ไม่รู้จักจอยซะแล้ว
ไนท์คลับ In the Moon
ไนท์คลับที่มีเหล่าไฮโซรวมทั้งดารานางแบบนายแบบที่มีชื่อเสียงต่างก็พากันมารวมตัวอยู่ที่นี่ เพราะทางบริษัทมีการจัดเลี้ยงเพื่อขอบคุณสื่อมวลชนและได้เชิญเหล่าดาราเซเลปมาร่วมในงานเป็นจำนวนมาก เพราะทางนิตยสารมียอดขายสูงสุดติด 1 ใน 3ของประเทศมา 5 ปีติด แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่ยอดขายสูงขึ้นถึง 3 เท่าของทุกๆ ปีที่ผ่านมา ด้วยผลงานของจอยลดา AE สาวสวยที่ลาออกไปนานถึง 3 ปีแต่กลับมาทำงานในตำแหน่งเดิมได้เพียง 5 เดือน ก็ทำยอดขายให้กับนิตยสารของเพื่อนรักอย่างนิตยสารโอโห้ให้มีชื่อเสียงดังมากที่สุดในประเทศตอนนี้
ด้วยความสามารถของเธอเองบวกกับความเป็นคนเฟรนลี่ของเธอเอง จนทำให้มีแต่หนุ่มๆ พยายามที่จะเข้าหาเธอกันมากหน้าหลายตา เพราะความสวยและความน่ารักของเธอไม่แพ้พวกเหล่าดาราเซเลปที่มีชื่อเสียงเลย
“สวัสดีครับคุณจอย วันนี้คุณจอยสวยจังเลยนะครับ..”
“ชมจอยแบบนี้จอยก็เขินแย่ซิคะ..”
“ในงานนี้มีดารานางแบบสวยๆ เยอะนะครับ แต่คนที่สวยที่สุดในงานผมกลับเห็นคุณจอยอยู่คนเดียวนะครับเนี้ย..”
ฉันแทบอยากจะอ้วกจริงๆ หน้าหม้อไม่มีใครเกิน คิดหรอว่าฉันจะหลงคำชมของผู้ชายหน้าหม้ออย่างเขาง่ายๆ ฝันไปเถอะ
“ถ้างานวันนี้เลิกแล้ว..เราไปดื่มต่อกันดีไหมครับ..?”
“จอยพาเพื่อนไปด้วยได้ไหมคะ..?”
“ได้ซิครับแล้วแต่คุณจอยเลย..”
“ค่ะ..งั้นเลิกงานเจอกันนะคะ..”
ฉันเดินยิ้มออกไปแล้วเบะปากรำคาญผู้ชายหน้าหม้ออย่างเขาที่สุด แฟนก็มีอยู่แล้วยังจะมายุ่งกับฉันอีกคอยดูนะจะเล่นซะให้เข็ดเลย
“นั่นคุณจอยนี่หว่ายืนคุยกับคุณอิทธิเจ้าของร้านเพชรอยู่ด้วยนะ..”
“คุณจอยนี่สวยเหมือนดาราเลยอะ..”
ดาราชาย 3 คนยืนคุยกันมุมหนึ่งที่มองไปเห็นจอยลดายืนคุยอยู่กับไฮโซคนหนึ่ง
“ใช่..เซ็กซี่กว่านางแบบบางคนอีก..”
“จริงๆ สวยๆ อย่างคุณจอยนี่เป็นดารานางแบบได้เลยนะ..”
“จริง..ทั้งสวยทั้งแซ่บด้วยนะ..”
“พูดเหมือนเคยได้แอ้มเธอแล้วงั้นอะ..?”
“แอ้มอะไรละ..เห็นสวยๆ แบบนี้ตอนแรกนึกว่าจะง่ายที่แท้ก็เล่นตัว..สงสัยฉันจะให้เงินไม่พอ..”
“คุณเป็นแค่ดาราครับไม่ใช่เจ้าของร้านเพชรอย่างคุณอิทธิเขา นั่นเขาแค่เอาแหวนเพชรให้วงหนึ่งคุณจอยก็คงสยบแทบเท้าแล้ว..”
“พูดเบาๆ ซิครับ..เดี๋ยวเธอก็เดินมาได้ยินหรอก..”
ไม่ต้องเดินมาได้ยินหรอกเพราะฉันยืนอยู่ตรงนี้ ได้ยินเต็ม 2 รูหูเลย ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพวกผู้ชายถึงได้ชอบดูถูกผู้หญิงนัก ฉันแต่งตัวเซ็กซี่แล้วยังไง ฉันแต่งตัวแบบนี้แล้วฉันต้องง่ายด้วยหรือไง รวยแล้วยังไงรวยแล้วมันจะทำให้ฉันมีความสุขมากนักหรือไง ถ้าฉันไม่ชอบก็อย่าหวังเลยว่าจะได้แอ้มฉันย่ะ
....
หลังจากเลิกงานแล้วคุณอิทธิก็ส่งข้อความมาให้ฉันบอกให้ไปเจอกันที่ร้าน ฉันจึงขับรถไปรับเพื่อนที่บ้านก่อนแล้วขับรถมาที่ร้านตามที่เขาบอก
“นี่หรอแกร้านที่แกจะพาฉันมา..?”
“ใช่..เข้าไปในร้านกันเถอะ..”
ฉันเดินเข้าไปจูงมือยัยลิลลี่เพื่อนนางแบบตั้งแต่ตอนสมัยเรียนมหาลัย น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเราเป็นเพื่อนกัน เพราะมันผันตัวจากวงการนางแบบมาทำธุรกิจส่วนตัวกับที่บ้านตั้งนานแล้ว
“นี่แกนัดใครไว้บอกฉันได้หรือยังเนี้ย..?”
“เข้าไปเดี๋ยวแกก็รู้เองแหละนะ..”
ฉันดึงมือมันเข้าไปในห้องด้วยกัน จนมันได้เห็นคนในห้องก็ตกใจ
“ลิลลี่..”
“พี่อิทธิ..”
“คุณอิทธิเป็นคนชวนฉันมาต่อที่นี่..”
“นี่พี่อิทธิเป็นคนนัดจอยมาที่นี่หรอคะ..?”
“เอ่อ..คือพี่”
“คุณอิทธิเขานัดฉันมาดื่มต่อ จริงๆ เขาก็ชวนฉันหลายครั้งแล้วนะแต่ฉันไม่เคยมาเลย แต่พอดีว่าครั้งนี้ฉันเริ่มรำคาญแล้วนะเพราะเขาไลน์มาชวนฉันบ่อยเหลือเกิน ฉันก็เลยตกลงรับปากไป ฉันจึงอยากแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการชวนแกมาด้วยนี่แหละ..”
“นี่ลิลลี่กับคุณจอยรู้จักกันด้วยหรอ..?”
“ใช่ค่ะ..เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะคะ..เป็นไงคะคุณอิทธิพูดไม่ออกเลยหรอคะ..?”
“...”
“ถ้าแกไม่เชื่อฉันจะส่งไลน์ที่เขาชวนฉันมาดื่มต่อที่นี่ให้แกดู และหลังจากดื่มเสร็จแล้วเขาก็จะชวนฉันไปต่ออีกที่ด้วยนะ..ที่ไหนนะคะคุณอิทธิ..?”
ฉันหันไปมองหน้าเขาด้วยความสะใจ สมน้ำหน้าหน้าหม้อไม่ดูตาม้าตาเรือ อุตส่าห์จะไม่ยุ่งแล้วนะแต่ก็อยากตื้อไม่เลิกเอง มันต้องเจอแบบนี้แหละ
“เคลียร์กันเองนะคะ..ฉันกลับนะแก..”
“อืม..ขอบใจแกมากที่ทำให้ฉันตาสว่าง”
ฉันพูดจบก็เดินยิ้มออกมาด้วยความสะใจ ที่ดัดนิสัยคนหน้าหม้ออย่างเขาได้
....