เช้าวันต่อมา
วันนี้ฉันมีเรียนตอนเช้า แต่ก็เกือบมาเรียนไม่ทันถ้ามิรินไม่โทรมาฉันหลับยาวแน่นอน เพราะฉันลืมตั้งนาฬิกาปลุก วันนี้ฉันมีเรียน Eng แค่วิชาเดียว เพราะตอนบ่ายอาจารย์ยกคลาส อาจารย์วิชา Eng กับวิชาตอนบ่าย ค่อยข้างสบาย ๆ พวกฉันสามารถแต่งตัวธรรมดามาเรียนก็ได้ แต่บางวิชาก็เข้มมากต้องแต่งตัวถูกระเบียบ
ฉันนั่งเรียนไปสักพักก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ธันมีลงเรียนช็อปตอนบ่าย หมอนั่นอะพอลงช็อปทีไรได้แผลที่มือแทบจะทุกที
“มึงว่างปะ ไปกับกูหน่อยดิ” ฉันหันไปกระซิบข้าง ๆ หูเจ้าจอม
“แหม ไม่มีลืมเลยมึงอะ ไปดิ” เจ้าจอมพูดพร้อมกับสะกิดฉันให้ลุกขึ้น ก่อนไปฉันก็ฝากมิรินกับเกรซ จดการบ้านต่อ
ส่วนฉันกับเจ้าจอมก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่คณะวิศวะ ดีนะที่มันไม่ได้ไกลจากตึกคณะฉันมาก ไม่งั้นหอบแหลกแน่นอน พอมาถึงคณะวิศวะฉันก็ตรงไปที่ล็อคเกอร์ตู้ประจำของธันก่อนจะแขวนถุงพลาสเตอร์ไว้ให้
แล้วรีบเดินออกมา เพราะกลัวมีใครมาเห็น แต่ทว่า…
“อ้าวมึง! มาทำไรอะ” ธันเดอร์ถามฉันพร้อมกับมองหน้า ซวยแล้ว T^T
“เอ่อกู กู...คือกูพาไอ้เจ้ามาหาขุนอะ” จะติดอ่างเพื่อ
“หื้อ กู?” เจ้าจอมหันมามองหน้าฉันเหวอ ๆ แต่ก็ยอมเออออห่อหมกตาม
“ไอ้ขุนมันอยู่ข้างในอะ กูออกมาเอาของที่รถ มึงจะเข้าไปหาไอ้ขุนก่อนปะล่ะ พวกกูยังไม่ได้ลงช็อป”
“อ่อ งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวกูค่อยทักไลน์มันทีหลังก็ได้ งั้นพวกกูกลับก่อนนะ ปะอิเบลล์” เจ้าจอมพูดพร้อมกับรั้งแขนฉันให้เดินไป ส่วนธันก็ยืนมองพวกฉันพร้อมกับพยักหน้าให้
ฉันกับเจ้าจอมรีบเดินออกมาจากตึกคณะของธันด้วยความไวแสง ก่อนจะมาหยุดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างทางเดิน
เกือบไปแล้ว!
“อิเบลล์! เป็นการตอแหลที่เหี้ยที่สุดในชีวิตกูเลยมึงรู้มั้ย” เจ้าจอมหันมาพูดกับฉัน
“ก็ตอนนั้นกูคิดอะไรไม่ออกอะมึง”
“ร้อยวันพันปีกูเคยมาหาอิขุนที่คณะซะที่ไหนล่ะ! แต่โชคดีไปที่ธันมันไม่ได้สงสัยไรอะ ไม่งั้นนะมึงเอ้ย”
“ตายแน่นอน!” ฉันพูดพร้อมกับทำหน้าจะร้องไห้
“ช่างมัน มันไม่สงสัยไรหรอก ว่าแต่มึงเถอะ มึงทำแบบนี้ไม่เบื่อบ้างหรอวะคอยดูแลเอาใจใส่มันแบบนี้ ทำไปแม่งก็ไม่รู้อะ”
“ไม่เบื่อหรอกมึง อย่างน้อย ๆ กูก็ได้ทำอะ มันจะรู้หรือไม่รู้ก็ไม่เป็นไร” ฉันพูดออกไปตามที่ตัวเองรู้สึกฉันรู้แค่ว่าฉันอยากดูแลธันมันก็แค่นั้น
“มึง มึงไม่ลองบอกมันอะว่ามึงรู้สึกยังไงกับมัน ไม่แน่นะ บางทีมันอาจจะรู้สึกแบบที่มึงรู้สึกอยู่ก็ได้นะ เบลล์”
“ไม่หรอกมึง กูรู้ว่าธันไม่ได้คิดอะไรกับกูนอกจากคำว่าเพื่อน”
“เดี๋ยวมึง เพื่อนกันที่ไหนจะทำแบบที่อิธันมันทำกับมึงวะ ไปไหนมาไหนด้วยกัน ชวนไปกินข้าวสองต่อสอง ไปบ้านพ่อแม่มันอีกแล้วไหนจะชวนไปดูแม่งแข่งบอล อิเบลล์เพื่อนที่ไหนเขาทำแบบนี้กันวะ” เจ้าจอมพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“มันคงไว้ใจกูมากอะมึง”
“โอ๊ย! เกินไป มึงไม่ลองเสี่ยงดูวะ ถ้าแม่งรู้สึกแบบเดียวกับมึงก็โอเคไม่ใช่หรอ แต่ถ้าไม่ถ้ามันต้องเสียเพื่อนกันเพราะเรื่องแบบนี้ก็ให้มันรู้ไปมึง กูไม่โอเคที่เห็นมึงเป็นแบบนี้อะ” เจ้าจอมพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาจับไหล่ทั้งสองข้างของฉัน
“กูกลัวอะมึง” ฉันพูดเสียงเบา ฉันกลัวจริง ๆ นะ ถ้าเกิดพูดไปแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง ฉันก็กลัวว่าฉันจะไม่ได้อยู่ในสายตาธันอีก
“แล้วมึงมีความสุขหรอที่เห็นอิธันมันมีแฟนคนแล้วคนเล่าอะ ไม่เจ็บหรอที่แม่งรักใครแล้วก็คอยมาบอกมึงอะ เก็บไปคิดดูนะมึง ถ้ามึงยังเป็นแบบนี้มึงก็ทำได้แค่แอบรักแบบนี้ต่อไป แล้วก็มองแม่งรักกับคนอื่นต่อไป”
“โหยมึง แรงอะ” ฉันพูดค้อนใส่เจ้าจอม
“ไม่ต้องมาค้อน ไปเรียนเลย ไม่รู้จารย์สอนถึงไหนละ ไปค่ะ” เจ้าจอมพูดพร้อมกับรั้งแขนฉันให้เดินตามมันไป ในระหว่างที่ฉันเดินกลับไปในหัวของฉันก็คิดถึงคำพูดที่เจ้าจอมพูดกับฉัน หรือว่าฉันควรจะเสี่ยงดูดีนะ ฉันเก็บคำพูดของเจ้าจอมไปคิดโดยที่ความคิดมันก็ตีกันอยู่ในหัวฉันว่าฉันควรจะบอกธันดีไหม…
เมื่อเลิกเรียนฉันกับเพื่อนก็แยกย้ายกันกลับ เพราะแต่ละคนล้วนมีธุระกันหมด ส่วนฉันอะหรอ ก็กลับคอนโดไปนอนขึ้นอืดไง ที่สำคัญกลับเองด้วย เพราะรถฉันเข้าอู่เช็คสภาพ - -
Rrrrrrrrrrrrrrr
ระหว่างที่ฉันกำลังจะข้ามถนนไปรอรถประจำมหาลัย โทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้น ฉันค่อย ๆ หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ามาดูก่อนจะรู้ว่าใครโทรมา
‘เจ้ากรรมนายเวร’
จะมีใครถ้าไม่ใช่ไอ้บ้าธัน
“ฮัลโหล...ว่า” ฉันรับสายแล้วพูดขึ้น
“รอตรงนั้นแหละ เดี๋ยวไปรับ”
“หะ! ฮัลโหล ๆ ” ไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบอะไร อิตาบ้านั่นก็วางสายใส่ฉันซะงั้น ฉันยืนอยู่ที่เดิมไม่นานก็เห็นรถ Ferrari California สีเทาขับเข้ามาจอดตรงหน้าฉัน ก่อนคนในรถจะลดกระจกลง
“เตี้ยขึ้นรถ” ธันตะโกนออกมาจากในรถ ฉันมองธันแบบงง ๆ ก่อนจะเปิดประตูก้าวขึ้นไปนั่ง
“พวกมิรินไปไหนอะ” พอรถออกตัวธันก็หันมาถามฉัน
“กลับไปแล้ว พวกนั้นมันมีธุระ แล้วนี่มึงจะพากูไปไหนคะ” ฉันพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเช็คไอจี
“ไปคอนโดกู ติว Eng ให้หน่อยดิ”
“Eng ไรมึงวะ กูไม่ได้เรียนกับมึงนะ” ฉันหันไปถามธันด้วยความสงสัย คือฉันไม่ได้เรียนกับมันไง
“เอ้า! ก็มึงเก่งวิชานี้อะ กูเลยจะให้มึงติวให้”
“เออ ๆ ก็ได้” ฉันตอบก่อนจะหันกลับมาเช็คไอจีเหมือนเดิม
“เดี๋ยวแวะซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแป็บนะ ทำสเต็กกินกัน กูเลี้ยง ๆ”
“อ่าเค” ฉันตอบโดยไม่ได้หันไปมองหน้าธัน
ฉันกับธันก็มาแวะที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกัน คุณชายเขาก็เลือกซื้อของสบายใจเขาอะ อิตานี่มันจะรู้สึกดีเวลาได้จ่ายเงิน พอซื้อของเสร็จเราก็ตรงดิ่งไปที่คอนโดธันที เอาจริง ๆ ฉันก็เคยมาคอนโดธันหลายครั้งแล้วแหละ แต่ส่วนใหญ่จะมาเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ไง น้อยครั้งที่จะมาคนเดียวแบบนี้ พอมาถึงคอนโดธันก็เปิดประตูห้องให้ฉันเข้าห้องมันไปก่อน ส่วนธันเดินตามเข้ามาทีหลัง
“เบลล์ มึงจำที่กูเล่าให้ฟังได้ปะ พวกของที่มีคนชอบแอบเอามาให้กูอะ” ฉันชะงักเท้าตัวเองทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ธันพูด
“จำได้ ทำไมอะ” ฉันหันไปตอบธันพร้อมกับพยายามควบคุมสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด
“เหมือนกูจะเริ่มรู้แล้วว่ะว่าใคร” ธันพูดพร้อมกับสบตาฉัน แต่เป็นฉันที่ต้องหลบสายตาธัน
“ระ หรอ...ใครอะ” อยากจะตีปากตัวเองจะติดอ่างทำไม
“ไม่บอก ขอกูแน่ใจกว่านี้ก่อน เดี๋ยวกูเซอร์ไพรส์ทีเดียวตอนวันเกิดกู” ธันพูดพร้อมกับขยี้หัวฉันแล้วเดินเอาของไปวางในครัว
หรือธันจะรู้แล้วอะ แต่ธันจะรู้ได้ไงในเมื่อทุกครั้งที่ฉันเอาของไปวางฉันเช็คตารางเรียนธันเรียบร้อยแล้วก็เช็คเพื่อนแต่ละคนของธันด้วย
“มึงจะยืนเตี้ยอีกนานปะครับ มานั่งดิ” ฉันเลิกคิดก่อนจะทำตัวปกติแล้วไปนั่งตรงโซฟากลางห้อง ธันก็เดินตามมานั่งข้าง ๆ ฉัน
“ไหนมึงจะติว Eng ไรมึง” ฉันหันไปถามถึงสิ่งที่มันจะให้ติว ธันก็เดินไปหยิบหนังสือมาให้ฉันดู ก่อนจะเริ่มติวกัน พอเริ่มติวฉันกับธันเราก็เปลี่ยนมานั่งพื้นกัน จริง ๆ ธันมันเป็นคนหัวดีมากเลยนะ แต่ว่าธันติดขี้เกียจ ธันไม่ชอบพวกภาษาแต่ธันชอบพวกคำนวณมาก โจทย์ยากแค่ไหนธันก็หาคำตอบได้ ส่วนฉันหรอเกลียดวิชาที่คำนวณสุด ๆ เลยล่ะ เราใช้เวลาติวกันนานพอสมควร ไม่ใช่ธันมันตั้งใจติวนะ มันติดเล่น เดี๋ยวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คนู่นนี่นั่น เยอะเหลือเกิน กว่าจะติวเสร็จก็เกือบ 4 ชั่วโมง = =’
“มึงหิวข้าวยัง” ธันถามฉันเสียงเรียบ
“หิวสิคะ ติวให้มึงอะ เหมือนติวเด็กสัก 20 คน” ฉันบ่นใส่ธัน
“เว่อร์ ๆ เดี๋ยวทำสเต็กให้กิน ไปเป็นลูกมือกูหน่อย” ธันพูดแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับยื่นมือมาให้ฉัน
“นี่กูมาติวให้มึง แล้วกูยังต้องช่วยมึงทำอาหารอีกหรอ?”
“พูดมาก เร็ว ลุกขึ้น” ฉันทำหน้าเนือย ๆ ใส่ธันก่อนจะยอมจับมือธันแล้วลุกขึ้น พร้อมเดินตามธันไปที่ห้องครัว จริง ๆ ธันเป็นผู้ชายที่ทำอาหารได้ทุกอย่าง ยกเว้นอาหารไทย - -
“เตี้ยหันหน้ามาเร็ว” ในระหว่างที่ฉันกำลังจะล้างผักที่จะเอามากินคู่กับสเต็ก ธันก็เรียกฉันให้หันไป เมื่อฉันหันไปมองธัน ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรธันก็สวมเสื้อกันเปื้อนให้ฉัน
“ขะ ขอบใจ” ฉันพูดพร้อมกับพยายามไม่มองหน้าธัน แต่มันทำได้ไม่ดีเลย ฉันขยับตัวออกห่างจากร่างสูง เพื่อที่จะผูกเชือกผ้ากันเปื้อนที่อยู่ด้านหลังเอง
“เดี๋ยวผูกให้” ธันพูดพร้อมกับสอดมือผ่านเอวฉันเพื่อที่จะผูกเชือกด้านหลังให้ฉัน ทำให้ในตอนนี้ระดับหน้าฉันอยู่ระหว่างอกของธัน กลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่ธันใช้ประจำรอบนี้มันแตะจมูกฉันเข้าอย่างจัง อิตาบ้า ทำไมไม่เดินอ้อมไปผูกข้างหลังฟะ
ให้ตายเถอะ ใจฉันเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
“เสร็จละ ทำไมมึงหน้าแดงวะ” พอธันผูกผ้ากันเปื้อนให้ฉันเสร็จ ธันก็เงยหน้ามาพูดกับฉัน
“หน้าแดงไร บ้า ทำอาหารได้แล้วมึง” ฉันพูดพร้อมกับจะหันไปล้างผักต่อ
“เดี๋ยวดิ ผูกผ้ากันเปื้อนให้กูหน่อย”
“ไม่ มึงก็ผูกเองสิ” ฉันพูดพร้อมกับหันไปหยิบผักมาล้างน้ำ
“กูยังผูกให้มึงเลยปะ” อิตาบ้านี่ก็พูดอยู่ได้
“กูก็ไม่ได้ขอปะ”
“โหย เตี้ย...” ธันพูดแค่นั้นแต่ก็ยอมผูกผ้ากันเปื้อนเอง ที่ฉันไม่ยอมผูกให้ธันเพราะฉันกลัวธันมันจะเห็นว่าหน้าฉันยังไม่หายแดง ฉันยังรู้สึกร้อน ๆ ที่หน้าอยู่เลย
จากนั้นเราก็เริ่มลงมือทำสเต็กกัน ฉันเป็นได้แค่ลูกมือของธันจริง ๆ ด้วยอะแหละ ฉันทำอะไรแบบนี้ไม่ค่อยเป็นหรอก พอทำเสร็จฉันก็รับจานสเต็กไปวางที่โต๊ะกินข้าวแล้วเราก็มานั่งกินกัน
“มึงว่าป่านนี้นับดาวจะเป็นไงบ้างวะ” ในระหว่างที่ฉันกำลังจะเริ่มหั่นสเต็ก ธันก็พูดถึงนับดาวขึ้นมา นับดาวเคยเป็นแฟนเก่าที่ธันรักมาก จนตอนนี้ธันก็ยังลืมนับดาวไม่ได้ ที่ธันเลิกกับนับเป็นเพราะว่านับต้องไปเรียนต่อเมืองนอก แล้วที่สำคัญนับเองพึ่งจะรู้ตัวว่านับไม่ได้รักธันแบบแฟน
ฉันรู้เพราะนับเคยมาปรึกษาฉัน แต่ฉันไม่กล้าบอกใคร นับให้เหตุผลในการเลิกกับธันว่านับดาวต้อง การไปเรียนต่อต่างประเทศ และต้องการหลีกทางให้ใครคนหนึ่ง ซึ่งมันก็คือฉัน ฉันเองก็พึ่งรู้ว่านับดาวรู้ว่าฉันชอบธัน แต่ฉันไม่เคยอยากให้นับดาวมาหลีกทางให้ฉัน แค่ฉันได้อยู่ในที่ของฉันมันก็โอเคแล้ว ฉันไม่เคยต้องการให้ใครมาหลีกทางให้
ช่วงนั้นธันเสียใจหนักมาก ทั้งยื้อทั้งรั้งขอร้องให้นับดาวไม่ไปแต่ก็ไม่ได้ผล ธันพยายามถามว่านับดาวต้องการหลีกทางให้ใคร แต่นับก็ไม่เคยพูด ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่โคตรแย่ สำหรับธันใช้เวลานานพอสมควรกว่าธันจะกลับมาโอเค แต่ธันก็ไม่เคยลืมนับดาวได้เลย ถึงจะคบใครก็คบไม่ได้นานหรือไม่ก็มีแค่คู่ควง
“มึง…เบลล์…เห้ย! เตี้ย”
“หะ ๆ ว่า...” ฉันสะดุ้งก่อนจะเงยหน้าไปตอบธัน
“คิดไรอยู่” ธันถามพร้อมกับมองหน้าฉันด้วยความสงสัย
“ปะ ป่าว”
“อืม...มึงได้คุยกับนับบ้างมั้ย”
“ไม่เลยอะ นับไม่ได้ติดต่อมาเลย นี่มึงยังไม่ลืมนับอีกหรอ” ฉันถามพร้อมกับมองหน้าธัน
“ไม่ใช่ว่ายังลืมไม่ได้ แต่กูไม่เคยคิดที่จะลืมนับเลยต่างหาก…” ธันตอบฉัน สีหน้าและแววตาของเขาดูจริงจังมาก ฉันพยักหน้าให้ธันก่อนจะเริ่มจัดการอาหารตรงหน้า หลังจากทำไรกันเสร็จธันก็มาส่งฉันที่คอนโด
พอธันกลับไปฉันก็ตรงดิ่งขึ้นห้องตัวเองทันที ในหัวก็มัวแต่คิดเรื่องธันซ้ำไปซ้ำมาว่าฉันควรบอกธันดีไหม ถ้าบอกแล้วผลตอบรับมันจะเป็นยังไง โอ๊ยปวดหัว