“ไอ้โรมมึงเอาผู้หญิงคนนี้ไปนอนที่ห้องมึงนะ” ทันทีที่เจบีอุ้มร่างที่ไม่สติของเจ้าเอยออกไปแล้วเจสก็หันมามองผู้หญิงอีกคนอย่างใช้ความคิดก่อนเขาจะหันไปบอกให้โรมจัดการแทน
“อ้าว!!! ไอ้ห่า ทำไมมาโยนให้กู”
“กูไม่ว่างนัดสาวไว้ ไปก่อนนะ บาย....” พูดจบเจสก็เดินหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจเสียงโวยวายของโรมที่ทั้งบ่นและด่าตามหลัง เขาไม่ชอบยุ่งกับผู้หญิงที่ไม่ได้สติเพราะไม่มีอะไรน่าสนใจแต่ถ้ามีสติก็ไม่แน่อาจจะชวนกันทำอะไรสนุก ๆ อย่างเช่นออกกำลังกายรอบดึกก็เป็นได้
“ไอ้เจส!!!! ไอ้ห่า”
โรมจำใจต้องอุ้มร่างไม่ได้สติของพีพีขึ้นห้องพักของตัวเอง เพราะโดนไอ้เพื่อนตัวดีอย่างเจสโยนภาระอย่างยัยเด็กนี้มาให้เขา ทั้งที่ตอนแรกดูเหมือนเจสจะเป็นคนจัดการผู้หญิงคนนั้นเองแต่ที่ไหนได้พอมาถึงคอนโดดันโยนมาให้เขาซะได้
“ตัวภาระดีดีนี่เอง เห้อ...... ผู้หญิงอะไรไม่รู้จักระมัดระวังตัว ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่งนะจะตีให้ก้นลายเลยคอยดู”
ขณะอุ้มร่างไม่ได้สติของพีพีมาโรมก็อดจะบ่นออกมาได้ พอมาถึงห้องก็วางร่างของพีพีลงบนโซฟาหน้าทีวีแทนที่จะเป็นเตียงในห้องนอนของตัวเอง ที่จริงเขาก็อยากให้เธอนอนบนเตียงสบาย ๆ นะแต่ติดตรงที่ว่าห้องเขามีแค่เตียงเดียวแถมเขาเองก็ไม่อยากไปนอนโซฟาให้ปวดหลัง
“เห้อ......”
เขายืนมองคนหลับอยู่บนโซฟาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายแล้วเดินหนีเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกายให้คลายความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน หลังอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาเพียงกางเกงนอนขายาวตัวบางเพียงตัวเดียวโชว์แผงอกแกร่งที่มีกล้ามท้องเป็นลอนเรียงตัวสวยงามที่ใครต่อใครเห็นก็พากันอิจฉาโดยเฉพาะสาว ๆ ที่
“ดูไม่ได้จริง ๆ ผู้หญิงอะไร”
เขาหยิบผ้าห่มแล้วเดินไปออกจากห้องที่โซฟาคลี่ผ้าคลุมร่างให้เธอก่อนที่เขาจะเดินกลับมาทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนสบายใช้เวลาเพียงไม่นานเขาก็หลับไปเพราะความเพลีย
พีพีตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนหัวนิด ๆ พอลุกขึ้นนั่งก็บิดขี้เกียจให้คลายความเมื่อยล้า ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ห้องก็ต้องรีบดีดตัวลงไปยืนข้างโซฟาทันที เพราะห้องที่เธออยู่ไม่ใช่ห้องนอนเธอแต่เป็นห้องใครก็ไม่รู้ แต่ดูจากการตกแต่งแล้วน่าจะเป็นห้องผู้ชาย
“เห้ย!!!! ที่นี่ที่ไหนวะเนี่ย นี่มันห้องผู้ชายชัด ๆ แล้วเรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงวะ” พีพีรีบก้มลงมองสำรวจตัวเองก็รู้สึกโล่งอกเพราะเธอยังอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิม แล้วเท้าก็ไวเท่าความคิดเธอรีบคว้ากระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟาก่อนจะรีบออกจากห้อง
เธอเลือกจะใช้บริการแท็กซี่แทนการขึ้นรถไฟฟ้าหรือรถเมล์เพราะสภาพอันไม่เอื้ออำนวยของตัวเองที่ยังไม่ได้ผ่านการอาบน้ำยังดีที่ได้บ้วนปากแล้วไม่งั้นคงไม่กล้าคุยกับใคร
พีพีเปิดประตูเข้าห้องมาก็เจอกับเจ้าเอยที่กำลังนั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมามองเธอด้วยสายตาสงสัยและเจ้าเอยก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยนาน
“พีพีแกไปไหนมาทำไมถึงกลับมาตอนนี้”
“เอาไว้ค่อยคุยได้ไหม พีพีหิวมีอะไรกินบ้าง” พีพีไม่ตอบคำถามของเจ้าเอยแต่กลับเปลี่ยนเรื่องแทน เพราะเธอไม่รู้จะเริ่มเล่าจากตรงจุดไหน ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก
“นี่ไงกินด้วยกันไหม” เจ้าเอยชี้ถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ตัวเองกำลังกินอยู่ให้พีพีดูและชวนมากินด้วยกัน พีพีเองก็ไม่รอช้ารีบมาร่วมแจมบะหมี่ในถ้วยของเจ้าเอยอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงไม่นานทั้งคู่ก็อิ่มแล้วก็นั่งมองหน้ากันเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดเริ่มคุยจากตรงไหน
“พีพีแกจะคุยก่อนหรือไปอาบน้ำก่อน” เจ้าเอยเห็นสีหน้าท่าทางของพีพีดูเหมือนมีอะไรในใจเลยตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน
“พูดก่อนก็ได้”
“งั้นก็เล่ามา”
“พีพีขอโทษ” พีพีพูดเสียงเบาน้ำตาคลอเบ้าเธอรู้สึกผิดมากที่พาเจ้าเอยไปเที่ยวแล้วเกิดเรื่องแบบนี้ เธอคิดว่าเจ้าเอยก็คงเจอเรื่องน่าตกใจไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่
“ขอโทษเรื่องอะไร เอยไม่เข้าใจ”
“ก็เรื่องที่ชวนแกไปเที่ยวผับเมื่อคืนไง ถ้าพีพีไม่ชวนเรื่องก็คงไม่เกิด”
“ช่างมันเถอะ แกไม่ได้ผิดอะไรนะพีพีและก็ไม่ต้องคิดมากด้วย ว่าแต่เมื่อคืนแกไปนอนที่ไหนมา”
“ไม่รู้ตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอใคร แล้วแกละ”
“เหมือนแกเลย เอยตื่นขึ้นมาในห้องใครก็ไม่รู้แถมไม่เจอเจ้าของ แต่ที่เอยสงสัยคือเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น เอยจำไม่ได้เลยภาพตัดไปตั้งแต่”
“ต้องเป็นเพราะไอ้พี่ดินแน่ ๆ ที่วางยาเรา แต่พีพีสงสัยว่าทำไมไอ้พี่ดินถึงได้ปล่อยเราไปกับใครก็ไม่รู้ ทั้งที่มันชอบแกตามจีบแก” พีพีตั้งข้อสงสัยและใช้สมองในการคิดคำนวณคนอย่างดินที่ตามจีบเจ้าเอยมานานไม่น่าปล่อยพวกเธอไปง่าย ๆ ทั้งที่เขาน่าจะเป็นคนลงมือวางยาพวกเธอ
“เอยก็ไม่รู้ แล้วแกเป็นอะไรหรือเปล่า เอ่อ.... อย่างเรื่อง” เจ้าเอยถามพร้อมเอาปลายนิ้วชี้จิ้มกันก่อนจะไล่สายตามองสำรวจพีพีที่ยังอยู่ในชุดเมื่อคืน
“พีพีคิดว่าไม่นะเพราะไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายเลย แล้วแกละ” พีพีสองสำรวจเจ้าเอยที่อยู่ในชุดใหม่ทำให้ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนบ้างจึงได้แค่ถาม
เจ้าเอยไม่ได้ตอบแต่ส่ายหัวให้พีพีได้รู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร เธอคิดว่าแบบนั้นนะเพราะไม่ได้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเหมือนกันถึงแม้ชุดที่ใสตอนตื่นจะไม่ใช่ชุดเดิมของเธอก็ตาม
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว งั้นพีพีของตัวไปอาบน้ำก่อนนะ”
“อืม”
พีพีลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอนเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตัวเองรู้สึกสดชื่นและสบายตัวขึ้น คอนโดนี้เป็นห้องที่สองสาวพักอยู่ด้วยกัน มีหนึ่งห้องนอนสองห้องน้ำ ห้องไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็ไม่แคบจนเกินไป และอยุ่ด้วยกันมานานเพราะความที่รู้จักและสนิทกันมาหลายปี
วันนี้พีพีออกมาจากห้องเช้ากว่าทุกวันเพราะเธอตั้งใจจะมาตามความจริงเรื่องที่ผับกับดินที่คณะวิศวะ เธอเดินตรงไปยังโต๊ะที่มีนักศึกษานั่งอยู่
“ขอโทษค่ะ ไม่ทราบว่ามีใครเห็นพี่ดินบ้างไหมคะ”
“โว้ววว ๆ ๆ มีสาวสวยมาตามหาพี่ดินแต่เช้าอีกแล้วโว้ย”
“นั่นสิ มาหาพี่ดินทำไมเหรอครับ”
“สรุปมีใครเห็นไอ้พี่ดินไหม” พีพีไม่ได้สนใจหรือกลัวกับเสียงแซวของผู้ชาย เธอยกมือขึ้นกอดอกไล่มองหน้าแต่ละคนแล้วเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับพูดถามย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเข้มไม่พอใจ
“โน้น อยู่โรงอาหารโน้น แต่ไปก็ระวังจะไปเห็นภาพบาดตาบาดใจเอานะ”
“เหอะ” พีพียักไหล่ไม่สนใจคำพูดเป็นนัย ๆ ของหนุ่ม ๆ ที่โต๊ะเพราะเธอไม่ได้สนใจหรือพิศวาสว่าดินเขาจะเอากับใครหรือคบกับใครเพราะมันเป็นเรื่องของเขาแค่ที่เธอแคร์คือเรื่องคืนที่ผับมากกว่า
พีพีเดินไปยังโรงอาหารของคณะ พอมาถึงเธอก็เห็นดินนั่งโอบเอวสาวที่กำลังซบไหล่เขาอยู่ด้วยท่าทางออดอ้อน ผู้หญิงคนนี้คงจะเป็นหนึ่งเด็กในสต๊อกของเขาแน่ ๆ พีพีเห็นแบบนั้นก็รีบก้าวเดินเข้าไปหาเขาพร้อมกับเรียกเขาเสียงดังทันที
“ไอ้พี่ดิน!!!”