ก่อนถึงเวลาอาหารค่ำ ชุนเหยียนจัดการแต่งองค์ทรงเครื่องให้นายของตนอย่างงดงาม ร่างระหงสวมชุดสีชมพูอ่อนปักลายดอกโบตั๋นที่ปลายกระโปรงบานพลิ้ว ที่เอวบางคาดด้วยเข็มขัดปักเลื่อมสีหวาน ผมยาวสลวยดุจผ้าไหมมัดรวบไปครึ่งศีรษะ แล้วปักด้วยปิ่นสีเงินประดับมุก และพลอยสีชมพูระยิบระยับ
คิ้วสวยขมวดยุ่งเมื่อมองเห็นตัวเองในกระจกเงา มิใช่ว่าชุนเหยียนแต่งกายให้ไม่สวย แต่ทุกอย่างมันรวมกันแล้วทำให้ภาพของเธอออกมาดูเป็นเด็กสาวบอบบางอย่างบอกไม่ถูก ทั้งตัวเต็มไปด้วยสีชมพูดูขัดใจเธอเสียจริง
“ไม่ชอบหรือเจ้าคะคุณหนู” หญิงชราผู้เป็นคนแต่งกายให้เจ้านายเอ่ยถาม ด้วยน้ำเสียงน้อยใจ ตลอดมาถงหลานเฟยไม่เคยทำหน้าตาเช่นนี้มาก่อน เพียงมองแวบเดียวก็รู้สึกถึงความไม่พอใจเสียแล้ว
“ไม่ใช่อย่างนั้น ข้าแค่...ขัดใจกับสีของเสื้อผ้าและเครื่องประดับเท่านั้น” เพราะตอนที่ยังเป็นจินซิน เธอก็ไม่เคยจับตัวเองใส่สีชมพูตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอย่างนี้มาก่อน มันจึงทำให้รู้สึกไม่ชินตา
“อาภรณ์พวกนี้ คุณหนูเป็นคนเลือกเองนะเจ้าคะ ลายปักบนผ้าก็ลงมือปักด้วยตัวเอง จะไม่ชอบอย่างไร” หญิงชราเอ่ยเถียง คนเป็นนายก้มมองเสื้อผ้าบนตัวอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้ นี่ก็คงใกล้เวลาที่ต้องไปร่วมรับประทานอาหารแล้ว ถ้ามัวเปลี่ยนเดี๋ยวได้ไปสายแน่
“งั้นเอาไว้งานหน้า เราค่อยหาเสื้อผ้าใส่กันใหม่ก็แล้วกัน วันนี้ก็ไปแบบนี้นั่นแหละ” แม้ว่าหญิงสาวผู้เป็นนายจะไม่ได้ติดใจอะไรกับการแต่งตัวแล้ว แต่ชุนเหยียนกลับยังทำหน้าตาโศกเศร้า น้อยใจที่ถงหลานเฟยไม่ชื่นชมตนอย่างแต่ก่อน
“เป็นอะไรอีกล่ะ” ก่อนจะเดินออกจากเรือน ถงหลานเฟยจึงต้องไถ่ถามคนสนิทของตนด้วยความเป็นห่วง แต่หญิงชรากลับน้ำตาเอ่อนองเสียอย่างนั้น
“ชุนเหยียน...ฮึก ชุนเหยียนทำตามที่คุณหนูต้องการไม่ได้” เมื่อได้ยินอย่างนั้น คนฟังก็สั่นศีรษะไปมาด้วยความเอ็นดู ‘คนแก่นี่ขี้น้อยใจแบบนี้เองหรือ’
“ข้าชอบ ข้าชอบมากๆ ข้าเพียงแค่จำไม่ได้ว่าตัวเองเคยแต่งตัวสวยขนาดนี้ด้วย ก็เลยตกใจแล้วก็ทำท่าทางแบบนั้น วันนี้ชุนเหยียนแต่งตัวให้ข้าสวยมากๆ เลยนะ” น้ำเสียงออดอ้อน กับท่าทางเหมือนเด็กน้อยที่กำลังพูดเอาใจคนแก่ มีหรือชุนเหยียนจะทนรับไหว ใบหน้าเหี่ยวย่นของหญิงชราเปรยยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ความสุขเดียวของชุนเหยียน ก็คือการได้เห็นคุณหนูของตนมีความสุขเท่านั้น
ทั้งคู่พากันเดินออกมาจากเรือน ระหว่างทางที่กำลังจะไปถึงลานกว้างสำหรับนั่งรับประทานอาหาร มีทางแยกหนึ่งซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเชื่อมไปหาเรือนท้ายจวนของหนิงเซียง จากตรงนี้ต้องเดินลัดแปลงผัก และสวนไปไกลพอสมควร
ที่มุมหนึ่งของทางแยก มีหญิงสาวสวมชุดสีแดงสด แต่งตัวพะรุงพะรังไปด้วยเครื่องประดับ ที่ประโคมสวมใส่มาอย่างไม่ได้จัดวาง ว่าเหมาะสมหรือเข้ากันหรือไม่
ผมยาวที่ดูหยาบแห้งจากการถูกแดดเผา กับผิวที่ดูกร้านเพราะไม่ค่อยได้รับการดูแล ทำให้ถงหลานเฟยคิดว่าสตรีผู้นี้เป็นบ่าวรับใช้ในแวบแรกที่มองเห็น แต่เพราะเครื่องประดับมีราคาของเธอที่เพิ่งจะสังเกตรู้ตอนเข้ามาใกล้ในระยะสายตา ทำให้ความคิดนั้นพลันหายไปและเธอก็คาดเดาว่านี่อาจจะเป็น แม่หวานใจของท่านแม่ทัพ เพราะสายตาที่มองมาหาตนนั้นมีความอาฆาตแค้นแรงสูงมาก
“ตายยากเหลือเกินนะ” เมื่อหญิงสาวในชุดสีชมพูเดินเชิดหน้าผ่านไปอย่างไร้ความเกรงกลัว ทำให้ปากเรียวสีแดงสดต้องเอ่ยทักด้วยถ้อยคำค่อนข้างหยาบคาย เพื่อหวังจะดึงความสนใจจากอีกฝ่าย และมันก็สำเร็จเสียด้วย ร่างบางของถงหลานเฟยหมุนกลับไปหาต้นเสียง
แววตาหวาดกลัวที่เคยก้มมองพื้นทุกครั้งที่สนทนากัน เวลานี้มันกำลังจ้องประสานกับสายตาเย้ยหยันของคนตรงหน้า จนทำให้หนิงเซียงเกิดความประหลาดใจ
“คุณหนูเจ้าคะ รีบไปเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะไม่ทันเวลาอาหาร” ชุนเหยียนกระซิบบอกผู้เป็นนาย เพราะกลัวว่าคุณหนูของตนจะถูกหญิงสาวในชุดสีแดงรังแกเอา แต่ถงหลานเฟยกลับก้าวฉับๆ เข้าไปประชิดตัวอีกฝ่าย เสียจนคนเอ่ยทักทายต้องเป็นฝ่ายถอยเท้าหนี
“ก็คงต้องอยู่อีกนาน จนกว่าจะมีทายาทให้ตระกูลเจินสัก...สองสามคน” คำพูดของคนตรงหน้า สร้างความไม่พอใจให้คนฟังอย่างมาก หนิงเซียงยังไม่รู้เรื่องที่หญิงสาวผู้อ่อนแอความจำเสื่อม จนกลายเป็นคนละคนแบบนี้
“ปากดีนักนะ คิดว่ารอดจากการจมน้ำมาได้แล้วจะสู้อะไรข้าได้งั้นเหรอ โอ๊ย!!!” มือสากของหนิงเซียงที่เอื้อมมาหมายจะจับคางมนของถงหลานเฟย ถูกจากตัวจับเอาไว้เสียก่อนด้วยความว่องไว ซ้ำยังบีบจนอีกฝ่ายหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
“ข้าไม่รู้หรอกนะ ว่าก่อนหน้านี้เจ้าเคทำอะไรข้าบ้าง แต่จำเอาไว้เลย ว่านับจากนี้ต่อไป ข้าจะไม่ยอมให้เจ้ามารังแกข้าอีกแล้ว” พูดจบมือเรียวก็สะบัดแขนของอีกฝ่ายแล้วหมุนตัวเดินหนีออกมาทันที ทั้งชุนเหยียนและหนิงเซียงต่างก็งุนงงกับเหตุการณ์ก่อนหน้า
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง” ปากกระจับบ่นพึมพำคนเดียว มือข้างหนึ่งจับคลึงมือข้างที่ถูกบีบเพื่อบรรเทาความเจ็บ เพราะเธอไม่คิดว่าจะถูกสวนจึงไม่ทันตั้งตัว ถูกถงหลานเฟยเอาคืนเสียตั้งแต่ยังไม่ทันได้ถูกตัวอีกฝ่าย ตอนแรกตั้งใจจะมาขู่ให้กลัวเรื่องที่จมน้ำแล้วรอดมาได้ แต่กลับกลายเป็นว่าตัวเองต้องมารู้สึกกลัวถงหลานเฟยที่เปลี่ยนไปเสียเองอย่างนั้นหรือ