บทพิสูจน์ขั้นพื้นฐานของจอมเผด็จการ3

981 คำ
เธอฝืนเด็ดชะอมอีก จึงโดนหนามทิ่มตำมืออีกตลอด เพราะเพิ่งเคยเด็ดชะอมบนต้นครั้งแรก จึงไม่รู้วิธีเด็ด แต่ก็ไม่คิดจะแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น เขาจะหาว่าสาวชาวกรุงเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แค่เด็ดผักชะอมก็ทำไม่ได้ ‘ไม่ เธอไม่ต้องการให้เขามาว่าเธออีก ว่าเธอมันไก่อ่อน’ จนกระทั่งเลือดไหลซึมออกมาอาบไปทั้งมือ เธอเจ็บแสบ แต่ก็กัดฟันอดทนไว้ เธอมัวแต่มองแผลของตนเองจนไม่ทันมองว่าใครคนหนึ่งได้มายืนซ้อนอยู่ข้างหลัง แล้วเอื้อมมาจับข้อมือข้างขวาของเธอเอาไว้ “เลือดไหลออกมากขนาดนี้ ทำไมยังฝืนเด็ดมันอยู่อีกล่ะ” “ฉันไม่เป็นไร” “ไม่เป็นไร แต่งี้ จะร้องไห้อยู่แล้ว” “ใครบอกว่าฉันจะร้องไห้ เจ็บแค่นี้ทำไมต้องร้องไห้” “เหรอ อวดเก่งซะด้วย ดูสิ... เลือดยังไหลไม่หยุดเลย ไปทำแผลก่อนดีกว่าไหมคุณ” “ไม่” หญิงสาวดื้อรั้น หน้างอง้ำ เมินมองไปทางอื่น “ทำไม ต้องไม่ เดี๋ยวก็เป็นบาดทะยักหรอก” “แผลแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเลือดก็หยุดไหลไปเอง” “ทำไมถึงดื้อไม่มีเหตุผลฮะ” “เดี๋ยวคุณจะหาว่าฉันไก่อ่อนอีก” แดนดินแอบยิ้มมุมปากทาด้านหลัง ก่อนจะเดินอ้อมไปยืนตรงหน้าเธอ “อ้อ แบบนี้นี่เอง งั้นมา มาดู ผมจะสอนวิธีการเด็ดชะอมให้” แล้วชายหนุ่มก็ยื่นมือไปเด็ดผักชะอมอย่างคล่องแคล่ว โดยไม่โดนหนามทิ่มต่ำแม้แต่แผลเดียว อาจมีแค่รอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่ถึงกับมีเลือดออก พอเด็ดชะอมได้กำหนึ่งเขาก็หันมามองหน้า ‘แม่ไก่อ่อน’ ด้วยรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนขึ้น “รีบไปทำแผลเถอะ ถ้าช้าเดี๋ยวบาดทะยักจะเล่นงานเอา” จบคำชายหนุ่มก็จับข้อมือเธออีกข้าง กึ่งลากกึ่งจูงคนดื้อเดินเข้าไปในบ้านสองชั้น “ตามผมมาข้างบน อยู่ข้างล่างเดี๋ยวมีคนเห็น หรือยายอาจจะตื่นมาเห็น” มินตราเม้มปากมองเขาเหมือนไม่อยากจะตามขึ้นไป แต่ก็จำต้องเดินตามเขาขึ้นไปบนชั้นสองเงียบๆ เพราะกลัวว่าเขาจะไม่ให้เธอได้เจอกับคุณยายของเขา จนขึ้นไปอยู่กลางโถงบ้านชั้นสอง “นั่งรอตรงนี้ เดี๋ยวไปผมเอายาก่อน” ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปในห้องหนึ่ง แล้วเดินออกมาพร้อมกับยาขวดเล็กๆ สีเหลืองขวดหนึ่งและขวดน้ำเกลือ เขาวางขวดยาสองขวดไว้ตรงหน้าเธอ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนหนึ่งในห้องที่เขาเพิ่งเข้าไปเมื่อครู่ออกมา “ตามผมมาที่ระเบียง หยิบขวดน้ำเกลือมาด้วย” เขาสั่ง จากนั้นเมื่อมาถึงระเบียง ชายหนุ่มก็จัดการเทน้ำเกลือราดลงบนแผลของเธอทั้งมือจนแสบไปหมด จนคนถูกทำแผลทำหน้าเหยเกส่งเสียงซี้ดซ้าดเบาๆ ด้วยความแสบ “แค่นี้แสบ ไก่อ่อนเอ๊ย” “ฉันไม่ใช่ไก่อ่อนนะ” เธอเถียงหน้าบึ้งๆ แต่ไม่กล้าสบตาชายหนุ่มนัก “เหรอ” เขาล้างแผลเธอต่อจนพอใจจึงเอาผ้าขนหนูเช็ดมือให้จนแห้ง จากนั้นก็ดึงแขนเธอมานั่งลงที่เดิม แล้วเปิดฝายาทาแผลสดลงไปทั่วแผลทั้งหลังมือและฝ่ามือของเธอจนทั่ว ขณะที่ทาแผลให้เขาก็มองหน้าเธอไปด้วย ‘นี่น่ะเหรอ ไม่ใช่ไก่อ่อน หน้าเบ้จนจะน้ำตาจะเล็ดอยู่แล้ว’ เขากระตุกยิ้มขำๆ ก่อนวางมือเธอลงบนหัวเข่าของเธอเบาๆ “ไม่ต้องพันผ้าหรอก ปล่อยให้แผลแห้งตามธรรมชาติ มันจะได้หายไวๆ พรุ่งนี้แผลก็ตกสะเก็ด สองสามวันก็หายเป็นปกติแล้ว แผลแค่นี้จิ้บๆ คุณเห็นไหมนี่อะไร” แล้วเขาก็เปิดเสื้อให้เธอดูรอยแผลเป็นที่อยู่ใต้อกซ้ายของเขา มันเป็นแผลเป็นนูนยาวๆ ประมาณสองคืบได้ “คุณไปโดนอะไรมาคะ” เธอถามเขาตาโต “ผมโดนนักเลงต่างถิ่นแทง อีกนิดเดียวก็แทงทะลุถึงหัวใจของผมแล้ว แต่ผมดวงแข็ง เลยรอดมาถึงวันนี้ไง” “คุณเจ็บไหมตอนโดนแทง” ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไม่เจ็บสักนิด ก็แค่ชา แต่เลือดไหลทะลักจนเกือบหมดตัว โชคดีที่มีคนพาผมไปส่งโรงพยาบาลทัน ก็เลยยังไม่ตาย” “นานแค่ไหนแล้วคะ” “สิบปีได้แล้วมั้ง” “ถ้าเป็นฉันอาจไม่รอด” “ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ” “เพราะฉัน...” มันไก่อ่อนน่ะหรือ “คุณจะรอดถ้าคุณยังไม่ถึงเวลาตาย ผมเองก็เชื่อเรื่องโชคชะตาอยู่บ้างนะ แต่ไม่เชื่อเรื่องคำทำนายของหมอดู... แต่ผมจะเชื่อพระอาจารย์ของผมเท่านั้น ท่านเคยบอกผมว่า...” เขาพูดค้างเอาไว้ให้เธอรอเก้อ แล้วลุกเอาขวดน้ำเกลือกับขวดยาไปเก็บ ปล่อยให้คนรอฟังหน้าบูดเป็นตูดเป็ดอีกครั้งด้วยความขัดใจ ‘คนอะไร คิดจะพูด ก็พูดไม่จบ’ “ลงไปข้างล่างเถอะ เดี๋ยวผมจะยอมเป็นพ่อครัว ทำกับข้าวให้คุณกินเอง เห็นแก่คนที่พยายามเด็ดชะอมก็แล้วกันนะ” เขาแขวะเธอเบาๆ ก่อนจะเดินลงไปชั้นล่าง มินตรามองสีหน้าท่าทางยียวนของเขาแล้ว ก็ต้องพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ ด้วยความเอือมระอา ‘คนอะไรหน้าตาก็ดี แต่นิสัย ไม่ได้เรื่องเลย’ หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มเข้าไปถึงในครัว แล้วมองเขาทำกับข้าวให้เธออย่างอึ้งๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม