Raam' Crazy :: CHAPTER 1 [70%]

1371 คำ
รามเป็นแฟนของฉันก็จริง แต่เขาก็เจ้าชู้ควงผู้หญิงไปเรื่อยและก็พามากินตับกันแบบนี้เสมอๆ ฉันรู้ รู้มาตลอดแต่สิ่งเดียวที่ฉันทำได้คืออะไรรู้ไหม? ทุกคนอาจจะด่าฉันว่าเป็นอีโง่ ยอมทนอยู่ทำไมกับคนที่ไม่จริงใจกับเรา และใช่ไงฉันก็ยอมโง่ ยอมทนอยู่เพียงเพราะว่ารักรามเกียรติ์มาก ทุกครั้งที่เขาทำแบบนี้ถ้าฉันไม่เห็นก็จะแสร้งทำเป็นไม่รู้ก็ปล่อยไป แต่ทุกครั้งที่ฉันเห็นรามควงกับผู้หญิงคนอื่นฉันก็วีนและเหวี่ยงจนรามหงุดหงิดกับการกระทำของฉันเสมอ “เป็นไรอะแอล?” หันไปมองสบตากับมัดหมี่เพื่อนเพียงคนเดียวของฉันที่เป็นลูกคุณหนูตระกูลดัง แต่เธอจะออกบ๊องๆ หน่อย เพราะแบบนี้ถึงได้น่ารักในสายตาของผู้ชายคนอื่น “ทะเลาะกับรามเกียรติ์อ่อ” “นิดหน่อย” จะบอกว่าหน่อยคงไม่ได้ การที่รามทำเหมือนว่าเรื่องนี้มันธรรมดามากสำหรับเขาแต่มันไม่ใช่สำหรับฉันไง ใครจะทนได้บ้างที่เห็นแฟนของตัวเองไปมีคนอื่นและแม้คนอื่นคือคนที่นอนร่วมเตียงเสร็จก็จากไป “รามเกียรติ์เนือยๆ แบบนั้นคงไม่เจ้าชู้หรอก แกไม่ต้องเครียด” น้อยซะที่ไหนกันล่ะ! ไอ้เนือยๆ เฉื่อยๆ นี่แหละตัวดีเลย “ช่างเหอะ” สิ่งที่ฉันทำได้คือการปล่อยผ่านไง จึงตั้งใจเรียนและรอเวลาไปทำงานหาเงินดีกว่า วันนี้ฉันเลิกเรียนสี่โมงเย็นด้วยนะ เรียนหนักจนปวดหัวแล้วเดินออกมาจากคณะด้วยใจที่ห่อเหี่ยวแบบสุดๆ “วันหยุดฉันไปค้างบ้านแกนะ” “ได้ ต้องทำรายงาน เดี๋ยวฉันหาข้อมูลไว้เลยนะ” มัดหมี่พยักหน้ารับก่อนจะโบกมือให้ฉันที่รถของทางบ้านมารอรับ เป็นรถเบนซ์ที่หรูหรามากความจริงมัดหมี่ชวนฉันกลับด้วยกันล่ะ แต่ฉันก็บอกไปว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวต้องไปทำงานอีกเพื่อนก็เลยเข้าใจ ฉันถอนหายใจก่อนจะเดินไปตามทางเพื่อรอรถเมล์ทว่ารถสปอร์ตปอร์เช่สีขาวก็จอดขวางฉันไว้ก่อนและไม่ต้องเดาให้มาก คนที่ลงจากรถด้วยชุดนักศึกษาแบบไม่เป็นระเบียบพร้อมกับสีหน้าเนือยๆ นิ่งๆ ทำให้ฉันกลอกตาไปมา เดินหนีรามที่เท้าเอวมองฉัน “หยุด” สั่งให้หยุดมีเหรอว่าจะทำตาม “แอล” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยควาไม่พอใจพร้อมกับฝ่ามือที่คว้าท่อนแขนฉันไว้ จึงหันไปสบตากับเขาที่สูงจนฉันต้องเงยหน้ามองพลางบิดแขนออกแต่รามก็ไม่ได้คิดจะปล่อยตาม “ปล่อย” “ขึ้นรถ” “ไม่ไป” แกะนิ้วมือที่เหนียวยิ่งกว่าตีนตุ๊กแกแต่รามก็ไม่ยอมลากฉันไปยังรถของตัวเอง “ราม!” “อย่างี่เง่า” “ใครกันแน่อะ” เถียงเขาและโดนผลักเข้าไปนั่งในรถจนได้ แต่พอจะออกจากรถรามก็โน้มตัวลงมารัดเข็มขัดนิรภัยให้ “อยากโดน” “ไม่ไปไหนทั้งนั้นอะ อย่าบังคับกันจะได้ไหม?!” ตะคอกใส่หน้าเขาที่หันมามองฉันตาขวาง จำต้องเงียบปากแต่เขากลับจูบมาที่ริมฝีปากของฉันอย่างแรง กดหนักจนเจ็บปากดันไหล่หนาให้ออกห่างนั่นแหละรามถึงผละจูบออก “สกปรก” “แอล” “ปากนายไปจูบกับผู้หญิงคนอื่น อย่ามาจูบฉัน” หันหน้าหนีพลางกอดอก รามจึงผละออกไปและปิดประตูลงอย่างแรงจนรับรู้ถึงลมกระแทกที่พัดร่างกาย จากนั้นเขาก็ขึ้นมาประจำที่ของตัวเองขับรถออกจากรั้วมหาลัยโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำเดียว ฉันที่พูดมากๆ ก็เป็นใบ้เลยทันทีเนื่องจากเรื่องเมื่อเช้ายังคงวนเวียนอยู่ในหัว เอนศีรษะพิงกับกระจกรถและมองรถที่กำลังเคลื่อนตัวไปตามทางที่จราจรในเวลานี้ติดขัดอย่างหนัก “แอล” เรียกชื่อฉันแต่ก็เลือกที่จะเงียบ ไม่ได้อยากจะยั่วโมโหรามหรอกนะ แต่มันอดไม่ได้อะ “เรื่องส่วนตัว” จับใจความได้ รามต้องรู้ว่าที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้มันคืออะไรถ้าไม่ใช่เรื่องที่เห็นเมื่อเช้าและไอ้คำว่าเรื่องส่วนตัวก็คือฉันไม่ควรก้าวก่ายไงเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว “รู้” ตอบกลับและมองออกไปด้านนอก “ฉันมีสิทธิ์หรือเปล่า ฉันเป็นแฟนนาย” “แต่ไม่ใช่แม่” “...” “เลิกบ่น” คำตอบของเขาทำให้ฉันเจ็บจี๊ดที่หัวใจยังไงบอกไม่ถูก “ก็แค่นอนด้วย” “อดยากปากแห้งขนาดนั้นเลยเหรอ?” หันไปมองสบตากับเขา “หรือยังไง... เซ็กซ์มันมีค่ามากกว่าฉันเหรอราม” “เลอะเทอะ” “ตอบคำถามดิ” ส่ายหน้าไปมาก่อนจะลดกระจกลงหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบโดยไม่สนใจและพอเห็นรามเป็นแบบนี้ฉันก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกพร้อมกับประตูรถเดินออกมาผ่านรถที่จอดเรียงรายกันอยู่ แต่สัญญาณเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้วและเสียงแตรรถก็ดังขึ้นจนฉันต้องหันไปมองถึงได้เห็นว่ารามลงมายืนเท้าแขนบนหลังคารถและสูบบุหรี่ไปด้วย เอียงคอมองมายังรถของตัวเองเพื่อสื่อว่าให้ฉันกลับไปขึ้นรถเดี๋ยวนี้! “ไปสักทีสิวะ จะจอดทำซากไร!” “ไอ้หน้าหล่อ ขยับรถสิ หิวข้าวโว้ย” ไม่สนใจคำด่าทอและเสียงแตรรถ แต่รามกลับจับจ้องฉันอยู่แบบนั้นโดยไม่ขยับรถจนฉันเห็นคุณตำรวจกำลังเดินข้ามถนนมาแล้ว “ขึ้นรถ” “โธ่เว้ย! ทะเลาะกับเมียเหรอวะ” “เธออย่าลีลาดิ ทำคนอื่นเดือดร้อนชอบนักเหรอ!” ฉันยิ้มแห้งส่งให้กับคนที่อยู่ในรถและยกมือไว้ขอโทษจนมาถึงรถของรามแต่คงจะไม่ทันแล้วเมื่อคุณตำรวจประชิดตัวรามเกียรติ์แล้ว “มีอะไรหรือเปล่าครับ? คุณกำลังทำให้จราจรติดขัดนะ” “ขอโทษด้วยนะคะคุณตำรวจ หนูกับแฟนจะไปกันเดี๋ยวนี้ค่ะ” “จะทะเลาะอะไรกันก็ดูหน่อยนะครับ นี่มันบนถนนเกิดอุบัติเหตุได้” ยกมือไหว้คุณตำรวจขอโทษขอโพยเขา ทั้งที่คนก่อเรื่องดันทำไม่รู้ไม่ชี้และขึ้นรถโดยที่ฉันจะต้องทำตามเพื่อไม่ให้บนถนนเกิดเรื่องแบบนี้เมื่อได้อีก “ทำบ้าอะไรของนาย” “เธอมากกว่า” โทษฉันเหรอ เหอะ! เมื่อทำอะไรไม่ได้ฉันจึงนั่งรถไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรถของรามเลี้ยวเข้ามาในบ้านหลังหนึ่งแต่ฉันขอใช้คำว่าคฤหาสน์ดีกว่านะ สำคัญคือที่นี่คุ้นตาฉันอย่างมากไม่ต้องเดาก็รู้ว่าทำไมเขาถึงพาฉันมาที่นี่ “พามาทำไม?” “พ่อกับแม่อยากเจอ” “ปฏิเสธก็ได้” ฉันถามกลับแต่รามก็เดินล้วงกระเป๋ากางเกงนำฉันเข้าไปข้างในที่หรูหราและใหญ่โตเหมาะสมกับนักธุรกิจพันล้านอย่างคุณทศกัณฑ์พ่อของรามเกียรติ์และคุณสีรดาแม่ของเขาที่เป็นผู้ดีเก่ามีทรัพย์สมบัติมากมาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมรามถึงได้รวย โอนเงินให้ฉันทีสี่ห้าหมื่นก็เพราะพ่อกับแม่เขาเนี่ยล่ะ “หนูแอล” เสียงหวานดังมาก่อนตัว ฉันยกมือไหว้แม่ของรามด้วยความนอบน้อม “สวัสดีค่ะคุณป้า” “จุ๊ๆ” แม่ของรามรับไหว้ฉันก่อนจะจับมือและส่ายหน้าไปมา “แม่ค่ะ เรียกแม่นะคะ” “เออ” หันไปมองคนข้างกายซึ่งรามก็ไม่ได้คิดจะสนใจอะไรเขาเดินตรงไปในห้องรับแขก “ค่ะคุณแม่” “แม่กับพ่อคิดถึงหนูแอลมากเลย” ประคองเอวฉันไปยังห้องรับแขกซึ่งมีประมุขของคฤหาสน์กำลังจิบชายามเย็นและคุยกับลูกชายของตัวเอง พอเห็นฉันก็ฉีกยิ้มกว้างกวักมือเรียกให้ไปนั่งข้างๆ ราม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม