บทที่1 องุ่นกับผี

3674 คำ
บทที่1 จิ้บๆๆๆ กระต๊ากๆๆ เสียงนกเสียงไก่ร้อง ปลุกให้เช้าวันใหม่มีชีวิตชีวา ไม่นานผู้คนก็เริ่มออกจากบ้านเพื่อทำมาหากินตั้งแต่ยังไม่รุ่งสาง ดวงตาของหญิงสาวบนเตียงลืมขึ้นพรึ่บ! จ้องมองไปยังเพดาน แต่ตอนนี้นางกำลังใช้จิตวิญญาณเพื่อแผ่ออกไปสำรวจพื้นที่บริเวณโดยรอบ บ้านหลังนี้เป็นบ้านดินแบบติดกันหลายห้อง นี่คือห้องริมใหญ่สุดเป็นห้องของแม่ มีห้องนอกสำหรับทานอาหารร่วมกันกับครอบครัว และห้องในซึ่งใช้เป็นห้องนอนใหญ่ของพ่อแม่ ถัดไปด้านข้าง ทางซ้ายเป็นห้องครัว ด้านขวายาวไปอีกสองห้องเป็นห้องลูกสาวลูกชาย แต่เพราะลูกชายคนรองไปเกณฑ์ทหารตั้งแต่อายุสิบห้า ทำให้เหลือเพียงลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กอาศัยอยู่ ตอนนี้ลูกสาวลูกชายทั้งสองรู้สึกตัวตื่นแล้ว ลูกชายคนโตมีกิจวัตรประจำวันคือหาบน้ำและผ่าฟืน ส่วนลูกสาวคนเล็กมีหน้าที่ออกไปเก็บผักป่า เก็บเห็ด และทำอาหารเช้า หนานชิงตาเป็นประกาย ‘ในที่สุดก็กลับมาแล้ว’ นางลุกจากเตียงนอน สะบัดเมือเบาๆ ผ้าห่มก็ถูกเก็บอย่างเป็นระเบียบ ซ้ำฝุ่นผงดูเหมือนจะมลายหายไปทันทีที่พลังลึกลับกวาดไปถึง ตอนนี้บนเตียงสะอาดกริบราวกับเพิ่งได้รับการทำความสะอาด คนที่ทำให้เกิดผลเช่นนั้นไม่ได้หันไปสนใจด้วยซ้ำกลับเดินเร็วๆ ออกไปหน้าบ้าน ชะโงกมองไปยังห้องนอนของลูกๆ เห็นลูกสาวเดินออกมาหยิบเหลียงสะพายหลังเพื่อขึ้นเขา ขณะที่ลูกชายจอมขี้เกียจเพิ่งลุกจากที่นอนอย่างยืดยาด “เหมยลี่ นั่นลูกจะไปไหน” “แม่ ทำไมออกมาแต่เช้าแบบนี้ ไม่ยอมห่มผ้าดีดี เดี๋ยวโดนหมอกก็ไม่สบายหรอกค่ะ” เด็กสาวได้ยินเสียงแม่จึงหันกลับมา เห็นว่าแม่สวมเพียงชุดนอนก็รีบวิ่งเข้าไปจับแขนอย่างกังวล “ลูกสาวแม่ใจดีเหลือเกิน” หนานชิงแทบร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นลูกสาวมีท่าทางเป็นห่วงเป็นใยเธอ ลูกสาวเป็นเหมือนเสื้อบุนวมตัวเล็กๆ ของพ่อแม่จริงๆ ความจริงหนานชิงนั้นชอบลูกสาวมากกว่าลูกชาย ในอดีตนั้นแม้บีบบังคับให้บุตรสาวต้องไปแต่งงานนั่นก็เพราะเห็นแก่ลูกสาวจริงๆ ตระกูลของซ่วนจงคนรักของลูกสาว แม้จะซื่อสัตย์แต่ก็ยากจนอย่างมาก ซ้ำยังมีประวัติโดนกล่าวหาว่าติดต่อต่างชาติ ปู่ย่าโดนทหารแดงประหาร พ่อแม่ก็กำลังรอการปล่อยตัว นี่ทำให้หนานชิงไม่อยากให้ลูกสาวแต่งงานกับซ่วนจง ด้วยความไม่รู้ใครๆ ก็ต้องตัดสินใจแบบนั้น เพราะไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตทหารแดงจะจากไป ผู้คนจะได้รับการชดใช้ที่เคยถูกกล่าวหา ผู้บริสุทธิ์ได้รับเกียรติกลับคืนมา แต่ตอนนี้หนานชิงได้รู้แล้วและจะไม่ทำผิดพลาดอีกครั้ง “แม่กลับเข้าห้องเถอะค่ะ นอนพักอีกสักหน่อย เมื่อวานฝนตกวันนี้น่าจะมีเห็ดป่าออกมาก” “ขึ้นเขาก็ระวังๆ ด้วยนะ” หนานชิงไม่ปฏิเสธความใจดีของลูกสาว ยื่นมือออกไปจับปลายผมอีกฝ่ายเบาๆ เสี้ยววินาทีนั้นปรากฎเส้นด้ายสีทองผูกผมของเด็กน้อยเอาไว้ ทั้งยังปรากฎขึ้นล้อมรอบกาย เพียงแต่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อเท่านั้นเอง นี่คือการคุ้มครองระดับเริ่มต้นสำหรับโลกชั้นล่างที่พลังปราณบางเบาเช่นนี้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว “งั้นหนูไปก่อนนะคะ เดี๋ยวไม่ทันคนอื่นๆ” “ค่อยๆ เดิน ไม่ต้องรีบ” หนานชิงโบกมือลาลูกสาว หันไปมองห้องข้างๆ ที่เปิดออก ก็เห็นลูกชายคนโตยืนหน้าโง่อยู่ตรงนั้น เขายังยกแขนเกาหัวแก้เก้อเมื่อถูกจับได้ว่าตื่นสาย “แม่ ผมกำลังจะไปหาบน้ำแล้วครับ” “ก็ไปสิ ใครว่าอะไรเธอกัน” “...” หมิงเทียนลูกชายคนโตหน้าเหวอเล็กน้อยขณะเดินไปหยิบถังน้ำเพื่อไปตักน้ำจากลำธารมาเติมถังในบ้าน เขารู้สึกเหมือนแม่เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ไม่รู้ว่าต่างจากปกติที่ตรงไหน หนานชิงมองตามลูกชายที่ทั้งทึ่มทั้งโง่ เพราะเขาเกิดมาในยุคเริ่มต้นของการขาดแคลน ทำให้พัฒนาแต่ร่างกาย สมองกลับถูกละเลย แม้จะกล้ามโตตัวใหญ่แข็งแรงทนทาน แต่กลับขาดสมองตระหนักคิดไปเล็กน้อย ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวโตก็เป็นหนุ่มฮอตในหมู่บ้าน เพราะเขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์และมีคุณธรรม เป็นแบบอย่างสามีที่สาวๆ ในยุคนี้ต้องการ ติดก็เพียงแม่สามีอย่างหนานชิงที่นิสัยร้ายกาจเกินไปเท่านั้น นี่ทำให้หนานชิงรู้สึกเบาใจที่ตัวเองในอดีตนั้นหัวโบราณ เมื่อถึงวันที่ต้องเกณฑ์ทหารกลับส่งลูกชายคนรองไปแทนคนโต เพราะคนโตมีแต่กล้ามไม่มีสมองไปเป็นทหารก็มีแต่ตายเปล่า ส่วนลูกชายคนรองในความทรงจำเขาเรียนดีมาตั้งแต่เด็ก เรียนจบมอสามพอดีตอนที่พี่ชายต้องเกณฑ์ทหาร พอแม่ขอร้องให้ไปเป็นทหารแทนพี่ชายเขาก็ตอบรับเนื่องจากอยากเอาอย่างคนเป็นพ่อ แม้ว่าพ่อของเขาจะหายสาบสูญไปนานแล้วก็ตาม อีกทั้ง…ในบ้านนี้มีแม่เลี้ยงดูลูกๆ มาอย่างลำบากเพียงลำพัง พวกเขาย่อมเชื่อฟังแม่เป็นที่สุด แม้หนานชิงจะเป็นหญิงม่ายแต่ก็แข็งแกร่งมากพอที่จะเลี้ยงดูลูกๆ สามคน ผ่านพ้นช่วงยากลำบากมาได้ “ตอนนี้ ข้าสามารถทำอะไรได้บ้าง” หญิงสาวผู้เคยจุติเป็นเทพมาแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่หนานชิงคนธรรมดาอีกต่อไป จิตวิญญาณของนางยังจดจำทุกชาติภพได้อย่างชัดเจน ได้เวลาที่จะนำมาใช้ประโยชน์เสียที มองไปรอบๆ บริเวณบ้าน เป็นลานเล็กๆ มีค้างองุ่นที่เคยทำตั้งแต่สมัยพ่อแม่ของเธอยังอยู่ ต่อมาเมื่อแต่งงานกับสามีก็ได้สร้างค้างขึ้นไป องุ่นนี้ก็ช่วยให้บ้านรอดพ้นวิกฤติมาได้หลายรอบแล้ว แต่เพราะคนปลูกไม่อยู่มันเลยให้ผลผลิตแย่ลงเรื่อยๆ “องุ่นงั้นเหรอ” เดินเข้าไปใกล้ค้างองุ่นขนาดราวสองหมู่ที่ถูกทิ้งร้างไว้ตามยถากรรมมานานจนแทบจะทิ้งยอดตายเสียแล้ว มือบางยื่นออกไปลูบเบาๆ ที่ใบเหี่ยวเฉา ทันใดนั้นใบเล็กก็กระดิกไปมาราวกับหมาน้อยเจอแม่นม ไม่นานต้นองุ่นค่อยๆ เขียวเป็นแถบๆ ราวกับได้รับชีวิตคืนมา “โตไวไว จะได้ทันเด็กๆ กลับมา” ว่าแล้วก็หันหลังกลับ เดินไปมุมหนึ่งของบ้านซึ่งมีแม่ไก่อยู่สองตัวตามจำนวนสูงสุดที่กองพลน้อยกำหนด ยังเป็นโชคดีแม้เป็นหญิงหม้ายสามีตาย แต่ก่อนหายตัวไปเขามียศค่อนข้างสูงจึงมีเบี้ยเลี้ยงที่เพื่อนทหารและลูกน้องช่วยกันรวบรวมส่งมาให้บ้านหยางเป็นประจำ ทำให้หนานชิงมีเงินเพียงพอที่จะเลี้ยงดูส่งเสียลูกๆ ล้วนจบมัธยมต้นกันทั้งสิ้น ตอนนี้ยังไม่ต้องไปทำงานในกองพลน้อยก็ได้ มีเพียงหมิงเทียนที่ยังออกไปทำงานเพื่อไม่ให้ชาวบ้านรู้สึกอิจฉาจนเกิดเรื่อง อีกทั้งด้วยนิสัยดั้งเดิมที่ค่อนข้างขี้เหนียวเพราะผ่านช่วงยากลำบาก แม้จะเป็นเงินเล็กน้อยก็ยังเก็บไว้อย่างตั้งใจ หนานชิงเดินกลับมาใช้มือแตะส่งพลังให้ต้นองุ่นอีกครั้งเพื่อเร่งให้มันออกผล เถาองุ่นที่กำลังมีดอกและติดผลในเวลาอันรวดเร็วอย่างพึงพอใจ กระทั่งเมื่อองุ่นกลายเป็นสีเขียวกลมพวงใหญ่ มือบางจึงถูกดึงออก ทุกอย่างกลับสู่ปกติ มีเพียงเถาองุ่นทั้งแถบที่กลายเป็นสีเขียวมีชีวิตชีวาขึ้นมา “แม่ออกมาตากหมอกทำไม ผมหาบน้ำเสร็จแล้ว เดี๋ยวจะมารดน้ำองุ่น…องุ่น?” หมิงเทียนมองพวงองุ่นตรงหน้ามารดาอย่างตกใจ วิ่งเข้าไปเด็ดมากินด้วยนิสัยตรงไปตรงมา “องุ่นจริงๆ ด้วย แม่ไปเอาองุ่นมาจากไหนครับ เอ๊ะ ขั้วมันอยู่กับต้นนี้ แต่ต้นนี้เมื่อวานมันยังเหี่ยวอยู่เลย” คิดแล้วหมิงเทียนก็มองไปรอบๆ ก่อนจะกระซิบกับแม่ “หรือมีผีจริงๆ ครับแม่ เมื่อวานนี้หมู่สามเจอผีด้วย ไม่ใช่ว่าพ่อของเรากลับมาบ้านแล้วช่วยทำให้องุ่นนี้โต เพราะรู้ว่าแม่ชอบกินเหรอครับ” “เจ้าบื้อ พ่อเธอจะกลับบ้านมาได้ยังไง” “ใช่ๆ พ่อจะกลับบ้านได้ยังไง ในเมื่อพ่อเสียสละเพื่อชาติอยู่สนามรบแล้ว แต่…แล้วองุ่นนี้ล่ะ มาได้ยังไงนะครับแม่” “อาเทียน ไม่ต้องพูดมากหรอก มีองุ่นเราก็กินองุ่น เอาองุ่นนี้ไปเก็บไว้ในครัว น้องกลับมาก็ไม่ต้องพูดมาก” “ครับ” หมิงเทียนเคยชินกับการทำตามที่มารดาบอก เขาเก็บองุ่นไปไว้ในครัวอย่างรวดเร็ว เดินออกมาก็ไม่เห็นมารดาแล้ว จึงได้กลับไปหาบน้ำมารดองุ่นอีกรอบ จะได้ทำงานของตัวเองให้เสร็จแล้วรอกินองุ่นด้วยความใจจดใจจ่อ รสหวานที่กินเมื่อครู่ยังติดอยู่ในปาก นึกสงสัยว่าทำไมถึงมีองุ่นทั้งที่เพิ่งเข้าฤดูใบไม้ผลิได้ไม่นาน แถมยังเป็นองุ่นลูกใหญ่สมบูรณ์แตกต่างจากที่ผ่านมา เพราะไม่มีคนดูแลองุ่นเป็นยกเว้นพ่อที่หายตัวไปนานแล้ว จึงออกผลแคระแกร็นรสชาติเปรี้ยว คราวนี้กลับหวานฉ่ำหรือพ่อเขากลับมาจริงๆ นะ? “เด็กโง่นั่นคิดแปลกๆ อีกแน่ๆ” หนานชิงส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อเดินมาถึงคอกไก่ คอกเล็กๆ นี้เป็นลูกชายตัวโตจัดการขึ้นมาอย่างง่ายๆ เพื่อบังฝนบังแดดให้ไก่และล้อมไว้ไม่ให้มันออกไปจากบริเวณ เพราะมีพื้นที่คอกค่อนข้างกว้างเกือบครึ่งมู่ ทำให้ไม่ต้องให้อาหารไก่บ่อยๆ เหมือนไก่ที่เลี้ยงแบบปิด มือบางยื่นออกไป ไก่ทั้งสองตัวก็เดินเข้ามาอย่างนอบน้อมราวกับเจอมารดาผู้บังเกิดเกล้า ก้มหัวให้อย่างโอนอ่อน เชื่อว่าแม้หนานชิงฆ่าพวกมันตอนนี้ก็ไม่มีแม้แต่การขัดขืน แต่ไก่ทั้งสองนั้นตอนนี้กำลังซึมซับพลังที่ถูกส่งให้ พวกมันคล้ายเรืองแสงขึ้นก่อนจะขานออกมาเบาๆ กระต๊าก~ ตีปีกสองครั้งแล้วนั่งลงอย่างสงบเสงี่ยม “ต่อไปนี้ก็ช่วยดูแลบ้านหลังนี้และเด็กๆ ด้วยนะ ผู้พิทักษ์ทั้งสอง” ว่าแล้วหนานชิงก็เปิดประตูคอกเอาไว้ เดินเข้าไปเอาไข่ด้านในซึ่งมีอยู่ฟองเดียวออกมาเพื่อนำไปเก็บไว้ในครัว ไก่ทั้งสองเดินตามออกมาด้วยความไม่ลังเล ดูแตกต่างจากไก่ทั่วไปอย่างมากเพราะตอนนี้พวกมันกลายเป็นสัตว์อสูรที่มีความนึกคิด และหนานชิงก็คือเจ้านาย คำสั่งของเจ้านายถือเป็นที่สุด บ้านหลังนี้กลายเป็นอาณาเขตของสองสัตว์อสูร ทั้งยังมีหน้าที่สำคัญในการดูแลปกป้องเจ้านายน้อยทั้งสองอีกด้วย “แม่คะ เก็บไข่มาเหรอ ทำไมออกมาตากหมอกแบบนี้ หนูว่าจะไปเก็บอยู่พอดีเลย” เดินมาถึงครัวก็พบว่าเหมยลี่กลับมาถึงแล้ว ลูกสาวดูเหมือนจะเหนื่อยไม่น้อย ใบหน้าน่ารักแดงระเรื่อ ลมหายใจไม่มั่นคงและมีเหงื่อออกโทรมกาย การขึ้นเขานั้นไม่ง่ายจริงๆ “วันนี้ได้อะไรมาบ้าง” “วันนี้โชคดีมากๆ เลยค่ะแม่ หนูได้เห็ดมาเยอะเลย” “ต่อไปไม่ต้องขึ้นเขาอีกแล้ว” หนานชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ได้ที่ไหนกันคะ อย่างน้อยๆ หนูก็อยากช่วยแบ่งเบาพี่ชาย และแม่บ้าง” “เห็นองุ่นนั่นมั้ย” กล่าวพร้อมพยักเพยิดไปทางองุ่นที่วางอยู่บนโต๊ะ เจ้าลูกชายตัวโตก็บื้อจริงๆ บอกให้เอาเข้ามาไว้ในครัว ก็วางไว้บนโต๊ะจนแทบจะทิ่มตา เจ้าลูกสาวก็บื้อยิ่งกว่าเดินเข้ามาตั้งนานแล้วยังไม่ทันสังเกตเห็นอีก หากเป็นงูคงฉกคนไปแล้ว “องุ่น?” มองตามสายตาแม่ เมื่อเห็นก็แปลกใจมากยิ่งกว่าหมิงเทียน เหมยลี่เป็นเด็กฉลาดพอๆ กับลูกคนรอง เพราะความอยากรู้อยากเห็นเลยทำให้รู้เยอะ รู้ดีว่าเวลานี้เพิ่งออกหนาวไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะมีองุ่น เว้นแต่… “แม่ไปซื้อมาหรือคะ ของจากทางใต้หรือ ต้องแพงมากแน่ๆ ทำไมคะ หรือว่าป้าใหญ่มาพูดอะไรอีกแล้ว” “...” หนานชิงไม่ตอบแต่เผยรอยยิ้มออกมา นานมากแล้วที่จากไป นานจนแทบจะจำอะไรไม่ได้ หากไม่ได้ติดอยู่ในห้วงจิตปัจจุบันพักหนึ่ง ก็คงไม่รู้หลายๆ เรื่องที่ถูกปกปิดเอาไว้ ความลับและเรื่องราวเบื้องหลังของหลายๆ คนในยุคนี้ กระทั่งป้าใหญ่ที่ลูกสาวพูดถึงก็ลืมไปแล้ว “คุณแม่อย่ายิ้มแบบนั้นสิคะ หนูเข้าใจว่าคุณแม่ไม่ชอบป้าใหญ่ แต่ไม่ว่ามองมุมไหนป้าใหญ่ก็เพียงแค่ต้องการยั่วยุคุณแม่เท่านั้น” “แม่รู้” “งั้นองุ่นนี้เราเอาไปขอเงินคืนได้มั้ยคะ พ่อค้าที่ไหนมาหลอกขายให้แม่กันแน่” “ไม่ใช่” “อาเหมยฟังแม่ก่อนเถอะ เนี่ยองุ่นนี้ได้มาจากสวนหลังบ้านเราเอง” ร่างสูงของหมิงเทียนปรากฎตัว