เสียงห้าวๆ ที่ดังแทรกขึ้นมาส่งผลให้หญิงต่างวัยทั้งคู่พากันสะดุ้งโหยง และเมื่อหันไปมองทางต้นเสียงก็พบเข้ากับบุคคลที่กำลังอยู่ในหัวข้อสนทนา ในชุดเครื่องแบบทหารยืนเด่นตรงบันไดขั้นล่างสุด หิ้วถุงอะไรสักอย่างอยู่ในมือ ทำเอาเจ้าของคำพูดอย่างพรนับพันนึกค่อนขอดอีกฝ่ายอยู่ในใจ คนอะไรตัวก็สูงใหญ่แต่มาไม่ให้สุ้มให้เสียง แล้วไม่รู้ว่ามายืนอยู่นานเท่าไรแล้ว ได้ยินที่เธอพูดบ้างหรือเปล่าถึงถามเช่นนี้
“ปะ...เปล่าหรอกค่าผู้พันแสน” นางพวงรีบปฏิเสธเสียงระรัว “แล้วมายังไงคะ ป้าไม่เห็นได้ยินเสียงรถเลย”
เจ้าของร่างสูงใหญ่เดินขึ้นบันไดแล้วหยุดยืนพิงตรงระเบียง ไม่ห่างจากเก้าอี้ยาวที่เจ้าของบ้านและหญิงสาวนั่งอยู่นัก พลางมองดูดวงหน้าที่ยังคงเค้าความสวยของนางพวงที่แทนตัวเองว่าป้าอย่างขำๆ ไม่นึกสงสัยเลยว่าเหตุใดลูกน้องใต้บังคับบัญชาอย่างจ่าโชติจึงเพียรตามจีบ ทั้งที่ความจริงอายุของอีกฝ่ายอาจจะน้อยกว่ามารดาของเขาด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายแทนตัวเองว่าป้าตั้งแต่แรกจึงทำให้เขาเรียกจนติด
“เดินมาครับป้า จู่ๆ รถมอเตอร์ไซค์ก็เกิดเกเรขึ้นมา ตอนนี้จ่าโชติกำลังซ่อมให้อยู่”
พอนางพวงได้ยินคำว่าจ่าโชติสีหน้าก็เปลี่ยนไปนิดหนึ่ง “แล้วหิ้วถุงอะไรมาล่ะคะนั่น”
นายทหารหนุ่มก้มลงมองถุงในมือแล้วเหลือบมองน้องขิมของคนถามแวบหนึ่ง
“พวกกุนเชียง หมูหย็อง หมูทุบ หมูแผ่นครับป้า แม่ผมขนซื้อมาให้ เลยแบ่งมาให้ป้ากินครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ แล้วกาแฟนั่นก็ของฝากป้าด้วยหรือคะผู้พัน” นางพวงถามด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
แสนคมปั้นหน้าให้เคร่งขึ้น “เอ้อ...คงถือติดมือมาน่ะครับ ไหนๆ แล้วก็ฝากไว้ที่บ้านป้าพวงแล้วกัน” บอกพลางมองกาแฟขวดโตพร้อมด้วยครีมเทียม ซึ่งเขาซื้อมากินเอง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเหตุใดจึงหยิบติดมือมาด้วย
“ตั้งแต่ป้ากลับมาอยู่ที่นี่ก็ไม่เคยกินกาแฟ เอาน่าไหนๆ ผู้พันก็ถือมาแล้ว ป้าก็ขอรับไว้แล้วกันนะคะ สงสัยคงต้องกลับไปกินอีกครั้ง” นางพวงมองกาแฟขวดโตแล้วอมยิ้ม ก่อนจะหันไปทางพรนับพัน
“น้องขิมรู้จักกับผู้พันแสนคมซะสิจ๊ะ”
คนถูกแนะนำอึ้งไปชั่วครู่ เพราะจู่ๆ นางพวงก็หันมาแนะนำจึงไม่ทันได้ตั้งตัว แต่เมื่อตั้งสติได้ก็ยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อขิม เอ้อ…พรนับพัน ขอบคุณที่เมื่อคืนช่วยขับรถให้นะคะ”
แสนคมยกมือรับไหว้ อ้อ.ชื่อเพราะและแปลกดี...พรนับพัน! แม้จะนึกสงสัยว่าอีกฝ่ายเกี่ยวพันอะไรกับนางพวง แต่คิดว่าคงไม่ใช่ญาติอย่างแน่นอน ครั้นเห็นชุดที่หญิงสาวสวมอยู่ก็เกือบหลุดหัวเราะแต่ก็กลั้นไว้อย่างยากเย็น
ผู้หญิงคนนี้...ช่างมีอะไรให้ประหลาดใจเล่นทุกครั้งที่พบกันจริงๆ ดูน่าค้นหาอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“ไม่เป็นไรหรอกคุณพรนับพัน ผมไม่ใช่คนใจดำ แต่คุณเองก็ควรจะรู้ไว้ว่าการดื้อรั้นจะเดินทางไปในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย มันเสี่ยงแค่ไหน เพราะใช่ว่าจะมีแค่ภัยจากคนเท่านั้น อันตรายจากสัตว์ร้ายก็มีเช่นกัน ที่นี่ไม่ใช่เมืองศิวิไลซ์อย่างกรุงเทพฯ”
คนถูกว่าฟังแล้วก็รู้สึกฉุนขึ้นมาทันที
“ฉันก็บอกคุณแล้วนี่คะว่าหลงทาง ใครอยากจะมาจอดรถกลางป่าเขาคนเดียว มืดก็มืด”
“ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องที่คุณขับรถหลงทาง แต่ผมหมายถึงเรื่องที่คุณดื้อดึงจะขับรถเองทั้งที่ไม่ชำนาญทางต่างหาก” แสนคมพูดเสียงเข้ม เขาเองก็ไม่อยากจะพูดเท้าความถึงเรื่องเมื่อคืนนัก แต่เมื่อนึกขึ้นมาทีไรใจก็หายทุกที จึงอดไม่ได้ที่จะพูดถึง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกเช่นนั้น!
หญิงสาวมองเจ้าของน้ำเสียงเข้มๆ ดวงหน้าขรึมๆ แล้วต้องลอบเบ้ปาก ชื่อกับปากช่างสมกันจริงๆ เธอเพิ่งได้เห็นหน้าผู้พันแสนคมของนางพวงชัดเจนก็ตอนนี้เอง ไม่สงสัยเลยว่าเหตุใดจึงมีสาวๆ อยากเป็นคุณนายของผู้พันคนนี้กันนัก แต่คงต้องยกเว้นเธอคนหนึ่งละ แล้วก็เกิดหมั่นไส้ผู้พันขึ้นมา ทหารอะไรผิวขาวอย่างกับไม่ได้อยู่ตามป่าตามเขา แถมชอบเก๊กหน้าอยู่ตลอดเวลาอีก ไม่เมื่อยบ้างหรือไงนะ
“คุณจะว่าฉันอย่างเดียวก็ไม่ถูก เป็นใครก็ต้องทำแบบฉัน คนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนจะให้ไว้วางใจกันง่ายๆ ได้ยังไง”
แล้วเธอก็พลันนึกออกว่าเคยเห็นหน้าดุๆ นี่ที่ไหน ที่แท้ก็ในซูเปอร์มาร์เกตเมื่อวานตอนที่เธอกำลังเดินดูของ แล้วเขาส่งสายตาดุๆ มาให้นั่นเอง ที่ทำให้เธอนึกสงสัยว่าใครกันไม่ได้รู้จักมักจี่ด้วยเสียหน่อย จู่ๆ ก็มาทำหน้าดุใส่ เธอไปทำอะไรให้เขาโกรธเคืองกัน เกือบจะถามออกไปแล้วแต่ยั้งปากไว้ได้ทัน
“คุณเด็กกว่าผมหลายปี ไม่ควรใช้คำแทนตัวเองว่าฉัน” แสนคมพูดไปโน่น เพราะเขาเองก็ไม่รู้จะหาคำไหนมาโต้เถียงเหมือนกัน เพราะมันก็จริงอย่างที่หญิงสาวพูด
“เอาเถอะค่ะ” นางพวงที่นั่งมองคนโน้นทีคนนี้ทีรีบยกมือห้ามทัพ “เรื่องก็ผ่านมาแล้ว ป้าต้องขอบคุณผู้พันอีกครั้งนะคะที่ช่วยขับรถให้น้องขิมเมื่อคืน และขอบคุณสำหรับของฝากพวกนี้ด้วยค่ะ แล้วเห็นไอ้จุ้นบ้างไหมคะ จะเรียกมากินข้าวกินปลาซะหน่อย”
“แอบไปกินที่บ้านผมมาแล้วครับ บอกว่าถูกป้าพวงไล่...”
แสนคมพูดยังไม่ทันจบประโยค ก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์ที่ดังสนั่นมาแต่ไกลราวกับท่อแตก เมื่อหันไปมองก็เห็นจ่าโชติช่วงเป็นคนขี่แล้วมีเด็กชายจุ้นนั่งซ้อนท้าย พอดับเครื่อง ก็มีเสียงเพลงที่ร้องโดยคนขี่ ดังขึ้นมาแทน