Princeton University
“เตี้ย!!” ฉันหันไปมองต้นเสียงที่ตะโกนเรียกฉันจากหน้าตึกคณะ ก่อนจะรีบปิดประตูรถแท็กซี่แล้วเดินไปหาร่างสูงที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงรอฉันอยู่ที่หน้าตึก
“มึงจะตะโกนเรียกกูทำไมเนี้ย อายเขา!” พอฉันเดินมาถึงหน้าตึกคณะ ฉันก็จัดการฟาดมือไปที่แขนของธันเดอร์ทันทีพร้อมกับพูด
“โอ๊ย กูเจ็บนะ!” ธันเดอร์พูดพร้อมกับลูบแขนตัวเองไปมา
“ก็ใครให้ตะโกนเสียงดังอะ แล้วนี่มารอกูมีอะไรไม่ทราบคะ” ฉันกอดอกมองธันเดอร์พร้อมกับถาม ธันมองฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“เย็นนี้กูมีแข่งบอลอะ ไปดูกูนะ” ฉันมองธันเดอร์อึ้ง ๆ ก่อนจะรู้สึกว่าหน้าตัวเองเริ่มร้อนขึ้นมาดื้อ ๆ
“มึงมาหากูเพราะจะบอกแค่นี้เนี่ยนะ?” ฉันพยายามทำตัวให้เป็นปกติแล้วถามธัน
“เออ ไมอะ” ธันตอบพร้อมกับพยักหน้าใส่
“โทรมาก็ได้ปะ”
“ก็กูเท่อะ อยากมาบอกเอง มีปัญหาไง”
“เอาที่เพื่อนสบายใจเลยค่า แล้วแข่งกี่โมง กูเลิกเรียน 4 โมง”
“เดี๋ยวกูมารับ กูแข่ง 6 โมง” ธันยิ้มให้ฉันนิดนึงก่อนจะตอบ
“เออ ๆ โทรมาแล้วกัน ไลน์มาก็ได้”
“เค ๆ แล้วเจอกัน” ธันเดอร์พูดพร้อมกับพยักหน้าให้ฉันก่อนจะหันหลังเดินไป
“เดี๋ยวมึง!” ในจังหวะที่ฉันกำลังจะหันหลังเดินไปรอลิฟต์ เพื่อนตัวดีก็เรียกฉันไว้อีกรอบ - -
“อะไรของมึงอีกคะ” ฉันเลิกคิ้วพลางถามธัน
“ยืมยางรัดผมหน่อยดิ วันนี้ลงช็อปอ่ะ ผมข้างหน้าแม่งยาวทิ่มตา” ธันพูดพร้อมกับเสยผมตัวเองขึ้น
“เส้นก่อนมึงยังไม่คืนกูเลยนะ” ฉันบ่นอุบอิบ แต่ก็ยอมถอดยางที่ข้อมือให้ธันไป
“เส้นนั้นกูทำหายอะ ไม่รู้ไปทำตกไว้ไหนหาไม่เจอ” ธันพูดนิ่ง ๆ พร้อมกับรับยางไป
“หายอีกกูไม่ให้แล้วนะ เปลือง”
“ทำมาเป็นงก กูซื้อให้มึงเป็นโหลเลยเอามั้ย แล้วก็มัดผมให้ด้วยดิ เอาหล่อ ๆ นะ” ธันพูดจบไม่รอให้ฉันตอบ จู่ ๆ เขาก็ย่อตัวลงให้ฉันผูกผมข้างหน้าให้ คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็หันมามองธันเดอร์กับฉันใหญ่เลย แล้วอิตาบ้านี่ก็ดังในหมู่สาว ๆ ด้วยไง
“ไม่เอา คนมองเยอะแล้วมึง” ฉันพูดพร้อมกับหันไปมองคนรอบข้าง
“เอ้า! มัดให้กูแป็บเดียวเอง กูมัดเองแล้วมันเจ็บหนังหัวอะ มือมึงเบาอะ มัดให้หน่อยดิ”
“เออ ๆ ก็ได้” ฉันพูดพร้อมกับค่อย ๆ รวบผมธันขึ้นแล้วค่อย ๆ มัดให้
“เสร็จแล้ว ไปตัดผมได้แล้วนะมึงอะ จะได้ไม่เดือดร้อนกู” ฉันพูดพร้อมกับหันไปมองทางอื่น เพราะฉันรู้สึกว่าหน้าฉันกำลังแดง แล้วก็แดงมากด้วย >เพื่อน ไม่ได้…
ฉันพยายามห้ามตัวเองแล้วแต่มันก็ทำไม่ได้ ฉันคิดว่าผู้หญิงกับผู้ชายสามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้ แต่สำหรับฉันมันไม่ได้…
“เบลล์!!” ฉันสะดุ้งตัวพร้อมกับหันไปมองคนที่ตะโกนใส่หูฉัน
“อะไรของพวกมึงเนี้ย ตะโกนใส่หูกูไม” ฉันโวยวายใส่มิรินกับเจ้าจอมที่ตะโกนใส่หูฉัน
“ขอโทษนะคะ พวกกูยืนเรียกมึงนานมาก...จนกูต้องตะโกนใส่หูมึงเนี้ย” มิรินยืนเท้าเอวมองหน้าฉันพร้อมกับพูด
“คิดอะไรอยู่วะ กูเห็นตั้งแต่อิธันไปมึงก็ยืนนิ่งเลย” เจ้าจอมพูดพร้อมกับมองหน้าฉันด้วยความสงสัย
“คิดไรเรื่อยเปื่อยอะมึง แล้วนี่เกรซอะ”
“เดี๋ยวเกรซมันตามมา แล้วเมื่อกี้อิธันมันมาอ้อนอะไรอีกล่ะ” มิรินพูดพร้อมกับมองหน้าฉัน
“มันชวนไปดูมันแข่งบอลอะ”
“เนี้ย แม่งก็เป็นซะแบบนี้ จะไม่ให้อิเบลล์มันรู้สึกได้ไงวะ” เจ้าจอมพูดพร้อมกับหันไปมองหน้ากับ
มิริน เพื่อนฉันรู้ว่าฉันคิดยังไงกับธัน ตอนแรกฉันนึกว่าจะไม่มีใครรู้แต่พวกนี้มันเซ้นต์แรงซะงั้น
“เออ...กูโอเค” ฉันตอบปัด ๆ เพื่อนไป
“ให้มันจริงเถอะค่ะ” มิรินพูดพร้อมกับมองบนใส่ฉัน
“ไป ๆ ขึ้นไปรออิเกรซบนห้องกัน” เจ้าจอมพูดพร้อมกับรั้งแขนฉันกับมิรินให้เดินตามนางไป เจ้าจอม กับมิรินเป็นเพื่อนที่ฉันคบมาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วก็กลุ่มเดียวกับพวกธันแหละ ส่วนเกรซมาสนิทตอนที่พวกเราเข้ามหาลัย แต่ไม่ว่าจะสนิทช้าหรือเร็วสำหรับฉันสามคนนี้คือเพื่อนที่ฉันรัก
เมื่อขึ้นมาถึงห้องเรียนไม่นานเกรซก็มาถึง เรานั่งเรียนกันตามปกติ เรียนบ้างเล่นโทรศัพท์บ้างแล้วแต่ช่วง ฉันชวนเพื่อนไปดูธันแข่งบอลด้วยกันพวกมันก็โอเคตกลงไป พอถึงเวลาเลิกเรียนธันก็มารอรับฉันหน้าตึกคณะตามที่ธันบอก
“ไหนบอกเลิกสี่โมง นี่สี่โมงจะครึ่งอยู่แล้วอิเตี้ย” หน้าชาไปอีก
“เอ้า! มันก็ต้องมีเลทกันบ้างปะ” ฉันจิกตาใส่ธันพร้อมกับเถียงสู้
“แหม...มึงรอนิดรอหน่อยไม่ได้เลยดิ กลัวอิเบลล์หายรึไง” มิรินพูดพร้อมกับมองบนใส่ธัน กลุ่มฉันชอบชงว่าฉันกับธันเป็นแฟนกัน แต่พวกที่เริ่มจริง ๆ อะคือเจ้าขุนกับราชันย์ เพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยม
“ทำไมพวกมึงไม่คบกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยวะ เหมือนแฟนกันซะขนาดนี้” ฉันหันไปมองไอ้เจ้าพร้อมกับจิกตาใส่มัน มึงพูดอะไรเนี้ย -0- !
