ตอนที่9 ขอให้มันลงท้ายด้วยรัก (2)

1796 คำ
“ขิม...ซี๊ด...” ปุณณภัทรเงยหน้าสูดปากครางอย่างพอใจในขณะที่ยังขยับกายเข้าออกจากช่องทางคับแคบ มือหนาประคองขาเรียวไว้เพื่อส่งตัวตนเข้าไปในร่างงามเป็นจังหวะลึกล้ำ เมื่อเห็นว่าคนใต้ร่างเริ่มปรับตัวให้คุ้นชินกับความใหญ่โตได้แล้ว เขาจึงเร่งเอวสอบขยับเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนสองเต้างามกระเพื่อมไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น อดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือไปบีบขยำมันเพื่อระบายความเสียวซ่าน “อ๊าย...คุณปุณ...” ญารินร้องครางอย่างสุขสมเมื่อเขาโน้มกายลงมางามงับเม็ดทับทิมสีหวานที่กำลังแข็งเป็นไต ความคับแน่นในกายของเธอกำลังบีบรัดตัวตนของเขาเหมือนว่ามันกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ในอีกไม่ช้า ปุณณภัทรจึงรีบถอดถอนลำกายแกร่งออกแล้วจับพลิกร่างงามให้นอนคว่ำหน้าลงจนหญิงสาวสะดุ้งนิด ๆ เพราะอารมณ์ที่ยังค้างเติ่ง “อ๊ะ...จะทำอะไรคะ” “เปลี่ยนท่าไง” เขาตอบในขณะที่ยกสะโพกกลมกลึงขึ้นมาอยู่ในระดับเอว จากนั้นจึงจับลำกายแกร่งสอดสวนเข้าไปใหม่อีกครั้งจนสุดทาง “อ๊าย...” ญารินหลับตาพริ้มรู้สึกเสียววาบไม่ทั่วทั้งท้องน้อย รู้สึกได้ทันทีว่าท่านี้ทำให้เขาเข้าไปสำรวจภายในได้ลึกกว่าเดิม “อา...ขิม...” มือหนาบีบเฟ้นบนสะโพกงามจนเป็นรอยแดงก่อนที่เอวสอบจะเริ่มขยับเข้าออกอีกครั้ง เขาดึงดันมันออกมาจนแทบจะสุดทางแล้วสอดสวนมันเข้าไปใหม่อย่างล้ำลึก สายตาคมกริบที่เปี่ยมไปด้วยไฟปรารถนาจ้องมองกลีบดอกไม้ที่กำลังกลืนกินความใหญ่โตของตัวเองอย่างพึงพอใจ เกิดมาสามสิบสองปีเพิ่งจะได้ลิ้มลองรสชาติของผู้หญิงบริสุทธิ์เป็นครั้งแรก ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะรู้สึกดีได้ถึงขนาดนี้ “อ๊ะ อ๊ะ อ๊าย...” สองแขนเรียวที่ดันกับเตียงไว้อ่อนยวบลงเมื่อปุณณภัทรเร่งจังหวะกระแทกให้เร็วขึ้นทำให้ญารินต้องปล่อยให้ใบหน้าของเธอซบลงบนหมอนใบใหญ่ทั้งที่สะโพกยังถูกเขากระแทกใส่อย่าหนักหน่วง จนได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นไปทั่วทั้งห้อง ปุณณภัทรใช้ความพยายามอย่างหนักในการหักห้ามตัวเองไว้ไม่ให้เสร็จก่อนเวลาทั้งที่เขายังตักตวงความสุขจากร่างงามนี้ไม่เต็มที่ ฝ่ามือใหญ่จับเอวบางตรึงไว้เพื่อส่งความใหญ่โตเข้าไปอย่างล้ำลึก คิดว่าเปลี่ยนท่าแล้วความเสียวกระสันมันจะลดน้อยลงแต่ที่ไหนได้หญิงสาวกลับยิ่งดูดกลืนพลังของเขาจนแทบจะถึงฝั่งฟันอยู่หลายครั้ง ท้ายที่สุดเขาก็ไม่อาจจะทนความเสียวซ่านที่กำลังจุกแน่นตรงส่วนนั้นได้ พอรับรู้ว่าคลื่นในกายกำลังก่อตัวเขาจึงรีบถอดถอนลำกายแกร่งออกแล้วตวัดลำคอขาวระหงของญารินเข้ามาเพื่อมอบจุมพิตหวานฉ่ำให้อีกครั้งเป็นรางวัลปลอบใจ “อื้อ...” หญิงสาวหายใจหอบเหนื่อยอยู่ในอ้อมกอดของเขาเพื่อรอรับจูบที่แสนเร่าร้อนนั้นด้วยความเต็มใจ ไม่รู้ตัวเลยว่าวินาทีต่อมาเขาจะกดศีรษะเธอลงแล้วจัดการรีดพิษเจ้ามังกรยักษ์จนมันปลดปล่อยหยาดน้ำหวานฉ่ำใส่ใบหน้าและริมฝีปากเล็กของเธอ “อ๊ะ!” ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจไม่คิดว่าเขาจะจับส่วนนั้นเข้ามาในโพรงปากคับแคบจนมันดันเข้าไปแทบจะถึงคอ “ไม่ต้องกลัว มันกินได้” “อึก...” ประโยคนั้นทำให้ญารินนิ่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจดูดกลืนทุกความปรารถนาที่เขามอบให้เข้าปากไปจนหมด ถึงตอนนั้นปุณณภัทรจึงยอมปล่อยให้ริมฝีปากของเธอเป็นอิสระพร้อมกับรอยยิ้มร้ายที่ผุดขึ้นมุมปากด้วยความพอใจ “ทำดีมาก เด็กดีของฉัน แต่ฉันยังไม่ให้เธอพักตอนนี้หรอกนะ” “หมายความว่าไงคะ” ญารินเอ่ยถามด้วยความไร้เดียงสารีบกระเถิบกายถอยห่างโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าเขากำลังโน้มตัวลงมาหาอีกครั้ง “ฉันจะขอแก้ตัวอีกรอบไง เมื่อกี้รู้สึกว่ามันจะเสร็จเร็วไปหน่อย” “พอเถอะค่ะ หนูปวดขาไม่ไหวแล้ว” หญิงสาวโอดครวญในขณะทิ้งตัวนอนลงตรงหน้าเขา ลืมความกระดากอายไปเสียสนิทเพราะบทเพลงรักเมื่อครู่มันทำให้เธอรู้สึกปวดระบมเท้าไปหมด ปุณณภัทรมองตามเรือนร่างเปล่าเปลือยไปจนสะดุดเข้ากับรอยแดงที่ขาทำให้เขาชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ดูท่าแล้วเธอเองก็คงจะมีใจให้เขาไม่น้อยถึงได้ยอมมอบกายให้ตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอ ต่อไปก็คงต้องนอนด้วยกันอีกหลายคืน ถ้าเป็นอย่างนั้นเขายอมอดเปรี้ยวเอาไว้กินแบบหวานฉ่ำอีกทีก็ได้ “อยากพักแล้วเหรอ” เขาลองเอ่ยถามเพื่อหยั่งเชิงดูอีกครั้งเผื่อว่าหญิงสาวจะเปลี่ยนใจ ไอ้เสือผู้หญิงอย่างเขาจะให้มาเสร็จแค่ครั้งเดียวได้ยังไงกันล่ะ เสียชื่อหมดกันพอดี “ค่ะ หนูไม่ไหวแล้ว” พูดจบหญิงสาวก็ค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลงเพื่อนำพาตัวเองสู่ห้วงนิทราไปด้วยความอ่อนล้า เป็นการถูกปฏิเสธจากผู้หญิงเป็นครั้งแรกจนรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาเล็กน้อย ปุณณภัทรเห็นดังนั้นจึงต้องยอมทิ้งตัวนอนลงเคียงข้างแล้วดึงผ้าห่มที่ยังกองอยู่ปลายเตียงขึ้นมาปิดร่างของญารินไว้ พอเหลือบไปเห็นเต้างามที่ยังเป็นรอยแดงมันเบ่งบานท้าทายก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสก่อนจะวางมือลงบนนั้นไปจนถึงเช้าของอีกวัน แสงของพระอาทิตย์ยามสายสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างบานใหญ่ภายในคฤหาสน์อมรภิรมย์ ปลุกให้ร่างเล็กที่กำลังนอนหลับสบายตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวดตรงส่วนนั้นพุ่งปรี๊ดขึ้นมาในทันทีที่รู้สึกตัว “โอ๊ย!” หญิงสาวสะดุ้งเมื่อสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดตรงส่วนนั้น พอขยับพลิกตัวก็พบกับรอยเลือดจาง ๆ ที่ซึมอยู่บนที่นอนเป็นการย้ำเตือนอีกครั้งว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเธอไม่ได้ฝันไป ดวงตากลมโตเหลือบมองไปยังที่ว่างข้างกายแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า มีแต่ชุดนอนเจ้าปัญหาที่ปณิตาจัดหามาให้วางแหมะอยู่บนนั้นก่อนจะได้กลิ่นแชมพูอ่อน ๆ ลอยมาแตะจมูกบอกให้รู้ว่าปุณณภัทรกำลังอาบน้ำอยู่ เธอจึงใช้โอกาสนั้นก้มลงมองสำรวจร่างกายตัวเอง “อา...เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย” มือเรียวลูบไล้ไปบนเต้างามที่เป็นรอยแดงอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะตรงข้อเท้าที่เหมือนจะอักเสบจนลุกแทบไม่ไหว “ตื่นแล้วเหรอ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยทักขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินออกมาจากห้องน้ำ มีผ้าขนหนูพันท่อนล่างไว้อย่างหมิ่นเหม่จนหญิงสาวต้องรีบละสายตาหันมาจดจ่อกับรอยแดงบนข้อเท้า ปุณณภัทรจึงต้องถามต่อ “เจ็บเหรอ” “ค่ะ” “เจ็บตรงไหน” เขาถามต่อก่อนที่ญารินจะชี้ไปที่ข้อเท้า “เจ็บเท้าค่ะ” “มันไม่น่าจะเจ็บเพราะฉันนะ เมื่อคืนฉันจำได้ว่าทำเบาที่สุดแล้ว ถ้าจะเจ็บก็อาจจะเป็นเพราะงานเมื่อวาน เธออาจจะฝืนยืนนานไปหน่อย” ปุณณภัทรให้เหตุผล จากนั้นจึงกระชากผ้าห่มผืนใหญ่ออกจนหญิงสาวผวาเฮือก “จะทำอะไรคะ” “ก็จะดูที่อื่นไง เผื่อยังเจ็บตรงไหนอีก” “ไม่ต้องค่ะ หนูเจ็บแค่เท้า” เธอก้มหน้าตอบทั้งที่ความจริงก็ยังรู้สึกเจ็บจี๊ดตรงกลางกายไม่จางหาย แต่จะให้มาถ่างขาต่อหน้าเขาในที่สว่างโร่แบบนี้เธอคงไม่กล้า “ไม่ต้องอายหรอกน่า ถึงยังไงเมื่อคืนฉันก็เห็นมาหมดแล้ว” “ก็เมื่อคืนมันมืดนี่คะ” ญารินเถียงคอเป็นเอ็นจนปุณณภัทรต้องเปลี่ยนใจ “ก็ได้ ก็ได้ ฉันไม่ดูแล้วก็ได้ งั้นเธอรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ เดี๋ยวฉันจะพาไปไหว้คุณย่าแล้วจะพาไปหาหมอ จะได้ไปจดทะเบียนกัน” “จดทะเบียนเหรอคะ" “ก็จดทะเบียนน่ะสิ แค่แต่งงานกันแบบนี้มันยังไม่พอจะให้คุณย่าฉันตายใจหรอกนะ” เขาอธิบายก่อนจะลุกจากไปเพื่อแต่งตัว ถึงตอนนั้นญารินจึงพยายามประคองร่างของตัวเองพร้อมกับหอบผ้าห่มผืนใหญ่ปิดกายไว้ แต่แล้วเธอก็ต้องล้มลงหน้าแทบคะมำเพราะความเจ็บปวดตรงกลางกายและข้อเท้าที่พุ่งปรี๊ดขึ้นมาพร้อมกัน “โอ๊ย!” “ลำพังเดินก็ลำบากมากพอแล้ว เธอจะเอาผ้าห่มติดมาด้วยทำไม” ปุณณภัทรจ้องมองคนตัวเล็กที่ล้มลงบนพื้นผ่านเงาสะท้อนในกระจกก่อนที่เขาจะวางไดร์เป่าผมลงแล้วเดินเข้ามาทรุดกายนั่งลงเคียงข้าง ไม่รอให้ญารินร้องห้ามมือหนาก็กระชากผ้าห่มออกจนเหลือเพียงแค่ร่างเปล่าเปลือยทั้งที่เธอยังไม่ทันจะตั้งตัว “คุณ!” หญิงสาวร้องเสียงหลงรีบยกมือปิดของรักตัวเองไว้ทันที “ฉันแค่จะช่วย” เขาให้เหตุผลพร้อมกับสอดแขนใต้วงแขนเล็กแล้วออกแรงอุ้มพาเธอไปยังห้องน้ำ “ขอบคุณค่ะ ปล่อยหนูได้แล้ว” “หวงตัวจริง ๆ ทีเมื่อคืนไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย” ปุณณภัทรหยักยิ้มมุมปาก จ้องมองคนในอ้อมกอดอย่างนึกขัน “ออกไปได้แล้วค่ะ” ญารินเอ่ยปากไล่ด้วยความเขินอาย “แน่ใจนะว่าไม่ต้องให้ช่วย” “แน่ใจค่ะ” เมื่อหญิงสาวยืนยันแบบนั้น ปุณณภัทรจึงค่อย ๆ วางร่างของเธอลงก่อนที่มือเรียวจะเอื้อมไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาปิดร่างกายตัวเองไว้ เมื่อเขายอมออกไปเธอจึงรีบอาบน้ำและชำระคราบแห่งความปรารถนาที่ยังติดบนกายออกไปจนหมด ถึงจะเหลือรอยแดงบ้างในบางจุดแต่เธอกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อยการที่ปุณณภัทรเอ่ยปากขอมีอะไรกับเธอทั้งที่เพิ่งเข้าหอในคืนแรกมันก็หมายความว่าเขาอาจจะรู้สึกดีเหมือนที่เธอรู้สึกกับเขาก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็ไม่ยากเลยที่เธอจะมัดใจคนเจ้าชู้อย่างเขา ต้องมีสักวันที่ปุณณภัทรจะหันกลับมารักเธอเหมือนเธอรัก...ต้องมีสักวัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม