Rrrrrrrrr (Unknown)
“ใครอีกวะ -_-” แม่งเอ้ย เปิดโทรศัพท์ได้แปปเดียวก็โทรหากูอย่างกับเป็นคอลเซนเตอร์เลยนะ เบอร์แปลกๆแม่งดันมีทุกวันอีก
(ญาติคุณบัวหรือเปล่าคะ!!)
“บัว ...ครับ มีอะไรหรือเปล่า” แม่บัวคือแม่ของมะลิ ผมให้เบอร์ของตัวเองกับโรงพยาบาลไว้เผื่อว่ามีเรื่องฉุกเฉินเกิดขึ้น ติดต่อผมน่าจะสะดวกที่สุด
(คือมีผู้ชายอ้างตัวเป็นสามีมารับคนไข้กลับไปแล้วนะคะ!)
“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
(สองชั่วโมงก่อนค่ะ อยู่ระหว่างเปลี่ยนเวรพอดี พยาบาลเลยปล่อยให้คนไข้กลับไปค่ะ)
“อืม เดี๋ยวผมจัดการเอง” ผมวางสายไปก็เจอเข้ากับสายตาของมะลิยืนมองอย่างสงสัยอยู่ที่ประตูห้องนอน น่าจะได้ยินที่คุยแหละแต่คงไม่ทุกประโยค ไม่งั้นคงร้องไห้แล้ว
“ใครโทรมาคะ ที่โรงพยาบาลหรอ?”
“อืม แม่มะลิอาการดีขึ้นแล้วนะ แต่ยังไปเยี่ยมไม่ได้เพราะหมอขอดูอาการก่อน” แววตาที่ดีใจของมะลิทำให้ผมโคตรรู้สึกผิดเลยที่โกหกน้องไปแบบนั้น แต่ผมไม่อยากให้น้องต้องเป็นกังวลไปมากกว่านี้นี่นา
...เรื่องไอ้ชั่วนั่นเดี๋ยวผมจัดการเอง
“เฮียกลับก่อนดีกว่า ...อย่าลืมล็อคประตูด้วยนะ ฝันดีค่ะ”
หมับ! จุ๊บ
“อะ เอ่อ ฝันดีค่ะ ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ >< ” ผมที่กำลังจะหมุนตัวออกจากห้อง มะลิก็วิ่งมาคว้าแขนผมไว้แล้วจุ๊บมาที่แก้มผมเร็วๆทีนึง ก่อนจะถอยออกไปยืนไกลๆแล้วหน้าแดง หลับตาเหมือนว่าอายมากๆ
...โห ยิ่งรู้สึกผิดหนักกว่าเดิมเลยกู
“อะ อื้ม ครับ ...เฮียไปก่อนนะ” ผมเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ด้านหน้าของหอพักเธอ พวกลูกน้องของป๊าเปิดประตูให้แล้วพาผมไปที่บ้านของแม่บัวทันที พอไปถึงก็ไม่เจอใครเลยซักคน ข้าวของของแม่บัวกับไอ้ชัยหายไปหมด
“พวกมึงค้นในบ้านให้ทั่ว ...ส่วนพวกมึงไปหามาว่ามันพาแม่ของมะลิไปไว้ที่ไหน” ลูกน้องพยักหน้ารับคำสั่งแล้วแยกย้ายกันไปตามหน้าที่
“นายครับ ของใช้ส่วนตัวของทั้งสองคนหายไปเหลือแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น ส่วนไอ้แก่นั่นมันเป็นมือปืนเก่าครับตามหาตัวไม่ยากเพราะมีหมายจับอยู่หลายพื้นที่”
“ตามล่ามัน แล้วจับมันมาให้กู ...ยิงได้แต่อย่าให้ตาย กูต้องการตัวมันเป็นๆ!!”
“ครับนาย!!!”
FIRE OFF
ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วชีวิตฉันค่อนข้างปกติมาก แต่ที่แปลกใจคือทำไมหมอยังไม่อนุญาตให้เยี่ยมแม่ได้ซะที พอไปหาก็มีแต่บอกว่ายังเข้าเยี่ยมไม่ได้เดี๋ยวคนไข้ได้รับเชื้อโรคแล้วอาการทรุด
...ฉันก็เรียนหมอนะ แต่ยังไม่เคยอ่านเจอเคสแบบนี้เลย แปลกจัง
“หวัดดีจ้ะน้องมะลิ พี่ชื่อเพทายนะ ?เป็นพี่ปีสี่” พี่เพทายเข้ามาทักระหว่างที่ฉันนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่หน้าคณะ ฉันก็ยกมือไหว้เขาตามปกติ
...ปกติไม่เคยเห็นมาทักฉันนะ ทำไมวันนี้มาทักได้เนี่ย
“วิชานี้ยากน่าดูเลยใช่มั้ยล่ะ พี่ติวให้ได้นะ ถ้า....”
“ถ้า? ถ้าอะไรหรอคะ”
“ถ้ามะลิช่วยติดต่อไฟให้พี่น่ะ!” พี่เพทายยิ้มอย่างเขินๆ ก่อนจะนั่งลงที่ตรงข้ามกับฉันแล้วจับมือของฉันเอาไว้แน่นอย่างอ้อนวอน
“เอ่อ คือว่า...”
“นะๆๆ ถือว่าช่วยพี่ก็ได้ พี่ชอบไฟเขาจริงๆ ...เดี๋ยวพี่เอาชีทที่สรุปของวิชาอาจารย์ให้ทั้งหมดเลย นะๆๆ” ฉันยังไม่ทันที่จะตอบตกลงอะไรไปพี่ไฟก็เดินเข้ามาพอดี พี่เพทายยิ้มอย่างเขินๆก่อนจะขยิบตาเป็นสัญญาณให้ฉัน
“ลิ วันนี้กินข้าวร้านไหนดี” พี่ไฟไม่ได้หันไปมองหน้าของพี่เพทายเลยเขาเดินมานั่งข้างๆแล้วมองที่ฉันก่อนจะช่วยเก็บพวกหนังสือเรียนเข้ากระเป๋าแล้วเอาไปถือไว้เอง
ตึก!
“อ่ะ เอ่อ สวัสดีค่ะ ? ...มะลิจ๊ะ” พี่เพทายเอาเท้าสะกิดฉันแล้วทำหน้าส่งซิกอีกครั้ง
...เห้อ ก็ได้ถ้าอยากรู้จักมากขนาดนั้น
“เฮียคะ นี่พี่เพทายค่ะ รุ่นพี่ของลิ” พี่เพทายยิ้มอย่างเขินๆก่อนจะเอามือทัดผมอย่างอายๆ เฮียไฟปรายตามองแล้วพยักหน้าให้เบาๆ
“อืม หวัดดี...แล้วตกลงลิจะไปกินร้านไหน ร้านเดิมมั้ยล่ะ” เฮียไฟหันมาขอคำตอบฉันอีกครั้งพี่เพทายก็ได้แต่ยิ้มเก้อๆ ก่อนจะเดินมาแทรกกลางฉันกับเฮียไฟ
...เกือบล้มไปแล้วฉัน
“พี่ไปด้วยได้มั้ยจ๊ะมะลิ ...รบกวนด้วยนะคะไฟ” ยังไม่ทันที่จะตอบตกลงอะไรเลย พี่เพทายก็คล้องแขนฉันแล้วดึงให้เดินตามเธอไป เฮียไฟก็มองอย่างเอือมๆก่อนจะเดินมาอยู่ข้างๆฉัน
“รถสวยจังเลยค่ะ คันนี้แพงมากเลยใช่มั้ยคะ ?” พี่เพทายยิ้มหวานๆส่งไปให้เฮียไฟ แต่ก็ต้องโดนเมินทุกครั้ง
“พี่นั่งข้างหลังไม่ได้เลยอ่ะมะลิ พอดีว่าเมารถมาก ...ขอนั่งข้างหน้านะ” ฉันยังไม่ได้ตอบเลยนะ!! พี่เพทายเปิดประตูรถแล้วไปนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับอย่างถือวิสาสะ
จริงๆฉันก็เมารถนะ แต่เธอคงเมามากกว่า กลับไปกินยาเดี๋ยวก็คงจะหายมั้ง
“ไฟคะ คืนนี้มีแผนจะไปเที่ยวที่ไหนหรือเปล่า เพทายมีร้านแนะนำด้วยนะ บรรยากาศดีมากเลย” พี่เพทายพูดเสียงเจื้อยแจ้วทั้งที่ในรถนี้เงียบมาเกือบๆสิบนาทีได้แล้ว
ฉันเงียบเพราะกำลังเมารถอย่างหนัก แล้ววันนี้รถติดมากกว่าปกติทำให้อาการฉันยิ่งแย่
เฮียไฟเงียบเพราะเขากำลังสังเกตฉันผ่านกระจกหลังพอเห็นหน้าฉันซีดก็เอี้ยวตัวมาลูบหัวฉันเบาๆแล้วยื่นยาดม ยื่นน้ำดื่มให้
“ไหวมั้ย เฮียมีลูกอมกินป่าว” ฉันส่ายหน้าแล้วเอาหัวฟุบไปที่เบาะของเฮียไฟอย่างหมดแรง ถ้าเอาอะไรเข้าปากตอนนี้นะ อ้วกพุ่งแน่ๆ
“นอนซะตัวเล็ก เดี๋ยวถึงร้านแล้วเฮียปลุก” ฉันทิ้งตัวนอนลงที่เบาะรถข้างหลัง เฮียไฟก็ถอดเสื้อคลุมยื่นมาให้ พี่เพทายได้แต่หายใจฟึดฟัดเพราะเฮียไฟไม่ได้ตอบคำถามเธอเลยแม้แต่นิดเดียว เธอเอี้ยวตัวมาเหมือนจะมองฉันแต่ก็พอจะดูออกแหละว่าอยากเข้าใกล้เฮียไฟแค่ไหน
...เพราะเอี้ยวตัวมาทีหน้าห่างกันแค่คืบเดียวเอง -_-
“น้องมะลิ ไหวมั้ยเดี๋ยวพี่ช่วยพัดให้นะจ๊ะ ...เพทายเคยช่วยปฐมพยาบาลคนมาเยอะน่ะค่ะ เลยพอจะรู้เรื่องบ้าง” เฮียไฟถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะหันไปสนใจถนนต่อ
ดูก็รู้ว่าเริ่มหงุดหงิดแล้ว -_-
“ตัวเล็กถึงร้านแล้ว” เฮียไฟลูบเบาๆที่หัวฉันแล้วค่อยๆพยุงตัวฉันออกมาจากรถ
“อยากจะอ้วกเลยอ่ะ T_T”
“เก่งมาก เจ้าลิน้อยของเฮีย”
“ขะ เข้าร้านกันเถอะค่ะ!” พี่เพทายสะกิดที่แขนฉันแล้วดึงให้เดินตามเข้าไปในร้าน ฉันก็เดินโคลงเคลงตามไป ทำไมวันนี้โลกหมุนแปล๊กแปลกกกก
“ระวังหน่อยลิ เดี๋ยวล้ม” เฮียไฟดึงมือฉันไว้ทำให้หลุดจากการเกาะกุมของพี่เพทาย ซึ่งเธอก็ทำหน้าไม่พอใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมามาก
“ลิไปห้องน้ำก่อนนะ จะอ้วกแล้ว” ฉันกระซิบให้เฮียไฟได้ยินแค่สองคน พอลุกขึ้นก้มีอาการเซนิดหน่อย
“ให้ไปเป็นเพื่อนมั้ย” ฉันส่ายหน้าแล้วเดินออกมาจากโต๊ะได้แค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นก็ได้ยินเสียงพี่เพทายพูดว่า…
“เพทายชอบไฟนะคะ มาคบกับเพทายดีกว่ามั้ย ...รับรองถึงใจกว่ามะลิแน่นอน ?”