แก้วในหิน / 1
คฤหาสน์หลังมหึมาตั้งอยู่ใจกลางกรุง บนที่ดินผืนใหญ่ ล้อมรอบด้วยรั้วเหล็กสูงตระหง่าน ประตูรั้วบานใหญ่เปิดออกสู่ถนนกว้าง ด้านหน้าคฤหาสน์มีสวนหย่อมขนาดใหญ่ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ กลางสวนมีสระน้ำใจกลางสระเป็นที่ตั้งของน้ำพุรูปม้าแกะสลักด้วยหินอ่อน ประดับด้วยน้ำพุหินอ่อนขนาดย่อมอีกหลายอัน น้ำพุส่งเสียงดังกังวานให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสวยงาม สวนแห่งนี้สร้างความร่มรื่นและสดชื่นให้กับผู้มาเยือน
ตัวคฤหาสน์เป็นอาคารสี่ชั้น หลังคาทรงปั้นหยา ทาสีขาวสะอาดตา ประตูหน้าต่างประดับด้วยกระจกสี หน้าประตูมีบันไดหินอ่อนทอดยาวขึ้นสู่ตัวบ้าน ประตูหน้าบ้านแกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม
ภายในคฤหาสน์ตกแต่งอย่างหรูหรา ผนังและพื้นล้วนทำด้วยหินอ่อน เพดานสูงโปร่ง ประดับด้วยโคมไฟระย้าคริสตัล ห้องต่างๆ ภายในคฤหาสน์ล้วนกว้างขวาง และเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องนอนของมาลาแก้วตั้งอยู่ชั้นสองของคฤหาสน์ ห้องนอนกว้างขวาง ตกแต่งอย่างเรียบหรู เตียงนอนไม้สีขาว ผ้าปูที่นอนสีครีมดูสะอาดตา ข้างเตียงมีโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่หนึ่งหลัง ถัดไปเป็นห้องเก็บเสื้อผ้าและเครื่องประดับ หน้าต่างบานใหญ่เปิดออกสู่สวนหย่อมด้านนอก ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
“แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปไหนมาไหนกับหลานสาวคุณอรุณ แม่นั่นน่ะร้ายจะตาย แม่เห็นคนเขานินทากันโครมๆ ว่ามั่วผู้ชาย คบไว้ก็มีแต่จะพาเราเสียหายไปด้วย” กันยาภรณ์บอกกับลูกสาว เธอไม่ค่อยชอบอิงนรีนัก ด้วยข่าวเสียๆ หายๆ ที่มีออกมาเรื่อยๆ
“ไม่ใช่เรื่องจริงหรอกค่ะคุณแม่ อิงเขาไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก”
“อย่างแก้วจะไปทันคนแบบนั้นเหรอ ที่แม่ไม่ว่าแม่นั่นก็เพราะเห็นแก่คุณอรุณป้าของมันหรอกนะ ไม่เจียมตัวพ่อแม่ก็ไม่มียังจะทำตัวแย่ๆ ถ้าแม่เป็นคุณอรุณละก็จะถีบหัวส่งให้เชียว” มาลาแก้วรู้สึกไม่ชอบใจนัก ที่แม่พูดถึงเพื่อนของเธอแบบนี้ ทั้งที่ต่อหน้าก็พูดกับอิงนรีเหมือนกับว่าเอ็นดูแท้ๆ
“แล้วข่าวที่ว่าโรงพยาบาลของแม่หยาดฟ้าเจ๊ง จนพ่อเขาต้องเอาลูกไปแต่งงานกับโรงพยาบาลคู่แข่งนี่ก็จริงเหรอ แหมไม่เชิญคนนอกเลยนะ ขนาดแม่เป็นแม่ของแก้วเขาก็ยังไม่เชิญ สงสัยจะถังแตกจริงๆ” มาลาแก้วได้แต่นั่งก้มหน้า เธอรู้สึกอึดอัดเหลือเกินที่แม่ของตัวเอง พูดถึงเพื่อนสนิทของเธอแบบนั้น มาลาแก้วรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เธอพยายามจะโต้แย้ง แต่ก็ไม่กล้า เพราะกลัวว่าแม่จะโกรธ เธอได้แต่นั่งก้มหน้า ปล่อยให้แม่พูดต่อไป
“มาพูดเรื่องของเราดีกว่า แม่พยายามนัดลูกชายคุณวิหลายทีแล้ว ไม่ยอมมาเจอกันเลย ถ้ายังไม่ได้เจอกันอีก แม่ว่าจะหาคนอื่นมาให้แก้วดูตัวใหม่ แก้วจะว่ายังไง”
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ อ้อ...คงจะไม่ชอบใจที่แม่ว่าเพื่อนของลูกสินะ แม่รู้ว่าแก้วรักเพื่อนสองคนนี้มาก แต่แม่ก็เป็นห่วงนะ แม่อยากให้แก้วมีอนาคตที่ดี ส่วนเรื่องแต่งงาน แต่งกับลูกชายคุณวิชัยก็ดีนะ เขาเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่ มีเงินทองมากมาย แก้วจะได้สบายไปตลอดชีวิต” มาลาแก้วยังคงก้มหน้า เธอไม่กล้าสบตากับแม่ เธอรู้ว่าแม่อยากให้เธอแต่งงานกับผู้ชายสักคนที่ดีพอและเหมาะสมกับเธอ แต่เธอก็ไม่อยากแต่งงานกับคนที่เธอไม่ได้รัก
“แม่ว่ายังไง แก้วก็ว่าอย่างนั้นค่ะ” มาลาแก้วตอบเสียงเบา เธอไม่เคยมีปากไว้โต้เถียงกับใครอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับแม่ของตัวเอง กันยาภรณ์ยิ้มอย่างพอใจ เธอคิดเสมอว่าตัวเองเลี้ยงลูกได้ดีกว่าใคร ยิ่งมาลาแก้วอยู่ในโอวาทไม่เคยทำตัวเกเร เธอก็ยิ่งมั่นใจว่าตัวเองเป็นแม่ที่ประเสริฐเลิศเลอ
“แม่อยากให้แก้วคิดดีๆ นะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ ถ้าแก้วพลาดไป แม่จะเสียใจมาก” มาลาแก้วพยักหน้า เธอรู้ว่าแม่ของเธอจริงจังกับเรื่องนี้มาก แต่เธอไม่รู้ว่าจะตอบแม่ของเธออย่างไรดี ถึงตอบไปว่าไม่พร้อม ไม่อยากแต่งแม่ก็คงไม่เปลี่ยนใจ
“แม่จะโทรไปหาคุณวิชัยอีกทีนะ บอกเขาว่าให้นัดลูกชายมาเจอแก้วให้หน่อย ส่วนลูกชายคุณวิ ถ้าคราวนี้ยังไม่ยอมมาเจออีก แม่จะไม่เอาด้วยแล้วเสียเวลา” กันยาภรณ์พูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป
มาลาแก้วยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เธอรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เธอไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี เธอไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก แต่เธอก็ไม่อยากขัดใจแม่
หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปที่หน้าต่าง เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นสวนหย่อมที่ร่มรื่น นกตัวเล็กๆ บินไปมาอย่างมีความสุข เธอรู้สึกอิจฉานกเหล่านั้น เธออยากจะมีอิสระเหมือนพวกมัน อยากจะใช้ชีวิตตามความต้องการของตัวเองบ้าง
เรียนจบมาก็ไม่ได้ทำงานอะไร แม่ลากไปออกงานสังคมที่นั่นทีที่นี่ที คนก็ถามตลอดว่าทำงานอะไร แม่ของเธอก็มักจะบอกว่าเป็นผู้ช่วยของแม่ แต่ความจริงแล้วเธอไม่ได้ทำงานอะไรเลยต่างหาก แค่แบมือขอเงินพ่อแม่ใช้ไปวันๆ
เธออยากจะขอแม่ออกไปทำงาน แต่เธอก็รู้ดีว่าสิ่งนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวที่ร่ำรวย เธอมีหน้าที่ต้องแต่งงานและสืบทอดตระกูล เธอไม่มีทางเลือกอื่น เพราะแม่ได้เลือกทุกอย่างให้เธอหมดแล้ว แม้แต่เสื้อผ้าที่จะสวมใส่ในแต่ละวัน แม่ยังเป็นคนเลือกให้ นานทีจะมีสักวันที่เธอจะได้เลือกใส่เสื้อผ้าเอง แต่ก็ไม่วายต้องออกไปให้แม่ดูก่อนว่าใส่ออกจากบ้านได้หรือเปล่า
เธอถอนหายใจออกมาอย่างหนัก เธอไม่รู้ว่าอนาคตของเธอจะเป็นอย่างไร เธอทำได้เพียงนั่งรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ส่วนเรื่องแต่งงานนั้นคงทำได้แค่ทำใจ แม้แต่อิงนรีที่ขึ้นชื่อเรื่องจอมต่อต้าน หรือหยาดฟ้าที่เธอเองก็รู้ดีว่าหัวดื้อแค่ไหน ยังไม่สามารถหนีพ้นจากการคลุมถุงชนได้
สองคนนั้นโชคดีกว่าเธอก็ตรงที่ ท้ายที่สุดแล้วก็ได้ตกหลุมรักคนที่ครอบครัวเลือกให้ มาลาแก้วเองก็ได้แต่ภาวนาว่าการแต่งงานของเธอนั้น สุดท้ายจะจบลงเหมือนกับเพื่อนทั้งสองคนของเธอ
เพราะถึงโลกจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่มาลาแก้วก็ยังเชื่อว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับใครใหม่ ถ้าแต่งกับคนนี้แล้วไม่ดีอย่างที่หวัง เธอก็จะอดทนจนกว่าจะทนไม่ไหว และถ้าสุดท้ายต้องแยกกัน เธอก็จะอยู่คนเดียว