หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป
หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันอยู่บ้านเพื่อทบทวนตัวเองและรักษาแผลที่เท้าจนหายดี
ที่ต้องทบทวนคือทบทวนความรู้สึก ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงชอบตุลมากขนาดนั้นและไม่เข้าใจว่าทำไมตุลถึงได้ตั้งท่ารังเกียจฉันขนาดนั้น
คำตอบที่ได้สำหรับฉันยังคงเหมือนเดิม มันคือรักแรกพบ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากจะถอดใจ หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันลองแล้วแต่ก็ยังวนเวียนคิดถึงแต่เขา ถึงแม้ว่าเขาจะร้ายกาจแถมยังเคยเกือบจะเขมือบฉันก็ตาม
“ไม่ออกไปอู่ ?” เฮียเฟยกำลังจะออกไปทำงานเห็นฉันอยู่ที่บ้านก็เลยเดินมาถาม
จริงๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกเฮียถามหรอก อาทิตย์ที่ผ่านมาเฮียถามฉันทุกวันว่าไม่ไปอู่หรอ คงเป็นเพราะฉันไปบ่อยมากๆ พอไม่ไปเลยผิดปกติ
“จะให้หนูไปทุกวันเลยหรอเฮีย”
“ก็เห็นไปทุกวัน”
“…ถ้าคนนั้นเขาถามแบบที่เฮียถามคงจะดี” ฉันพูดไปอย่างเหม่อลอย คนนั้นที่ว่าคือตุล การที่ฉันหายหน้าไปแบบนี้เขาจะคิดถึงบ้างหรือเปล่านะ เฮ้อ! ไม่ต้องเดาให้ยากหรอกคำตอบนี้ฉันรู้ดีในใจ
เฮียออกไปทำงานแล้วส่วนฉันก็นั่งๆ นอนๆ มันรู้สึกเบื่อไปหมด อยากจะออกไปเจอหน้าตุลแต่ภาพนั้นยังติดตา กลัวจะมองหน้าไม่ติด แถมเขายังทิ้งความร้ายกาจไว้อีกด้วย
กริ้ง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเพราะเหม่ออยู่ พอได้ยินเสียงก็รีบหยิบโทรศัพท์มาดูว่าใครโทรมา
ค่อนข้างแปลกใจที่เห็นว่าเป็นเบอร์ของพ่อโทรมา เพราะปกติพ่อจะยุ่งแต่งาน และฉันก็พอจะเดาออกว่าพ่อโทรมาเพราะอะไร
“ค่ะพ่อ”
( อาทิตย์หน้าพ่อจะกลับไทย พ่อมีคนมาแนะนำให้ลูกรู้จัก….)
“อีกแล้วหรอคะ” ฉันถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ นี่แหละที่ฉันรู้ทันว่าทำไมพ่อถึงโทรมา งานจับคู่คืองานหลักของพ่อเลยแหละ
ทุกครั้งที่ถูกจับคู่และพ่อนัดเดตให้ฉันก็มักจะทำตัวน่าเกลียดๆ ให้เขาไม่อยากจะคุยด้วย เช่นกินซกมก พูดจากระโชกโฮกฮาก ใช้มือหยิบอาหาร จามไม่ปิดปาก นี่คือกริยาที่ฉันทำเวลาถูกจับให้เดตกับใครก็ไม่รู้ และมันก็ได้ผล พอผู้ชายพวกนั้นเห็นก็รีบเผ่นหนีไปทุกราย
( ทั้งพี่ทั้งน้องเมื่อไหร่จะแต่งงาน รู้ไหมว่าพ่ออยากอุ้มหลาน ตาเฟยก็ปฏิเสธไปแล้วลูกยังจะปฏิเสธพ่ออีกหรือไง ) พ่อบอกเสียงเศร้า แต่ฉันไม่เชื่อหรอกพ่อของฉันน่ะเก่งยิ่งกว่านักแสดงอีกนะจะบอกให้
“หนูมีคนที่ชอบอยู่แล้วค่ะ เอาไว้จีบเขาติดเมื่อไหร่จะรีบพาเขาไปเจอพ่อแล้วจะรีบปั้มหลานให้พ่ออุ้มนะคะ บายนะคะเลิฟๆ พ่อค่ะ จุ๊บ” ฉันจุ๊บจอโทรศัพท์ก่อนจะกดวางสายไม่รอฟังว่าพ่อจะพูดอะไรต่อ
อุตส่าห์รับปากกับพ่อไปแล้วว่าจะพาคนที่ชอบไปเจอ ถ้ามัวแต่นอนอยู่ที่บ้านฉันจะพิชิตใจเด็กร้ายกาจอย่างตุลได้ยังไง
ฉันดีดตัวลุกขึ้นเมื่อคิดได้แบบนั้นก็รีบให้คนขับรถมาส่งที่อู่ของตุลทันที
#อู่ซ่อมรถ
พอเห็นตุลฉันก็ยิ้มหวาน นี่สิความสุขที่ขาดหายไปตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ดูท่าการเจอหน้าฉันมันจะไม่ใช่ความสุขของเขานะ
ฉันยังจำคำพูดของตุลได้ที่บอกว่า ‘ถ้าไม่อยากเจอแบบนี้อีกก็อย่ามาให้เห็นหน้า’
พอคิดถึงคำนี้ทีไรภาพเหตุการณ์นั้นมันก็ผุดขึ้นมาในหัวเหมือนเพิ่งผ่านไปแค่วันเดียวเอง ถึงจะกลัวและรู้สึกไม่กล้าประจันหน้าแต่ใจฉันมันไม่รักดีเอาแต่คิดถึงเขา
“มาทำไม ?” ตุลถามแบบไม่สบอารมณ์อย่างทุกครั้ง
“พ…พี่มา มา” ฉันคิดหาข้ออ้างก่อนจะเหลือบไปเห็นรถตัวเอง “มาดูรถน่ะ”
ตุลเดินเข้าไปในอู่ ไม่นานเขาก็เดินออกมาพร้อมกับกุญแจรถแล้วโยนมาให้ฉันรับ แค่เอามายื่นให้ดีๆ ก็ไม่ได้
“ไม่เจอหน้าตั้งหนึ่งอาทิตย์รู้ไหมว่าพี่….”
“ไม่เข็ด ?” เขาถามไม่ใช่แค่คำพูดแต่กลับใช้สายตาจ้องมองมาที่หน้าอกของฉันไม่กระพริบ
เมื่อเจอสายตาแบบนั้นจ้องมองใบหน้าของฉันมันก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที พยายามจะสู้กับความอายในใจตัวเองยังไม่พอ ยังจะต้องสู้กับสายตาแบบนี้ของตุลอีก
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะพี่ไม่อะไรแล้ว” ฉันแค่ไม่อยากเก็บมันมาคิด ถึงมันจะทำให้รู้สึกแย่ชอบเขามากๆ ไปแล้วนี่
ฉันอยากจะลองปรับตัว เผื่อตุลจะยอมเปิดใจ ถึงไม่เปิดใจตอนนี้ขอแค่เขาไม่ใจร้ายอีก
“คือพี่รู้ว่าก่อนหน้านี้พี่ทำตัวจุ้นจ้านมากเกินไป ต่อไปนี้พี่จะพยายามไม่……”
ตุลเดินมาใกล้ๆ ทำให้ฉันต้องหยุดพูดและถอยหลังหนี แต่ยิ่งถอยเขาก็ยิ่งเดินมาใกล้ๆ ในที่สุดฉันก็จนมุมแผ่นหลังมันติดกับฝากระโปรงรถ
“ถามว่าที่โดนไปไม่เข็ด ? หรืออยากเจอของจริง” ไม่พูดเปล่า ตุลโน้มใบหน้าลงมาพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างค้ำยันระหร่างตัวของฉันไว้ ฉันต้องเอนตัวหนีเพราะอยู่ใกล้กันเกินไป
“ด…โดนอะไรหรอ”
ตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจมันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ชอบที่ได้อยู่ใกล้ขนาดนี้ แต่ไม่ชอบสายตาเย็นชาคู่นั้นของเขาเลย
“เคยโดนแบบไหนมาบ้างก็น่าจะรู้ดีอย่าทำตัวใสซื่อ เห็นแล้วมันตลก”
“…….” เขาคิดว่าฉันไม่บริสุทธิ์อยู่สินะ ตอนนั้นฉันกลัวขนาดไหนยังดูไม่ออกอีกหรือไง
“พี่ตุลคะ” เสียงของผู้หญิงเรียกชื่อตุล เขาหันไปมองทางต้นเสียงก่อนจะผละตัวออกจากฉัน
ยัยผู้หญิงคนนั้นรีบวิ่งมากอดแขนตุลต่อหน้าฉัน ทำเหมือนมองไม่เห็นว่าฉันยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้!!
“ใครหรอพี่ตุล ?” เธอหันไปถามตุลว่าฉันเป็นใคร
“แค่คนเอารถมาซ่อม ไม่ได้รู้จักแบบส่วนตัว” เขาพูดออกมาอย่างเลือดเย็นทำเอาฉันจุกอก ไม่น่ามาเลยจริงๆ นั่นแหละ มาให้ตัวเองช้ำใจเปล่าๆ
แต่ถึงจะเจ็บจะจุกกี่ครั้งฉันก็มาหาเขาอยู่ดีแบบครั้งนี้ไง เฮ้อ
ยัยผู้หญิงคนนี้น่าโดนจิกหัวสักที ถ้ายังไม่เลิกใช้สายตาแบบนั้นมองฉันได้เห็นดีกันแน่!!
“รถเสร็จแล้วก็กลับไป หวังว่าจะไม่พังอีก” เขาทิ้งท้ายไว้เหมือนรู้ทัน ก่อนจะหันไปบอกผู้หญิงข้างกาย “กลับไปก่อนวันนี้ไม่มีอารมณ์”
“แต่…..”
“บอกว่าไม่มีอารมณ์” เขากดเสียงต่ำบอกอีกครั้ง
ผู้หญิงคนนั้นไม่พอใจที่ได้ยินคำพูดของตุลแต่เธอก็ยอมกลับไป พอเธอไปแล้วตุลก็เดินกลับมาหาฉัน
“ทำไมไม่กลับ หรือที่จริงแล้วก็อยากจะโดนแบบวันนั้นแค่แกล้งเล่นตัว ?”
ฉันพยายามไม่สนใจคำพูดของตุล แล้วถามท“ผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นอะไรกับตุลหรอ…”
“คู่ซ้อม” เขาตอบแบบไม่ต้องคิด
“……” คำตอบนั้นทำให้ฉันกัดริมฝีปากแน่น เขามันเสือผู้หญิงไม่มีหัวใจอย่างที่แพรว่าจริงๆ