"จับฉันมาทำไม" เสียงทับทิมเอ่ยถามมาเฟียหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้างตัวเองขึ้นอย่างพยายามใจเย็นขณะที่นั่งอยู่บนรถหรูที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปยังถนนใหญ่ เจย์เดนที่ได้ยินแบบนั้นจึงแสยะยิ้มตอบกลับ
"เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรล่ะ..." ปากหนาถามพลางใช้สายตาจ้องมองไปยังอีกฝ่ายด้วยแววตาจงใจกวน
"...ไม่ปากดีเหมือนเมื่อกี้แล้วเหรอ"
"..." ทับทิมก็นิ่งพยายามข่มอารมณ์ทุกอย่างของตัวเองเอาไว้ไม่ให้ปากไวออกไปอีกครั้ง
"หึ นึกว่าจะแน่"
"ปล่อยฉัน...เป้าหมายฉันไม่ใช่นาย"
"แต่ก็เป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของฉันเลยนี่..."
"...ถ้าเพทายล้ม ฉันก็เซไปด้วย"
"งั้นฉันจะหยุด"
"หึ เธอคิดว่าฉันโง่เหรอ?" เจ้าของใบหน้าหล่อถามพร้อมกับค่อย ๆ โน้มตัวเข้าหาร่างสวยตรงหน้าก่อนจะแสยะยิ้มมุมปากออกมา
หมับ!
เสียงมือหนาเคลื่อนเข้าไปกระชากหยิบเครื่องอัดเสียงที่คนตัวเล็กแอบกดอัดไว้ออกมาด้วยสีหน้ายังคงมีความร้ายกาจรู้ทัน
"ถ้าคิดจะหยุดจริง...เธอจะอัดเสียงฉันทำไม"
"..." ทับทิมก็นิ่งไปอย่างรู้สึกโมโหตัวเองที่ประมาทความไวของมาเฟียหนุ่มจนเกินไป
"หึ คนอย่างเธอ...มันต้องเจอฉัน!" สิ้นเสียงแสยะยิ้มเอ่ย รถคันหรูก็ถูกขับเข้าไปจอดยังบ้านหลังใหญ่ ก่อนที่เหล่าบรรดาบอดีการ์ดจะรีบเดินเข้ามาเปิดประตูรถให้กับมาเฟียร่างสูงที่ลำตัวเต็มไปด้วยรอยสัก ด้านทับทิมก็เอาแต่นั่งนิ่งไม่ยอมเดินลงจากรถ ทำให้เจย์เดนต้องส่งสายตาเชิงออกคำสั่งกับลูกน้องให้พาตัวหญิงสาวเดินตรงเข้าไปภายในบ้าน โดยตลอดทางทับทิมก็จำต้องยอมเดินตามไป เพราะเธอคิดไว้แล้วว่า หากหนีโดยการใช้กำลังเข้าสู้ เธอเองไม่มีทางที่จะรอดออกไปได้อย่างแน่นอน อีกอย่างการใช้กำลังต่อสู้ก็ไม่ใช่ทางของเธอ สิ่งที่เป็นอาวุธชั้นดีสำหรับเธอ...มันคือการวางแผนการต่างหาก
ตึก
ตึก
ไม่นานร่างสวยของสปายสาวก็ถูกพาเดินตรงเข้ามายังบริเวณหน้าห้องใหญ่ห้องหนึ่ง
พลั่ก!
เสียงร่างทับทิมถูกผลักเข้าไปภายในห้องโดยมีเจย์เดนที่ยืนยกยิ้มค่อย ๆ หันหน้ากลับมาจ้องมองยังใบหน้าเนียนสวย
"ออกไป" ปากหนาขยับบอกบรรดาลูกน้องของตัวเองที่ยืนอยู่ ทุกคนก็พยักหน้ารับรู้เดินออกไปตามที่คนเป็นเจ้านายสั่ง โดยหลังจากที่กลุ่มชายร่างใหญ่พากันเดินออกไป เจย์เดนก็ยกยิ้มมองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้งแววตาเต็มไปด้วยความกวนประสาทปนรู้สึกพึงพอใจไปกับใบหน้าสวย รวมถึงรูปร่างที่ดูดีของอีกคน
"จะทำอะไร" เสียงหวานนิ่งถามขึ้นเมื่อเห็นมือแกร่งของมาเฟียหนุ่มเลื่อนลงไปค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อสูทสีดำที่เขาสวมใส่อยู่จนเผยให้เห็นซิกซ์แพ็กแน่นบนหน้าท้องกำยำที่เต็มไปด้วยรอยสักมากมาย
"ก็สั่งสอนคนปากดีแบบเธอไง" พูดจบ เจย์เดนก็กระชากร่างสวยที่อยู่ตรงหน้าเข้ามาจัดการซุกไซ้ตามซอกคอเนียนอย่างไม่รอช้า ทว่าทันทีที่ได้สัมผัสเข้ากับกลิ่นหอมจากกายสวยใกล้ ๆ ใบหน้าหล่อร้ายก็ชะงักไปเล็กน้อยด้วยความรู้สึกชอบใจไปกับกลิ่นใหม่ที่เขาไม่เคยได้สูดดมจากที่ไหนมาก่อน มันเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนทำให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกถูกใจเป็นอย่างมาก
"หึ กลิ่นดีนี่" ปากหนาขยับเอ่ยพลางแสยะยิ้มกดฝังฟันคมลงไปยังซอกคอสวยทันทีจนทับทิมที่ยืนอยู่แสดงสีหน้าเหยเกออกมาด้วยความเจ็บ ทว่าในหัวก็พยายามนึกหาวิธีเอาตัวรอดไม่หยุด เธอจะต้องหลุดพ้นออกไปจากสถานการณ์บ้า ๆ นี้ให้ได้...
"อ อ๊ะ!..." เสียงร่างบางเผลอร้องเสียงหลงหลังจากที่ถูกมือแกร่งผลักลงยังโซฟาขนาดใหญ่ภายในห้องพร้อมกับร่างหนาที่โถมกายเข้ามาคร่อมร่างเธอไว้ต่อด้วยความรวดเร็ว
แคว่ก!
มือใหญ่ไม่รอช้าที่จะกระชากเสื้อผ้าที่สปายสาวสวมใส่อยู่ออกจนมันขาดวิ่นกระจุยกระจาย ทว่ามาเฟียตัวสูงก็ไม่สน เขายังคงแสยะยิ้มจ้องมองคนใต้ร่างด้วยแววตาเต็มไปด้วยความสะใจที่กำลังจะได้สั่งสอนเธอ ทับทิมที่เห็นแบบนั้นก็รู้สึกโกรธ แต่ก็พยายามเก็บอารมณ์ทุกอย่างเอาไว้ ใช้สติในการพยายามเอาตัวรอด กระทั่ง...
"จะให้ฉันเล้าโลมก่อนไหม?" เจย์เดนยกยิ้มถามใบหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ทับทิมก็นิ่งมองหน้าชายหนุ่มกลับแววตาเรียบ ก่อนที่อยู่ ๆ จะแปรเปลี่ยนเป็นเย้ายวนเชิญชวน จนมาเฟียหล่อที่เห็นชะงัก
"หรือจะให้ฉันเป็นฝ่ายเล้าโลมนายก่อนล่ะ" เรียวปากสวยขยับถามด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไปจากเดิมชัดเจน เจย์เดนจึงเอาแต่จ้องมองคนตรงหน้านิ่งไปกับท่าทีพวกนั้น
"ลองดูไหม?" ทับทิมยังคงถามด้วยแววตายั่วยวน เจย์เดนที่เห็นก็เอาแต่นิ่งก่อนที่รอยยิ้มมุมปากจะค่อย ๆ ฉายออกมา ร่างสูงผละออกเคลื่อนกลับไปนั่งลงบนโซฟาหรูเชิงส่งสัญญาณให้อีกคนทำตามที่ปากเอ่ย เจ้าของใบหน้าสวยที่เห็นแบบนั้นก็รับรู้จัดการเลื่อนตัวเข้าไปเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมร่างหนาไว้แทน มาเฟียหนุ่มก็นั่งแสยะยิ้มมองท่าทีของสปายสาวที่กำลังเริ่มวาดลวดลายในการเป็นแม่เสือสาวให้กับเขา
นิ้วเรียวกรีดลงไปตามหน้าท้องแน่นกำยำช้า ๆ รวมถึงลิ้นร้อนที่เลื่อนเข้าไปเลียตามซอกคอหนาจนคนที่โดนรู้สึกขนลุกซู่ไปตามร่างกาย เขาเองก็ยังไม่เคยเจอหญิงสาวคนไหนที่ทำให้ตื่นตัวได้ไวขนาดนี้มาก่อน ทับทิมถือว่าเป็นคนที่มีฝีมือในการปลุก...ได้ดี
"อ อื้มม..." ไม่เพียงแค่การใช้นิ้วสัมผัสกับลิ้นร้อนเท่านั้น มืออีกข้างที่ว่างก็ถูกเคลื่อนลงไปลูบไล้ยังเป้ากางเกงราคาแพงที่ตอนนี้เริ่มแข็งขึงสู้มือบ่งบอกได้ถึงแรงอารมณ์ความต้องการที่อีกคนมีได้เป็นอย่างดี สปายสาวที่รับรู้ได้แบบนั้นก็ลอบยกยิ้มขึ้นด้วยความพอใจ แต่ก็ยังคงปลุกเร้าอารมณ์ให้กับมาเฟียหนุ่มไม่หยุดเพื่อให้อีกคนเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของเธอ...อย่างถอนตัวไม่ขึ้น
"...ซี้ดดด! อาาา ดีชะมัด" ปากหนาพึมพำด้วยความเสียววาบไปทั่วทั้งร่างกาย ช่วงบนที่ถูกลิ้นเลียสลับกับการถูกขบเม้มทำเอาเจย์เดนเคลิบเคลิ้ม ไหนจะการถูกนิ้วเรียวลูบเบา ๆ สลับกับมือสวยที่ลูบไล้ยังเป้ากางเกงสีดำของเขาอยู่
"ชอบไหม" ทับทิมยกยิ้มถาม
"อื้มม..." เจย์เดนก็ครางเสียงต่ำในลำคอตอบ ทำให้หญิงสาวยิ่งรู้สึกพอใจ
"หลับตาสิ" ร่างบางใช้จังหวะที่มาเฟียหนุ่มกำลังเคลิ้มในการออกคำสั่งบอกน้ำเสียงยั่วยวน ซึ่งเจย์เดนก็ยอมทำตามที่อีกคนบอกอย่างง่ายดาย ทำให้ทับทิมยิ่งยกยิ้มออกมาหลังจากที่เริ่มจับจุดอ่อนของคนตรงหน้าได้ นิ้วเรียวกับมือสวยยังคงทำหน้าที่ของตัวเองไป ขณะที่สายตาเฉี่ยวนั้นเหลือบไปมองยังอะไรบางอย่างที่อยู่ไม่ไกล รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยอีกครั้ง ก่อนที่มือบางจะผละเคลื่อนลงไปจับสองมือหนาของคนที่นั่งอยู่ให้เลื่อนเข้ามาสัมผัสเข้าที่ร่างกายตัวเอง ทับทิมเลือกที่จะปล่อยให้เจย์เดนลูบไล้ไปตามร่างกายของเธอด้วยความใจเย็นเพื่อเป็นการปลุกเร้าอารมณ์ให้อีกคนเคลิบเคลิ้มไปกับเธอมากขึ้น แล้วมือสวยก็ค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปหยิบอะไรบางอย่างที่เห็นเข้ามาช้า ๆ หมายจะฟาดลงยังหัวหนาของคนที่นั่งอยู่ ทว่า...
หมับ!
เจย์เดนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับแสยะยิ้มมองหน้าสปายสาวที่จงใจอ่อยเขาให้เคลิมเคลิ้มจนเสียสติ และจะทำการทำร้ายเขาภายหลังโดยการลอบแอบหยิบแจกันขนาดใหญ่เข้ามา
เขารู้ทัน...
รู้ทันทุกอย่าง เพียงแค่ต้องการปล่อยให้อีกคนทำมันไปให้ถึงที่สุดก่อน...ก็เท่านั้น :)
"ดูเหมือนนอกจากจะปากดีแล้ว..."
"...เธอเองก็ใจกล้าดีเหมือนกันด้วยนะ" เมื่อเห็นท่าไม่ดี ทับทิมก็จัดการโยนแจกันทิ้งทันทีพลางจะลุกหนีออกไป ทว่าก็ต้องถูกมือแกร่งของมาเฟียหนุ่มที่นั่งอยู่จับไว้
"จะไปไหน..."
"...โชว์ลีลาการเอาตัวรอดของเธอต่ออีกสิ"
"..." ทับทิมก็นั่งนิ่งไม่ตอบเอาแต่จ้องมองไปยังดวงตาคมของคนที่อยู่ตรงหน้า เจย์เดนที่เห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มมุมปากแสยะยิ้มเอ่ย
"หรือถ้าของเธอมันหมดแล้ว มันจะได้ถึงเวลาสั่งสอนของฉันสักที"
"ปล่อยฉัน"
"หึ หมดแล้วสินะ ก็ดี..." สิ้นเสียงทุ้มบอก ใบหน้าหล่อเหลาก็แสดงออกมาถึงความร้ายกาจกว่าเดิมทว่ามีความชวนขนลุกอยู่ในนั้น
"...มันจะได้ถึงเวลาของฉันสักที"
แคว่ก!!