CHAPTER 05
“...”
ฉันทำในทางตรงกันข้ามนั่นก็คือการเงียบ
ไม่ต้องบอกพี่ตามก็รู้ว่าคนเดียวที่ฉันยอมเป็นต้องตาเท่านั้น เพียงแค่เอ่ยขึ้นถึงชื่อลูกแต่ถ้าคิดว่าฉันจะยอมเขาด้วยวิธีเดียวกันลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้จะชนะได้เหรอไม่มีวัน
“หึ...” รอยยิ้มเหยาะผุดออกมาแสดงให้ฉันเห็นราวกับสมน้ำหน้าก่อนต่อด้วยประโยคหนึ่ง “แต่ก่อนหน้าเธอเสียงดังมันก็แสดงว่าไม่ได้เรื่องอยู่แล้ว”
ใช่ฉันเสียงดังใส่พี่ตาม
ฉันอารมณ์ร้อนไม่เห็นหัวพี่เขา
ฉันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่กับเรื่องนั้น
“...”
“ได้ยินมั้ยตูน”
เออ ฉันมันไม่ได้เรื่อง...
แย่ เลวในสายตาของคนอื่นอยู่ดี ใช่สิฉันไม่เคยถูกใครมองว่าเป็นแม่ที่ดีอยู่แล้วไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบันความคิดนี้ยังคงฝังอยู่ในสมองของตัวเองเสมอมา
ไม่ต้องมาเสือกย้ำกันนักหรอก
ร้อยล้านคำด่าพันประโยคต่อว่าเด่นดังไปทั่วหมู่บ้านทั่วตำบลและแวดวงสังคมมีหรือที่วันๆ ฉันจะไม่ได้ยินประโยคกระแทกแดกดันจากผู้คนรอบข้างแม้แต่ครอบครัวของผู้เป็นพ่อ
ยิ่งได้ยินก็ยิ่งเกลียดชัง
แรด ร่านพ่อแม่ส่งเรียนลูกกับเอาผัว
เห็นผู้ชายดีกว่าครอบครัว อย่าใช้นามสกุลนี้เลยน่าอับอาย
ให้มันไปซะเถอะอยู่ทำไมให้เป็นเสนียด!
ผู้หญิงดีๆ เหอะเป็นไงล่ะท้องคามหาลัย ยังว่าดีอยู่มั้ยล่ะ
เดินไปทางไหนก็มีแต่เรื่องฉาวของยัยตูน ทุกวันนี้ฉันแทบเอาปิ๊บคุมหัวเดินอยู่แล้ว
เนี่ยเหรอที่เรียกแต่งตั้งตัวเองว่าเป็นผู้ดีสูงส่งกว่าคนอื่นๆ เป็นหลายร้อยพันเท่าวันๆ เดินกรีดกายไปทางไหนมีแต่คนชื่นชมยินดีแต่สิ่งที่ฉันสัมผัสได้มันแตกต่างกับที่คนจำพวกนี้แสดงออกมาอย่างสิ้นเชิง
ผู้ดีที่อยู่ในคราบความต่ำตม
นอกจากแม่บอกเลยว่าฉันจะไม่นับญาติกับใครในฝั่งพ่อเด็ดขาด
“...”
“ถ้าได้ยินจะร้องจะกรี๊ดจะด่าจะว่าพี่ก็เอาตามสบาย”
“อย่าท้า”
ฉันไม่เงียบอีกแล้วนะ
เสียงที่เล็ดลอดออกมาจากไรฟันที่ตัวเองกัดเอาไว้เนื่องจากยังโกรธอยู่ คนอย่างฉันไม่กรีดไม่ร้องก็ได้แต่ฝ่ามือที่เหลือทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมาอยู่ระดับอกอีกทั้งยังกอบกำหน่วงย่นคอเสื้อลงมาของพี่ตามก่อนจัดการจิกเล็บยาวของตัวเองลงไปทักทายผิวเนื้อขาวๆ
จะเอาให้ลึกๆ
เรียกเอาความเจ็บปวดออกมา
“มีแรงแค่นี้เหรอ?”
พอได้ฟังฉันก็จัดการบรรจงทั้งสิบนิ้วจิกลงอีก หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง ไปเรื่อยๆ ... อย่างไม่หยุดยั้งมือด้วยความโกรธแล้วมันยังน้อยไปเสียอีก
ไม่เจ็บก็บ้าแล้วแหละ
ผิวหนังขาวๆ ของพี่ตามเกิดรอยแดงเถือก ตรงที่เกิดจากรอยเล็กก็ลึกบุ๋มเข้าไปในเวลาต่อมาจะมีเลือดซึมเกิดขึ้นหลากหลายแผลนับไม่ถ้วน
“ไอ้คนเฮงซวย ไอ้ผัวปากหมา ไอ้...”
ตุบ ตุบ ตุบ
จากจิกคราวนี้กลายเป็นทุบอกแกร่งนั้นไปเรื่อยๆ สุดท้ายน้ำตาของฉันที่เหมือนหยุดยั้งไปก็ไหลออกมาจนได้ ไหลราวกับเขื่อนแตกเพราะความอ่อนแอบวกกับความน้อยใจ
“...”
“ทำไมถึงต้องว่าขนาดนี้”
“รีบอ่อนแอแล้วกลับมาเป็นคนเข้มแข็งซะตูน”
แบบไหนที่เรียกว่าเข้มแข็ง
ฝ่ามือของพี่ตูนเข้ามารวบข้อมือของฉันทั้งสองข้างไว้ในระดับอก นัยน์ตาสีนิลจับจ้องมองลึกเข้ามานัยน์ตาของฉัน ไม่ใช่ความเหยียดหยามหรือแม้แต่ความสะใจก็ไม่มี
“...”
“ถ้าอยากทุบอีก อยากจิกอีกก็เชิญ”
“...”
พี่ตามบอกฉันไปเรื่อยๆ
“จะตีจะตบทั่วตัวพี่ก็ไม่ว่าเลยถ้าเธอยอมรับความจริง”
“พี่ตามยอมเหรอ”
เขายอมให้ฉันทำได้จริงขนาดนั้นเลยเหรอหรือแค่พูดเล่น
“ก็ทำมาขนาดนี้แล้วนิ” มือใหญ่ขาวปล่อยมือฉันข้างหนึ่งจากนั้นก็กระชากคอเสื้อตัวเองลงเผยให้เห็นบาดแผลจากความคมของเล็บฉันกรีดยาวบ้าง จิกลึกบ้าง “เป็นที่ระบายอารมณ์ของเธออีกหน่อยคงไม่เป็นไรหรอก”
“ดีอยู่นิ่งๆ ไปเลย”
ปึก! ปึก! ปึก!
จะเอาให้น่วม
จะเอาให้เลิกปากดี
ฉันเบี่ยงข้อมือตัวเองออกจากการจับกุมของพี่ตามจากนั้นก็จัดการทุบลงไปตรงอกเขาอีกกี่ครั้งไม่รู้เรียกได้ว่านับไม่ถ้วน รู้เพียงแค่ว่าอยากระบายทุกสิ่งอย่างในตัวเองออกไปบ้างก่อนที่จะเข้าขั้นบ้า
จนกระทั่ง...
“เฮ้ย! ไอ้ตามอยู่มั้ยวะ ของแต่งรถ...”
เสียงนั้นหยุดหายไปก่อนเฮียติเดินเข้ามาในบ้านเห็นการกระทำของฉันทุกอย่างที่ทำกับพี่ตามเพื่อนของเขา การถอนหายใจของเฮียติก็ดังขึ้นราวกับว่าเรื่องที่กำลังเห็นนั้นน่าเบื่อหน่ายมาก
สายตาเฮียติมองไปตรงพี่ตามที่ละมือออกจากคอเสื้อตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแต่เชื่อเถอะว่ามันไม่ไวเท่าสายตาของเฮียติหรอก ไม่นานสายตาคู่นั้นก็เคลื่อนมาหยุดตรงฉันที่ลดสองมือลงแนบลำตัว
“ไอ้เฮีย... มึงเอาวางไว้ตรงนั้น” ส่วนนี้เป็นเสียงพี่ตาม
“ตีกันทุกวันไอ้ผัวเมียคู่นี้ ถามจริงไม่เบื่อเหรอ?”
เฮียติพูดก่อนวางกล่องอุปกรณ์แต่งรถลงและยืนท้าวเอวส่งใบหน้าเรียบๆ มองฉันและพี่ตามอีกครั้งหนึ่ง ความจริงแล้วเฮียติอายุเท่ากับพี่ตามซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมพี่ตามถึงเรียกเฮียติ ไอ้เฮียติซึ่งบ้างครั้งก็มีคำว่ามึงโผล่มาด้วย
“ถามน้องมึงดูสิ”
นั่นไงมีคำว่ามึงมาพูดยังไม่ทันหุบปาก
“นี่ผัวแกนะไม่ใช่กระสอบทรายให้ซ้อมนะไอ้ตูน”
รู้ว่าผัว...
“ใครกันล่ะคะที่สร้างปัญหาก่อน”
คราวนี้เป็นฉันพูดขึ้นพร้อมเหลือบมองไปยังรูปถ่ายที่กองบนโต๊ะเมื่อเห็นเฮียติก้มหยิบขึ้นมาดูก็พอใจขึ้นมาก ไม่รู้แหละครั้งนี้ไม่ยอมแน่ฉันจะไม่เงียบจะเถียงๆ จนถึงจุดที่ชนะ
“แล้วยังไงทำไมไม่จบปัญหา ดีนักเหรอใช้กำลังแบบนี้”
อ้าว?
หลักฐานก็คาตาทำไมไม่เข้าข้างน้องบ้างล่ะ ตูนเป็นญาติเฮียตินะ
“ถามเพื่อนเฮียสิคะ”
ฉันพูดโดยไม่มองหน้าเฮียติแต่ยืนกอดอกมองพี่ตามด้วยสายตาฟาดฟันเต็มเปี่ยมและก็ยิ่งหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อพี่ตามกับทำท่าทางเฉยๆ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
อยากข่วนอีกสักหลายๆ แผลเสียจริง
“ก็เรื่องผู้หญิงคนนั้นที่เฮียติเห็นเมื่อคืน” พี่ตามพูดและเดินไปนั่งข้างเฮียติ
“ที่ชื่อบุ๋ม?”
ชื่อผู้หญิงคนนี้เข้ามาในบทสนทนาอีกครั้งโดยที่มือใหญ่ของเฮียติเข้าไปกระชากคอเสื้อพี่ตามลงเหมือนกำลังสำรวจรอยบนตัว
แบบนี้ก็ได้เหรอ?
“เออ”
เขาเพื่อนกันนิทำไมไม่รู้
เพื่อนกันมีเหรอจะไม่เข้าข้างกัน
เพื่อนกันมีเหรอจะไม่ให้ท้ายส่งเสริมกัน
พอพี่ตามยอมรับสายตาเฮียติก็มองขึ้นมาปะทะกับสายตาของฉันที่ยังยืนนิ่งไม่เข้าไปนั่งโซฟา ยังไงซะในความคิดของฉันก็ไม่อยากอยู่ตรงนี้นานนักหรอกอยากขึ้นห้องเต็มแก่
“อ๋อ... เมียมึงหึงนี่เอง”
เฮ้ย!
“ตูนไม่ได้หึง!”
“ไม่หึงผัวเลย ผัวทั้งคนนะเว้ยไอ้ตูน ยิ่งหล่อๆ เบ้าหน้าโอป้าอยู่ด้วย”
“ไปกันใหญ่แล้วเฮียติ”
“แล้วโกรธหรือหึงพี่เรื่องอะไร ไหนบอกสิ” คราวนี้เป็นเสียงเรียบของพี่ตาม นัยน์ตาสีนิลเงยขึ้นมาจ้องมองฉันแบบไม่กระพริบ พี่ตามต้องการคำตอบ “ไม่ใช่เรื่องผู้หญิงคนนี้เหรอ ไม่ใช่เรื่องที่พี่เที่ยวผับไอ้เฮียติเหรอ”
“ยังไงกันแน่ไอ้ตูน”
เฮียติเอ่ยทับอีก สองคนนี้ร่วมมือกันรุมฉันที่มีหัวเดียวกระเทียมลีบ
“ก็... พี่ตามโกรธตูนเรื่องใช้ก้านมะยมตีลูก”