บทที่ ๔ ‘จำใจ’

1504 คำ
บรรยากาศลานหน้าเรือนของจอมโจรเงียบสนิท แม้แต่นกสักตัวยังไม่กล้าส่งเสียงร้อง ราชันจ้องมองใบหน้าอัปลักษณ์นิ่ง ใบบัวยกมือไหว้ค้าง น้ำตาคลอเต็มสองเบ้าตา สวยมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาเฉยชา สองยืนกระสับกระส่าย วิตกกังวลกว่าใบบัวที่กำลังจะตายเสียอีก “พี่ราชัน ฉันว่า..” “มึงหุบปากไปไอ้สอง! กูยังไม่ได้ลงโทษที่มึงทำงานพลาด” สองหุบปากฉับ ถึงมันจะไม่อยากให้ผู้หญิงแปลกหน้าต้องตาย แต่มันก็ไม่อยากตายแทนเหมือนกัน “เก่งนักนะมึง” ราชันทาบใบมีดคมกริบกับแก้มขาวนวลเนียน ฝั่งที่ไม่มีร่องรอยน่าเกลียดนั่น มาถึงตอนนี้ใบบัวเริ่มตัวสั่น น้ำตาที่คลอเบ้าร่วงหล่นเป็นทาง “ให้ใบบัวตาย ฮึก.. ดีกว่าต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็น” “อย่างนั้นหรือ” ถามพลางกดมีดลง เนื้อแก้มขาวนวลบุ๋มลงตามรอยใบมีด ใบบัวค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ กลั้นลมหายใจเตรียมรับความเจ็บปวด เจ็บเพียงครั้งเดียว แค่ครั้งเดียวก็จะได้หลุดพ้นจากชีวิตเลวร้ายนี้แล้ว แต่ทว่า.. ไม่กี่อึดใจต่อมาใบมีดเย็น ๆ ก็ถอยห่างออกไป “แต่กูไม่ฆ่าคนว่ะ” พูดจบ มีดแหลมคมก็ถูกเก็บเข้าฝัก สองโล่งใจจนล้มลงไปกองกับพื้น “แต่ใบบัวไม่กลับไปนะจ๊ะ!” ถึงรอดตายได้แต่ใบบัวกลับไม่ดีใจสักนิด เธอขึ้นเสียงใส่ราชันจนสองใจหายใจคว่ำ แม่สาวน้อยช่างไม่รู้อะไรเสียเลย พี่ราชันไม่ใช่คนเอาใจใคร ขึ้นเสียงใส่แบบนั้นเดี๋ยวก็ได้ตายเข้าจริง ๆ หรอก “กูก็ไม่ได้บอกให้มึงกลับ” “มะ หมายความว่า..” ราชันกวาดตามองเรือนกว้างใหญ่ของตนเอง แล้วหันกลับมาสบตากลมโต ที่ยามนี้เป็นประกายอย่างมีความหวัง “เรือนกูมีงานให้ทำเยอะ ถ้าอยากอยู่ มึงก็ต้องทำงาน” “ขอบคุณ ชอบตึฯนะจ๊ะ!” ใบบัวเก็บสีหน้าดีใจไว้ไม่มิด หญิงสาวยิ้มกว้าง แก้มทั้งสองข้างบุ๋มเป็นจุดดูน่ารักขึ้นเป็นกอง ราชันเบนสายตาหนี “กูหิว มึงไปทำอะไรมาให้กูกิน ถ้าไม่อร่อยกูจะให้ไอ้สองเอามึงไปส่งบ้านไอ้มิ่งเหมือนเดิม” “ดะ ได้จ้ะ! ใบบัวจะทำให้เดี๋ยวนี้!” “ครัวอยู่ทางโน้น” “ขอบคุณจ้ะพี่” ใบบัวยกมือไหว้ปลก ๆ ก่อนร่างน้อยจะรีบเดินเร็ว ๆ ไปที่ครัว ด้วยกลัวว่าราชันจะเปลี่ยนใจพาเธอไปส่งที่เดิม หน้าเรือนใหญ่เหลือเพียงสองหนุ่มและหนึ่งสาว ราชันไม่ได้สนใจใครอีก ขายาวรีบก้าวขึ้นเรือนไปก่อนที่สวยจะเรียกไว้ได้ทัน “ขวัญเอ้ยขวัญมานะไอ้สอง” สองลูบอกตัวเองแล้วเดินกลับไปผ่าฝืนต่อ ทิ้งให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญยืนโกรธจนตัวสั่นอยู่ตามลำพัง ดวงตาคู่สวยลุกเป็นไฟ สวยมองไปที่ครัว สลับกับก้มมองกับข้าวที่ตนเองทำมา ในใจเต็มไปด้วยความโกรธและเกลียดชังผู้หญิงหน้าตาอัปลักษณ์จับใจ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยได้พูดคุยกันแม้แต่ครึ่งคำ . . ราชันขึ้นเรือนมาด้วยความสับสน ไม่รู้ว่าผีห่าซาตานตัวใดเข้าสิงถึงได้ออกปากรับภาระมาเพิ่ม ถึงผู้หญิงตัวแค่นั้นจะกินใช้ไม่สิ้นเปลือง แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรให้ต้องเก็บไว้ จะเก็บไว้ให้ไอ้มิ่งช้ำใจก็ไม่ได้ผล เอาทำเมียก็ทำไม่ลง แค่เห็นหน้าตาอัปลักษณ์นั่นก็พาลหมดอารมณ์ขึ้นมาดื้อ ๆ “พี่ราชัน” สองขึ้นมาบนเรือนหลังจากผ่าฟืนเสร็จ ร่างกายแกร่งโชกไปด้วยเหงื่อมันรีบคลานเข่าเข้ามาประจบประแจงลูกพี่ หวังว่าโทษหนักจะกลายเป็นเบาได้บ้าง “มึงทำงานพลาด” “ฉันขอโทษจ้ะพี่ แต่เมื่อคืนมันมืดมาก แล้วปกติห้องนั้นมันห้องของลูกจันทร์ไม่ใช่หรือ” “กูเสียดายที่ไม่ได้แก้แค้นอะไรไอ้มิ่งมันเลย” “ให้ฉันกลับไปจับลูกจันทร์อีกรอบดีไหมจ๊ะ รอบนี้ฉันสัญญาว่าจะไม่ผิดตัวอีก” ผลั่ก! ราชันอดใจไม่ไหว ยกตีนขึ้นถีบไหล่ลูกน้องจนมันหงายหลังตึง “มึงโง่หรือวะ! ครั้งนี้ไอ้มิ่งคงโง่ให้มึงขึ้นเรือนมันง่าย ๆ อีกหรอก!” “ฉันขอโทษจ้ะพี่” สองรีบสอพลอ มือบีบนวดขาให้ราชันไม่หยุด ราชันสะบัดขาออกห่าง บ่งบอกว่าที่เจ้าสองทำไปมันไร้ประโยชน์ “กูอยากกินหมูป่า มึงเข้าไปจับมาสักตัวสิ ไปคนเดียวนะ” “คะ คนเดียวหรือ!” “เออ! คนเดียว จับไม่ได้ไม่ต้องกลับมาให้กูเห็นหน้า” สองอ้าปากค้าง บทลงโทษของราชันครั้งนี้รุนแรงยิ่งนัก จับหมูป่าคนเดียวก็เหมือนเอาชีวิตไปทิ้งเปล่า ๆ “พี่ราชันจ๊ะ พี่..” “หรือมึงมันกระจอกกว่าหมูป่าวะ มิน่าถึงไม่มีเมียเสียที” ราชันจงใจดูถูกถากถางสอง ทว่าในใจโจรหนุ่มไม่ได้อยากต่อว่ามันเท่าไรนัก ที่ต้องทำเพราะมันเป็นกฎ ในกลุ่มโจรมีกฎเหล็กว่า ถ้าใครก็ตามทำงานพลาดจะต้องถูกไล่ออกจากหมู่บ้านทันที นอกเสียจากจะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าตอบแทนได้ ราชันรู้ว่าสองไม่มีที่ไปนอกจากที่นี่ มันเป็นเด็กกำพร้า ตัวติดราชันตั้งแต่เด็ก เขาจึงเสนอทางเลือกที่ดีกว่า ล่าหมูป่ามันไม่ได้ยากขนาดนั้น สมัยนี้ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก แต่ไอ้สองมันขี้ขลาด กลัวขึ้นสมองจนบางครั้งก็ถูกดูแคลน นับว่าการลงโทษที่เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว นอกจากจะทำให้สองได้อยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว ราชันยังได้ฝึกความกล้าให้ลูกน้องไปในตัว กลิ่นอาหารหอม ๆ ทำให้บทสนทนาที่ตึงเครียดเบาบางลง สองขยับตัวเปิดทางให้ใบบัวได้วางอาหาร กลิ่นไก่ย่างตัวโตส่งกลิ่นหอมพาลให้น้ำลายไหลจนลืมเรื่องหมูป่าไปหมดสิ้น “ใบบัวทำไก่ป่าย่างสมุนไพร แกงส้มปลาช่อน ผักต้มจิ้มน้ำพริก พี่ราชันลองกินดูว่าถูกปากหรือไม่” ราชันมองอาหารตรงหน้า หน้าตาน่ากิน กลิ่นหอมยั่วน้ำลาย แต่รสชาติยังไม่รู้ โจรหนุ่มรับจานข้าวที่ใบบัวตักให้ไปถือ “ถ้าไม่อร่อยกูจะโยนทิ้ง และไล่มึงออกจากที่นี่” ใบบัวคอตก ดวงตาฉายแววกังวล แม้จะมั่นใจในรสมือของตัวเอง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะถูกปากราชันหรือเปล่า ราชันตักน้ำสีส้มขึ้นซดเป็นอย่างแรก รสชาติกลมกล่อมลอยคลุ้งในปาก ปลาไม่มีกลิ่นคาว ผักนิ่มกำลังดี “พอกินได้” ใบบัวเริ่มเหงื่อตก พอกินได้กับอร่อยมันยังห่างไกลกันเหลือเกิน ราชันฉีกเนื้อไก่เข้าปาก จอมโจรเคี้ยวช้า ๆ ลิ้มรสสมุนไพรและความนุ่มของไก่อย่างเพลิดเพลิน “พอกินได้” คราวนี้ใบบัวนั่งไม่ติดพื้น มือชื้นไปด้วยเหงื่อ คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น เธอเหลือแค่น้ำพริกเป็นอย่างสุดท้าย ถ้าหากราชันยังไม่พูดคำว่าอร่อย แปลว่าเธอต้องกลับไปอยู่ที่นั่น ราชันจิ้มผักกับน้ำพริกแล้วเอาเข้าปาก รสชาติเผ็ดจัดแผ่ซ่าน ตัดกับผักหวาน ๆ ที่ต้มจนนิ่ม ใบบัวกลั้นลมหายใจรอคำพิพากษา "ก็พอกินได้" “พี่ราชัน อย่าไล่ใบบัวไปเลยนะจ๊ะ!” ใบบัวยกมือไหว้จอมโจรอีกครั้ง เนื้อตัวสั่นระริกอย่างน่าสงสาร ราชันแสร้งเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าหล่อคมเข้มดูยุ่งยากใจ ราวกับว่ากำลังคิดแผนการปล้นครั้งใหญ่ “กูจะถือว่าทำบุญก็แล้วกัน” ราชันพูดอย่างจำใจ ทำสีหน้าเหมือนโดนบังคับให้กินยาขม ๆ ก็ไม่ปาน “กูจะไม่ส่งมึงกลับไปก็ได้ แต่มึงต้องทำงานบ้าน ทำกับข้าวให้กูกินแลกกับที่อยู่” “ได้จ้ะ! ใบบัวสัญญาว่าจะทำกับข้าวให้อร่อยกว่านี้” “เออ จะไปไหนก็ไป เหม็นเหงื่อไคล ห้องนอนมึงอยู่ฝั่งโน้น” ราชันชี้ไปที่ท้ายเรือน ห้องเก็บของเก่า ๆ ขนาดเล็กแคบคือบ้านใหม่ของใบบัว สองลอบมองสีหน้าดีอกดีใจของสาวน้อย สลับกับใบหน้าตึง ๆ ของราชัน พลางคิดในใจว่าใบบัวช่างอ่อนต่อโลกเสียจริง ราชันกินไม่หยุดปากแบบนี้ ยังเชื่ออีกหรือว่ารสชาติมันแค่พอกินได้ สองที่อยู่กับราชันมานานรู้ดีว่าถ้าหากรสชาติไม่ถูกปากจริง ๆ จอมโจรไม่มีทางฝืนกินให้ระคายท้องเด็ดขาด ขนาดฝีมือเมียอย่างแม่มะลิราชันยังตำหนิไม่ไว้หน้า สองไม่เชื่อหรอกว่ากับข้าวฝีมือใบบัวจะแค่ ‘พอกินได้’ จริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม