ตอนที่ 4 ไม่เคยเป็นเมีย 2

916 คำ
ภาคินปรี่เข้าไปจับล็อกสองแขนเรียวแล้วกระชากเข้ามาถามด้วยความไม่พอใจ "เข้ามาทำไม!" "คะ..คุณคิน หนึ่งเจ็บค่ะ" คนถูกบีบแขนด้วยความแรงอย่างน้ำหนึ่งเบ้หน้า มือของเขาใหญ่มาก และกำลังของเขาก็ไม่ต่างจากคีมคีบดีๆ นี่เอง "ฉันถามว่าเข้ามาทำไม!" ภาคินไม่สนว่าใครจะเจ็บปวดสักเท่าไหร่ น้ำหนึ่งควรกลับไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วไม่ใช่เหรอ แล้วใครอนุญาตให้เธอเข้ามาที่นี่ได้! "พยู!" ภาคินเรียกหาแม่บ้านอายุน้อยเสียงลั่นบ้าน "ยะ..อย่าไปว่าพยูเลยนะคะ พยูไม่รู้เรื่องด้วย หนึ่งปีนรั้วเข้ามาเองค่ะ" รีบออกหน้ารับแทนพยูอย่างที่ตกลงกันไว้ เธอเข้ามาเอง ไม่ประสงค์ให้คนอื่นเดือดร้อนด้วยในเมื่อรู้แล้วว่าเจ้าของบ้านไม่ต้อนรับ คนตัวเล็กถูกผลักออกให้ห่างจนร่างบอบบางฟุบลงไปที่พื้น ก้นกระแทกจ้ำเบ้า มันเจ็บจนเบ้หน้าออกมา ทำใจดีสู้เสือค่อยๆ ลุกขึ้นยืนช้าๆ แล้วเขยิบเข้าไปหาเขา ใจกล้ายกมือขึ้นเพื่อจะสัมผัสแขน แต่คนรู้ตัวกลับเดินออกห่างแถมยังมองแรงกลับมา น้ำหนึ่งพยักหน้า เมื่อก่อนเคยเป็นเมียรัก แต่ตอนนี้คงเป็นเมียชังไปแล้วเธอเข้าใจ "กลับไปซะ! อย่ามายุ่งกับฉัน" ภาคินเอ่ยสั้นๆ อย่างพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองแล้วเดินไปแต่งตัว ทว่าเอวสอบกลับถูกสวมกอดจากทางด้านหลังทำให้เขาเดินต่อไปไม่ไหว "หนึ่งไม่กลับได้ไหมคะ หนึ่งคิดถึงคุณค่ะคุณคิน ขอหนึ่งกลับมาอยู่ด้วยนะคะ อย่าไล่หนึ่งเลยนะ" เธอสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะกลับมาทำหน้าที่เมียของเขาไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าไล่ยังไงก็จะไม่ไป เอาช้างมาลากเธอก็จะนอนอยู่ตรงนี้ ภาคินรีบแกะแขนเรียวออกทันที เกิดการยื้อยุดกันไปมาเพราะน้ำหนึ่งไม่ยอมถอดกอดออกจากสามี แต่ท้ายที่สุดคนตัวเล็กก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่เขาจนได้เพราะอีกฝ่ายแรงเยอะกว่า "อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำ" น้ำหนึ่งส่ายหน้า "ยังไงหนึ่งก็เป็นเมียคุณ คุณอย่าไล่หนึ่งเลยนะคะ" มารยาผู้หญิงต้องมา ว่ากันว่าผู้ชายแพ้น้ำตารีบบีบมันออกมาให้เยอะที่สุด รู้แหละว่าเขายังโกรธ จะพูดอะไรก็พูดเถอะ แต่เขาหนีความจริงไม่ได้อยู่ดีว่าเราแต่งงานกันแล้ว ไม่ว่าเราจะอยู่กันได้กี่วัน แต่หลังแต่งงานเธอก็คือเมียของเขาอยู่ดี "หึ เมีย?" ภาคินแสยะยิ้มออกมา ช่างหน้าตลกสิ้นดี แต่โทษทีเขาไม่ได้โง่! "ฉันไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับเธอจำไม่ได้เหรอ เพราะฉะนั้นเธอไม่เคยเป็นเมียฉันเลยนะ เธอก็แค่คนที่มาหลอกแต่งงานเอาเงินสินสอดฉันไป" โทษทีขนขาเขาไม่ร่วง แต่มันโคตรเจ็บใจ! เราแต่งงานกันไปแค่เดือนเดียว ยัยผู้หญิงคนนี้ก็รีบหอบสินสอดวิ่งแจ้นกลับบ้านจะให้เขาว่าไงล่ะ น้ำหนึ่งยืนอึ้งเมื่อเขาเข้าใจแบบนั้น "มะ..ไม่ใช่นะคะ คุณเข้าใจผิด" อะไรกันเนี่ย ใครบอกเขาแบบนั้น หรือว่า.. แม่ย่าเธอแน่นอน! ให้บอกความจริงว่าแม่เขาไม่ชอบเธองี้ ท่านไล่เธอทุกครั้งเวลาเขาไม่อยู่บ้าน แบบนี้มันจะเป็นการใส่ร้ายคนตายโดยที่ไม่มีหลักฐานหรือเปล่า แล้วนั่นแม่เขาแท้ๆ สายเลือดเดียวกัน แต่กับเธอเพิ่งมาเจอกันตอนโต เขาจะเชื่อใครกันถ้าไม่เชื่อแม่ ถ้าเธอบอกว่าแม่เขานั่นแหละต้นเหตุให้เธอทนอยู่ไม่ไหว แล้วสองแม่ลูกจะเป็นยังไง เขาจะยอมผิดใจกับแม่แล้วเลือกเธอ? พาเธอไปอยู่ที่อื่นแล้วทิ้งแม่แก่ๆ ไว้กับคนใช้ ไม่แน่นอน เขาไม่ทำแบบนั้นชัวร์ ก็นั่นแม่เขา และเขาคือลูกชายคนเดียว เขาคงไม่เลือกเธอมากไปกว่าแม่บังเกิดเกล้า น้ำหนึ่งจึงยอมยกธงขาวเดินออกมาเอง ยอมตกเป็นจำเลยให้สามีสุดที่รักเข้าใจผิด ยอมให้แม่ลูกเขาดีกันต่อไปแล้วเป็นฝ่ายโดนตราหน้า "งั้นเราไปจดทะเบียนสมรสกันดีไหมคะ" น้ำหนึ่งรีบเคลียร์น้ำตาแล้วยิ้มออกมา "หึ ฝันเหรอ พอเงินหมดรีบวิ่งแจ้นกลับมาชวนไปจดทะเบียนสมรสมันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ" "ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ ไม่ใช่เงินหมด เงินอยู่ที่.." "ฉันไม่อยากฟัง แล้วก็ไสหัวออกไปได้แล้ว ไม่ใช่แค่ออกจากห้องนะ แต่ออกจากบ้าน อย่ามาทำตัวหน้าด้านแถวนี้!" ไม่ว่าเปล่าจับน้ำหนึ่งผลักออกไปด้านนอกห้องนอนด้วยความหงุดหงิดแล้วปิดประตูดังปัง! น้ำหนึ่งได้ยินเสียงล็อกจากทางด้านหลังบ่งบอกว่าเขาไม่ต้องการให้เธอเข้าไปรบกวน ไม่รู้จะปลอบใจตัวเองกับประโยคไหนก่อนดี ที่เขาไล่หนี ยังไม่เจ็บเท่าบอกเธอไม่เคยเป็นเมีย มันไม่ใช่แค่เขาโกรธ แต่เกลียดเข้ากระดูกดำเลยแหละ แล้วแม่ย่า..แสบจริงๆ เป่าหูลูกชายว่าเธอมาหลอกแต่งงานเพื่อหิ้วสินสอดกลับบ้าน ก็ว่าอยู่ทำไมเขาไม่ต้อนรับขนาดนั้น ความจริงสินสอดเธอให้แม่เขากลับ ไม่งั้นกลับไปจะได้ขายของงกๆ หาเลี้ยงพ่อแม่เหรอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม