.
..
...
....
“ขออนุญาตค่ะ” เลขาสาวสวยหน้าห้องเดินเข้ามาพร้อมกับถาดเครื่องดื่ม ก่อนจะวางถ้วยกาแฟให้กับเจ้านายแล้วตามด้วยแก้วน้ำเปล่าให้กับแขก
“ฝีมือชงกาแฟของคุณยังเยี่ยมเหมือนเดิมเลยนะ” เมื่อจิบกาแฟแล้วก็เอ่ยชมเลขาสาวพร้อมกับส่งสายตากรุ้มกริ่มให้ แม้จะไม่สามารถแตะเนื้อต้องตัวได้ แต่เจ้าตัวก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเสือที่พร้อมจะขย้ำเหยื่ออยู่ตลอดเวลา
“ขอบคุณค่ะ” เจ้าหล่อนยืนยิ้มบิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย
ปลาวาฬมองภาพนั้นแล้วก็เบือนหน้าหนีอย่างเอือมระอา ผู้หญิงอะไรจะหน้าไม่อายยืนทำท่ากระมิดกระเมี้ยนต่อหน้าผู้ชายอย่างนี้ นายนั่นก็เหมือนกันเล่นหูเล่นตาซะเหลือเกินน่าหมั่นไส้จริง ๆ
“ถ้าคุณวรรธนพลต้องการอะไรเพิ่มเรียกกระต่ายได้ตลอดเลยนะคะ” เจ้าหล่อนพูดจีบปากจีบคอพร้อมกับขยิบตาให้
“ครับผม”
ปลาวาฬหันขวับไปมองหน้าชายหนุ่มทันทีที่ได้ยินเลขาสาวเอ่ยชื่อเมื่อสักครู่ ตายห่าแล้วไง! นายคนนี้คือคุณวรรธนพลงั้นเหรอ แล้วทีนี้จะเอายังไงต่อดี แอบด่าไปเสียเยอะเชียว เจ้าตัวนั่งก้มหน้าไม่กล้าสบตากับอีกฝ่าย
“ทำไมนั่งก้มหน้าอย่างนั้นล่ะ” นักบินยิ้มอย่างสะใจที่เห็นท่าทางนั่น ปากดีนักเป็นไงล่ะ
“ผมขอโทษนะครับที่ด่าคุณไว้เยอะเลย ผมไม่รู้ว่าคุณคือคุณวรรธนพล ทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะจะได้ไม่ต้องด่า”
“อ้าว! มันเป็นความผิดฉันหรือไง นายนั่นล่ะที่ปากหมาด่าคนอื่นไปทั่ว”
“อ้าว! ทำไมจู่ ๆ ก็มาด่ากันอย่างนี้ล่ะ คุณเองก็ปากหมาเหมือนกันว่าแต่คนอื่น” เมื่อโดนอีกฝ่ายว่าให้ความสำนึกผิดเมื่อสักครู่ก็หายไปในพริบตา ตอนนี้เจ้าตัวจ้องหน้ากับนักบินอย่างไม่ยอมแพ้ เรื่องสู้คนขอให้บอก คนอย่าปลาวาฬไม่เคยยอมใครอยู่แล้ว...ถ้าไม่ใช่เรื่องเงิน
“พูดอย่างนี้สงสัยคงไม่อยากได้เงินห้าล้านแล้วมั้งเนี่ย” นักบินนั่งไขว่ห้างใช้นิ้วเคาะบนโต๊ะเสียงดัง ประหนึ่งว่าตัวเองกำลังเป็นต่อ
“ผมขอโทษครับ...ผมมันปากหมาอย่าโกรธผมเลยนะครับ” พูดพร้อมกับตบปากเบา ๆ เพื่อเอาใจอีกฝ่าย เพื่อเงินเขายอมฝืนใจตัวเองได้ทุกเรื่อง
“พูดอย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อย มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเสียเวลามาเยอะแล้ว” นักบินหยิบเอกสารที่เย็บมุมรวมกันประมาณสามสี่แผ่นยื่นให้
“นี่อะไร” ปลาวาฬมองหน้าด้วยความสงสัย ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู
“ก็สัญญาไง อ่านให้เข้าใจแล้วเซ็นซะ ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามมา” เสียงเข้มเอ่ยอย่างเป็นการเป็นงาน
“ขอเอากลับไปอ่านที่บ้านก่อนได้ไหมอะ เยอะขนาดนี้คงอ่านไม่จบแน่วันนี้”
“ไม่ได้! ต้องอ่านที่นี่และเดี๋ยวนี้ด้วย ถ้างั้นก็ไม่ต้องเอาเงินห้าล้านบาท คนอื่นรอคิวเยอะแยะ” พูดขู่อีกฝ่ายเพราะรู้ดีว่ากำลังเข้าตาจน ยังไงซะคงไม่ยอมทิ้งเงินห้าล้านบาทไปแน่นอน
“โด่ววว ผมเรียนไม่เก่งอ่านเข้าใจยากอะ ให้ผมเอากลับไปอ่านที่บ้านก่อนเถอะนะครับ” เจ้าตัวพยายามอ้อนวอนขอร้อง แต่คนที่ทำหน้านิ่งอยู่ตรงหน้ากลับไม่มีท่าทีจะยอมง่าย ๆ
“เอางี้เดี๋ยวฉันจะอ่านให้นายฟังเอง โอเคไหม? จะได้ไม่ต้องมีปัญหาทีหลัง ถ้าข้อไหนไม่เห็นด้วยหรือสงสัยให้ท้วงทันที” นักบินแย่งเอกสารนั้นมาถือไว้เอง
“โอเค๊...อ่านเลย” นั่งสบาย ๆ รอฟังอีกฝ่าย ดีซะอีกจะได้ไม่ต้องนั่งปวดหัวอยู่คนเดียวในห้อง คิดพลางยิ้มที่มุมปากอย่างสบายใจ
“เงินห้าล้านบาทจะจ่ายเป็นสามงวดดังนี้ งวดแรกจ่ายให้หลังจากเรามีเพศสัมพันธ์กันครั้งแรกเป็นจำนวนเงินหนึ่งล้านบาท” พออ่านจบคนที่นั่งฟังก็ยกมือขึ้นประท้วงทันที “มีอะไรสงสัยมิทราบ?”
“อะ อะไรนะผมก็นึกว่าจะให้คุณหมอทำให้ซะอีก” เจ้าตัวนึกว่าจะใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ในการปฏิสนธิเสียอีก แต่นี่มันไม่ต่างจากการขายตัวแม้แต่น้อย
“ใครบอกนาย ลูกของฉันต้องเกิดตามธรรมชาติเท่านั้น ถ้าไม่พอใจก็ถอนตัวไปเลย จะเอายังไง!”
“ขอคิดแป๊บ”
“ให้เวลาคิดหนึ่งนาที”
ปลาวาฬหันหลังกลับมาแล้วนั่งคิดว่ามันจะคุ้มกันหรือเปล่า ตั้งแต่เกิดไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน เสียความบริสุทธิ์เพื่อแลกกับเงินหนึ่งล้านบาทมันคุ้มค่าไหมนะ หรือมันควรเยอะกว่านี้
“ขอเพิ่มห้าแสนบาทขาดตัว ผมไม่ได้เห็นแก่เงินหรอกนะ แต่เสียความบริสุทธิ์ทั้งทีมันก็ต้องเรียกให้คุ้มหน่อย”
“โอเคเดี๋ยวฉันจะแบ่งส่วนที่สองมาเพิ่มให้ละกัน” นักบินรับข้อเสนอโดยง่าย
“ไม่ใช่อย่างน้านนน ที่ผมขอเพิ่มห้าแสนนี่ไม่รวมกับห้าล้านบาทนะ”
“นี่นายชักจะมากไปแล้วนะ ห้าล้านบาทนี่ก็ถือว่าเยอะมากแล้วสำหรับคนอย่างนาย ไหนบอกไม่เห็นแก่เงินไงล่ะ” เมื่อรู้ว่าความต้องการของอีกฝ่ายไม่ได้เป็นไปตามข้อสัญญา นักบินก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที คนอะไรจะเรื่องมากขนาดนี้นะ
“คุณไม่รู้หรอก ฮึก ว่าความบริสุทธิ์มันมีความหมายกับผมมากขนาดไหน ไหนจะอุ้มท้อง ไหนจะยอมให้นายเอาไอ้นั่นเข้ามาเสียบอีก มันเจ็บปวดทรมานขนาดไหนคุณไม่รู้หรอก ฮือ ๆ ” เขาไม่รู้ว่าแผนร้องไห้นี้มันจะได้ผลหรือเปล่า เพราะท่าทางนายนั่นจะเป็นคนใจหินเสียเหลือเกิน
“แผนนี้ใช้ไม่ได้กับฉันหรอกนะ” นักบินรู้ทันอีกฝ่ายจึงนั่งกอดอกมองหน้านิ่ง อยากรู้ว่าจะร้องไห้ไปได้สักกี่น้ำ
“ฮือ ๆ คนใจร้ายแค่นี้ก็ให้ไม่ได้ ตัวเองรวยล้นฟ้าซะขนาดนี้ ฮือ ๆ” ไม่ว่าเปล่าปลาวาฬลงจากเก้าอี้ นอนดิ้นที่พื้นอย่างกับเด็กเอาแต่ใจ
นักบินมองภาพนั้นแล้วก็ต้องกุมขมับทันที นี่หรือที่เขาเลือกให้มาเป็นแม่ของลูก คิดผิดหรือคิดถูกกันแน่เนี่ย
“โอเค ๆ ให้ก็ได้” เพื่อตัดรำคาญเจ้าตัวจึงยอม ๆ ไปเพราะไม่งั้นวันนี้คงไม่จบแน่นอน
“เย้! ขอบคุณนะครับ คริ ๆ” เมื่อรู้ว่าแผนสำเร็จปลาวาฬก็หยุดร้องไห้แล้วรีบเช็ดน้ำตา ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้เหมือนเดิม ราวกับว่าเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วจริง ๆ เลย ฉันดูไม่ออกเลยนะว่านายแกล้งทำ”
“ใครแกล้งทำ ไม่มี๊”
“แต่มีข้อแม้” นักธุรกิจอย่างเขาไม่มีทางขาดทุนแน่นอน
“อะไรอีกเนี่ยยย!” ตอนนี้ชักจะเริ่มไม่ไว้ใจนายคนนี้เอาซะเลย คิดว่าตัวเองมีเล่ห์เหลี่ยมเยอะแล้วนะ แต่มาเจออย่างนี้มันก็ต้องเหนื่อยขึ้นไปอีก
“นายขอเพิ่มห้าแสนบาท ฉันก็ขอเบิ้ลทีนึงละกัน แฟร์ ๆ ยังไงซะนายก็ได้เสียแล้วต่ออีกนิดคงไม่เป็นไรหรอก” พูดแล้วก็ยิ้มกริ่มอย่างผู้มีชัย
“นี่ผมไม่ได้ขายตัวนะ!”
“ก็แล้วแต่นะถ้าไม่เอาผมจะให้คนอื่น” พูดอย่างไม่แคร์อีกฝ่าย
“ก็ได้ ๆ” เพื่อเงินห้าล้านห้าแสนบาท ปลาวาฬพยายามท่องในใจ
เงิน เงิน เงิน
ขณะคิดเงินเป็นฟ่อน ๆ ก็ลอยอยู่ตรงหน้าเจ้าตัวจึงยิ้มคว้าหมับทันที
“นี่นายเป็นบ้าหรือเปล่าทำท่าทางแปลก ๆ”
“ปะ...เปล่าพูดต่อเลย” เมื่อนึกถึงรายได้มหาศาลในอนาคตเจ้าตัวก็ยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดี
“เงินงวดที่สองอีกหนึ่งล้านบาทจะจ่ายให้หลังจากนายตั้งท้องแล้ว และเงินอีกสามล้านบาทจะจ่ายให้หลังคลอด โอเคไหม” นักบินมองหน้าอีกฝ่าย
“โอเคไม่มีปัญหา” ปลาวาฬยิ้มรับอย่างเข้าใจ มันคงไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้แล้ว อดทนแค่อึดใจเดียวเท่านั้น
“เด็กที่เกิดมาต้องเป็นลูกของฉันเพียงคนเดียว ส่วนนายไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเด็กแม้แต่น้อย คลอดแล้วให้รับเงินไปห้ามกลับมาติดต่อกับลูกของฉันอีก ห้ามให้เด็กรู้ว่านายคือคนที่คลอดแกมา”
“ฉันเป็นแม่ของแกนะ จำเป็นต้องห้ามขนาดนั้นเลยเหรอ” ข้อนี้มันก็จะทำใจยากหน่อยเพราะถึงยังไงซะเขาเองก็เป็นคนอุ้มท้อง ถ้าจะให้ตัดขาดความเป็นแม่ลูกกันเลยมันจะไม่โหดไปหน่อยเหรอ
“จำเป็นเพราะนายรับเงินฉันไปแล้ว แม่ของเด็กต้องเป็นคนที่ฉันเลือกไว้เท่านั้น ส่วนนายมีหน้าที่อุ้มท้องเท่านั้น”
“โอเคก็ได้ ผมเองก็ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับคุณนักหรอก” พูดพร้อมกับทำหน้าบึ้งใส่
“คิดอย่างนี้ให้ได้ตลอดล่ะ”
“แน่นอน”
นักบินอ่านสัญญาให้ฟังจนครบทุกข้อ หลังจากนั้นก็ยื่นเอกสารให้อีกฝ่ายเซ็นยอมรับเพื่อเป็นหลักฐาน
“เซ็นแล้วก็กลับบ้านได้ใช่ปะ” พูดจบก็วางปากกาลงบนกระดาษ แล้วเลื่อนไปให้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“ใช่ กลับไปเก็บของวันพรุ่งนี้ฉันจะให้คนไปรับที่ห้อง โทรไปให้รับด้วยล่ะ”
“ผมจะนอนรอรับสายคุณคนเดียวเลยล่ะ บาย” ก่อนจะเดินออกไปเจ้าตัวก็ส่งจูบให้อย่างอารมณ์ดี
อยากมีข้อแม้เยอะดีนักเขาจะกวนให้หัวปั่นเลยคอยดู