“ไม่อะ ถ้าได้ไอ้เบลล์เป็นแฟนนะ กูคงเหมือนตกนรกทั้งเป็นเพราะปากก็จัดมือก็หนัก” ธันพูดพร้อมกับหยิกเข้ามาที่แก้มฉันแรง ๆ ทีนึง
“โอ๊ยธัน! กูเจ็บนะ นี่ถ้าโลกนี้เหลือมึงเป็นผู้ชายคนเดียวกูจะยอมบวชชีจนตายไปเลย!” ฉันพูดพร้อมกับขยี้หัวธันด้วยสองมือของฉันแรง ๆ
“เชี้ยเบลล์! ผมกูเสียทรง”
“พอ ๆ ๆ จะไปกันได้ยัง” มิรินเป็นคนห้ามทัพระหว่างฉันกับธัน ส่วนธันก็มองหน้าฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ส่วนฉันก็แลบลิ้นใส่เขาไปที เหอะ!
ฉันเชิดหน้าใส่ธันก่อนจะเดินนำไปที่รถ พวกฉันไปรถธันกันหมดเพราะเมื่อเช้าเพื่อนในกลุ่มไม่มีใครเอารถมาเลย เมื่อเช้าฉันก็นั่งแท็กซี่มาเอง
ณ สนามบอล
ตั้งแต่คณะฉันจนมาถึงสนามบอลของคณะวิศวะ ฉันกับธันก็ยังไม่หยุดเถียงกันเลย มันเหมือนต่างคนต่างชินแล้วด้วยมั้งไอ้เรื่องที่ไม่ยอมกัน แต่สุดท้ายธันมันก็ต้องยอมแพ้ฉันทุกครั้งไป
ฉันกับเพื่อนมานั่งดูข้างสนามกัน…ส่วนธันก็โยนข้าวของทุกอย่างของมันมาให้ฉัน
ดีจริง ๆ เจริญจ้า!
“นี่กูไม่ใช่คนใช้ของมึงนะคะ ฝากจังเลย...” ฉันบ่นธันแต่มือก็รับของที่ธันฝากมาวางไว้ที่ตัก
“ฝากนิดฝากหน่อยทำมาบ่น” ธันพูดพร้อมกับผลักหัวฉันเบา ๆ
“เอามาให้กูช่วยเก็บก็ได้นะมึง” เกรซหันมาพูดกับฉันพร้อมกับยื่นมือมาให้
“ไม่เป็นไรมึง เดี๋ยวอิธันมันบ่นกูอีก” ฉันพูดพร้อมกับหันไปมองค้อนใส่ธันอีกรอบ
ธันหยักคิ้วให้ฉันก่อนจะค่อย ๆ ถอดเสื้อนักศึกษาออกแล้วนางก็โยนเสื้อนักศึกษามาให้ฉันตามสเต็ปแม่งคิดอยากจะเปลี่ยนตรงนี้ก็เปลี่ยนไม่อายคนอื่นเขาเลย ดีนะที่ธันใส่กางเกงบอลไว้ข้างในอยู่แล้ว ฉันก็พยายามจะไม่มองกล้ามหน้าอกแล้วก็ซิกแพคของเขา แต่มันก็อดที่จะแอบมองไม่ได้ไง อิตาบ้าเอ้ย!
“เนี้ย ๆ เช็ดน้ำลายหน่อยอิเตี้ย หื่นนะมึงอะ” ธันพูดพร้อมกับใช้นิ้วชี้สะกิดที่ปากล่างของฉันแล้วรีบวิ่งลงสนาม ปล่อยให้ฉันหน้าแดงกับการกระทำของเขา
“ไม่ธรรมดา…” มิรินพูดพร้อมกับหรี่ตามองฉัน
“เคมีผัวเมียมากจ้า” เจ้าจอมพูดเสริมอีกคน
“อะไร ๆ นั่งเงียบ ๆ เหมือนไอ้เกรซเป็นปะพวกมึงอะ” ฉันหันไปบ่นนังเพื่อนตัวดีที่แซวฉันกันอย่างสนุกปาก
“มึงคิดจะบอกธันปะว่ามึงชอบมันอะ” ฉันหันไปมองเกรซ อดอึ้งไม่ได้ที่เกรซถามฉันแบบนี้ เกรซมองหน้าฉันนิ่ง ๆ เหมือนกับรอคำตอบ
“ไม่รู้ว่ะ แต่กูไม่อยากบอกอะ กูไม่อยากเสียเพื่อน” ฉันตอบเสียงเบา จริง ๆ นะ ฉันอยากบอกธันหลายครั้งแล้ว แต่สุดท้ายฉันก็ต้องเก็บคำ ๆ นั้นเอาไว้เพราะกลัวจะเสียเพื่อน…
“เห้ย ๆ ไม่เอา ไม่ดึงดราม่า” มิรินพูดทำลายบรรยากาศ พร้อมกับชวนพวกฉันให้ดูธันแข่งบอล
บรรยากาศภายในสนามเต็มไปด้วยเสียงเชียร์ของสองคณะ วันนี้คณะวิศวกรรมแข่งกับคณะวิทย์ แข่งกันสูสีมาก แต่บรรยากาศก็ไม่ได้ตึงเครียดอะไร พอพักครึ่งธันก็วิ่งมานั่งพักตรงที่นั่งนักบอล ก่อนจะกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาหาฉัน
“เป็นไรอะ เจ็บขาหรอ” ฉันเอ่ยถามธันออกไป ฉันสังเกตได้ว่าตอนธันกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาหาฉัน ธันเดินกระเผลกหน่อย ๆ
“นิดหน่อยว่ะ เจ็บหลังจากเข้าตัดบอลอะ” ธันพูดพร้อมกับหย่อนตัวลงมานั่งข้าง ๆ ฉัน
“ไหวไหมมึง” ฉันถามพร้อมกับก้มลงไปดูที่ข้อเท้าธัน
“นี่มึงมีมุมเป็นห่วงกูด้วยอ่อวะ” ธันพูดพร้อมกับมองหน้าฉันยิ้ม ๆ ฉันเองก็ทำหน้าไม่ถูกพอรู้ว่าตัวเองหลุดแสดงอาการแบบนั้นออกไป
“ปากดีนะมึงอะ! ถ้าขาหักกูจะหัวเราะให้โลกถล่มเลย ไปหาพวกเจ้าขุนเลยไป” ฉันพูดพร้อมกับหันหน้ากลับมาที่เดิม ธันเองก็ลุกขึ้นเดินไปหาเพื่อน แต่ก่อนจะไปก็ไม่วายสะบัดผมใส่ฉันแล้วคือมันพึ่งราดน้ำใส่หัวตัวเองไง - -
พอหมดเวลาพักครึ่งพวกธันก็วิ่งลงสนามอีกครั้ง เกมส์ก็เริ่มเดินอีกครั้งรอบนี้ดูจริงจังกว่าครึ่งแรกอย่างเห็นได้ชัด เสียงเชียร์ก็ยังดังอย่างต่อเนื่อง และสุดท้ายทีมของธันก็ชนะไปอย่างหวุดหวิด พอจบเกมส์ธันก็เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ ฉันอีกครั้ง สภาพนี้หมดหล่อเลยจ้า
“เชี้ยขุน ขอยานวดหน่อยดิ” ธันตะโกนบอกเจ้าขุน เจ้าขุนพยักหน้ารับคำพร้อมกับหยิบยานวดแล้วโยนให้ธัน นี่ถ้าธันรับพลาดหัวฉันได้เลือดออกแน่นอน
“เตี้ย ทายาให้หน่อย” ธันพูดพร้อมกับยื่นขวดยานวดมาให้ฉัน
“ไม่! ตัวมีแต่เหงื่อ” ฉันปฏิเสธเสียงแข็ง ธันมองฉันนิ่ง ๆ แล้วจู่ ๆ ไอ้บ้าธันก็เอื้อมมือมากอดคอฉัน พร้อมกับรั้งตัวฉันให้เข้าไปซุกอกเขา
“ไอ้บ้าธัน! ทำไรเนี้ย” ฉันพูดพร้อมกับดันตัวเองออกมาจากอกเขา
“ก็มึงหาว่ากูสกปรกอะ นี่ไงมึงก็สกปรกกับกูละ จะทายาให้กูได้ยัง” ธันพูดพร้อมกับเลิกคิ้วให้ฉันก่อนจะยัดหลอดยานวดใส่มือฉัน แล้วมีหรอที่ฉันจะปฏิเสธมันได้ ส่วนเพื่อนตัวดีของฉันก็พูดชงอยู่นั่นแหละ แต่ธันมันก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะมันรู้ว่าพวกเพื่อน ๆ ชอบแซวเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว
พอฉันนวดให้ธันเสร็จพวกเราก็เดินไปขึ้นรถกลับ มิรินกับเจ้าจอมไปคันเดียวกับเจ้าขุนแล้วก็ราชันย์ เพราะคอนโดมันอยู่ใกล้กัน ส่วนฉันก็กลับกับธันแล้วก็เกรซ เพราะคอนโดอยู่ใกล้เหมือนกัน แต่ของฉันถึงก่อนฉันเลยย้ายตัวเองมานั่งหลัง
ภายในรถ
“ธันชอบใส่สร้อยข้อมือที่เป็นเชือกถักด้วยหรอ” เกรซที่นั่งเบาะข้างคนขับหันไปถามถึงสร้อยข้อมือเชือกที่ธันใส่
“อืม…มีคนให้มาอะ” ธันตอบเสียงเรียบ
“ใครหรอ” เกรซยังคงถามต่อไป ฉันเองก็เริ่มอยู่ไม่เป็นสุขละเพื่อนจะถามทำเพื่อ T^T
“ไม่รู้เหมือนกันอะ มีคนถักให้แล้วเอามาทิ้งไว้ในล็อคเกอร์ก่อนลงช็อป นี่ก็เส้นที่ 4 ละ” ธันตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะขับรถต่อไปโดยที่ไม่พูดอะไร
ส่วนฉันพอได้ยินธันพูดแบบนี้ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ไม่คิดว่าคนที่ดูจะไม่สนโลกอย่างธันจะจำอะไรแบบนี้ด้วย สร้อยข้อมือนั้นฉันเป็นคนถักเองล่ะ เคยไปเดินตลาดนัดของมหาลัยกับธันแล้วเห็นธันหยุดดูร้านสร้อยข้อมือที่เป็นเชือกถัก แล้วเหมือนว่าธันจะชอบมาก ฉันเลยหัดถักสร้อยข้อมือที่เป็นเชือกนี้ดู กว่าจะถักได้ก็ยากเอาเรื่องเหมือนกันนะ
“ยิ้มไรเตี้ย!” ฉันหุบยิ้มทันทีเมื่อได้ยินเสียงของธัน ก่อนจะจิกตามองผ่านกระจกหน้า
“เจือก!” ฉันพูดก่อนจะหันออกไปมองนอกหน้าต่าง อยากจะตีปากตัวเองจริง ๆ อยากจะยิ้มอยู่นั่นแหละ
พอมาถึงคอนโดฉัน ฉันก็ลาธันกับเกรซแล้วยืนมองรถธันเคลื่อนตัวออกไปก่อนจะหันหลังเดินขึ้นห้องตัวเอง แต่แล้วในหัวของฉันก็มีเรื่องของธันเข้ามาอีก ฉันคิดทุกวันว่าระหว่างฉันกับธันเราจะเป็นมากกว่านี้ได้ไหม แต่ฉันก็ให้คำตอบตัวเองทุกครั้งว่าเป็นไปไม่ได้หรอก
สวัสดีค่าา พอดีขอแจ้งก่อนนะคะว่านิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในชีวิตที่ไรท์เขียน ภาษาอาจจะดูแปลก ๆ เนื้อเรื่องอาจจะดูรวบรัดไปหน่อยนะคะเพราะตอนนั้นเขียนสมัยเรียนอยู่มหาลัยปี 3 ซึ่งผ่านมาค่อนข้างนานค่ะ ไรท์จะอัพไปแล้วก็แก้ไขเนื้อเรื่องกับคำผิดไปด้วยนะคะ