Married แต่งแล้ว (อย่า) รัก 6

931 คำ
Married แต่งแล้ว (อย่า) รัก 6 “คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ” (เรื่องชุด // ทัพ เพลงคิดถึงคุณจังเลยค่ะ // อืม) มือที่ถือปากกาอยู่ชะงักค้างไปทันที ฉันไม่ได้โง่ที่จะฟังเสียงครางไม่ออก และฉันไม่อยากจะคาดเดาอะไรเลยว่าปลายสายนั้นทำอะไรอยู่กันแน่ แต่บอกคิดถึงกันแบบนั้นให้เดาก็คงจะอยู่กับคนรักของเขาล่ะมั้ง “...” “พลอย พร้อมแล้วไปเลยไหม?” พิรัชเดินเข้ามาใกล้ฉันพร้อมกับเอ่ยชวน “ขอเซ็นสัญญาก่อน” ฉันตอบเพื่อนมือข้างที่ถือโทรศัพท์อยู่ก็กดวางสายทันที เขาคงไม่ได้สนใจจะพูดอะไรต่อแล้วล่ะ วางสายเสร็จฉันก็เพ่งสมาธิตัวเองอยู่กับเอกสารตรงหน้าตรวจสอบก่อนจะเซ็น ใช้เวลาสักพักใหญ่ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยนั่นจึงทำให้ฉันและเพื่อนทั้งสามคนออกจากสำนักพิมพ์ไปยังร้านอาหารเพื่อกินข้าวด้วยกัน ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานแล้วด้วยรถติดนิดหน่อยแต่ก็ยังดีจะได้ใช้เวลาร่วมกันกับเพื่อน และวันนี้ฉันไม่ได้ขับรถมาเองเพราะตั้งใจจะดื่ม ร้านอาหารกึ่งบาร์เป็นร้านที่อาริสาจองไว้ เมื่อมาถึงเราก็เริ่มสั่งทั้งอาหารและเครื่องดื่มมาเสียเต็มโต๊ะ ระหว่างที่นั่งกินข้าวด้วยกันอยู่นั้นโทรศัพท์ฉันมีสายเรียกเข้าจากผู้ชายคนนั้นด้วยนะแต่ว่าฉันไม่ได้รับสายแต่พอเห็นเบอร์คุณย่าโทรเข้ามาฉันถึงได้ขอตัวและเดินออกมาที่สวนนอกร้านเพื่อพูดคุยกับคุณย่า “คุณย่า คิดถึงจังเลย” ส่งเสียงทักทายคุณย่าอย่างที่รู้สึก (ย่าเองก็คิดถึงหนู งานเป็นยังไงบ้างลูก) คุณย่าเอ่ยถามกลับมา ฉันเดินไปนั่งที่เก้าอี้มุมด้านหนึ่งของร้านที่จัดไว้เพื่อให้ลูกค้านั่งพักล่ะมั้ง “เคลียร์เพิ่งเสร็จค่ะคุณย่า แล้วก็เพิ่งเซ็นสัญญางานใหม่มาด้วย ถ้าว่างแล้วจะกลับไปหานะคะ” (เอาที่หนูสะดวกแล้วค่อยมาก็ได้ลูก ที่นี่ก็มีตาขุนกับนิรมาอยู่เป็นเพื่อน ชวนคุยพอให้คลายเหงา) ฮื่อ ได้ยินแบบนี้ฉันเองก็รู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่เลย คุณอายุเยอะแล้วออกไปข้างนอกก็คงไม่สะดวกคงจะเหงาที่ลูกหลานอยู่ไกลบ้านแบบนี้ ที่จริงฉันก็ว่างแล้วนะ หรือจะกลับไปเซอร์ไพรส์คุณย่าดี “ขอโทษนะคะ หนูจะรีบเคลียร์งานนะคะ” (จ้ะลูก แล้วพี่เขาคุยเรื่องชุดอะไรเพิ่มหรือยังเหมือนจะต้องวัดตัวนะลูก) “อ๋อ เดี๋ยวค่อยคุยก็ได้ค่ะ ช่วงนี้หนูก็ยุ่ง ๆ เหมือนกัน” (พลอยลูก...) จู่ ๆ คุณย่าก็เอ่ยเรียกฉันเสียงเบา “ค่ะคุณย่า” (ย่ารู้ว่าหนูไม่ได้อยากแต่งงานเลย แต่ถือว่าย่าขอร้องเถอะนะลูก ช่วยทำให้ความฝันย่าเป็นจริงหน่อยนะ) “...” (ย่าอยากเห็นหนูเป็นฝั่งเป็นฝาจริง ๆ อย่างน้อยก็ให้หนูมีคนดูแล) “คุณย่าคะ ไม่พูดแบบนี้สิ” หรือคุณย่ามีอะไรที่ยังไม่ได้บอกฉันกันนะ (ย่าพูดจริง ๆ ย่าเชื่อว่าจอมทัพเขาจะดูแลหนูได้ ค่อย ๆ ใช้เวลาเรียนรู้กันไปก็ไม่สายนะลูก) “ค่ะคุณย่า” (เด็กดี ย่ารักหนูนะลูก) “หนูเองก็รักคุณย่านะคะ ดูแลตัวเองด้วยนะอย่าลืมกินข้าวกินยานะคะ” (จ้ะลูก ย่าไม่รบกวนแล้วพักผ่อนบ้างนะ) “ค่ะคุณย่า” หลังจากที่วางสายจากคุณย่าฉันถึงกับถอนหายใจอย่างหนักใจ ถึงแม้จะบอกว่าไม่อยากแต่งงาน ไม่แต่งงาน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วเหมือนทุกอย่างคุณป้านิรนางจะจัดการหมดแล้ว และมีเวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนก็จะถึงวันงานแล้วด้วย “ทำหน้าเครียดจัง” พิรัชเอ่ยถามเมื่อเห็นฉันเดินกลับเข้าไปภายในโต๊ะอาหารที่มีเพื่อน ๆ นั่งกินข้าวกันอยู่ “เรื่องงานแต่งนั่นแหละ” ฉันตอบเพื่อนมือก็ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นดื่มจนหมดรวดเดียว ไม่ได้สนใจสีหน้าและท่าทางตกใจของเพื่อนที่มองมานั่นเลย “ฉันเองก็ไม่รู้เลยว่าจะช่วยแกยังไงดี” อาริสาบอกกับฉันอย่างเห็นใจ ไม่น้อย “ไม่เป็นไรหรอก แค่พวกแกอยู่ข้าง ๆ ฉันแบบนี้มันก็ดีมากแล้ว แต่ว่าหลังจากนี้จะทำงานออนไลน์เอานะแล้วค่อยกลับมาเซ็นสัญญาเป็นรายครั้งไป พี่พยาบาลบอกว่าช่วงนี้คุณย่าอาการทรุดแต่ไม่ยอมไปโรงพยาบาล” นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ฉันรู้สึกกังวลใจ คุณย่าท่านน่ะดื้อ เป็นคนแข็งแรงและพอป่วยก็จะไม่ยอมให้ตัวเองป่วยฝืนร่างกายจนไม่ไหวจริง ๆ อย่างครั้งล่าสุดก็ป่วยจนทรุดแล้วล้มถึงได้ยอมไปหาหมอ และที่กลับบ้านครั้งนี้ฉันตั้งใจจะอยู่เฝ้าคุณย่าเช่นเดียวกัน ฉันอยากอยู่กับท่านให้มากกว่านี้ “ได้สบายมาก มีอะไรปรึกษากันได้นะพลอย เราเป็นเพื่อนกันนะ อย่าเก็บอะไรไว้กังวลคนเดียวเลยนะ” ประกายดาวปลอบฉันพร้อมกับยื่นมือข้างหนึ่งมาลูบที่ไหล่เบา ๆ ฉันพยักหน้าแล้วเอ่ยขอบคุณเพื่อนสนิททั้งสามคนที่เราผ่านอุปสรรคอะไรต่าง ๆ มามากมายด้วยกันและมีกันอยู่จนถึงวันนี้ “ขอบคุณนะ ขอบคุณทุกคนเลย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม