ก๊อก ก๊อก
“พี่อันดาทำไรอยู่ ป้าให้ขึ้นมาตามลงไปกินข้าว”
“โอเคๆ เดี๋ยวตามลงไป” เธอตะโกนบอกอัยย์ จากนั้นหันไปเก็บกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกราคาแพงที่สุด ที่เคยได้มาลงกล่อง ก่อนจะหยัดกายขึ้นแล้วลงไปทานอาหารเย็นกับครอบครัว
เธอกวาดสายตามองอาหารบนโต๊ะ กลิ่นหอมที่ลอยมาเตะจมูกชวนน้ำลายสอกันเลยทีเดียว หย่อนก้นนั่งลงเก้าอี้มองอาหารดีๆตรงหน้าตาประกาย
“ป้าจะบอกได้รึยังว่ารวยมาจากไหน”
“ป้าถูกล็อตเตอร์รางวัลที่หนึ่ง”
“จะ…จริงเหรอป้า!”
“ใช่ แต่พวกแกสองคนอย่าไปบอกใครนะ”
“ถึงว่ารวยมาจากไหน ป้าเล่นหวยด้วยเหรอ”
“มีบ้าง ฝันเรื่องเดิมๆติดต่อกันหลายวัน ป้าเลยลองเสี่ยงดวงซื้อ ใครจะคิดว่าตัวเองโชคดีถูกรางวัลที่หนึ่ง”
“ป้าโชคดีมากอะ”
“กินเยอะๆ ต่อไปอยากกินอะไรบอกป้าได้เลย ตอนนี้ป้ามีเงินมากพอที่จะเลี้ยงดูพวกแกสองคนแล้ว”
อันดาและอัยย์หันไปยิ้มด้วยกัน ก่อนจะตักอาหารดีๆตรงหน้ามาวางไว้จานข้าวของตัวเองแล้วตักเข้าปาก
“อร่อยไหม?”
“อร่อยที่สุดเลยครับป้า”
กุลมองหลานทั้งสองที่กำลังมีความสุขกับการกินด้วยรอยยิ้ม
“ป้ากุล”
“หืม?”
“เรื่องการรักษาของแม่ถึงไหนแล้วอะป้า”
“หมอนัดป้าเข้าไปพรุ่งนี้ คงคุยเรื่องผ่าตัดนี่แหละ”
“งั้นอันดาไปด้วย”
“พรุ่งนี้ต้องไปประชุมผู้ปกครองของเจ้าอัยย์ไม่ใช่รึไง อันดาไปกับอัยย์เถอะ เดี๋ยวป้าจัดการเรื่องนี้ให้ไม่ต้องห่วง”
“ก็ได้ค่ะ” อะไรที่ทำให้เธอต้องดิ้นรนหาเงินขนาดนี้ แม่ของเธอต้องเข้ารับการผ่าตัด และมันใช้เงินเยอะมากพอสมควร อะไรที่ทำแล้วได้เงินเธอไม่เกี่ยง อยากได้เงินมากจนถึงขั้นยอมเอาร่างกายเข้าแลกกับผู้ชายคนนั้น
ยอมกลืนน้ำลายตัวเองเพราะต้องการเงิน ไหนจะส่งเสียน้องชายเรียน เธออยากให้อัยย์เรียนสูงๆ มีสังคมดีๆ ได้ทำตามความฝันของตัวเอง เธอจึงยอมทำงานหนักเพราะครอบครัว
“อันที่จริงพี่อันดาไม่ต้องไปโรงเรียนกับอัยย์ก็ได้นะ”
“ทำไม” เธอหันไปถามอัยย์เสียงเข้ม
“เปล่า…”
“ไปเหมือนเดิม อยากรู้เหมือนกันเวลาอยู่โรงเรียนแกตั้งใจเรียนรึเปล่า”
“นับวันยิ่งเหมือนแม่เข้าไปทุกที”
“แม่คนที่สองไง”
อัยย์เงียบ เลือกที่จะไม่ต่อล้อต่อเถียงกับพี่สาวเพราะไม่อยากสร้างสงคราม เดี๋ยวมันจะไม่จบอยู่แค่นี้ กุลนั่งมองหลานสองคนพลางอมยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา
•••
หลังจากเสร็จธุระที่โรงเรียนอัยย์ อันดามาทำงานที่ร้านกาแฟตามปกติ วันนี้ลูกค้าค่อนข้างเยอะทำให้แทบไม่ได้นั่งพัก เธอทำหน้าที่รับออเดอร์หน้าเคาน์เตอร์
“รับอะไรดีคะ”
“อเมริกาโน่เย็น”
“รับขนมทาน…เพิ่มไหมคะ” จังหวะเงยหน้าขึ้นมาน้ำเสียงของเธอค่อยๆแผ่วลง ขณะเดียวกันหัวใจพลอยกระตุกวูบตามไปด้วย
คิดว่าจะไม่เจอเขาแล้วแท้ๆ แต่ดันมาเจอกันที่นี่จนได้ ไม่รู้เวรกรรมนำพามาหรือโชคชะตาเล่นตลกกันแน่
“ไม่รับ”
“ดื่มที่ร้านหรือนำกลับคะ” เธอพยายามทำตัวปกติเหมือนลูกค้าทั่วไปทั้งที่ข้างในไม่ใช่แบบนั้น
“ร้าน”
“หนึ่งรายการ แปดสิบบาทค่ะ…”
แบล็คการ์ด ใช่… ผู้ชายคนนั้นยื่นบัตรเครดิตแบล็คการ์ดจ่ายค่ากาแฟแก้วละแปดสิบบาท
ถึงไม่รู้ว่ามีแบล็คการ์ดก็รู้แล้วว่าคงรวยมาก นาฬิกาเรือนละล้าน เสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งตัวขนาดนี้ คงไม่มีใครดูไม่ออกหรอกว่าไม่รวย
“รอเครื่องดื่มซักครู่นะคะ เดี๋ยวพนักงาน…”
“เธอ”
“…”
“มาเสิร์ฟให้ฉัน”
“ฉันไม่ได้มีหน้าที่เสิร์ฟเครื่องดื่ม หน้าที่ของฉันคือรับออเดอร์ตรงนี้” เธอกระซิบกับเขาเพื่อไม่ให้ลูกในร้านได้ยิน
“อ้าวคุณรามิล! สวัสดีค่ะ”
เสียงที่ดังขึ้นทำให้รามิลและอันดาหันไปมองพร้อมกัน
รามิลยิ้มรับกับคำทักทายของ ‘โบนัส’ เจ้าของร้านกาแฟที่อันดาทำงานอยู่
“ไม่เจอกันนานเลย สบายดีนะคะ”
“สบายดีครับ”
“เป็นบุญของร้านโบนัสจริงๆที่คุณหมอมาอุดหนุน”
“หึ ผมขับรถผ่านทุกวันเห็นคนเยอะตลอดแต่ไม่เคยได้แวะ วันนี้เลยถือโอกาสแวะมานั่งดื่มกาแฟ”
“เดี๋ยวโบนัสเลี้ยง”
“ผมจ่ายไปแล้วครับ”
“คุณหมอสั่งอะไรไปคะ?”
“อเมริกาโน่”
“เดี๋ยวโบนัสแถมขนมที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านให้ทานฟรี อันดาจ้ะ พี่วานเสิร์ฟขนมให้คุณหมอรามิลด้วยนะ”
เข้าทางเขาเลยละ… เธอพูดคนเดียวในใจ
“ค่ะพี่โบนัส” เจ้านายบัญชามาขนาดนี้จะขัดได้ยังไง ไม่รู้แอบบอกเจ้านายเธอผ่านกระแสจิตหรือเปล่า ทำหน้าที่รับออเดอร์อยู่ดีๆโดนย้ายตำแหน่งไปเป็นคนเสิร์ฟเสียอย่างนั้น
“กาแฟและขนมได้แล้วค่ะ” เธอวางกาแฟและขนมที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านลงบนโต๊ะ ถึงไม่ได้มองก็รู้ว่าเขากำลังมองเธออยู่ รีบเสิร์ฟแล้วรีบกลับไปทำงานของตัวเองต่อ
“คุณหมอรู้จักอันดาเหรอคะ?” โบนัสเอ่ยถามรามิล
“ครับ เธอทำงานที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว”
“จะเข้าสี่เดือนแล้วค่ะ อันดาเป็นเด็กขยัน น่ารัก แถมยังทำงานเก่งอีกด้วยนะคะ”
“เหรอครับ” ปากขยับแต่สายตาเอาแต่จดจ่ออยู่กับผู้หญิงที่ชื่ออันดา ยกกาแฟขึ้นมาดื่ม
“คุณหมอจะจีบอันดาเหรอคะ?”
คุณหมอหนุ่มชะงักแก้วกาแฟในมือ ก่อนที่มุมปากหยักจะหักโค้งขึ้นเล็กน้อย
“เปล่า”
“โบนัสเห็นคุณหมอเอาแต่มองอันดา ถ้าอยากจีบเดี๋ยวโบนัสช่วย”
“ไม่ได้อยากจีบ แค่สนใจ”
สนใจอยากได้ไปเป็นของเล่นชิ้นใหม่… บนเตียง