าใจความกังวลของเพื่อนๆ ทั้งอิงนรีและหยาดฟ้า เธอรู้ดีว่าทั้งสองคนเป็นห่วงเธอ ไม่ว่าจะเป็นการถามแบบตรงไปตรงมาของหยาดฟ้า หรือการซักถามอย่างอ่อนโยนของอิงนรี ล้วนสะท้อนถึงความผูกพันในมิตรภาพอันยาวนานของพวกเธอทั้งสามคน มาลาแก้วรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนทั้งสอง และคิดว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกนัดเจอกับพวกเธอต่อ เพราะถ้ากลับบ้านไปพร้อมกับความกังวลนี้คงนอนไม่หลับแน่ “ฉันไม่อยากแต่งงานกับเขาเลย ฉันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองจะต้องไม่มีความสุขไปตลอดชีวิตแน่ๆ แต่พวกแกก็รู้ใช่ไหมว่าฉันขัดใจแม่ไม่ได้” มาลาแก้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่น มันเผยให้เห็นถึงความกลัวและความกดดันอย่างชัดเจน หยาดฟ้าและอิงนรีสบตากันอย่างรู้ใจ เมื่อต้องเผชิญแรงกดดันจากการแต่งงานแบบคลุมถุงชน พวกเธอต่างเข้าใจในความซับซ้อนของสถานการณ์ “เป็นเรื่องปกติที่บุคคลในการแต่งงานแบบคลุมถุงชนจะดูเป็นทุกข์ โดยเฉพาะในระหว่างการเจอกันในครั้งแรก ความกดดัน ความคาดหวัง เป็นเรื่องที่ต้องเผชิญอยู่แล้วแก้ว” อิงนรีอธิบาย พร้อมวางมือปลอบโยนบนไหล่ของมาลาแก้ว “แต่แกเคยบอกว่า ตอนแกเจอกับคุณเหนือครั้งแรก แกกับเขาก็ตกหลุมรักกันเลยไม่ใช่เหรอ ทั้งที่...ต่างคนต่างไม่เคยเจอกันมาก่อน” มาลาแก้วแย้งขึ้น “ครั้งนี้ฉันอยู่ข้างยายอิงนะ คือ...แกก็รู้ใช่ไหมว่าฉันกับสิบน่ะ ในช่วงแรกๆ มันทุลักทุเลขนาดไหน แต่พอฉันสองคนเปิดใจคุยกัน แล้วก็ทำความรู้จักกันใหม่ แกดูฉันตอนนี้สิ มีความสุขดีจะตาย” หยาดฟ้าเป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้าง “แต่แกกับคุณหมอสิบรู้จักกันอยู่แล้ว แล้วหมอสิบเขาก็เป็นฝ่ายชอบแกอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง แต่ฉัน...ฉันกับผู้ชายคนนี้เราไม่เคยรู้จักกันเลย แถมเจอกันแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะชอบกันด้วย” “ฟังฉันนะแก้ว แกกับเขายังไม่ได้เปิดใจคุยกัน นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ลองขอเวลาทำความรู้จักกันก่อน ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ แกก็ค่อยพูดกับแม่แกว่าคนนี้ไม่เวิร์ก” อิงนรีบอกกับเพื่อนของเธอ “แม่ฉันไม่ฟังหรอก แกก็รู้” “เรื่องนั้นช่างมันไปก่อน ฉันรู้ว่ายายแก้วน่ะก่อกบฏไม่ไหวแน่ เอาเป็นว่าแกลองไปทำความรู้จักกับไอ้หมอนั่นก่อน ถ้ามันดีไม่ดียังเราค่อยมาคิดกันอีกที ยังไงแกก็ยังไม่ได้ตกลงแต่งงานกับมันใช่ไหม” หยาดฟ้าเอ่ยถาม “ฉันไม่รู้ เรื่องนั้นแม่เป็นคนจัดการ” หยาดฟ้ากลอกตาด้วยความหงุดหงิด บางครั้งมาลาแก้วก็หัวอ่อนจนรู้สึกขัดใจเธอเหลือเกิน “เรื่องนั้นช่างมัน ส่วนเรื่องที่ผิดนัดบ่อยๆ ฉันว่าอาจจะมีเรื่องอะไรมากกว่านี้ ฉันจะหาคำตอบเอง ไม่ต้องห่วงนะ” หยาดฟ้าพูดต่อ “ว่างนักนะคุณหมอหยาด ตั้งแต่ย้ายไปอยู่พยาบาลใหม่เนี่ย” อิงนรีแกล้งว่า มาลาแก้วยิ้มเล็กๆ ขอบคุณการสนับสนุนและความเข้าใจของเพื่อนๆ เธอจินตนาการไม่ได้เลยว่า หากเธอไม่มีเพื่อนทั้งสองคนนี้ ชีวิตของเธอจะมีที่พึ่งและพื้นที่ปลอดภัยที่ไหนได้อีก แม้ว่าแม่กับพ่อจะรักเธอมาก แต่พวกเขาก็รักแบบผิดๆ รักแบบไม่รับฟังเธอเลย รักแบบขังเธอเอาไว้ในกรงเหมือนสัตว์เลี้ยง มาลาแก้วรู้ดีว่าความคิดพวกนี้มันแย่ แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ เธออยากมีอิสระ อยากเป็นตัวของตัวเองบ้าง แต่ก็น่าเสียดายที่เธอขี้ขลาดเกินกว่าจะทำเรื่องแบบนั้นได้ เธอมันก็แค่ลูกแหง่ที่เอาแต่กลัวจนหัวหด ไม่กล้าพูดขัดแม่ได้เลยสักครั้ง “แกจะสืบให้มันได้อะไรขึ้นมายายหยาด” อิงนรีถามขึ้น เธอไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์ตรงไหนเลย ผู้ชายคนนั้นอาจจะแค่ไม่ว่างจริงๆ ก็ได้ “ก็ถ้าเขาซุกลูกซุกเมีย หรือมีคนที่รักอยู่แล้ว เราจะได้เอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้าง เพื่อที่ยายแก้วจะได้ไม่ต้องแต่งงานไง” “แต่ถึงไม่แต่งกับคนนี้ แม่ก็ต้องให้ฉันแต่งกับคนอื่นอยู่ดี” มาลาแก้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง เธอรู้ดีว่าแม่ของเธอนั้นไม่มีทางยอมหยุดง่ายๆ เพราะเคยพูดเอาไว้แล้ว ว่าถ้าชนะศึกคนนี้ไม่มาตามนัดครั้งนี้ แม่ของเธอจะพาให้ไปรู้จักผู้ชายคนอื่น “เรื่องนั้นให้มันเป็นเรื่องของอนาคตไปเถอะ ยังไงแกก็ดูไม่ค่อยชอบไอ้หมอนี่เอามากๆ ไม่ใช่เหรอ ก็สลัดมันออกไปก่อน คนอื่นค่อยหาแผนรับมือเอา” หยาดฟ้าเชื่อว่าเซนส์ของเธอไม่ผิดแน่ เท่าที่ฟังเพื่อนของตัวเองพูดมานั้น ผู้ชายคนนี้ดูแปลกๆ แผนการขั้นต่อไปคือต้องให้มาลาแก้วนัดเขามาให้พวกเธอเจอสักครั้งดู แล้วเครื่องจับเท็จจะเริ่มทำงานเองโดยอัตโนมัติ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม