5

1360 คำ
หางตาของอเล็กซานโดรเมื่อก้าวข้ามบันไดมาทีละสองขั้นไม่ถึงนาทีก็มาหยุดอยู่บนชั้นสองทันเห็นร่างระเหิดระหงของศศิวิ่งกลับไปทางปีกซ้ายอยู่ไวๆ และทำให้เจ้าพ่อหนุ่มคิดอะไรบางอย่างได้ แทนที่เขาจะกลับเข้าห้องพักของตนตามที่บอกบิดา อเล็กซานโดรกลับเดินผิดทิศไปอีกทาง “ศศิ เธอชอบเล่นไล่จับใช่มั้ย” ดวงตาคมหรี่แคบฉายแววร้ายกาจออกมา “ดอนครับ ทางไปห้องดอนอยู่ทางขวาไม่ใช่หรือครับ” มาริโอ้ทักท้วงขึ้น เขาไม่แน่ใจว่าเจ้าพ่อหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่เพราะทางปีกซ้ายนั้นเป็นที่พักของคุณหนูคนงาม ศศิ อบาเต้ และนั่นทำให้คนถูกทวงถามถึงกับอารมณ์เปลี่ยน หันหน้าบึ้งมาถาม “มาริโอ้ นายอยากลดตำแหน่งลงไปเหลือแค่คนสวนไหมวะ ฉันถามเผื่อว่านายสนใจ” เจ้าพ่อหนุ่มหันกลับมาเท้าสะเอวถาม “อะ เอ่อ ไม่ครับดอน แต่ผมเป็นห่วง เพราะดอนเซซาเร่เคยสั่งไว้ว่าถ้าคุณหนูศศิมาพักที่นี่ให้ผมช่วยดูแลดอนให้อยู่ห่างๆ จากเธอด้วย” อเล็กซานโดรถึงกับกัดฟันกรอดให้กับคำสั่งบ้าๆ ของเซซาเร่ เขารู้ตัวดีว่าตั้งแต่เกิดเรื่องถูกตามสืบค้นองค์กร เขามักจะแสดงอาการฉุนเฉียว ระเบิดอารมณ์ใส่ศศิทุกครั้งที่มีโอกาส จนทำให้บิดานึกเป็นห่วงแม่น้องน้อยลูกสาวสุดที่รักจนถึงกับต้องมาสั่งคนของเขาไว้ให้ดูแลเธอ โดยกันเขาให้ออกห่าง ...พระเจ้า แล้วแบบนี้มันใช่เรื่องที่เขาจะยอมไหม ไม่มีทางเสียล่ะ “มาริโอ้นายลืมแล้วเหรอว่าฉันเป็นใคร ฉันเป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ เป็นเจ้านายของนาย และหน้าที่ที่ถูกต้องของนายคือทำตามที่ฉันสั่ง แม้แต่เรื่องของศศิก็ห้ามบอกอะไรกับแด๊ดเด็ดขาด” “อะ เอ่อ แต่...” คนถูกสั่งห้ามทำท่าทางคิดมากกับคำสั่งแสนห้วนกระด้างนั้น “มาริโอ้” อเล็กซานโดรเรียกเสียงเข้ม “ครับดอน ผมเข้าใจแล้ว ผมจะทำตามที่ดอนสั่ง” เมื่อสั่งห้ามลูกน้องเด็ดขาดแล้ว ร่างสูงตระหง่านผึ่งผายก็เหยียดยิ้มสมใจ พาตัวเองมุ่งตรงไปทางปีกซ้ายที่เป็นห้องของน้องรักที่เขาจงใจจะเปลี่ยนสถานะให้ใหม่หลังจากนี้ ตามที่เจ้าหล่อนเคยเนื้อตัวระริกอยากได้นักหนา ด้านผู้หญิงที่ถูกกล่าวหารุนแรงว่าร่านริษยาก็วิ่งหน้าตาตื่นกลับมาถึงห้อง ยกมือปาดน้ำตาทิ้งปิดประตู ล็อกกลอนแน่นหนาแล้วยืนพิงผนังหอบหายใจ เธอจำใบหน้าโกรธเกรี้ยวถมึงทึงของอเล็กซานโดรได้ดี เขาเกลียดเธอมากขนาดด่าว่ากันได้รุนแรง ดีไม่ดีคงถึงขั้นสับเธอเละเป็นชิ้นๆ ได้เลยกระมัง ศศิคิดด้วยความหวาดหวั่น แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจกับเสียงที่ดังอยู่ข้างหลัง หญิงสาวรีบเด้งตัวออกมามองจ้องประตู “ศศิเปิดประตูเดี๋ยวนี้” “ดอนอเล็กซานโดร!” ‘เรื่องอะไรจะเปิด คนกำลังโมโหใครเปิดก็โง่แล้ว’ ราวกับเป็นเสียงมัจจุราชที่มารอกระชากวิญญาณอยู่หน้าห้อง คนตัวเล็กกว่ามากที่เคยปากกล้าอาจหาญต่อกรกับเจ้าพ่อหนุ่มมาตลอดถึงกับใจฝ่อ ตัวลีบเล็ก เมื่อรู้ว่าการมาของเขาในครั้งนี้ไม่ธรรมดาเหมือนเคย และนับจากนี้ไปมันคงไม่ธรรมดาอีกแล้ว “ดอนมีอะไรกับศศิหรือเปล่าคะ ถ้าไม่มีอะไรก็กลับไปเถอะค่ะ ศศิอยากพัก ศศิง่วงมาก” คนสวยแกล้งเฉไฉ เขายกยิ้มเจ้าเสน่ห์แต่แฝงเล่ห์ร้าย“เธอมีเวลาพักยาวแน่ศศิ แต่ตอนนี้ทำตามที่พี่สั่ง เปิดประตูเดี๋ยวนี้ ได้ยินไหม” ปัง! เจ้าพ่อหนุ่มไม่เรียกเฉยๆ เคาะก่อนจะเตะประตูด้วยความโมโห “ไม่ค่ะ ก็บอกแล้วว่าอยากพักเมื่อคืนดูซีรีย์เกาหลีดึกขอบตาคล้ำ หน้าโทรมจัด ศศิไม่อยากคุยกับใครทั้งที่ตาเป็นแพนด้าแบบนี้ มีอะไรอยากคุยกับศศิก็เอาไว้คุยวันหลังแล้วกันค่ะ” ศศิตะโกนตอบผ่านบานประตู พยายามควบคุมน้ำเสียงให้เรียบที่สุดเพื่อไม่ให้เขารู้ว่าเธอขวัญหนีดีฝ่อแค่ไหนกับการย่างเท้ามาของเขา และอย่างน้อยเธอก็โล่งใจได้เปราะหนึ่งที่อเล็กซานโดรคงบุกเข้ามาหาเธอไม่ได้ง่ายๆ เพราะเธอปิดประตูล็อกห้องแน่นหนา และถ้าเกิดเขาจะเข้ามาก็คงต้องกลายร่างเป็นมดเป็นปลวกหรือหายตัวแวบเข้ามา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ “ดูซีรีย์เกาหลี ยัยบ้า! ใครจะไปเชื่ออย่างเธอน่ะคงอ่านนิยายหรือไม่ก็ดูหนังอิโรติกเสียมากกว่า จะเปิดดีๆ หรือเปิดด้วยน้ำตา เดี๋ยวถ้ากวนมากๆ รับรองว่าเธอจะเสียน้ำตา แล้วพี่จะเสียน้ำอย่างอื่นคืนนี้แน่นอน” “ไอ้โรคจิต” ศศิสบถเบาๆ ในลำคอเดี๋ยวนี้เทพบุตรของเธอกลายเป็นซาตานไปแล้ว เสียงกราดเกรี้ยวตวาดดังขึ้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุด “ศศิ เธอยังอยากนอนในห้องแบบที่ยังมีบานประตูอยู่อีกไหม สำหรับพี่มันไม่ยากนะถ้าจะรื้อไอ้ประตูแสนน่ารำคาญนี่ออกไป เพื่อจะได้เข้าไปจัดการกับเธอ” “ไม่นะ!” เธอรู้ว่าเขาทำได้แน่ ศศิอุทานตกใจในลำคอ ใช้เวลากว่านาทีถึงจะหายมึนงงกับคำพูดของเขา ใบหน้างามเปลี่ยนเป็นงอง้ำ และเธอก็เชื่อว่าเขากล้าบ้าบิ่นพอที่จะทำตามที่พูด คนคิดไม่ตกทอดถอนหายใจและในที่สุดก็ตกลงใจได้ สองขาเรียวยาวในชุดเสื้อไหมพรมกับกางเกงยีนเข้ารูปก้าวเดินไปปลดล็อกแล้วจึงผลักประตูให้เปิดออก “พี่คิดว่าเธออยากนอนแบบไม่มีประตูห้องซะแล้ว” คนก้าวเข้ามาพูดสวนขึ้นทันที “ดอนมีธุระอะไรก็ว่ามาเถอะค่ะ ศศิไม่ค่อยสบาย อยากพักจริงๆ” คนที่ตอนแรกไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แต่ทว่าตอนนี้ศศิกลับรู้สึกว่าเธอต้องการยาพาราเซตามอลสักกระปุก เพราะรู้สึกว่าร่างกายกำลังร้อนผะผ่าวจากสายตาโลมเลีย จาบจ้วงจนคล้ายคนจะเป็นไข้ และพิษไข้ที่ว่านั้นก็เกิดจากคนร่างใหญ่ที่กำลังก้าวอาดๆ ตรงมา “มาริโอ้นายรออยู่ด้านนอก ถ้าไม่ได้ยินเสียงฉันสั่งก็ไม่ต้องเข้ามา” สิ้นคำประกาศิตของคนที่เธอเรียกว่าพี่ ศศิก็ยืนตัวแข็งลอบกลืนน้ำลาย แล้วต้องตกใจเมื่อเขาปิดประตูห้องเหลือเพียงเธอกับเขาเพียงลำพังสองต่อสอง “นึกว่าจะหลอกพี่ได้เหรอ แหม! หลอกกันเป็นเด็กไปได้ว่าไม่สบายเพราะดูซีรีย์เกาหลี ไปเที่ยวเมืองไทยมาหลายครั้งพักหลังเธอเลยติดนิสัยเพื่อนมาล่ะสิ ยัยเด็กเลี้ยงแกะวันนี้เธอกับพี่ต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง” “ดอนจะทำอะไรคะ มาริโอ้ มาริโอ้ช่วยศศิด้วย” เพราะรู้ว่าบิดาบุญธรรมสั่งให้เลวินสันและมาริโอ้ช่วยกันดูแลเธอในระหว่างที่ท่านไม่อยู่ ศศิจึงกล้าเรียกใช้เขาให้เข้ามาช่วยโดยไม่ต้องเกรงใจ เจ้าพ่อหนุ่มเห็นดังนั้นก็หัวเราะเบาๆ อย่างขบขันในท่าทางตื่นกลัวของแม่น้องสาวสุดสวย แต่ก็คุกรุ่นอยู่ในทีที่ศศิกล้าเรียกใช้คนของเขาต่อหน้าต่อตา “มาริโอ้มันคนของพี่ เธอกล้าดียังไงมาเรียกใช้ หรือคิดจะหว่านเสน่ห์หลอกให้มาริโอ้มารับใช้ งานถนัดอยู่แล้วนี่ ไอ้เรื่องชอบทำให้ผู้ชายหัวปั่น มายอมสยบอยู่แทบเท้า ดูอย่างไอ้ริคคาร์โดนั่นไง เธอหว่านเสน่ห์มันยังไงล่ะจนมันหลงยอมทำตามที่เธอบอกทุกอย่าง นางยั่วจริงๆ เธอใช่ไหมที่เอาข้อมูลมั่วๆ ไปยัดใส่มือนายตำรวจคนนั้นให้มาเล่นงานพี่กับแด๊ด”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม