บทที่ 5 อนุเฉียว

2730 คำ
ข้านี่แหละฮูหยินรสแซ่บ บทที่ 5 อนุเฉียว สวีจิ้งเทียนที่ถูกหนิงเจียวปลุกให้ตื่น เขาลืมตาขึ้นมาด้วยลมหายใจที่เหนื่อยหอบ หัวใจสั่นระรัว ก่อนจะหันไปพบกับหนิงเจียวที่นั่งมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า "เหตุใดเจ้าจึงใส่เสื้อผ้าเร็วยิ่งนัก?" หนิงเจียวขมวดคิ้วมองสวีจิ้งเทียนด้วยความหวาดกลัวในจิตใจ โรคจิตกำเริบหรืออย่างไร อยู่ดีดีมาถามว่าทำไมนางถึงใส่เสื้อผ้าเร็ว นางก็ใส่อยู่ไม่ได้ถอดมันออกเสียหน่อย!!! "ข้าก็ใส่มันอยู่ตลอด เหตุใดท่านจึงถามเช่นนี้เล่าเจ้าคะ!?" สวีจิ้งเทียนรีบตั้งสติ เขาปัดมือของหนิงเจียวที่จับไหล่ของเขาเอาไว้ออกด้วยความรังเกียจ ก่อนจะมองสำรวจร่างกายตนเองอย่างถี่ถ้วน ให้ตายสิ!!!ฝันหรอกหรือ ช่างฝันอุบาทว์เสียจริง!! "สวีจิ้งเทียน ท่านจะรับสำรับเช้าเลยหรือไม่เจ้าคะ?" หนิงเจียวยื่นหน้ามาถามสวีจิ้งเทียน เขาที่กำลังตื่นนอนยังอยู่ในอาการงัวเงียจึงหันมามองนางก่อนจะพบกับ เนินอกอวบอิ่มที่ล้นทะลักใหญ่มหึมานั้นอีกครั้ง "ข้าอยากรับนม" "นม?นมอะไรเจ้าคะ?" "นมจากเต้า?!!!หุบปากเดี๋ยวนี้นะ ไสหัวไปสตรีไร้มรรยาท!!!" สวีจิ้งเทียนที่รู้ตัวว่าตนเองพูดสิ่งใดออกไปนั้น ก็รู้สึกกระดากอายเป็นอย่างยิ่ง เขาจึงตะคอกใส่หนิงเจียวเพื่อระบายอารมณ์เก้อเขิน หนิงเจียวนึกเบ้ปากอยู่ในใจ โรคประสาทกำเริบอีกแล้วสินะ หึ!!! อยากกินอะไรก็หากินเอาเองเถิด นางไม่สนใจแล้ว!!! หนิงเซียนเดินเข้าไปในครัว เพื่อนำชาจู๋เยี่ยชิง (ชาไผ่ใบเขียว) ที่แม่ใหญ่ให้คนนำมาให้นางเมื่อวาน นำมาต้มชงดื่ม กลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนกำลังยืนอยู่ท่ามกลางป่าไม้ที่มีสายลมพลิ้วไหล ช่างเพลิดเพลินใจเสียจริง  สวีจิ้งเทียนที่จัดการตนเองเรียบร้อยแล้ว เขาเดินออกมานั่งที่โต๊ะอาหาร มองดูอาหารตรงหน้าก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น "เหตุใดวันนี้อาหารจึงมากเช่นนี้?" สวีจิ้งเทียนหันไปเอ่ยถามไป๋เฉียนที่กำลังยกน้ำแกงสร่างเมาส่งมาให้เขา ไป๋เฉียนจึงเงยหน้าตอบสวีจิ้งเทียนด้วยรอยยิ้มสดใส "ฮูหยินน้อยเป็นคนทำเองทั้งหมดเจ้าค่ะ" สวีจิ้งเทียนรู้สึกแปลกใจไม่น้อย เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านางจะสามารถทำอาหารได้น่าทานเช่นนี้ หนิงเจียวเดินออกมาพร้อมกับชาจู๋เยี่ยชิง ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับสวีจิ้งเทียน คีบอาหารใส่ปากอย่างไม่สนใจเขา "สตรีที่แต่งงานแล้วควรต้องดูแลสามีตนเอง เหตุใดเจ้าจึงกินก่อนข้าเช่นนี้?" หนิงเจียวหันไปมองสวีจิ้งเทียน ก่อนจะคีบเนื้อปลาราดพริกใส่ถ้วยให้เขา อย่างไม่ใส่ใจ สวีจิ้งเทียนรู้สึกหงุดหงิดที่นางทำเมินเฉยต่อเขา ทั้งที่เมื่อคืนนางยังร้อนแรง.... เอ่อ...ไม่ใช่สิ นั่นมันแค่ความฝัน "เจ้าทำอาหารมากมายเช่นนี้ สิ้นเปลืองเงินของข้าไม่น้อย หาเงินเองไม่เป็นยังพึ่งพาสามี กลับใช้เงินมือเติบ ไร้การอบรมสั่งสอนเสียจริง อีกอย่างข้าไม่กินเผ็ด จำใส่สมองอันน้อยนิดของเจ้าเอาไว้ด้วย!!!" หนิงเจียววางตะเกียบลงก่อนจะหันไปมองไป๋เฉียน "ไป๋เฉียน ยกอาหารที่ข้าทำไปไว้ที่โต๊ะไม้ริมสระให้หมด ข้าจะไปกินที่นั่น" "เจ้าค่ะ ฮูหยินน้อย" สวีจิ้งเทียนขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะหันไปมองหนิงเจียวตาขวาง "เจ้ากล้า!!!" "กล้าเจ้าค่ะ นี่คือวัตถุดิบที่แม่ใหญ่ให้คนนำมาจากตระกูลหนิง ในเมื่อท่านบ่นด่า ว่าข้าใช้ของสิ้นเปลือง เช่นนั้นท่านก็กินข้าวเปล่าไปเถิดเจ้าค่ะ ประหยัดดีและไม่เผ็ดด้วย ข้าเองก็จะกินของที่แม่ใหญ่นำมาให้ข้าเจ้าค่ะ จะได้ไม่สิ้นเปลืองเงินท่านให้ท่านต้องรำคาญใจ" หนิงเจียวกำลังจะเดินออกไป แต่ทว่าสวีจิ้งเทียนกลับรั้งเอวบางระหงของนางให้เข้าไปซุกอยู่ในแผงอกของเขา หน้าอกอวบอิ่มบดเบียดเสียดสีกับแผงอกของสวีจิ้งเทียนจนใจเขาสั่นระรัว "ปล่อยเจ้าค่ะ!!!" หนิงเจียวพยายามสลัดตัวให้หลุดออกจากการเกาะกุมของเขา แต่คนร่างใหญ่ตรงหน้ากลับกอดรัดนางเอาไว้แน่น หมับ!!! หนิงเจียวมองหน้าสวีจิ้งเทียนด้วยสายตาว่างเปล่า แต่ภายในใจของนางแทบจะบ้าคลั่งอยู่แล้ว เขาใช้มือหนาใหญ่ขยำขยี้บั้นท้ายที่แสนงอนงามของนาง ด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์ นางเป็นสตรีที่มีบั้นท้ายงดงามไม่น้อย ชวนให้มองและน่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง น่าเกลียดที่สุด!!!คนผีทะเล "สวีจิ้งเทียน!!!" "ทำไมหรือ?" "เอามือออกจากก้นของข้าเดี๋ยวนี้!!!" "เจ้าคงชอบสินะ ดูก็รู้ แต่เจ้าทำเป็นเสแสร้งไร้เดียงสา เพื่อหลอกให้ข้าตายใจ ข้าเองก็เป็นสามีของเจ้า จะจับจะคลึงเจ้าตรงไหนคงไม่ต้องขออนุญาตกระมัง?" ไม่หลงตัวเองสักวันจะตายหรืออย่างไร!! โอะ!!!นี่มัน หนิงเจียวรับรู้ได้ถึงความแข็งดุนดันที่สัมผัสกับท้องน้อยของนางอย่างชัดเจน ให้ตายเถอะ!!!!นี่มันเวลาอาหารเช้า เขานี่มัน...!!! ชี้โด่เด่ไม่เป็นเวล่ำเวลาเสียจริงเชียว หนิงเจียวพยายามสะกดข่มอารมณ์ไม่ให้ยื่นมือไปจับแท่งหยกมังกรผงาดของเขา ทั้งที่ในใจของนางก็อยากจะลองจับมันแบบเต็มๆมือสักครั้ง ให้ตายสิ!!!นี่นางเป็นคนเช่นนี้ไปตั้งแต่เมื่อใดกัน เพราะเขาคนเดียว เพราะเขาที่พานางติดนิสัยหื่นกามไปด้วย หึ!!!หากนางยั้งอารมณ์ไม่อยู่เข้าสักวัน คอยดูเถิด เขาจะต้องร้องครวญครางจนแทบกราบขอชีวิต!! สวีจิ้งเทียนอุ้มหนิงเจียวเข้าไปในห้อง ก่อนจะลงกลอนอย่างแน่นหนา เขาจับนางโยนลงบนเตียง ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองลงไปกองที่พื้น หนิงเจียวเมื่อได้เห็นมังกรผงาดของสวีจิ้งเทียนอีกครั้ง สติก็เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ใจคอจะไม่ให้มองอย่างอื่นบ้างหรือไร!!! "คุณชายใหญ่/ฮูหยินเจ้าคะ ฮูหยินผู้เฒ่าให้ไปพบที่เรือนใหญ่เจ้าค่ะ" สวีจิ้งเทียนรู้สึกเหมือนโดนไม้ตีแสกหน้า อารมณ์ของเขากำลังขึ้นจนถึงขีดสุด แต่ทว่ากลับถูกขัดจังหวะเช่นนี้!!! สวีจิ้งเทียนกับหนิงเจียว รีบจัดแจงเสื้อผ้าอาภรณ์ให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกัน เมื่อไปถึงที่เรือนใหญ่ เขาก็พบว่าท่านย่าและท่านแม่กำลังนั่งรออยู่ และยังมีหญิงสาวผู้หนึ่งนั่งอยู่ด้านข้างท่านแม่ด้วยท่าทีเรียบร้อย "จิ้งเอ๋อร์ หนิงเจียว มานี่เร็วเข้า" สวีจิ้งเทียนและหนิงเจียวนั่งลงข้างกัน ก่อนจะหันไปมองท่านย่า "นี่คือคุณหนูรอง เฉียวฟาง เป็นบุตรสาวของท่านเสนาบดีกรมพระคลัง แล้วนั่นก็คือฮูหยินรองตระกูลเฉียว" สวีจิ้งเทียนและหนิงเจียว ทำความเคารพฮูหยินรองตระกูลเฉียว เฉียวฟางลอบส่งสายตายั่วยวนให้สวีจิ้งเทียน เขาเพียงมองนางผ่านๆอย่างไม่ใส่ใจเท่าใดนัก "หนิงเจียว ย่ามีเรื่องจะบอกเจ้า" "เจ้าค่ะ ท่านย่า" "ย่าจะให้จิ้งเอ๋อร์ แต่งเฉียวฟางเข้ามาเป็นภรรยารอง หวังว่าเจ้าจะไม่ขัดข้อง" ไม่ขัดเลยจ้า ไม่ขัดเลยจ้า!!! "หลานไม่ขัดข้องเจ้าค่ะท่านย่า" ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้าด้วยสายตาพึงพอใจ แต่สวีจิ้งเทียนกลับขมวดคิ้วมุ่น เขาลอบยื่นมือไปบีบบั้นท้ายงอนงามของนางด้วยสายตาถมึงถึง สตรีผู้นี้!!!ไหนบอกว่าชอบเขานักหนา เหตุใดจึงไม่รู้สึกหึงหวงบ้างเล่า!!! หนิงเจียวนั่งนิ่งเฉย ไม่สนใจสวีจิ้งเทียนเท่าใดนัก "ท่านย่า หลานเพิ่งจะแต่งงานนะขอรับ?" "ไม่เห็นจะเป็นอะไร ความจริงย่าคิดจะให้แต่งพร้อมกันเสียด้วยซ้ำ บุรุษมีภรรยามาก ยิ่งเสริมสร้างบารมี ลูกหลานจะได้มากมายเต็มจวน" "หลานจะให้นางเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น หลานจะไม่แต่งตั้งสตรีใดขึ้นเป็นภรรยารองให้เทียบเท่าภรรยาเอก หากไม่ตกลงตามนี้ หลานก็ขออภัยด้วยที่จะไม่ยินยอมแต่งนางเข้ามา" "จิ้งเอ๋อร์" "ท่านย่าก็รู้ ว่าหลานพูดคำไหนคำนั้น!!" สวีจิ้งเทียนเอ่ยด้วยสายตาเย็นชา เขามีปมกับเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก ท่านพ่อรักภรรยารอง ให้ภรรยารองมาข่มเหงท่านแม่ของเขา ถึงเขาจะรังเกียจหนิงเจียวเพียงใด แต่ก็ไม่ได้ใจดำอำมหิตให้นางต้องถูกภรรยารองที่แต่งเข้ามารังแกจนตกตาย หากนางจะต้องตาย ก็จะต้องตายด้วยน้ำมือของเขาเพียงเท่านั้น!! ฮูหยินรองเฉียว และคุณหนูรองเฉียวฟางมีใบหน้าที่ซีดเผือด  นางวางแผนเอาไว้ หากได้แต่งเข้ามาเป็นภรรยารอง อย่างไรสักวันก็มีสิทธิ์เทียบเท่ากับภรรยาเอก นางจะต้องทำให้หนิงเจียวหลุดจากตำแหน่งภรรยาเอกให้ได้ แต่ทว่า!!เหตุใดสวีจิ้งเทียนเป็นบุรุษที่หลอกได้ยากนักเช่นนี้เล่า!! ช่างเถิด!!ถึงจะเป็นอนุ ก็สามารถเป็นที่รักใคร่ของสวีจิ้งเทียนได้ นางยอมทุกอย่าง!!!นางเชื่อว่านางจะเป็นที่รักของสวีจิ้งเทียนอย่างแน่นอน "ท่านแม่ ลูกยอมแต่งเข้ามาเป็นอนุเจ้าค่ะ" "เฉียวฟาง!!!" "ลูกรักท่านพี่สวีจิ้งเทียนเจ้าค่ะ" เฉียวฟางพูดด้วยใบหน้าที่เขินอายจนพวงแก้มเป็นสีแดงระเรื่อ ช่างงดงามชวนมองไม่น้อย "เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้เถิด อีกสองก็ให้เฉียวฟางแต่งเข้ามาเป็นอนุที่จวนตระกูลสวี พวกเราจะต้อนรับและดูแลนางอย่างสมเกียรติ" หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย สวีจิ้งเทียนก็เดินออกมาพร้อมกับหนิงเจียว เขาสังเกตเห็นว่านางเงียบมาตลอดทางไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเขาเหมือนเช่นทุกวัน "หนิงเจียว" "เจ้าคะ" "เจ้าคงกำลังคิดสินะ ว่าหากข้าแต่งอนุเข้ามาแล้ว เจ้าจะไม่เป็นที่โปรดปรานของข้า" หนิงเจียวรู้สึกเบื่อหน่ายกับโรคหลงตัวเองของสวีจิ้งเทียนเหลือจะทน ที่นางเงียบเพราะนางหิวต่างหากเล่า ข้าวเช้ายังไม่ได้กิน นางต้องห้ามพูด ไม่อย่างนั้นพลังในร่างกายจะลดน้อยถอยลง "หึงหวงข้าสินะ สตรีขี้อิจฉา!!!" "ท่านใช้หัวนิ้วโป้งเท้าข้างไหนคิดหรือเจ้าคะ ข้าหิวเจ้าค่ะ ข้าจึงไม่พูด!!! หลบไปเจ้าค่ะ ข้าจะไปกินข้าวแล้ว โอะ!!" "วาจาเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก!!ดี!!!จงจำเอาไว้ ข้าจะไปหาแต่เฉียวฟาง ไม่มาหาเจ้าอีก!!!" "เชิญเจ้าค่ะ" "หนิงเจียว เจ้าจะต้องอยู่อย่างเดียวดายไปชั่วชีวิต!!!" พูดจบเขาก็เดินจากไปไม่รอนางแม้แต่น้อย หนิงเจียวลอบส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจ นางตามอารมณ์ของเขาไม่ทันเสียเลย เขาโมโหร้ายเช่นนี้มาแต่เกิดหรืออย่างไร? นางพอจะรู้มาบ้าง ว่าที่เขาตั้งท่ารังเกียจนาง เป็นเพราะหนิงเซียนนอกใจเขาไปปันใจให้ชายอื่น แล้วยังลอบได้เสียกับชายอื่นจนตั้งครรภ์ ที่แย่ไปกว่านั้น คือหนิงเซียนยังวางยาเขากับนางจัดฉากว่าได้มีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากันแล้ว เขาจึงรังเกียจนางมากมายเช่นนี้ อยากเกลียดก็เกลียดไปเสียสิ นางก็ไม่ชอบเขาเหมือนกัน!!!! สองวันถัดมา เฉียวฟางก็ได้เข้ามาเป็นอนุ ในจวนตระกูลสวี หนิงเจียวจัดให้นางอยู่ที่ห้องนอนปีกซ้าย ไม่ไกลจากห้องของนางกับสวีจิ้งเทียนเท่าใดนัก อาการอัมพาตที่ใบหน้าของนางก็เริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว รู้สึกไม่ปวดตึงเท่าใดนัก "ฮูหยินน้อยเจ้าคะ เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ!!!" หนิงเจียวมองไป๋เฉียนที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาด้วยความสงสัย "มีอะไร?วิ่งหน้าตาตื่นมาเชียว" หนิงเจียววางผ้าเช็ดหน้าที่กำลังเย็บปักในมือวางลง นางชอบเย็บปักมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว โชคดีที่หนิงเจียวผู้นี้มีฝีมือเย็บปักดีเยี่ยม จึงรู้สึกว่าการเย็บปักของนางไหลลื่นดีไม่น้อย "อนุเฉียว อนุเฉียว ตบตีกับสาวใช้ทงฝังนางหนึ่งเจ้าค่ะ!!!" "อะไรนะ!?" บ้าจริงเชียว!!!เพิ่งจะเข้าจวนมาวันแรกก็ก่อเรื่องน่าปวดหัวเสียแล้วหนิงเจียวเดินไปถึงที่ห้องนอนปีกซ้าย ก่อนจะพบกับสตรีสองคน กำลังผลัดกันดึงทึ้งผมของอีกฝ่ายอย่างสุดกำลัง "หยุดเดี๋ยวนี้!!!" เสียงของหนิงเจียวทำให้อนุเฉียวและสาวใช้ทงฝังหยุดการกระทำตบตีลงมือต่อกันทันที "เจ้าไม่อายบ้างหรือ มาตบตีกันต่อหน้าบ่าวไพร่เช่นนี้!!!" "ฮูหยินน้อยเจ้าขา ฮึก!!!อนุเฉียวลงมือกับเหลียนเหลียนก่อนนะเจ้าคะ" สาวใช้ทงฝังนามว่าเหลียนเหลียน คุกเข่าลงร้องไห้อ้อนวอนต่อหน้าหนิงเจียว หนิงเจียวหันไปมองอนุเฉียวที่ยืนลอยหน้าลอยตาไม่เคารพนางก่อนจะถอนหายใจออกมา นางเกลียดที่สุดคือการเห็นใครมาทะเลาะตบตีกันเช่นนี้เพราะผู้ชายเพียงคนเดียว นางรู้ดีว่าที่สองคนนี้ลงมือต่อกันเพราะต้องการแย่งชิงความรักจากสวีจิ้งเทียน "เจ้าตีกันเพราะต้องการแย่งซื่อจื่อ ข้าพูดถูกหรือไม่?' เหลียนเหลียนสาวใช้ทงฝังรีบก้มหน้างุดไม่กล้าเอ่ยวาจา เป็นอนุเฉียวที่หันมามองหนิงเจียวด้วยสายตาดูแคลน "พี่หญิงก็เคยทำไม่ใช่หรือ? วางยาปลุกกำหนัดพี่สวีจิ้งเทียนจนได้เขามาเป็นสามี แล้วจะเอาอะไรมาสั่งสอนข้ากันเจ้าคะ?" "นางเป็นฮูหยินเอก มีสถานะเป็นภรรยาที่ถูกต้อง เหตุใดจะสั่งสอนอนุเช่นเจ้าไม่ได้!!!" สวีจิ้งเทียนที่ยืนมองดูอยู่นาน เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา เขาจ้องมองอนุเฉียวด้วยสายตาคาดโทษไม่น้อย "พี่สวีจิ้งเทียนเจ้าคะ" "ข้าไม่มีน้องสาว ไม่ต้องมานับข้าเป็นพี่!!!" อนุเฉียวเม้มริมฝีปาก ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยหยดน้ำตา ช่างดูแล้วน่าสงสาร แต่ไม่ใช่สำหรับสวีจิ้งเทียน เขาเกลียดน้ำตาของสตรีเป็นที่สุด!!! "หากเจ้ายังไม่หยุดร้อง ข้าจะควักลูกตาเจ้ามาดองเหล้าเสียเดี๋ยวนี้!!!" หนิงเจียวยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ แต่ใบหน้ายังคงไร้ความรู้สึก  โอะ!!! โหดร้ายจริงๆ นี่ถึงขนาดจะเอาดวงตาเมียน้อยมาดองเหล้าเชียวหรือ? "ข้าจะสั่งกักบริเวณเจ้าสามวันให้สำนึกผิด อย่าได้คิดมาพูดจาล่วงเกินฮูหยินน้อยอีก ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าอำมหิต" สวีจิ้งเทียนดึงแขนของหนิงเจียวให้เดินตามเขาไป ก่อนจะสะบัดมือไล่สาวใช้ออกไปจนหมด "มองข้าทำไมเจ้าคะ?" "ข้าเคยคิดว่าเจ้าฉลาดน้อย แต่ดูแล้ว เจ้าช่างโง่งมยิ่งนัก เหตุใดจึงให้นางมายืนด่าเจ้าได้ เสียระบบการปกครองข้าหมด!!!" หนิงเจียวรู้สึกรำคาญเป็นอย่างยิ่ง ด่าอีกแล้ว ด่าๆๆๆ วันๆมีแต่ด่าๆๆๆ "ข้าไม่ชอบสู้รบตบตีกับผู้ใดเจ้าค่ะ" "จริงหรือ? ข้าเห็นเจ้าด่าทอหนิงเซียน ทั้งยังจะลงมือกับนางอีกด้วย เพื่อคิดจะแย่งข้า" "ขออภัยเจ้าค่ะ ตอนนั้นข้าคงตาบอดไป" "หนิงเจียว!!!" "เรียกข้าบ่อยๆไม่เบื่อหรือเจ้าคะ?" "อย่ายั่วโมโหข้า!!!" "ก็ท่านด่าข้าก่อนนี่เจ้าคะ ข้ามีปากจึงเถียง ข้าผิดหรือเจ้าคะ อุ๊บส์!!!" สวีจิ้งเทียนกระชากตัวหนิงเจียวให้เข้าหาเขา ก่อนจะประกบจูบริมฝีปากงามอย่างดุดันหนักหน่วง หนิงเจียวพยายามผลักเขาออก แต่เขากลับจู่โจมนางรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มือใหญ่ช้อนเอวบางของนางเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็ขยำขยี้บั้นท้ายของนางอย่างหนักหน่วงด้วยความเอาแต่ใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม