ซือจิ้นหยาง บุตรชายของคหบดีที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเล็กๆอย่างเมืองโจวถิงแห่งนี้เป็นหนุ่มเนื้อหอม หญิงสาวทั่วทั้งเมืองต่างหมายปองในตัวเขา ซึ่งรวมทั้งสองพี่น้องสกุลหลานคู่นี้ด้วย ทั้งหลานฮุ่นเจินและหลานฮุ่ยเหมยต่างก็พึงใจในตัวคุณชายซือผู้เพรียบพร้อมผู้นี้เพราะเขานั้นทั้งรูปงามและแสนจะสุภาพ เป็นสุภาพบุรุษหมายเลขหนึ่งของโจวถิง ติดตรงที่ว่าซือจิ้นหยางนั้นหมายตาหลานฮุ่ยเจินผู้เป็นพี่สาวเพราะถึงแม้ว่าทั้งคู่จะเป็นบุตรสาวของนายอำเภอเมืองโจวถิงเหมือนกัน แต่หลานฮุ่ยเจินนั้นได้ชื่อว่าเป็นบุตรสาวคนโตและเกิดจากฮูหยินคนแรกของท่านนายอำเภอหลานชื่อเหลียวจินลี่ เหลียวจินลี่นั้นแต่เดิมเป็นบุตรสาวของเสนาบดีเก่าในราชสำนัก แต่ตกลงใจแต่งงานกับนายอำเภอเมืองเล็กๆและย้ายจากเมืองหลวงมาอยู่ที่เมืองโจวถิงแห่งนี้ คาดไม่ถึงว่านางจะมาจบชีวิตลงเพราะถูกอนุของสามีวางยา
อย่างไรก็ดี หลานฮุ่ยเจินภาษีย่อมดีกว่าหลานฮุ่ยเหมยอยู่แล้ว เพราะมารดาของนางนั้นอดีตเป็นเพียงนางเอกงิ้ว ถึงแม้จะมีใบหน้าที่งดงามราวกับธิดาสวรรค์ก็เถอะ แต่ก็เป็นเพียงพวกเต้นกินรำกิน ไฉนเลยจะมาสู้บุตรสาวของขุนนางระดับสูงอย่างเหลียวจินลี่ได้ อีกทั้งเขาคาดหวังจะให้นายอำเภอหลานและท่านตาของหลานฮุ่ยเจินช่วยผลักดัน เกื้อหนุน ให้เขาเข้ารับราชการในราชสำนักและมีตำแหน่งใหญ่โตเพราะเขาสืบรู้มาว่า หลานยี่หลง หรือท่านนายอำเภอหลานนั้นมีคนรู้จักมักคุ้นนอกเหนือจากพ่อตา หรือพูดง่ายๆก็คือมีเส้นสายในราชสำนักอยู่บ้าง ตัวนายอำเภอหลานเองเป็นคนรักสันโดด รักความสงบ เลยไม่สนใจที่จะรับราชการในราชสำนักแต่กลับตั้งใจมาเป็นนายอำเภอที่บ้านเกิดอย่างเมืองโจวถิงแห่งนี้ และนี่คือเหตุผลที่ซือจิ้นหยางเข้ามาแกล้งทำเป็นผูกสมัครรักใคร่กับบุตรสาวคนโตของท่านนายอำเภอหลาน อันที่จริงเขามิได้รู้สึกเสน่หาในตัวนางเลย เขามีคนที่ตนพึงพอใจอยู่แล้ว นั่นก็คือ จิวลี่อิง บุตรสาวของพ่อบ้านสกุลซือนั่นเอง แต่ด้วยชาติกำเนิดและฐานะทางสังคมที่ต่ำต้อยของนาง ความรักของพวกเขาทั้งคู่จึงไม่อาจเปิดเผยได้ ถึงแม้ว่าหลานฮุ่ยเจินจะมีข่าวลือที่เสียๆหายๆว่าชาติที่แล้วนางเป็นมาร แต่ก็เป็นเพียงแค่ข่าวลือ ซือจิ้นหยางหาได้ใส่ใจไม่ เพราะอันที่จริงเขาหาได้ใส่ใจในตัวนางอย่างแท้จริง เขาเล็งเห็นเพียงแค่ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากนางเท่านั้น
หลานฮุ่ยเหมยไม่เคยล่วงรู้เลยว่าซือจิ้นหยางนั้นมีสตรีในดวงใจแล้ว นางคิดเอาเองเสียเพียงว่าเขานั้นพึงใจในพี่สาวของนาง ด้วยเหตุที่ว่ามารดาของนางนั้นเป็นถึงบุตรสาวของขุนนางระดับสูงในราชสำนัก แต่หากวันนี้นางไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ซือจิ้นหยางจะไปไหนเสีย อย่างไรเสียนางก็เป็นบุตรสาวอีกคนของนายอำเภอหลาน และตอนนี้มารดาของนางก็ได้เลื่อนฐานะจากอนุขึ้นมาเป็นฮูหยินแล้ว ที่สำคัญที่สุด ตัวของหลานฮุ่ยเหมยเองนั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองโจวถิง คุณสมบัติเช่นนี้มีหรือที่บุรุษคนใดจะกล้าปฏิเสธ
หลานฮุ่ยเหมยกำลังใจจดใจจ่อรอฟังสัญญาณจากสาวรับใช้คนสนิทที่ให้ไปสืบข่าวจากเรือนใหญ่ของฮูหยินผู้เฒ่า
“คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” สาวใช้คนสนิทนามว่า ซานซาน วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
หลานฮุ่ยเหมยสูดลมหายใจเข้าลึกๆนางยืดอก นั่งตัวตรง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงอันเรียบ ทว่า สั่นเทา ออกไป
“มีเหตุอันใดกันรึเจ้าถึงได้วิ่งแหกปากร้องเสียงดังมาแต่ไกลเช่นนี้ เล่นเอาข้าตกอกตกใจหมด” นางได้เล่นละครตามที่ได้ตระเตรียมกับเหล่าสาวใช้เอาไว้
“คุณหนู คะ...คือ....คือ เรื่องไม่เป็นไปตามคาดเจ้าค่ะ เกิด ระ...ระ...เรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”
หลานฮุ่ยเหมยตาเบิกโพลง นางก็เหมือนวัวสันหลังหวะ กลัวว่าเรื่องเลวร้ายโหดเหี้ยมที่นางได้กระทำกับพี่สาวจะมีคนตาดีไปรู้ไปเห็นเข้า
“เจ้าว่าอะไรนะ เกิดอันใดขึ้น รีบเล่ามาเร็วๆสิ มัวอ้ำอึ้งอยู่ได้ หรือว่า....หรือว่ามีคนเห็นตอนที่พวกเราเอาตัวนังแพศยานั่นไปที่ป่า”
“ไม่ใช่เจ้าค่ะคุณหนู ตอนที่บ่าวรอให้จิ้งอี้วิ่งมารายงานฮูหยินผู้เฒ่าว่าคุณหนูใหญ่คิดสั้นผูกคอตายในป่านั้น รอแล้วรอเล่านางก็ยังไม่มาสักที แต่คนที่มานี่สิเจ้าคะ....” ซานซานเล่าไปก็หอบหายใจไปอย่างตื่นเต้น
“ผู้ใด ผู้ใดกันที่มา อย่าบอกนะว่าเป็น…เป็นทางการ ชะ…ชะ…ใช่หรือไม่?” หลานฮุ่ยเหมยนั้นทั้งหวาดระแวงว่าจะมีคนมารู้เห็นว่านางได้ทำอะไรลงไปกับพี่สาวต่างมารดาและทั้งกังวลว่าแผนการจะไม่สำเร็จ
“ มิใช่เจ้าค่ะ ผู้ที่มานั้น ได้ยินแว่วๆว่ามาจากวังหลวง นำราชโองการของฮ่องเต้มาที่จวนสกุลหลานเจ้าค่ะ ตอนนี้ฮูหยินผู้เฒ่าให้คนไปที่อำเภอเพื่อเรียกตัวนายท่านกลับมารับราชโองการที่จวนเจ้าค่ะ”
“ราชโองการเช่นนั้นรึ ราชโองการอะไรกัน?” หลานฮุ่ยเหมยครุ่นคิดอย่างแปลกใจ แต่ไหนแต่ไรมาจวนสกุลหลานแห่งนี้ไม่เคยได้ต้อนรับผู้คนที่มาจากราชสำนักหรือขันทีผู้เป็นตัวแทนของฮ่องเต้ แต่จู่ๆวันนี้กลับมีราชโองการมาที่จวนสกุลหลาน มันคือราชโองการอะไรกันแน่
ตอนนี้เหล่าบรรดาบ่าวรับใช้ทั้งชายหญิงของสกุลหลานซึ่งมีราวๆยี่สิบคนกำลังมาออกันด้านหน้าเรือนหลักรอฟังราชโองการจากวังหลวง นายอำเภอหลาน หลานยี่หลงได้เดินทางมาถึงแล้ว ตอนนี้เขากำลังคุกเข่ารอรับราชโองการอยู่ด้านหน้าเขามีขันทีผู้เป็นตัวแทนของฮ่องเต้ซึ่งกำลังจะเปิดราชโองการอ่านยืนอยู่อย่างสง่า หลานฮุ่ยเหมยพลันเดินมาถึงด้านหน้าประตูทางเข้าพอดี หญิงสาวหยุดยืนรอฟังราชโองการที่ด้านนอกห้องรับรองแขกด้วยใจที่เต้นไม่เป็นส่ำคล้ายๆมีลางสังหรณ์ว่าวันนี้ต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่
“นายอำเภอหลาน หลานยี่หลง รับราชโองการ เนื่องจากฝ่าบาททรงเล็งเห็นว่าหลานยี่หลงเป็นขุนนางตงฉิน ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริตเรื่อยมา ฝ่าบาททรงมีพระเมตตาอยากจะเกี่ยวดองกับสกุลหลาน จึงพระราชทานสมรสให้บุตรสาวคนโตของหลานยี่หลงกับอ๋องแปด ไป๋เฟยหมิง นายอำเภอหลาน หลานยี่หลงจงน้อมรับพระบัญชา” อ่านราชโองการจบขันทีที่ฮ่องเต้ส่งมาจากวังหลวงก็ม้วนเก็บราชโองการก่อนจะยื่นส่งให้กับหลานยี่หลงที่กำลังคุกเข่าอยู่ หลานยี่หลงยื่นมืออันสั่นเทาออกไปรับราชโองการ หลากหลายความรู้สึกต่างประดังประเดเข้ามา เขาแทบจะไม่เชื่อว่าสิ่งที่ได้ยินกับหูของตนเองในวันนี้จะเป็นเรื่องจริง