ข้านี่แหละฮูหยินรสแซ่บ
บทที่ 4
ความอึ๋มเป็นเหตุ
หลังจากสวีจิ้งเทียนออกไปแล้ว หนิงเจียวก็ไปที่ห้องครัวใหญ่ เพื่อทำน้ำขิงหอมๆ กับขนมเปี๊ยะแป้งบาง นำไปให้คนในจวนได้ลองทานกันดู
หนิงเจียวเป็นคนที่ชอบกินมาก นางจึงชอบทำอาหารไปในตัวด้วย ทั้งขนม ของคาวหวาน อาหารต่างๆนางก็ทำได้หมด เพราะมันคือความชอบของนาง
"ฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าค่ะ ฮูหยินน้อยขอเข้าพบเจ้าค่ะ"
"ให้นางเข้ามาเถิด"
ไม่นานหนิงเจียวก็เดินเข้ามาพร้อมกับไป๋เฉียน
"คารวะท่านย่า คารวะท่านแม่เจ้าค่ะ"
หนิงเจียวเพิ่งสังเกตเห็นว่าฮูหยินใหญ่สวีก็อยู่ที่นี่ด้วย นางจึงพยักหน้าให้ไป๋เฉียนนำน้ำขิงกับขนมเปี๊ยะแป้งนิ่มไปมอบให้ทั้งสองท่าน
ฮูหยินผู้เฒ่ายกถ้วยน้ำขิงขึ้นจิบเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ฮูหยินใหญ่สวีเองก็ยิ่งชมชอบลูกสะใภ้มากขึ้นไปอีก
"มานั่งข้างย่าเร็ว"
หนิงเจียวพยักหน้า ก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างกายของฮูหยินผู้เฒ่า
"เป็นวาสนาของจิ้งเอ๋อร์ที่ได้แต่งเจ้าเป็นภรรยา เห็นเจ้าใส่ใจคนในจวนเช่นนี้ย่าก็วางใจ จริงหรือไม่ฮูหยินใหญ่สวี"
"เจ้าค่ะท่านแม่ จิ้งเอ๋อร์โตเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วแต่ห่วงงานในวังเป็นอย่างยิ่ง มิยอมแต่งงานเสียที ข้าเองก็หนักใจ วันนี้เห็นเขามีภรรยาที่ดี ใส่ใจคนในจวนเช่นนี้ก็วางใจได้เจ้าค่ะ ว่าแต่อาการที่ใบหน้าของเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?"
"ยังต้องดื่มยาต่อเนื่องเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านหมอบอกว่าช้าสุดครึ่งปีเห็นจะได้เจ้าค่ะ"
"ช่างน่าสงสารนัก เจ้าก็รีบๆมีหลานให้ข้าอุ้มเถิด เผื่อเรื่องดีดีจะได้ช่วยคลายเรื่องร้ายๆลงไป ข้าเองจะได้วางใจยิ่งกว่าเดิม"
"เจ้าค่ะท่านแม่"
หนิงเจียวทำได้เพียงก้มหน้ายิ้มเขินอาย จะให้มีลูกหรือเจ้าคะ? คงจะยากสักหน่อย เพราะลูกชายของท่านแม่ได้ปล่อยลูกทิ้งขว้างเป็นน้ำให้ข้าดูไปเมื่อคืนแล้ว!!!
เฮ้อ!!!อีกเรื่องหนึ่ง ท่านแม่จะวางใจอะไรกันเล่าเจ้าคะ!ทุกวันนี้ข้าต้องอยู่อย่างหวาดระแวงรอดูว่าเขาจะรูดแท่งมังกรผงาดให้ดูกี่รอบต่อคืน!!!
ถึงในใจจะลอบก่นด่าสวีจิ้งเทียน แต่หนิงเจียวยังคงปรนนิบัติท่านย่าและแม่สามีอย่างเต็มกำลัง นางเป็นคนที่เคารพผู้ใหญ่ และชอบผู้ใหญ่ที่ทำให้น่าเคารพเช่นนี้เป็นอย่างยิ่ง
"ฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าคะ ฮูหยินรองมาขอพบเจ้าค่ะ"
"นางมีเรื่องอันใดถึงมาหาข้าได้? เอาเถอะ ให้นางเข้ามา"
หนิงเจียวหันไปมอง ก่อนจะพบเข้ากับสตรีวัยกลางคนที่ยังดูงดงาม กำลังย่างกายเข้ามา
"คารวะท่านแม่ คารวะฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ"
ฮูหยินรองปรายตามองหนิงเจียวคราหนึ่ง หนิงเจียวจึงลุกขึ้นทำความเคารพนางอย่างรู้งาน ถึงอย่างไรนางก็เป็นถึงฮูหยินรองของท่านเสนาบดีสวี
"ท่านแม่เจ้าคะ เมื่อครู่ข้าออกไปตระเตรียมของหมั้นหมายให้สวีเจ๋ออวี้ที่จวนท่านเจ้ากรมพิธีการ ได้ยินคนกล่าวถึงภรรยาของสวีจิ้งเทียนด้วยนะเจ้าคะ"
ฮูหยินผู้เฒ่าขมวดคิ้วก่อนจะหันไปสบตากับฮูหยินใหญ่สวีคราหนึ่ง
"ปากผู้คนข้างนอกเป็นเช่นไรเจ้าก็รู้ดี ยังจะนำเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเล่าให้ท่านแม่ฟัง ใช้ได้ที่ไหนกัน!!!"
"พี่หญิง เรื่องไม่เป็นเรื่องอะไรกันเจ้าคะ คนเขาเล่าลือกันให้สนุกปาก ว่าที่ฮูหยินน้อยสวีได้แต่งเข้ามา เพราะวางยาปลุกกำหนัดให้สวีจิ้งเทียนกินจนเกิดมีความสัมพันธ์ต่อกันขึ้นมา จนพี่สาวของฮูหยินน้อยฆ่าตัวตายเพราะทำใจไม่ได้ที่ถูกน้องสาวตนเองแย่งสามีไปเจ้าค่ะ!!ท่านเจ้ากรมพิธีการก็รักบุตรลำเอียงไม่น้อย ยังเข้าฮูหยินน้อย บอกกับผู้คนว่าแม่นางหนิงเซียนล้มป่วยด้วยโรคเก่า ทั้งที่ความจริงแล้ว...."
"แม่เล็กช่างกล้ากล่าววาจาเหลวไหลเสียจริง"
ทุกคนหันไปมองตามเสียงที่ดังขึ้น ก็พบว่าเป็นสวีจิ้งเทียนที่กำลังเดินเข้ามา เขาทำความเคารพผู้อาวุโสทุกคน ก่อนจะปรายตามองฮูหยินรองด้วยสายตาเย็นชา
"จิ้งเอ๋อร์"
"ข้าผ่านทางมาเมื่อครู่ ไม่เห็นจะได้ยินเรื่องเหลวไหลดั่งเช่นที่แม่เล็กว่า แม่เล็กไปได้ยินมาจากที่ใดกันหรือขอรับ?"
"เอ่อ!คือ?"
"เรื่องในเรือนของข้า หากไม่จำเป็นแม่เล็กอย่าสอดปากเข้ามายุ่งจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าใจร้ายก็แล้วกัน"
ฮูหยินรองที่อับจนหนทางจะโต้เถียง รีบหันหลังเดินออกไปด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่แม้แต่จะทำความเคารพฮูหยินผู้เฒ่าก่อนไปด้วยซ้ำ ฮูหยินผู้เฒ่าทำได้เพียงถอนหายใจอย่างนึกปลง แต่ไหนแต่ไรมาบุตรชายของนางก็รักและตามใจภรรยารองผู้นี้จนเสียคนมานานแล้ว
หนิงเจียวมองสวีจิ้งเทียนด้วยสายตาที่ว่างเปล่า แต่ในใจของนางรู้สึกสงสัยไม่น้อย เขาบอกว่าจะไปวังหลวงไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงกลับมาเร็วถึงเพียงนี้
"จิ้งเอ๋อร์ เจ้าไปวังหลวงมิใช่หรือ เหตุใดจึงกลับมาเร็วนัก"
"วันนี้ฝ่าบาททรงประชวรขอรับ จึงมีรับสั่งให้ลูกไม่ต้องไปเข้าเฝ้าหนึ่งวัน ลูกจึงชวนสหายมาร่ำสุราเสียหน่อยขอรับ"
"จิ้งเอ๋อร์ เจ้าเพิ่งจะแต่งงาน ควรต้องใส่ใจหนิงเจียวให้ดีเสียหน่อย เหตุใดจึงชวนสหายมาร่ำสุราเช่นนี้เล่า?"
ฮูหยินผู้เฒ่าและฮูหยินใหญ่สวี ขมวดคิ้วมองสวีจิ้งเทียนด้วยสายตาตำหนิ
"ฮูหยินน้อยเป็นสตรีใจกว้าง นางไม่เก็บเรื่องเล็กๆน้อยเช่นนี้มา รบกวนจิตใจหรอกขอรับ ใช่หรือไม่ภรรยาที่รัก"
หนิงเจียวพยักหน้าเออออตามสวีจิ้งเทียน โดยที่ใบหน้ายังคงไร้ความรู้สึก แต่ภายในใจรู้สึกคลื่นไส้เมื่อได้ยินคำว่า 'ภรรยาที่รัก' จากปากของสวีจิ้งเทียน
ใจกว้างกับผีน่ะสิ!!!!ขนาดไม่เมายังวิปริตขนาดนี้ คืนนี้ดูแล้วนางคงจะไม่ได้นอนเสียแล้ว เขาจะต้องรูดมังกรผงาดให้นางดูจนถึงรุ่งเช้าเป็นแน่
"เช่นนั้นเจ้าก็ไปดูแลสามีเถิด"
"เจ้าค่ะ"
สวีจิ้งเทียนกับหนิงเจียวเดินเคียงข้างกันมาตามทางเดินอย่างไม่รีบร้อน ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิ อากาศกำลังเย็นสบาย หนิงเจียวชอบอากาศเช่นนี้เป็นที่สุด
"อย่าทำข้าขายหน้าเล่า สหายของข้าเป็นถึงลูกฮูหยินเอก มีหน้ามีตาทุกคน"
"แล้วลูกฮูหยินรองเป็นอย่างไรหรือเจ้าคะ?ข้าก็เห็นมีหน้ามีตาครบ ไม่ได้พิการไร้ตาสักหน่อย"
กา กา กา
ความเงียบเข้าปกคลุม สวีจิ้งเทียนมองหนิงเจียวที่เถียงเขากลับด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก ก็ทำให้เขาเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา
"วาจาช่างฟังแล้วระคายหูเสียจริง สตรีไร้การอบรมสั่งสอน"
"ท่านก็เหมือนกันนะเจ้าคะ ไม่รู้ว่าได้รับการสั่งสอนเช่นไร วาจาจึงร้ายกาจเช่นสตรีเยี่ยงนี้"
"หนิงเจียว!!!อย่าให้ข้าหมดความอดทนกับเจ้านะ"
"โอะ!!!ข้าเจ็บนะเจ้าคะ"
สวีจิ้งเทียนกระชากหัวไหล่ของหนิงเจียวมาบีบเอาไว้แน่น หนิงเจียวจ้องสวีจิ้งเทียนด้วยแววตาว่างเปล่า แต่ทว่าเขากลับไม่ได้มองใบหน้าของนาง สายตาของสวีจิ้งเทียนกำลังจ้องมองลงไปที่เนินอกอวบอิ่มของนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก
ใหญ่ยิ่งนัก อวบอิ่มจนน่าดูดดื่ม!!!
สวีจิ้งเทียนส่ายศีรษะไปมา เพื่อไล่ความคิดพิลึกๆนี่
หนิงเจียวนึกยิ้มเยาะในใจ ช่างโชคดีเสียจริงที่ร่างนี้หน้าอกหน้าใจฟูฟ่องไม่เบา นางคิดอะไรดีๆออกเสียแล้วสิ
หนิงเจียวแสร้งทำเป็นเสื้อผ้าหลุดหลุ่ย เสื้อตัวนอกเปิดออก เผยให้เห็นเนินอกเต่งตึงอวบอิ่มที่ใหญ่เกินวัยของสตรีน้อยแรกแย้ม มันกำลังรอให้ชายหนุ่มตรงหน้าได้เชยชมดูดดื่มด้วยความหลงใหล
สวีจิ้งเทียนลอบกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะปล่อยมือออกจากหัวไหล่ของนางและเดินจากไป
หนิงเจียวรู้สึกขบขันไม่น้อย ความจริงนางเองก็ไม่ใช่คนร้ายกาจอันใด แต่ในเมื่อเขายั่วยวนนางก่อน นางก็จะยั่วยวนเขากลับ ให้เขาประสาทเสียไปพร้อมกันกับนาง
สวีจิ้งเทียนร่ำสุรากับสหายโดยที่มีหนิงเจียวคอยปรนนิบัติดูแลอยู่ไม่ห่าง ใจจริงนางก็ไม่อยากจะทำหรอก นางเกลียดที่เขาชอบปากเสียกับนาง แต่ใครใช้ให้นางต้องมาแต่งงานกับคนประหลาดเช่นเขากันเล่า!!!
"ระวังเจ้าค่ะ ถึงเตียงแล้วเจ้าค่ะ"
เหล่าสาวใช้น้อยพากันพยุงร่างของสวีจิ้งเทียนที่กำลังเมามายนอนลงบนเตียง สาวใช้เหล่านั้นมองสวีจื้งเทียนด้วยสายตาโหยหา
นางพอจะได้ยินจากไป๋เฉียนมาบ้างว่า สาวใช้เหล่านี้ คือสาวใช้ทงฝังของสวีจิ้งเทียน คอยปรนนิบัติเรื่องบนเตียงแก่เขา
เห็นทีนางคงต้องจัดสรรเวลาให้พวกนางเสียแล้ว สวีจิ้งเทียนจะได้เอาเวลาไปอยู่กับสาวใช้ทงฝังเหล่านั้นให้มากยิ่งขึ้น ตัวนางเองก็จะได้ไม่ต้องทนได้ยินเขาพูดจาด่าทอเสียดสีนางให้หงุดหงิดใจ
ยามราตรีที่มีเพียงแสงจันทร์ส่องให้ความสว่าง สวีจิ้งเทียนสลืมสลือลืมตาขึ้นมาเพราะถูกปลุกให้ตื่นในกลางดึก
"สวีจิ้งเทียน"
"เรียกข้าทำไม?เหตุใดเจ้าจึงไม่หลับไม่นอน"
สวีจิ้งเทียนปรายตามองหนิงเจียว แสงจากดวงจันทร์ด้านนอกเผยให้เห็นเรือนร่างบางระหง ผ่านชุดนอนที่บางเบา เอวที่โค้งงามราวกับนาฬิกาทราย กำลังบิดไปมาด้วยความเขินอาย
สวีจิ้งเทียนรู้สึกวาบหวิวในจิตใจไม่น้อย เขาพยายามข่มใจเอาไว้ ไม่มีทางเขาจะไม่ยอมปล่อยตัวปล่อยใจให้สตรีเช่นนางเป็นอันขาด
"เจ้านอนเถิด ข้าจะออกไปข้างนอก"
"สวีจิ้งเทียน ท่านอยู่กับข้าก่อนสิเจ้าคะ"
"หนิงเจียว โอะ...."
หนิงเจียวดึงตัวสวีจิ้งเทียนให้นั่งลงบนเตียง ก่อนใช้สองเต้าอวบอิ่ม บดเบียดบริเวณท่อนแขนของเขาอย่างจงใจ
"เจ้า...."
"ท่านชอบมิใช่หรือเจ้าคะ ข้าเห็นท่านมองมันเมื่อตอนเย็น หากท่านชอบข้ายินดีจะเป็นแม่นมให้ท่าน คอยป้อนนมจากเต้าให้ท่านได้ดื่มไปชั่วชีวิต ดีหรือไม่เจ้าคะ?"
หนิงเจียวไม่พูดปากเปล่า นางถอดเสื้อผ้าท่อนบนออกจนหมด เผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มราวกับดอกบัวงามกำลังชูช่อ ยอดดอกบัวสีชมพูกำลังตั้งตระหง่านรอให้เขาไปเชยชมอย่างดูดดื่ม
หนิงเจียวส่งสายตาเชิญชวน ก่อนจะลุกขึ้นชันเข่า แอ่นยอดดอกบัวชูช่อเข้าหาริมฝีปากของสวีจิ้งเทียน
สวีจิ้งเทียนที่ไม่เคยสัมผัสตรีใดมาก่อน เขาเริ่มไปต่อไม่ถูก ลมหายใจเริ่มตัดขัด ดอกบัวงามของหนิงเจียวช่างยั่วยวนใจเขาเสียจริง
สวีจิ้งเทียนเริ่มถูกกิเลสตัณหาครอบงำ เขาค่อยๆครอบปากดูดกลืนยอดบัวงามสีชมพูอย่างดูดดื่ม
จ๊วบ จ๊วบ!!!
"อ๊าาาา เสียวเจ้าค่ะ!!ข้าเสียวเหลือเกิน"
สวีจิ้งเทียนใช้มือสองข้างบีบเคล้นคลึงยอดอกอวบอิ่มอย่างหลงใหล ก่อนจะใช้ลิ้นสากดูดเลียเล้าโลมขบเม้มทั้งสองเต้าอย่างเอาแต่ใจ
หนิงเจียวแอ่นยอดอกอวบอิ่มให้สวีจิ้งเทียนอย่างรู้งาน สวีจิ้งเทียนดื่มด่ำกับความงามตรงหน้าอย่างไม่รู้จักพอ
"อ่าห์ ต่ำลงไปอีกเจ้าค่ะ สามีของข้า!!!"
สวีจิ้งเทียนผละออกจากเนินอกอวบอิ่ม ก่อนจะดันร่างของหนิงเจียวให้นอนราบลงไปบนเตียงนอน เขาใช้ลิ้นร้อนลากยาวมาที่ท้องน้อยอันขาวเนียนของนาง
"อื้ออออ!!!"
เมื่อสวีจิ้งเทียนมองลงไปที่ขาขาวนวลของนาง ก็พบกับเนินสวาทที่มีกลิ่บดอกไม้สีชมพูกำลังปิดสนิท รอให้เขาแหวกกลีบดอกไม้นั้นออกมาเชยชม
เขาใช้มือใหญ่ค่อยๆลูบไล้บนเนินสวาทของหนิงเจียว นิ้วมือเรียวยาวแหวกกลีบผกางามทั้งสองกลีบให้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นเม็ดเกสรสวรรค์สีชมพู กำลังเบ่งบานรอให้เขาได้ลิ้มรสน้ำหวาน
แจะ แจะ
"อ่าห์ สามีของข้าาาา!!!"
สวีจิ้งเทียนค่อยๆใช้ปลายลิ้นแตะเพื่อลองลิ้มชิมรสหวานจากเม็ดเกสรอมชมพูนั้น เขาดูดเม้มมันอย่างสำราญใจ นิ้วมือเรียวยาวแหวกกลีบดอกไม้ให้อ้าออกมามากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นก็ใช้ลิ้นลากเลียขึ้นลงอย่างเอาแต่ใจ
เขารัวลิ้นไปมาอย่างไม่หยุดหย่อนราวกับต้องการจะหยอกเย้านาง หนิงเจียวแอ่นสะโพกบิดเร่าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ยิ่งสามีผู้เอาแต่ใจ ใช้ปลายนิ้วยาวสอดแทรกเข้ามาในร่องสวาทของนางและขยับเข้าออกอย่างช้าๆเนิบนาบ ก่อนจะค่อยๆเร่งจังหวะถี่ระรัวเร็วขึ้น ยิ่งทำให้นางรู้สึกราวกับได้ขึ้นสวรรค์
"อ่าห์!!!เสียวเจ้าค่ะ ข้าจะไม่ไหวแล้ว อร๊ายย!!"
ยิ่งหนิงเจียวร้องครวญครางมากเท่าไร สวีจิ้งเทียนก็ยิ่งระรัวลิ้นและนิ้วเรียวยาวของเขาที่สอดแทรกอยู่ในกลีบดอกไม้งามของนางไปพร้อมกัน เร่งจังหวะให้เร็วมากขึ้น จนร่างกายของหนิงเจียวกระตุก มือเท้าบิดเกร็งไปมาด้วยความเสียวซ่าน
สวีจิ้งเทียนเลียริมฝีปากลองลิ้มชิมรสน้ำหวานด้วยความรู้สึกที่เสียวซ่าน แท่งมังกรน้อยของเขาตอนนี้มันผงาดดุนดันจนขยายใหญ่กลายเป็นเจ้ามังกรผงาดฟ้า หนิงเจียวหรี่ตามองอย่างเสน่หา
"ใบหน้าของเจ้า?"
"เจ้าค่ะ ข้าเสียวสุดๆ อยู่ดีดีใบหน้าก็หายเป็นปกติเองเจ้าค่ะ"
หนิงเจียวส่งสายตายั่วยวน ก่อนจะยื่นมือเรียวยาวราวหยกงาม ไปสัมผัสกับแท่งมังกรผงาดของสวีจิ้งเทียน
"ให้ข้าช่วยท่านนะเจ้าคะ สามีที่รักของข้า"
"โอว์ ซี๊ดดด!!!!"
หนิงเจียวจับแท่งมังกรผงาดรูดขึ้นลงอย่างช้าๆ ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไป ใช้ลิ้นละเลงบริเวณหัวมังกรอย่างหยอกล้อ สวีจิ้งเทียนตัวเกร็งบิดเร่าด้วยความเสียวกระสันอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
หนิงเจียวไม่รอช้า นางรีบคลอบปากบางงับเจ้ามังกรของสามีจอมดื้อรั้น ก่อนจะขยับหัวขึ้นลง ขึ้นลง เป็นจังหวะ
"อ่าห์ เสียว!!!ตรงนั้นเลย เร็วอีก โอว์!!!!"
น้ำหวานสีขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมา หนิงเจียวไม่รอช้ารีบดื่มด่ำ ดูดเจ้าหัวมังกรเพื่อรีดพิษของมันออกมาให้หมด
"คุณชายใหญ่!!!สวีจิ้งเทียน!!! ท่านฝันอะไรเจ้าคะ!!!"
หนิงเจียวมองดูสวีจิ้งเทียนที่นอนบิดตัวไปมาจนมือเท้าเกร็งไปหมด นางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะยื่นมือไปตีที่ไหล่ของเขาเพื่อปลุกให้เขาตื่น
เขาฝันถึงสิ่งใดอยู่กันแน่!!! เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?