เพราะเขาอยู่ไม่ไกลจึงได้ยินบทสนทนาของแม่และน้องสาวมาตลอด จึงอดที่จะมาแทรกไม่ได้ “หา! เป็นไปไม่ได้ พี่ใหญ่ไม่รู้เหรอคะ องุ่นเนี่ยกว่าจะสุกต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ แล้วนี่เพิ่งออกหนาวได้ไม่ถึงเดือน มันจะสุกได้ยังไง” “ก็…อาจจะออกลูกตั้งแต่ตอนยังหนาว” หมิงเทียนได้ยินอย่างนั้นก็หน้าเหวอ ก่อนจะแย้งอย่างไม่มั่นใจนัก “เป็นไปไม่ได้ แม่คะ…องุ่นนี้ คือยังไง” เหมยลี่คิดว่าคุยกับพี่ชายคงไม่รู้เรื่อง เจ้าตัวทั้งทึ่มทั้งสมองช้า ดังนั้นเลยหันกลับมาหาแม่ตนเองอย่างคาดคั้น “เด็กคนนี้แก่แดดแก่ลมไปหมดแล้ว เราเข้าไปคุยกันในห้องเถอะ อาเหมยเตรียมข้าวปลาเข้ามา ทำไข่ฟองนี้ด้วยเลย แล้วก็นำองุ่นขึ้นโต๊ะทั้งหมด แล้วเราค่อยคุยกัน” หนานชิงกล่าวนิ่งๆ ทำให้ลูกสาวอย่างเหมยลี่ไม่กล้าต่อปากต่อคำอีก หญิงสาวรับไข่จากมือแม่มาถือรู้สึกเหมือนมันร้อนแปลกๆ แต่ก็ไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ หากมีตาทิพย์เหมยลี่คงมองเห็นแล้วว่าตอนนี้ไข่ตรงหน้าได้กลายเป็นสีทองคำราวกับไข่ทองคำในตำนาน ตอนนี้กระทั่งเปลือกไข่ที่เหมยลี่โยนทิ้งไว้หลังบ้าน ยังถูกไก่อสูรทั้งสองตัววิ่งมาแย่งกันจิก เพื่อซึมซับพลังทิพย์ให้ได้มากที่สุด หนานชิงกลับเข้าห้องปิดประตูนั่งบนโต๊ะแล้วลองหลับตานิ่ง โคจรเส้นพลังออกจากห้วงจิตเพื่อไปยังจุดตันเถียน มุมปากยกยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อพบว่าบนโลกใบนี้ยังสามารถฝึกฝนได้ น่าเสียดาย…ฝึกวรยุทธ์ได้ แต่ฝึกถึงขั้นเซียนไม่ได้ ยิ่งขั้นเทพอย่างที่นางเป็นอยู่นี้ยิ่งแล้วใหญ่ ไม่เป็นไร เมื่อถึงเวลานั้นที่ลูกหลานจากไปหมดแล้ว หนานชิงก็จะรวบรวมวิญญาณของพวกเขา นำทางไปยังแดนที่สูงขึ้น ปล่อยให้พวกเขาเติบโตและเก็บเกี่ยวรวบรวมกลับคืนสู่ตระกูลเช่นเดิม สำหรับตอนนี้เธอเพียงต้องใช้ชีวิตในยุคสมัยนี้ให้ดี ชดเชยให้กับครอบครัวที่ทำให้พวกเขาต้องตายในชาติก่อนเพราะความเอาแต่ใจของตนเอง “ไข่หอมมากเลยครับแม่” เป็นหมิงเทียนที่อาบน้ำเตรียมไปทำงานตัวหอมฉุย โดยปกติแล้วชาวบ้านไม่เคร่งเรื่องความสะอาดแต่ไม่ใช่กับบ้านหยาง อีกทั้งหากเดาไม่ผิดช่วงนี้หมิงเทียนกำลังตกหลุมรัก ชายหนุ่มมักจะดูแลตัวเองมากขึ้นเมื่อมีหญิงสาวที่เขาหมายปอง “วันนี้น้องทำอะไรกิน” “ผัดไข่ใส่เห็ดมั้งครับ ผมเห็นหั่นเห็ดอยู่” “หมิงเทียนวันนี้ออกไปทำงานที่กองพลน้อย ช่วยแม่ดูหน่อยว่าสมาชิกน้อยลงบ้างหรือเปล่า” หนานชิงไม่แน่ใจว่าช่วงเวลานี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงหรือยัง “ได้ครับ แม่หาใครเป็นพิเศษรึเปล่า เช่น…เลขาธิการ?” พูดแล้วก็แอบมองหน้าแม่ไปด้วย เขาได้ยินว่าป้าใหญ่มาพูดเป่าหูเรื่องของสาวน้อยหวังถิงถิง ลูกสาวเลขาธิการ จนมารดาอยากได้มาเป็นสะใภ้ แม้เขาจะโง่แต่ไม่ใช่คนเขลา ถิงถิงคนนั้นเป็นอย่างไรเขาเห็นด้วยตาก็รู้ใจ ไม่ต้องเทียบกับมู่ฮวาคนที่เขาชอบด้วยซ้ำ หล่อนเอาแต่ใจอย่างถึงที่สุดถ้าใครได้เป็นเมียคงซวยไปแปดชาติ “ไม่ แม่แค่อยากรู้บางอย่าง ว่าแต่นี่ปีไหน เดือนไหนนะ ช่วงนี้แม่มึนหัวไม่แน่ใจวันเวลาเลย” “คงเพราะตากน้ำหมอกอีกแล้วแน่ๆ แม่สุขภาพไม่แข็งแรง อย่าเพิ่งออกไปตากแดดตากลมเลยครับ อืม…นี่ช่วงเดือนไหนผมจำไม่ได้ แต่ปี1978แล้วครับ” ‘มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว!’ ปี1978 หากอยู่ใกล้เมืองใหญ่หน่อยจะเห็นว่ามีความเปลี่ยนแปลง ประชาชนเริ่มออกมาขายของตามท้องถนน ไม่จำเป็นต้องมีตลาดมืดในเมืองใหญ่อีกต่อไป ทหารแดงถูกแทนที่ คนที่ถูกเข้าใจผิดก็ได้รับเกียรติคืนมา “พี่ใหญ่จำไม่ได้เหรอ หนูเพิ่งบอกเมื่อครู่ว่าออกหนาวได้ไม่ถึงเดือน แล้วจะเดือนไหนกันล่ะ” สาวน้อยมาถึงแล้วพร้อมถาดอาหาร พี่ชายคนโตลุกไปช่วยน้องสาวอย่างกระตือรือร้นไม่ได้เคร่งเรื่องธรรมเนียมชายหญิงมากนัก เพราะผู้เป็นแม่ก็ชอบสาวน้อยมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ได้ลำเอียงให้ลูกชายเหมือนบ้านอื่น เพียงแต่เพราะรักมากจึงกลายเป็นพ่อแม่รังแกฉันเพียงเพราะการด่วนตัดสินใจทำให้ชีวิตลูกสาวต้องจบลง ต้องบอกว่าหลังจากที่หนานชิงสูญเสียลูกสาวสุดที่รักก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เธอกลายเป็นแม่สามีใจร้ายในชีวิตแรก “ปกติหนาวตั้งแต่เดือนเก้า นี่เดือนหนึ่งเหรอ” “พี่ใหญ่เก่งมาก” “ดีนะที่เจอกับอาจารย์หรงเมื่อวาน อาจารย์เลยแกล้งมาถามเรื่องฤดูต่างๆ กับผม ตอนนั้นมู่ฮวาอยู่ด้วย เลยช่วยผมเอาไว้ไม่ให้ขายหน้า ผมเลยจำได้” “พี่!” เมื่อหมิงเทียนหลุดพูดชื่อของเด็กหญิงยากจนที่มารดาไม่ชอบขึ้นมา เหมยลี่จึงรีบเรียกเขาให้หยุดปาก เจ้าตัวโตก็ยกมือขึ้นปิดปาก ทั้งสองมองมารดาเป็นตาเดียว เห็นเพียงอีกฝ่ายหยิบองุ่นปอกเปลือกแล้ววางไว้บนจานของลูกสาวลูกชายอย่างตั้งอกตั้งใจ “งั้นเหรอ” คำตอบรับที่ออกมาจากปากของแม่ทำให้สองหนุ่มสาวรู้สึกเกินคาด “แม่ไม่โกรธใช่มั้ยคะ” เหมยลี่เอ่ยถามเพื่อความมั่นใจ “จะโกรธเรื่องอะไรกันล่ะ? กินข้าวกันเถอะ ไข่นี้ดี กินให้มากๆ” ว่าแล้วก็เริ่มคีบอาหารบนโต๊ะให้ลูกๆ โดยเฉพาะไข่ในวันนี้ ลูกชายคนโตอย่างหมิงเทียนฟื้นสติขึ้นมาก่อน เขาลองชิมไข่และพบว่ามันอร่อยราวกับเคลือบทองคำ เห็นพี่ชายมีท่าทางเกินจริงเหมยลี่ก็ลองตักมาชิมบ้าง ก่อนจะหันไปถามแม่ “แม่คะ แน่ใจนะว่าเอาไข่มาจากบ้านเรา ทำไมมันอร่อยขนาดนี้” “เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยคุยกัน ถ้าชอบก็กินเยอะๆ ต่อไปนี้บ้านเราจะไม่ขาดอาหาร” “จริงนะครับ แม่ก็กินเยอะๆ ด้วย” หมิงเทียนตื่นเต้นแต่ก็ไม่ลืมกตัญญู ยิ่งวันนี้แม่ใจดีมากไม่ดุเขาเรื่องมู่ฮวา เขาก็ยิ่งรู้สึกรักและกตัญญูต่อแม่มากยิ่งขึ้น “แม่กินเยอะๆ ค่ะ ไข่นี้อร่อยมาก” “พวกเธอกินเถอะ แม่กินมาเยอะแล้ว” “แม่อย่าโกหกพวกเราเลยค่ะ ตั้งแต่มีพวกเราแม่ก็แบ่งเนื้อ แบ่งไข่ให้พวกเราตลอด เคยกินมากเสียที่ไหน พวกเราโตแล้วนะคะ อย่ามาหลอกซะให้ยาก” “ลูกสาวคนนี้ช่างต่อล้อต่อเถียงซะจริง เอาๆ กินเข้าไปมากๆ อย่ามัวแต่ป้อนแม่ แม่ไม่ใช่ลูกนกนะ” “ใช่แล้วเหมยลี่กินเยอะๆ เถอะ เอาไว้พี่จะไปขุดไข่นกลงมาให้ทำเพิ่ม ผัดใส่เห็ดแบบนี้อร่อยมาก” “..” สองแม่ลูกมองหมิงเทียนที่ดูเหมือนใสซื่อ คิดไปเองว่าผัดไข่ใส่เห็ดแล้วอร่อย แต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรออกมา รู้ดีว่าเจ้าคนตัวโตนั้นมีความคิดที่เถรตรงขนาดไหน จนกระทั่งมื้ออาหารจบลง หมิงเทียนอาสาช่วยน้องสาวเก็บกวาด เสร็จแล้วจึงกลับมานั่งในห้องอย่างพร้อมหน้าด้วยท่าทางเคร่งเครียด “ในเมื่อมากันพร้อมหน้าแล้ว แม่ก็จะบอกตามตรง” .talk. ฝากเอ็นดูหมิงเทียนและเหมยลี่ด้วยนะคะ ถึงทั้งสองคนจะโตแล้วแต่ยังทำตัวเป็นเด็กๆกับแม่เสมอ ความจริงแล้วแม่ก็รักลูกๆนะคะ แต่อาจจะรักผิดวิธีไป ชาติแรกเลยบังคับพวกเขาเกินไป ค่อยๆอ่านและทำความเข้าใจกันไปนะคะ ใจเย็นๆ เนื้อเรื่องดำเนินค่อนข้างช้า แต่ไม่น้ำเยอะแน่นอนค่ะ เนื้อล้วนๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม