บทที่ 4 เผด็จศึก NC++

3074 คำ
สักพักใหญ่จึงมีคนมาแจ้งแก่หลี่ถิงถิงให้เตรียมตัวถูกส่งเข้าเรือนหอ นางพยายามไม่เร่งรีบจนผิดสังเกต จากสวนเหมยฮวากลางจวนถึงเรือนหอด้านในเส้นทางเดินนับว่าไกลไม่น้อย แต่คนที่พยายามไม่เร่งรีบจนเกินงามกลับสับเท้าก้าวไวจนถึงเรือนหอ ด้านสาวใช้ผู้นำทาง เปิดประตูเรือนตกแต่งงดงามด้วยผ้าแผรสีแดงมงคลออก ด้านในประดับด้วยผ้าสีมงคลเช่นเดียวกับภายนอก อาหารชุดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้องพร้อมจอกเหล้ามงคล ทั้งสองมุมห้องมีเชิงเทียนถูกจุดรอไว้ ภายในห้องได้กลิ่นกำยานอ่อน ๆ จากข้างมุมของเตียงใหญ่ชิดผนังด้านใน ประตูด้านหลังถูกปิดลง ใต้ผืนผ้าบางสีแดงที่ปกคลุมใบหน้างามเปื้อนด้วยรอยยิ้มพอใจ เรือนร่างบอบบางกลับมีส่วนเว้าโค้งน่าหลงใหลเดินผ่านโต๊ะตั้งสุรามงคลไปอย่างไม่ใส่ใจนัก สิ่งที่น่าสนใจกว่าตอนนี้คือการเฝ้ารอการมาของจ้าวเฉียนยี่ หลี่ถิงถิงนั่งลงบนตั่งคิดว่าอีกไม่นานสามีที่เพิ่งตบแต่งจะต้องเข้ามาในไม่ช้า … เวลาผ่านล่วงไปกว่าสองชั่วยาม จ้าวเฉียนยี่ต้อนรับแขกเหรื่อจนทั้งหมดใกล้ถยอยกลับแล้ว จนถึงคราวที่เขาต้องเขาเรือนหอ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งไม่ถึงกับกำยำแต่มีกล้ามเนื้อหนาสมส่วนเดินเข้ามาหยุดยังหน้าเรือนหอ มือยกขึ้นไล่บ่าวใช้ที่เดินตามมาให้ออกไป เริ่มรู้สึกถึงลมหายใจหอบถี่ยิ่งขึ้นนับแต่ช่วงพักหลังของงานเลี้ยง จ้าวเฉียนยี่ใบหน้าแดงก่ำ รู้สึกร้อนลุ่มไปทั่วทั้งอกและช่วงท้อง “ทำไม.. ข้าถึงรู้สึกแปลกเยี่ยงนี้” พูดกับตัวเองด้วยความสงสัย ตั้งแต่เดินเท้ามาจนถึงเรือนด้านในก็ไกลอยู่ ลมหนาวช่วงหัวค่ำปะทะร่างกายระหว่างทางไม่ช่วยคลายความร้อนที่มีได้เลยแม้แต่น้อย ทั้งระหว่างทางเดินมาก็ตัวเอียงหมิ่นเหม่จะล้มลง ต้องให้คนคอยประคองอยู่บางครั้ง อาการเช่นนี้คืออาการมึนเมาหรือ เท่าที่จำได้เขาดื่มไปเพียงห้าจอกและดื่มอีกสี่จอกตอนหลี่ถิงถิงไปยังเรือนหอ ปริมาณไม่เท่ากับหนึ่งไห อาจเป็นเพราะไม่ได้แตะสุรามาสักพักใหญ่ถึงถูกฤทธิ์สุราเอาได้ แต่การที่ไม่สร่างเมา เห็นทีว่าน้ำสมุนไพรช่วยบรรเทาอาการมึนเมาที่หลี่ถิงถิงมอบให้จะไม่ได้ดีอย่างที่นางโอ้อวดเอาไว้ จ้าวเฉียนยี่ยืนนิ่งทำสติอยู่ครู่ใหญ่ เวลาผ่านไปนานเพียงนี้คนด้านในอาจจะหลับไปก่อนแล้ว และดีเสียอีกจะได้ไม่ต้องทนอึดอัดกันถึงเช้า เพราะเขาไม่คิดจะละลาบละล้วงนางแต่อย่างใด คิดได้ดังนั้นจึงเปิดประตูเข้าไปเงียบเฉียบ แสงจากเทียนวูบไหวยามลมหนาวจากด้านนอกพัดวนเข้ามา จ้าวเฉียนยี่รีบหันไปปิดประตู แต่ปิดอย่างเบามือเนื่องจากกลัวสตรีด้านในจะตื่น ครั้นตั้งท่าจะหันกลับมาเพื่อเตรียมตัวเข้าห้องนอน ทว่าหันกลับไปไม่ทันได้มองทางให้ดีก็มีเสียงหวานดังแทรกขึ้นมา “มาแล้วหรือเจ้าคะ” “เจ้า!” จ้าวเฉียนยี่สะดุ้งไหล่สั่นเผลอกระโดดถอยหลังแนบชิดประตู ดวงตาคมเฉี่ยวเบิกกว้างแล้วเบิกกว้างอีก เมื่อคนที่ควรจะหลับไปเพราะเหนื่อยจากการเข้าพิธีมาทั้งวัน ซ้ำยังดื่มสุราไปมากกว่าสองไหกลับมายืนจังก้าต่อหน้าเขา แล้วยัง.. “สวมชุดอะไรของเจ้า! เสื้อคลุมของเจ้าหายไปไหน” หันไปทางตั่งก็พบมันวางพาดอยู่พร้อมกับผ้าคลุมหน้าและเสื้อตัวอื่น ๆ ของนาง ในใจอยากเดินไปหยิบมายื่นมอบแก่นางให้รู้แล้วรู้รอด ติดเสียว่าต้องเดินผ่านเรือนร่างขาวละเอียดราวน้ำนมที่สวมใส่เพียงเสื้อเกาะอกสีแดงไร้ผ้าคลุมปกปิด ส่วนเนินเนื้ออูกนูนล้นทะลักบนร่างกายสตรีเด่นสะดุดสายตา จ้าวเฉียนยี่ยิ่งแนบกายชิดด้านหลังแทบจะหลอมรวมไปกับประตูอยู่รอมร่อ ผินสายตาไปมองทางอื่น ไม่มองบางสิ่งกระเพื่อมโดดเด่นบนร่างกายนาง นางเสียสติไปแล้วหรือ! หลี่ถิงถิงยามนี้ราวกับจิ้งจอกจำแลงกาย เคลื่อนกายเข้าหาร่างสูง นิ้วเรียวดั่งแท่งเทียนไล้แนวสันกรามเด่นชัดของเสนาบดีจ้าว ใบหน้างามเงยขึ้นพูดกับคนที่สูงกว่าด้วยน้ำเสียงที่จ้าวเฉียนยี่คิดว่ายั่วยวนและอันตรายที่สุด “หลับไปหนึ่งตื่นแล้วก็ยังไม่เห็นท่านเสนาบดีเข้ามา คาดเดาว่าท่านคงอยู่ร่ำสุราต่อสักพัก” น้ำเสียงหวานเว้นช่วงไว้ช่วงหนึ่ง ระหว่างกรีดนิ้วลากผ่านใบหน้าและลำคอหนาที่ร้อนผ่าวจนขึ้นสีแดงก่ำ “ถิงเอ๋อร์มั่นใจว่าท่านเสนาบดีต้องมึนเมาอยู่ไม่น้อย ไม่อยากให้ท่านต้องเสียเวลาปลดถอดให้มากความ จึงเตรียมตัวรออย่างที่สมควร” ปลดถอด?! นางกำลังคาดหวังสิ่งใดอยู่! ข้ามจอกเหล้าพิธีมงคลเพื่อเรื่องพันนั้น.. “ไม่ชอบหรือเจ้าคะ” “!” จ้าวเฉียนยี่เผลอกลืนคำพูดต่อว่านางทั้งหมดลงคอ กลืนน้ำลายผ่านลำคอแห้งผากอย่างยากลำบาก เมื่อสาวเจ้าขยับเคลื่อนกายบิดเบียดเข้าหา ส่วนสัมผัสนุ่มนิ่มบนแผงอกกระตุ้นความร้อนรุ่มบางอย่างในร่างกาย ไม่พอยังกระทำย่ำยีลูบไล้แผงอกเขาไปมา! “ยะ..หยุดมือของเจ้า” ชายหนุ่มเบิกตากว้าง คลำลอคอที่แหบแห้งทั้งยังกระเส่าด้วยความตกใจ เกิดบางสิ่งกับร่างกายของเขาแน่นอน หลี่ถิงถิงมองตามอาการและยิ้มหวานพึงพอใจยิ่ง ดูท่าสรรพคุณของมันจะดีอย่างที่จื่อลั่วได้บอก ถึงไม่รุนแรงอย่างที่เคยได้ฟังแต่ก็… “หึ” รูปตาคู่สวยหลุบตามองต่ำ เจาะจงตรงส่วนปวดนูนผ่านเนื้อผ้ากางเกงสีแดงมงคลของจ้าวเฉียนยี่อย่างละลาบละล้วง มันกำลังตื่นตัวเต็มที่ เป็นเพราะเรือนร่างนุ่มนิ่มขาวผ่องราวหิมะของหญิงสาวส่วนหนึ่งที่จงใจล่อลวงตัวของเขา “จะ..เจ้า!” จ้าวเฉียนยี่กัดฟันแน่น สายตาดุดันทว่าไม่กล้าจ้องมองสตรีตรงหน้าเลือกมองผ่านศีรษะของนางไปโกรธเกรี้ยวใส่กำแพงอีกฝั่งแทน.. “เจ้าคะ..สามี” คนตัวเล็กคล้ายไม่สนใจใบหน้าขรึมแทบลมจับของชายหนุ่ม ไม่พอยังใช้มือซนของนางอีกข้างสัมผัสผ่านขอบผ้ากางเกงเฉียดส่วนผองนูนไปอย่างหมิ่นเหม่ ทำเอาจ้าวเฉียนยี่เผลอกลั้นหายใจ วิญญาณเกือบหลุดออกจากร่าง หากจ้าวเฉียนยี่ตั้งใจมองดวงหน้าหวานของหลี่ถิงถิงสักนิดก็จะเห็นได้ว่าใบหน้างามยามนี้ขึ้นสีแดงระเรื่อจนถึงใบหู แน่นอนว่าหลี่ถิงถิงไม่เคยผ่านมือชายใด ยิ่งต้องเป็นฝ่ายรับบทเดินหน้ารุกบุรุษก่อนเป็นเรื่องที่น่าอายยิ่ง! ครั้นเหลือบไปเห็นจอกเหล้า หลี่ถิงถิงจึงกลั้นใจดื่มสุราไปอีกหนึ่งไห พร้อมกับสมุนไพรจากจื่อลั่วส่วนที่เหลืออีกครึ่ง ยามนี้ไม่อาจรู้ได้เลยว่าเป็นผู้ใดกันแน่ที่กำลังพลุกพล่านมากกว่ากัน.. “จ้าวเฉียนยี่ สัมผัสข้าที” ดวงตากลมโตปรือขึ้นแสนยั่วยวน มือซุกซนลูบไล้ขึ้นจากต้นขาแกร่งตวัดเกี่ยวคล้องลำคอหนา ดึงรั้งใบหน้าคมคายเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อน คนตัวสูงยังคงไม่กล้าสัมผัสนาง ลำคอหนาขยับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไปอย่างยากลำบาก “จ้าวเฉียนยี่..” น้ำเสียงหวานแหบพร่าเย้ายวน ชวนคร่าสติที่มีอยู่น้อยของชายหนุ่มให้ขาดผึ่ง จ้าวเฉียนยี่ขบสันกรามจนปูดนูน ดันไหล่เล็กให้ออกห่าง “..ถิงถิง อย่ายั่วโมโหข้า เจ้าไม่ใช่สตรีที่พูดไม่รู้ค- อืม!!” สัมผัสนุ่มนิ่มใต้ฝ่ามือก็มากพอทำให้ขาดสติเอาได้ แต่ร่างเล็กกลับทำให้สติที่พยายามดึงเอาไว้ขาดผึ่ง หลี่ถิงถิงไม่รู้อะไรดลใจให้นางดึงมือใหญ่ที่จับไหล่นางอยู่ขึ้นมาพรมจูบและขบกัด สัมผัสนุ่มละเอียดมาพร้อมกับความเปียกชื้นเล็กน้อยกระชากอารมณ์ขึ้นฉับพลัน ราวกับมีกระแสไฟปุทะในร่าง ปลายมือที่ถูกนางสัมผัสเสียววูบวาบจนชา ชายหนุ่มบดกรามครางต่ำในลำคอ ตาฉายแววประกายดุจนักล่าจับจ้องเพียงใบหน้าเล็กซุกซนบนฝ่ามือหนาของเขา จวบจนดวงตาคู่สวยปรือขึ้นมองจ้าวเฉียนยี่ด้วยหางตา ได้เห็นสายตาดุร้ายดั่งต้องการขย่ำนางทำให้หลี่ถิงถิงหายใจไม่ทั่วท้อง แต่อยากจะแกล้งเขาสักหน่อยจึงฝังเขี้ยวลงบนมือเบา ๆ หนึ่งที “รังเกียจข้าหรือ..” ไม่พอยังกล่าวเสียงออดอ้อนตาใส ไม่รู้ว่าหลี่ถิงถิงทันได้เห็นคนตัวสูงกว่าลอบเลียริมฝีปากหรือไม่ ถึงยังยั่วยวนไม่ยอมหยุด นางไร้ประสบการณ์มีแต่จงใจปลุกไฟในกายจ้าวเฉียนยี่ให้โหมกระหน่ำ และนางทำสำเร็จ จ้าวเฉียนยี่ยามนี้สายตาวาวโรจน์จนน่ากลัว “ดูเหมือนว่าเจ้าไม่รู้จักรักตัวกลัวตาย ภรรยาที่ไม่เชื่อฟัง อย่าหาว่าข้าไม่ปราณี” “อ้ะ! อื้อออ” เอวบางถูกกระชากแนบชิดอกกว้างอย่างแรงทันทีที่จ้าวเฉียนยี่พูดจบ คางคนงามถูกเชยขึ้นสบสายตาคมกล้า เกิดท้องมวลเป็นเกรียวยามได้เห็นสายตาจ้องจะกลืนกินจากร่างสูง ภายในหนึ่งลมหายใจ ใบหน้าคมคายโน้มลงบดริมฝีปากลงกลีบปากบาง เอียงศีรษะขยับหยอกเย้า ตักตวงความหวานอย่างไม่รู้จักอิ่ม “แฮ่ก..ก” หญิงสาวจูบตอบเงอะงะส่งเสียงประท้วง เผยอปากรับอากาศหายใจส่งผลให้คนตัวสูงยิ่งลุกล้ำเข้ามาด้วยลิ้นร้อน ปลายลิ้นตวัดชิมน้ำหวานในโพลงปากนางอย่างกับสัตว์หิวกระหาย มือเล็กตีไหล่กว้างแต่จ้าวเฉียนยี่กลับไม่สนใจ ช้อนสะโพกงอนงามขึ้นบนแขนแกร่ง หลี่ถิงถิงตัวเล็กกว่ามากระดับริมฝีปากจึงไม่หลุดจากการจู่โจมของเขา ระหว่างเรียวขายาวเดินตรงไปยังตั่งด้านใน “อื้อ ท่าน.. แฮ่ก.ก เสนาบดี” นางมีโอกาสได้พูดเอาอากาศต่อลมหายใจแค่ตอนชายหนุ่มขยับริมฝีปากออกเพื่อเปลี่ยนทิศทางบดขยี้ปากนางเท่านั้น “อ่ะ!” ร่างเล็กถูกโยนลงบนเตียงอย่างไม่ใยดี หลี่ถิงถิงใช้เวลานี้รีบสูดอากาศหายใจเข้าทว่าร่างสูงกลับทาบทับลงมาบดริมฝีปากอีกครั้งไม่ยอมให้นางได้พัก อาภรณ์น้อยชิ้นที่ตั้งใจสวมยั่วยวนถูกถอดร่นออกกองไว้ที่เอวคอดอย่างไม่ทันตั้งตัว หลี่ถิงถิงเบิกตากว้างยกแขนปกปิดส่วนใหญ่โตเกินตัวไว้โดยสัญชาตญาณ “ข้าได้บอกแล้วว่าจะไม่มีการปราณี” “ดะ..เดี๋ยวเจ้าค่ะ อ๊า!” แขนเล็กถูกกระชากออก ทรวงอกคู่อวบคลอนสั่นตามแรงกระชาก เมื่อไร้สิ่งปกปิดจึงได้เห็นเรือนร่างขาวละเอียดรวน้ำนมมีส่วนเว้าโค้งชัดเจน จ้าวเฉียนยี่ไม่เคยคาดคิดเลยว่านางจะงดงามได้ถึงเพียงนี้ ทางด้านหลี่ถิงถิงอับอายจนต้องหลับตาแน่น พยายามบอกตัวเองว่าอย่าได้แสดงอาการเขินอายออกไป ทั้งที่ตั้งใจจะเผด็จศึกเขากลับถูกเขาข่มเสียเอง! “เจ้าอายรึ” เสียงทุ้มแหบแห้งเอ่ยขึ้น ศีรษะโน้มลงห่างจากยอดถันสีหวานเพียงคืบคล้ายแกล้งหยอกล้อนาง สัมผัสลมหายใจอุ่นร้อนรดรินเหนือยอดอกทำเอาหน้าท้องหญิงสาวหดเกร็ง คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันอย่างตึงเครียด ขณะฟันขาวขบลงบนปากล่าง ความรู้สึกราวกับมีผีเสื้อบินวนอยู่ในท้อง และพยายามพูดตอบออกเสียงให้เป็นปกติ “มะ..ไม่เจ้าค่ะ” มุมปากจ้าวเฉียนยี่แสยะยิ้ม นางบอกว่าไม่แต่กลับหลับตาแน่นไม่ยอมมอง ก่อนตวัดสายตากลับมาจดจ้องก้อนเนื้ออวบใหญ่สองลูกตรงหน้า หัวใจชายหนุ่มเต้นระส่ำ ใช้ชีวิตมานานถึงยี่สิบสองปีไม่เคยข่องเกี่ยวสตรีใด เพิ่งเคยสัมผัสร่างกายสตรีเป็นครั้งแรก จึงเกิดความอยากรู้ “อื้ออออ” ร่างเล็กบิดเร้าอยู่ใต้ร่างหนา ยามถูกฝ่ามือร้อนกอบโกยอกอวบขึ้นมาจนเต็มมือ เสียงร้องครางของนางกระตุ้นความอยากในกายจ้าวเฉียนยี่พุ่งพรวด ทั้งยอดถันสีหวานก็ชวนให้ลิ้มลอง ไม่รอช้าเคลื่อนใบหน้าฝังลงบนอกคู่อวบ ทรวงอกถูกเขาครอบครองจนหายเข้าไปในปาก “อ๊ะ อ๊า!” หลี่ถิงถิงเชิดใบหน้าขึ้นครางเสียงกระเส่า ยามยอดถันถูกเขาตวัดเลียชิม หญิงสาวปรือตาขึ้นมองการกระทำของชายหนุ่ม มือเล็กยังคงจิกลงบนผ้ารองจนยับยู่ยี่ ได้เห็นจ้าวเฉียนยี่ใช้ฝ่ามือใหญ่เคล้นคลึงอกทั้งสองข้างรุนแรง ลิ้นร้อนโลมเลียบนเนื้ออกจนถึงยอดอกและถูกเขากลืนกิน สัมผัสเสียววูบวาบที่ปลายถันทำเอานางท้องบิดเกรียวช่วงล่างขมิบรัดจากความรู้สึกแปลกใหม่ “อ้ะ อ๊า