4 ลืมไม่ลง

901 คำ
พนักงานในร้านดูตื่นเต้นกับการมาของผู้ชายคนนั้นยกเว้นเธอ ถ้าฟังไม่ผิด เจ้านายของเธอเรียกแทนผู้ชายคนนั้นว่า ‘คุณหมอรามิล’ เขาเป็นหมอเหรอ? คนแบบนั้นน่ะนะ แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเป็นหมอ ดูเหมือนพวกโรคจิตหื่นกามมากกว่า มีช่วงนึงสบตากัน และเป็นเธอเองที่หลบสายตา ระหว่างทำงานอยู่เสียงพนักงานด้วยกันที่พูดเรื่องผู้ชายคนนั้นดังเข้ามาในโสตประสาท ไม่ได้ตั้งใจฟังแต่บางทีเรื่องชาวบ้านก็ไม่เข้าใครออกใคร อยากรู้บ้างเป็นธรรมดา “นั่นคุณหมอรามิล ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลใกล้ๆร้านกาแฟของเรานิ ตัวจริงหล่อมาก ออร่าสุดๆ” “เนอะๆ ยังกับพระเอกซีรีส์เกาหลีแน่ะ ทั้งหล่อ เก่ง แถมยังรวยอีก คนอะไรจะเพอร์เฟกต์ขนาดนี้” “ไม่ใช่แค่หล่อและรวยอย่างเดียวนะ แต่เป็นคุณหมอที่เก่งมากกก ตัวท็อปของวอร์ดเลยมั้งน่ะ” “หมออยู่วอร์ดอะไร?” “จะไปรู้ด้วยเหรอฉันไม่ได้ทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกับหมอสักหน่อย รู้มาแค่นี้ เป็นหมอศัลยกรรมมั้ง” “รู้ไหมว่าเป็นหมอศัลยกรรมอะไร” “ไม่รู้ รู้แค่เป็นหมอศัลย์เนี่ยแหละ ป่ะๆทำงานต่อ เดี๋ยวเจ้โบนัสก็ว่าเอาหรอก” “อันดาจ้ะ” “คะ?” เธอขานรับเจ้านาย “หยิบร่มแล้วเดินไปส่งคุณหมอรามิลที่รถหน่อยสิ” เจ้โบนัสก็ขยันเปิดทางให้เขาเสียจริง แล้วถามว่าทำไหม? แน่นอนว่าเธอปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าไม่ทำเดี๋ยวก็โดนเจ้านายว่าเอา ท่าทางเจ้โบนัสกับเขาจะรู้จักกันดี เพราะเห็นนั่งคุยกันถูกคอเชียว “ส่งคุณหมอให้ถึงประตูรถเลยนะอันดา” “ค่ะเจ้” เธอเปิดประตูร้านแล้วกางร่มออก ด้วยความที่เขาสูงมากเลยทำให้เธอต้องยกร่มขึ้นสูงๆ สูงอะไรขนาดนั้น กินอะไรมาเนี่ยพ่อคุณ เอียงร่มให้เขาจนไหล่ตัวเองเปียก การกระทำแบบนี้คนรักมักชอบทำกัน แต่สำหรับเธอนะเหรอ? กลัวว่าเดี๋ยวเสื้อราคาแพงของเขามันจะเปียกแล้วหันมาว่าเธอกางร่มไม่ดี เขาขับรถแอสตันมาร์ตินคันละสิบๆล้าน สมฐานะลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลดี… เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของโรงพยาบาลแถวร้านกาแฟที่เธอทำงานมาเหมือนกัน โรงพยาบาลนี้ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ มีแพทย์เก่งๆหลายคน เห็นดาราและคนมีเงินส่วนใหญ่ชอบมาใช้บริการที่นี่ “ทำไมถึงไม่รับงาน” “เพราะไม่อยากรับค่ะ” “ต้องการเท่าไรถึงจะรับงานของฉัน” “ไม่รับเหมือนเดิมค่ะ” มุมปากหยักหักโค้งขึ้นเล็กน้อย แววตาเผยความร้ายกาจออกมาโดยอีกคนไม่ทันสังเกตเห็น อันดาเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่เงิน ในขณะเดียวกันเงินก็ไม่สามารถซื้อเธอมาได้ เป็นผู้หญิงที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลย เพชรเม็ดงามอยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่กลับเอื้อมไม่เคยถึง ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งอยากได้เธอมาครอบครองมากเท่านั้น “หมดหน้าที่ของฉันแล้ว ขอตัวกลับไปทำงานต่อก่อนนะคะ” “เดี๋ยวสิ” “คะ?” “ถ้าเปลี่ยนใจก็ติดต่อฉันมาส่วนตัว” เธอมองนามบัตรที่ผู้ชายคนนี้ยื่นมาให้หนึ่งครั้ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองเขา เธอรับนามบัตรมาให้จบๆเพื่อตัดความรำคาญ “ค่ะ” รามิลมองอันดาที่เดินกลับเข้าไปในร้านด้วยรอยยิ้มมุมปาก ความเย่อหยิ่งของเธอทำให้เขาต้องการเอาชนะ นานๆจะเจอผู้หญิงแบบนี้เข้ามาในชีวิต เป็นเรื่องท้าทายดีเหมือนกัน ณ โรงพยาบาลภูริธนากุล “สวัสดีค่ะคุณหมอรามิล” “สวัสดีครับ” คุณหมอหนุ่มทักทายพยาบาลกลับอย่างเป็นกันเองด้วยรอยยิ้ม พออยู่ในเสื้อกาวน์สีขาววิญญาณคุณหมออบอุ่นผู้แสนดีก็เข้าประทับทันที ตัวตนที่แท้จริงถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้เสื้อกาวน์ขาวสะอาด รามิลอนุญาตให้ทุกคนรู้จักตัวตนแค่ในฐานะ ‘คุณหมอรามิล’ หลังจากตรวจคนไข้เสร็จ คุณหมอหนุ่มก็กลับมานั่งทำงานที่ห้องส่วนตัวของตัวเองต่อ ขณะเดียวกันใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นพลันฉายเข้ามาในหัวจนรู้สึกหงุดหงิดและหัวเสีย ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์ที่สั่นบนโต๊ะทำงานทำให้เขาปรายสายตาไปมอง ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ามากดรับสายหลังจากเห็นเบอร์ที่โชว์หลา “ไง” (กูเพิ่งถึงไทย ไปดื่มกัน) “ไม่คิดจะพักผ่อนหน่อยรึไง แลนด์ดิ้งปุ๊บมุ่งไปหาเหล้าอย่างเดียว” (ชีวิตขาดเหล้าไม่ได้) “ที่ไหน” (ไนต์คิงส์ก็ได้ ไปเจอไอ้คิระด้วย) “รายนั้นติดเมียไปแล้ว จะมาเจอมึงกับกูไหมก่อน” (กูนัดมันเอาไว้แล้ว สองทุ่มเจอกัน) “เออๆ” เขาวางสายจาก ‘เคียนติ’ เพื่อนสนิทที่เพิ่งบินกลับจากอิตาลี คุณหมอหนุ่มเอนแผ่นหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วหลับตาลง ทุกครั้งที่ว่างสมองมักนึกถึงใบหน้าและท่าทางหยิ่งผยองของผู้หญิงคนนั้น เธอไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักอย่าง แต่ทำไมเขาถึงเอาเธอออกไปจากหัวไม่ได้ เก่งมากที่ทำให้เขา ‘ลืมไม่ลง’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม