สุริยพิศุทธิ์ส่ายหน้ากับความคิดของแม่ ไม่ได้อยากพูดแรงใส่แม่เลย แต่ถ้าไม่แรงพอ แม่ก็คงไม่หยุดจับคู่ให้เขา
“ถ้าให้ผมนับนี่ นิ้วมือกับนิ้วเท้ารวมกัน ยังไม่พอเลยนะครับ”
“ซัน! แม่บอกแล้วไงว่าแม่จริงจัง แม่จะให้คุณน้าซองอึนมาดูก่อน ส่วนซันจะว่ายังไงก็เรื่องของซัน แม่แค่อยากรู้”
“งั้นถ้าแม่อยากรู้ แม่ก็รู้ไปครับ แต่แม่ไม่ต้องมาบอกผมนะ เพราะผมไม่อยากรู้ ยืนยันอีกครั้งครับ เรื่องเมียผมหาเองได้ไม่ต้องมีใครมาจับคู่ทั้งนั้น เพราะอย่างที่ผมบอก ไม่มีใครมาช่วยจับใส่”
“พอแล้ว! ไม่อยากฟัง ลามก!”
พิรดารีบพูดตัดบท ไม่ให้ลูกพูดอะไรไปมากกว่านี้ แต่ก็นึกงุนงงอยู่เหมือนกันที่วันนี้ลูกชายพูดจาโจ่งแจ้ง ไม่อายหลอนกับสามีเลยหรือไร
“คุณดา ลูกมันจะหาเมียเองก็เรื่องของมันเถอะ คุณอย่าไปยุ่งเลย เรื่องผัวเรื่องเมียมันเป็นเรื่องของเฉพาะบุคคล ใช่เรื่องที่พ่อแม่จะมาหาให้หรือเปล่าล่ะ คุณกับผม พ่อแม่เราก็ไม่ได้หาให้นะ ผมรักคุณเอง ไม่ใช่พ่อแม่บังคับให้ผมรัก”
“พี่ยะ! พูดให้ประเจิดประเจ้อ ไม่อายลูกเหรอ”
พิรดาอายม้วน เมื่อสามีวัย 60 กระชับมือของหล่อนพร้อมบอกรักเสียงอ่อนเสียงหวาน และหล่อนก็เห็นลูกชายบึนปากมองบน แบบเหม็นเบื่อความรักของพ่อแม่เหลือเกิน ซึ่งหล่อนก็เข้าใจดีว่าสุริยการพูดไม่ผิด แต่หล่อนเป็นแม่ หล่อนหวงลูกหล่อนผิดเหรอ
“ดาก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ แค่ดาห่วงลูก พี่ยะก็รู้ว่าดาไม่ค่อยแข็งแรง ดาก็อยากเห็นลูกแต่งงานมีความสุขไงคะ เนี่ยอากาศแต่งงานไปคนหนึ่งแล้ว ดามีความสุขที่สุดในโลกเลยค่ะ ก็เหลือซันนี่แหละ”
ดวงตาคลอไปด้วยหยาดน้ำมองไปที่ลูกชายเพียงคนเดียวของหล่อน ลูกคนโต ลูกที่ได้ดั่งใจทุกอย่าง เพราะสืบสานธุรกิจของทางครอบครัวแม่และธุรกิจของทางครอบครัวพ่อ รวมทั้งยังขยายธุรกิจออกไปอย่างกว้างกว่าเดิม จนทุกครั้งที่ออกไปนอกบ้านพบเจอกับเหล่าแม่บ้านสมาคมต่างๆ หรือนัดคุยเพื่อนฝูง หล่อนจะได้รับคำชมเสมอว่า ‘พ่อเลี้ยงสุริยพิสุทธิ์’ เป็นคนหนุ่มที่น่าจับตามองมากที่สุด และเพื่อนๆ ของหล่อน รวมทั้งคนรู้จักก็อยากจะพาลูกสาวหลานสาวมาแนะนำ ติดแต่ลูกชายหล่อนที่ไม่มองใครเลย
“แม่พูดดีๆ ก็ได้ครับ ไม่ต้องรัชดาลัย มีแค่ผมกับพ่อเป็นคนดู แอคติ้งมากๆ เดี๋ยวเมื่อยนะ”
“ซันอะ! ไม่มีอารมณ์ร่วมเลย”
สุริยพิศุทธิ์ก้าวเข้าไปโอบกอดแม่ ซบหน้ากับบ่าเล็กอย่างแสนรัก
“อย่างที่ผมบอกแม่ล่ะครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องเมียเลย ผมหาได้ แค่ตอนนี้ไม่อยากมีก็เท่านั้นเอง โอเคนะครับ แล้วถ้าจะชวนคุณน้าซองอึนกับน้องฮันวอลมาบ้าน ผมก็ไม่ขัดเลย เพราะคุณน้ากับน้องก็ไม่มีอะไรกับผมเลย แค่แม่จะไม่ถามเรื่องผม”
น้ำเสียงทุ้มไม่ได้ก้าวร้าวแต่เป็นไปด้วยความอ่อนโยนสื่อออกไป รู้ว่าแม่ห่วงเขาไม่ต่างจากห่วงพิสุทธิ์นภาในวันนั้น แต่ก็ไม่อยากให้แม่เป็นกังวลหรือไม่สบายใจที่เขาจะไม่ทำตามนั้นแน่ๆ
“จะมีกี่เมีย แม่ก็คงไม่ขัดหรอกค่ะพี่ซัน ขอแค่มีเมียเป็นตัวเป็นตนให้ได้ อย่าไปผิดลูกผิดเมียใครเขาก็พอ เพราะมันจะผิดศีลข้อ 3 ค่ะ”
ดวงตาคมเข้มตวัดมองน้องสาวที่เดินมาจากทิศทางในตัวบ้าน แต่พิสุทธิ์นภายังอยู่ในชุดทำงาน แปลว่าเพิ่งกลับมาถึงบ้านก่อนหน้าเขาไม่นาน แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือน้องสาวพูดแบบนี้และสายตาที่จ้องเขม็งมองมามันเหมือนว่าพิสุทธิ์นภาไปรู้อะไรมา และตั้งใจพูดแขวะเขา
“แล้วฉันจะไปผิดศีลไปผิดลูกผิดเมียใครเขาได้ ไม่ได้ชอบคนมีพันธะ ที่ผ่านมาถึงจะไม่สด แต่ก็โสดทุกคนนะ”
“ศีลข้อ 3 อะ มันไม่ได้หมายถึงการผิดเมียคนอื่นเท่านั้นนะคะ แต่มันหมายถึงการผิดลูกคนอื่นด้วย ไม่ใช่ว่ามีอะไรกับคนโสดแล้วจะรอด”
สุริยพิศุทธิ์ชักสีหน้าไม่พอใจหันมองพ่อเหมือนจะหาตัวช่วยว่าพิสุทธิ์นภาหมายถึงอะไร
“ศีลข้อ 3 หมายถึง การไม่ผิดลูกผิดเมียของคนอื่นเนี่ย ถือว่าการมีอะไรกับลูกสาวเขา โดยที่พ่อแม่เขาไม่ยินยอม ก็ถือว่าผิดศีลข้อ 3 เหมือนกัน”
สุริยพิศุทธิ์ฟังที่พ่อพูดและหันมองน้องสาว สายตาของพิสุทธิ์นภาเหมือนคนรู้อะไรมา เหมือนคนจ้องจับผิดเขา แต่อะไรล่ะ แต่แล้วเขาก็ได้คำตอบ เพราะสุดสายตาของพิสุทธิ์นภาคือคนที่ยืนหลบมุมเสา
“ที่ผ่านมา ผมก็คิดว่าไม่ได้ไปผิดเมียใครเขานะครับพ่อ แต่ผิดลูกใครไหมเนี่ย ผมก็ไม่แน่ใจหรอก เพราะแต่ละคนก็บรรลุนิติภาวะแล้วทั้งนั้น ผมว่าสมัยใหม่แล้ว คนจะมีซัมติงกันได้เนี่ย มันก็ต้องผ่านการยินยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่าย แล้วผมก็คิดว่าผมเป็นแบบนั้นนะ ไม่เคยไปบังคับข่มขืนใคร มีแต่คนสมยอม แต่ถ้าจะบอกว่าการไปผิดลูกคนอื่นโดยที่พ่อแม่เขาไม่ยินยอม ก็หมายถึงเป็นการผิดศีลข้อ 3 เหมือนกัน อันนี้พูดยากจริงๆ ครับ เพราะบางคนที่พ่อแม่ตายหมดแล้ว ผมก็ไม่รู้หรอกว่าท่านยินยอมหรือเปล่า แค่ลูกโอเค ผมก็เซย์เยสทันที”
พูดจบจมูกโด่งก็จดหอมแก้มแม่และกอดรัดด้วยความรัก ก่อนจะขอตัวขึ้นไปอาบน้ำ แต่เส้นทางที่เดินผ่านข้างขวาคือน้องสาว ข้างซ้ายคือ...