อื้อออ” เสียงร้องหวานครางไม่เป็นศัพท์ ยามถูกปรนเปรอยอดทรวงอกทั้งสองข้าง ถูกขมเม้มทิ้งรอยสีแดงกุหลาบยามสัมผัสเปียกชื้นลากผ่าน หญิงสาวปล่อยมือจากผ้ารองสอดนิ้วเรียวขยุ้มเส้นผมดำนุ่มตามอารมณ์ที่เริ่มพลุ่งพล่าน จังหวะรักเร่าร้อน เสียงหอบดังสลับเสียงครางกระเส่าบนตั่งใหญ่ ร่างสองร่างกอดรัดแทบกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยน้ำเมาและสมุนไพรที่นางดื่มเข้าไปจนหมดเริ่มออกฤทธิ์เต็มที่ หลี่ถิงถิงปรือตาขึ้นในแววตาแฝงไว้ด้วยความเว้าวอน ช้อนใบหน้าหล่อเหลาถูกใจนางขึ้นมาจากทรวงอก แล้วบดจูบลงบนริมฝีปากชายหนุ่ม ลอกเลียนแบบลีลาจูบเร่าร้อนจากเขา “อืม..” จ้าวเฉียนยี่ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ แต่ด้วยบทรักที่เริ่มเร่าร้อนกว่าครึ่งชั่วยามที่ผ่านมา ทำให้เขายอมเผยอปากจูบตอบคนตัวเล็กอย่างไม่อดออด ความรู้สึกร้อนรุ่มในกายเริ่มดีขึ้นถึงสามส่วน แต่ด้วยร่างกายนุ่มนิ่มใต้ร่างตอนนี้ทำให้เขายังไม่อยากจะผละออกไป “จ้าวเฉียนยี่” หญิงสาวคล้ายไม่ได้สติ ทว่าความต้องการของนางชัดเจน ไม่รู้นางเอกเรี่ยวแรงมาจากที่ไหนน โอบรัดคอหนาได้ก็พลิกร่างกลับมาเป็นฝ่ายคล่อมเสียเอง ผมยาวสลวยสีดำเงายาวละเอวคอด เส้นผมยาวสยายปกปิดส่วนหน้าอกอวบไว้อย่างหมิ่นเหม่ ดวงตากลมโตคล้ายมีน้ำคลอใสในดวงตาดูเย้ายวนราวกับจิ้งจอกจำแลง จ้าวเฉียนยี่เหม่อหมองดวงหน้างามดั่งถูกมนต์สะกด ดวงตาพร่ายิ่งยามรูปปากสวยระบายยิ้มหวาน “ให้ข้าช่วยท่านนะเจ้าคะ” “!” ร่างหนากระตุก ทันทีที่ถูกสะโพกงอนงามบดเบียดส่วนแข็งตื่นตัว ทั้งสองมือเล็กอยู่ไม่นิ่งลูบไล้จากหน้าท้องแกร่งมีมวลกล้ามสมส่วนค่อย ๆ เคลื่อนลงยังด้านล่าง.. ฟึบ! ข้อมือขาวถูกรวบไว้ด้วยมือเดียว หลี่ถิงถิงยิ้มกว้างกว่าเก่า คาดไม่ถึงว่าจ้าวเฉียนยี่ผู้สง่างามเคร่งครัดอยู่เสมอจะกลายเป็นชายรีบร้อนได้กร้าวใจถึงเพียงนี้ “สามี.. ท่านอยากเป็นฝ่ายควบคุมแทนหรือ ข้าไม่เกี่ยงหรอกเจ้าค่ะ” หญิงสาวกำลังโน้มตัวลงกัดใบหูหยอกเย้าสามีสักหน่อย แต่จู่ ๆ ก็ถูกแรงดึงมหาศาลกระชากนางลงไป หน้าผากมนกระแทกลงแผงอกกว้างอย่างจังจนเกิดเสียงดังปัก! เจ็บ!! หลี่ถิงถิงเม้มปากกลั้นเสียงเจ็บด้วยกลัวทำบรรยากาศที่พยายามสร้างมาพังลง “จ้าวเฉียนยี่ ท่านรีบร้อนได้ แต่ช่วยถนุถนอมข้าด้วยนะเจ้าคะ..” นางเงยหน้าขึ้นจากแผงอกกล่าวกับเขาพลางส่งสายตา และยิ่งดีใจเมื่อได้เห็นจ้าวเฉียนยี่แสยะยิ้มกลับมาเช่นกัน ..แต่เดี๋ยวก่อน แสยะยิ้มหรือ? “ข้าไม่รีบร้อน” “เจ้าค่ะ” หลี่ถิงถิงเลิกครุ่นคิดรีบตอบรับกลับพร้อมส่งยิ้มยั่วยวน ในหัวคิดเรื่องน่าอายไปแล้วมากกว่าสิบครั้ง แต่จนแล้วจนรอดคนตัวสูงใต้ร่างนางก็ยังนอนนิ่งเป็นหินทั้งไม่ยอมปล่อยมือจากข้อมือนางอีก “ทะ..ท่านเสนาบดี” “...” ไร้เสียงตอบรับจากคนที่ถามหา หลี่ถิงถิงแหงนคอเกยคางบนอกเขามองจ้าวเฉียนยี่อีกครั้งและพบว่าชายหนุ่มกำลังหลับตาปิดสนิท นี่มันอะไรกัน! หรือเขาเหนื่อยจนไม่สามารถทำต่อได้ แต่มือก็ยังจำนางเสียแน่น.. หลี่ถิงถิงพยายามคิดในแง่ดี ขยับเขยื่อนกายไปมาเพื่อให้หลุดการจับกุม จ้าวเฉียนยี่ลืมตาขึ้นมาข้างหนึ่งหลังจากหลับตาลงไปแล้วเมื่อรู้สึกว่าคนตัวเล็กบนตัวกำลังดิ้นขลุกขลักไปมา “นอนนิ่งๆ” “เจ้าคะ?!” หลี่ถิงถิงตกตะลึงตาเหลือกโต เมื่อจ้าวเฉียนยี่หลับตาลงไปอีกครั้ง นางยิ่งไม่ยินยอมเข้าไปใหญ่ดิ้นเสียแรงจนเกือบหลุดจากการกักขัง ทันใดนั้นเองที่ผ้ารองถูกนำขึ้นมาโดยจ้าวเฉียนยี่ จับนางม้วนตัวเข้าในผ้าห่มก่อนจะกอดรัดนางเอาไว้เสียแน่นไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหนได้ “ทะ..ท่านเสนาบดี!!” “...” หญิงสาวดิ้นรนอยู่บนร่างกายหนา ดิ้นอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุดทั้งพูดทั้งโวยวายอยู่ราวครึ่งเค่อกระทั่งนิ่งลงไปทีละน้อย จนหลงเหลือเพียงความเงียบและเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของนาง จ้าวเฉียนยี่ลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงความสงบ ก้มมองคนตัวเล็กที่ถูกห่อไว้ในผ้า และเมื่อเห็นว่านางสิ้นฤทธิ์ไปแล้ว ชายหนุ่มจึงเผยรอยยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อวพลางเอ่ยเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ “หลับไปไวเพียงนี้คงเหนื่อยน่าดู” พร้อมกับกระชับอ้อมกอดนางเอาไว้ไม่ยกนางออกจากกายเนื่องจากกลัวว่านางจะตื่น..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม